Knight Frank เผยอีก 20 ปี ‘ชาวมิลเลนเนียล’ จะกลายเป็นเศรษฐี รับมรดกจนมั่งคั่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา

Knight Frank เผยอีก 20 ปี ‘ชาวมิลเลนเนียล’ จะกลายเป็นเศรษฐี รับมรดกจนมั่งคั่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ปัจจุบัน ชาวมิลเลนเนียลจำนวนมากกำลังดิ้นรนเผชิญความยากลำบาก ทั้งเศรษฐกิจถดถอย อัตราเงินเฟ้อ และค่าครองชีพพุ่งสูง จนไม่สามารถเก็บออมเงินหรือสะสมทรัพย์สินได้มากนัก แต่ในอีก 20 ปีจากนี้ พวกเขาจะกลายเป็นเศรษฐี


    รายงานความมั่งคั่งล่าสุดโดย Knight Frank เอเจนซีอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ระบุว่า ชาวมิลเลนเนียล (Minnennials) หรือกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี 1981-1996 กำลังจะกลายเป็น กลุ่มคนรุ่นที่มั่งคั่งที่สุดที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ (The Richest Generation in History) ซึ่งแหล่งที่มาของทรัพย์สินมหาศาลของพวกเขาเหล่านี้ก็คือมรดกนั่นเอง

    ในอีกราวสองทศวรรษข้างหน้า จะเกิดการส่งต่อความมั่งคั่งครั้งใหญ่ (The Great Wealth Transfer) จากรุ่นสู่รุ่น ลำพังแค่ในสหรัฐอเมริกาก็มีมูลค่าทรัพย์สินรวมถึง 90 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ แล้ว มากพอจะพลิกให้ชาวมิลเลนเนียลผู้รับมรดกกลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน

    รายงานของ Knight Frank คาดการณ์ว่าตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงปี 2044 กลุ่มคนรุ่น Silent Generation (เกิดระหว่างปี 1925-1945) และเบบี้บูมเมอร์ (เกิดระหว่างปี 1946-1964) จะทำการส่งมอบความมั่งคั่งที่สั่งสมมาให้ทายาทซึ่งก็คือชาวมิลเลนเนียล โดยส่วนใหญ่จะเป็นอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็มีทรัพย์สินอื่น เช่น หุ้น และพันธบัตร รวมอยู่ด้วยเช่นกัน

    มรดกมหาศาลเหล่านี้จะพาให้คนรุ่นมิลเลนเนียลกลายเป็นกลุ่มคนรุ่นที่มั่งคั่งที่สุดที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ ซึ่งแน่นอนว่าเงื่อนไขคือชาวมิลเลนเนียลคนนั้นต้องมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยหรือมีทรัพย์สมบัติเก็บสะสมไว้ด้วยเช่นกัน

    Liam Bailey หัวหน้าฝ่ายวิจัยจาก Knight Frank ยังเผยว่าการส่งต่อความมั่งคั่งคราวนี้จะมาพร้อมความเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ในเรื่องของการนำทรัพย์สินไปใช้ต่อ ยกตัวอย่างเช่น รายงานเผยว่าคนรวยที่อายุน้อยไม่ค่อยมองว่าอสังหาริมทรัพย์คือหนทางการลงทุนสร้างความมั่งคั่งในอนาคตที่เหมาะสม

    “อัตราดอกเบี้ยต่ำและราคาบ้านที่เติบโตตลอด 15 ปีที่ผ่านมาดูไม่น่าจะเกิดขึ้นซ้ำในปี 15 ปีข้างหน้า” Mike Pickett ผู้อำนวยการ Cazenove Capital กล่าวในรายงาน

    อีกทั้ง ชาวมิลเลนเนียลยังหันมาใส่ใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกันมากขึ้น และให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมกว่าคนรุ่นก่อน

    “ชาวมิลเลนเนียลเข้าใจเรื่องการลดการบริโภค โดยผู้เข้าร่วมทำแบบสำรวจเพศชาย 80% และเพศหญิง 79% บอกว่าพวกเขากำลังพยายามลดคาร์บอนฟุตพรินต์ของตนเองอยู่” Baily เผย

    ในขณะที่มีเบบี้บูมเมอร์เพศชายเพียง 59% ที่พยายามลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ต่ำกว่าเบบี้บูมเมอร์เพศหญิงที่มีจำนวน 67%

    นอกจากนี้ รายงานของ Knight Frank ยังเปิดเผยว่าผู้คนจำนวนมากมีความมั่งคั่งเพิ่มสูงขึ้นในปี 2023 ที่ผ่านมา จำนวนผู้มีมูลค่าทรัพย์สิน 30 ล้านเหรียญขึ้นไปเพิ่มขึ้น 4.3% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 626,619 คนทั่วโลก และคาดว่าแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ราว 28% ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยกลุ่มคนที่มั่งคั่งเพิ่มขึ้นสูงสุดจะอยู่ในเอเชีย เช่น อินเดีย จีน มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

    และสำหรับใครที่ไม่ได้มีพื้นฐานครอบครัวร่ำรวยก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะนอกจากการส่งต่อมรดกแล้ว โอกาสในการสร้างความมั่งคั่งก็มีมากขึ้นเช่นกัน

    “ผมคิดว่าโอกาสอันหลากหลายในการสร้างความมั่งคั่งก็เพิ่มขึ้นด้วย ยกตัวอย่างนะครับ มียูทูเบอร์ที่รวยเป็นสิบล้าน การเป็นรุ่นแรกที่สร้างความมั่งคั่งด้วยตัวเองมีแนวโน้มสูงขึ้น เช่นเดียวกับเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการที่เปิดกว้างขึ้น” Pickett กล่าