มหาเศรษฐีสิงคโปร์อันดับ 5 ซื้อท่าเรือดังในลอนดอน 468 ล้านเหรียญสหรัฐฯ - Forbes Thailand

มหาเศรษฐีสิงคโปร์อันดับ 5 ซื้อท่าเรือดังในลอนดอน 468 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Kwek Leng Beng มหาเศรษฐีอันดับ 5 ของสิงคโปร์ กว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์เก็บเข้าพอร์ตอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดตัดสินใจเข้าซื้อท่าเรือ St. Katharine ส่งผลให้บริษัทถึอครองสินทรัพย์ในย่านใจกลางกรุงลอนดอนมูลค่าสูงถึง 1 พันล้านปอนด์


    บริษัท City Developments Ltd. (CDL) ภายใต้การบริหารของมหาเศรษฐีสิงคโปร์ Kwek Leng Beng ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ได้ดำเนินการเข้าซื้อท่าเรือ St. Katharine ที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ย่านใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในราคา 395 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็นเงินราว 468 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผ่านการแนะนำโดย Blackstone บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านบริหารการลงทุนในธุรกิจ private equity ของสหรัฐฯ

    St. Katharine คือท่าเรือที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1828 บนพื้นที่ขนาด 23 เอเคอร์ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งเหนือของแม่น้ำเทมส์ ถือเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบ Mixed-use ที่เอื้อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และยังให้สิทธิแบบซื้อขายขาดโดยผู้ซื้อจะได้ถือครองกรรมสิทธิ์อย่างเต็มตัว 

    ท่าเรือดังกล่าวประกอบด้วยพื้นที่สํานักงานมากกว่า 500,000 ตารางฟุต (46,450 ตารางเมตร) ที่อยู่อาศัย 400 ยูนิต พร้อมท่าจอดเรือและท่าเทียบเรือยอชท์ที่จุได้มากถึง 185 ลํา บรรยากาศที่พักมีวิวเหนือ Tower of London ล้อมรอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และสิ่งอํานวยความสะดวกเหมาะแก่การเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ

    Sherman Kwek ซีอีโอของ CDL Group กล่าวในแถลงการณ์ว่า การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่บริษัทในเรื่องของรายได้ที่มาจากค่าเช่าที่ต่างๆ ภายในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ อาคารสํานักงานที่ตั้งอยู่ภายในท่าเรือ St. Katharine มีอัตราการเช่าพื้นที่และพักอาศัยสูงถึง 90% อีกทั้งค่าเฉลี่ยโดยรวมของสัญญาเช่าที่เหลืออยู่ยังมีระยะยาวกว่า 8 ปี

    "ความไม่แน่นอนจากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันของอังกฤษส่งผลให้เรามีโอกาสเชิงกลยุทธ์ในการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่สำคัญเพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอของบริษัทให้เติบโตยิ่งขึ้น" ลูกชายคนโตของ Kwek Leng Beng ประธานกรรมการบริหารบริษัท CDL กล่าว

    ทั้งนี้ หลังการเข้าซื้อกิจการท่าเรือเข้ามาอยู่ในพอร์ตบริษัทส่งผลให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากสิงคโปร์มีสินทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางกรุงลอนดอนล่าสุดสูงถึง 1 พันล้านปอนด์ โดยรวมถึงอาคารสํานักงานระดับเกรดเออย่าง Aldgate House และ 125 Old Broad Street ซึ่งมีครอบครองอยู่ในพอร์ตแล้วก่อนหน้านี้ด้วย

    อย่างไรก็ตาม ทาง CDL ยังวางแผนที่จะผลักดันสินทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่มีอยู่ในอังกฤษเข้าไปในกองทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในสิงคโปร์ แต่ทว่าการเสนอขายหุ้น IPO นั้นคงต้องเลื่อนออกไปก่อนท่ามกลางความผันผวนของตลาดที่สูงขึ้นรวมถึงความไม่แน่นอนจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน 

    ซึ่งจากคุณสมบัติที่โดดเด่นของสินทรัพย์ดังกล่าวจะช่วยเสริมกลยุทธ์ด้านการจัดการกองทุนของบริษัทได้เป็นอย่างดีทั้งในแพลตฟอร์มที่จดทะเบียนหรือไม่จดก็ตามในอนาคตตามช่วงเวลาที่เหมาะสม Kingston Kwek ลูกชายคนเล็กของ Leng Beng กล่าว

    สำหรับ Kwek Leng Beng นอกเหนือจากการเป็นประธานกรรมการบริหารบริษัท CDL แล้ว ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นประธานของบริษัท Hong Leong Group ซึ่งก่อตั้งโดยพ่อของเขานับตั้งแต่ปี 1941 

    ขณะที่ Quek Leng Chan ซึ่งเป็นกับญาติเขาและดูแลบริหารกิจการ Hong Leong Group ในมาเลเซียนั้น ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาเศรษฐีเช่นกัน 

    ปัจจุบัน Kwek Leng Beng ในวัย 82 ปี ได้รับการจัดอันดับโดย Forbes ผ่านการตีพิมพ์ในเดือนกันยายนปี 2022 ที่ผ่านมา ให้อยู่ในรายชื่อ 50 มหาเศรษฐีสิงคโปร์ผู้มีความมั่งคั่งเป็นอันดับ 5 ซึ่งเขาและครอบครัวได้ถือครองสินทรัพย์เป็นมูลค่าราว 9.3 พันล้านเหรียญ 


แปลจากบทความ Billionaire Kwek Leng Beng’s CDL Buys London’s Iconic St. Katharine Docks For $468 Million ซึ่งเผยแพร่บน Forbes.com


อ่านเพิ่มเติม: Tony Fernandes บอสใหญ่ AirAsia สยายปีกบินทั่วอาเซียน ท่ามกลางการฟื้นตัวหลังโรคระบาด


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine