แอปเรียนภาษา ‘Speak’ ใช้ AI แทนติวเตอร์มนุษย์ สตาร์ตอัพมาแรง ท้าชิงเจ้าตลาด Duolingo

แอปเรียนภาษา ‘Speak’ ใช้ AI แทนติวเตอร์มนุษย์ สตาร์ตอัพมาแรง ท้าชิงเจ้าตลาด Duolingo

Speak แอปพลิเคชั่นเรียนภาษาที่ใช้ AI เป็นติวเตอร์ เน้นฝึกพูดจริงมากกว่าท่องจำ โดยผู้ใช้สามารถสนทนากับ AI ผ่านสถานการณ์จำลองในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องกลัวพูดผิด ซึ่งแอปนี้ถูกพัฒนาบนเทคโนโลยีของ OpenAI และกำลังถูกจับตาในฐานะสตาร์ตอัพที่จะมาท้าชิงกับเจ้าตลาดอย่าง Duolingo


    Speak ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 โดยได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุน VC รายใหญ่ เช่น Khosla Ventures, Accel และ OpenAI Startup Fund ระดมทุนรวมแล้วราว 160 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งการหาทุนในสมัยนั้นไม่ง่ายเลย เพราะนักลงทุนยังไม่สนใจทั้ง AI และการเรียนภาษา บางคนถึงกับสงสัยว่าแอปนี้ตั้งใจเก็บข้อมูลไปขายหรือเปล่า

    จุดเปลี่ยนของ Speak เกิดขึ้นในปี 2018 ระหว่างที่ Connor Zwick อดีตผู้ได้รับทุน Thiel Fellowship ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Speak ได้เดินทางไปกรุงโซล เกาหลีใต้ ก่อนจะพบว่าภายในตึกระฟ้ามากมายนั้นเต็มไปด้วยห้องเรียนสอนภาษาอังกฤษ ตลอดจนโฆษณาคอร์สเรียนที่ติดอยู่เต็มหลังคารถแท็กซี่และป้ายบิลบอร์ดทั่วเมือง ทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาทันทีว่าตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ Speak ไม่ใช่ Silicon Valley ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่มากมาย แต่คือที่นี่ “เกาหลีใต้”

    “การเรียนภาษาอังกฤษที่เกาหลีใต้เหมือนเป็นความหมกมุ่นอย่างหนึ่ง ความต้องการมีอยู่มหาศาล แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนองจริงๆ การสอนภาษาที่มีอยู่กลับไม่ได้ผลเท่าที่ควร นักเรียนต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกับตำราและวิดีโอที่อัดไว้ล่วงหน้า โดยมีผู้สอนที่บางครั้งก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษคล่องแคล่วนัก อีกทั้งวิธีการเรียนแบบเก่ายังมุ่งเน้นไวยากรณ์และคำศัพท์มากกว่าการฝึกพูดจริง ส่งผลให้ผู้เรียนกลัวการพูดผิด ทุกอย่างมันดูเป็นวิชาการไปหมด และคนก็กลัวการทำพลาด” Connor Zwick กล่าว

    สำหรับ Zwick กรุงโซลที่คึกคักและความต้องการเรียนภาษาอังกฤษที่ไม่รู้จบคือทั้งแรงบันดาลใจและโอกาส เขาจึงตั้งใจสร้าง AI Tutor ตัวจริงที่สามารถแทนที่ครูสอนภาษา และเปิดพื้นที่ให้ผู้เรียนได้ลองผิดลองถูกอย่างสบายใจ “ไม่มีใครรู้หรอกว่าคุณพูดอะไรน่าอายไปหรือเปล่า” เขาบอก

    ปัจจุบัน Speak มี AI แบบใช้เสียงที่จำลองสถานการณ์ต่างๆ เช่น สั่งเครื่องดื่มในร้านอาหาร ขอเส้นทางไปแหล่งท่องเที่ยว หรือคุยเล่นกับเพื่อน เพื่อให้ผู้เรียนฝึกพูดในสถานการณ์จริง ที่สำคัญแอปนี้พัฒนาขึ้นบนโมเดลของ OpenAI เป็นหลัก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตของ Speak เมื่อโมเดล AI พัฒนาขึ้น แอปก็ฉลาดขึ้นตามไปด้วย ตั้งแต่การปรับบทเรียนอัตโนมัติตามผลการเรียน ไปจนถึงการแก้สำเนียง

    โดยมีเป้าหมายให้ผู้ใช้ฝึกออกเสียง คำ และวลีที่ใช้บ่อย ผู้เรียนยังสามารถสร้างสถานการณ์ใหม่เองได้ผ่านการพิมพ์คำสั่งให้ AI นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Leaderboard และ Streak เพื่อกระตุ้นให้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง

    จนถึงวันนี้ Speak มียอดดาวน์โหลดกว่า 15 ล้านครั้ง ช่วยให้ผู้เรียนมีความมั่นใจและพูดภาษาต่างประเทศได้คล่องแคล่วขึ้น ความนิยมนี้ทำให้สตาร์ตอัพมูลค่า 1 พันล้านเหรียญรายนี้ไปถึงอีกหมุดหมายสำคัญ นั่นคือการที่บริษัทประกาศว่ามีรายได้ต่อปีมากกว่า 100 ล้านเหรียญ ซึ่งรายได้หลักจะมาจากผู้ใช้ทั่วไป โดยเริ่มใช้ฟรีและจ่ายค่าบริการราว 80-200 เหรียญ เพื่อเข้าถึงคอนเทนต์เพิ่มเติม

    นอกจากนี้ Speak ยังเริ่มขยายตลาดสู่ลูกค้าองค์กรในปี 2024 หลังจากผู้ใช้บางส่วนขอให้บริษัทช่วยออกค่าใช้จ่ายในการใช้แอป โดยปัจจุบันมีบริษัทกว่า 500 แห่ง โดยส่วนใหญ่อยู่ในเกาหลีใต้ เช่น KPMG และ HD Hyundai ที่ให้พนักงานใช้ Speak นอกจากนี้แอปยังได้ขยายไปสู่ญี่ปุ่นและไต้หวัน ก่อนที่จะเริ่มบุกตลาดอเมริกาเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

    การเลือกโฟกัสตลาดเกาหลีใต้พิสูจน์แล้วว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง Ben Quazzo พาร์ตเนอร์ของ Accel ที่ลงทุนรอบ Series C มูลค่า 78 ล้านเหรียญ กล่าวว่า “เกาหลีใต้เป็นเหมือนสนามทดลอง ในตลาดที่แข่งขันสูง เราไม่ได้ขายแอปที่เน้นการเสพติด แต่เรากำลังขายเส้นทางการเรียนรู้เพื่อไปให้ถึงผลลัพธ์”

    แม้จะเติบโตอย่างโดดเด่น แต่ Speak ยังตามหลังคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดอย่าง Duolingo อยู่พอสมควร ซึ่งมีรายได้กว่า 724 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว และคาดว่าจะทะลุ 1.02 พันล้านเหรียญ ภายในสิ้นปีนี้ โดย Duolingo เองก็ทุ่มทุนกับ AI เช่นกัน

    Zwick รู้ดีถึงอิทธิพลของ Duolingo โดยเฉพาะในสหรัฐฯ แต่เขาเชื่อว่า Speak แตกต่างอย่างชัดเจน เพราะ Duolingo เน้นไวยากรณ์และคำศัพท์ แต่ Speak มุ่งสร้างความคล่องในการสนทนาให้คล่องปาก และการออกเสียงที่ถูกต้อง เพื่อให้ผู้เรียนกล้าพูดออกเสียงจริง

    “ผู้ใช้แอปของเราพูดมากกว่าแอปอื่นราว 5-10 เท่า ซึ่งสอดคล้องกับชื่อแอปที่ว่า Speak” Zwick กล่าว



แปลและเรียบเรียงจาก This Startup Is Racing Duolingo To Replace Human Language Tutors With AI

ภาพ : Speak


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ซีอีโอ Duolingo เผย หลังประกาศใช้ AI ไม่ได้ปลดพนักงานประจำสักคน! แถม Productive ขึ้น 4-5 เท่า

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine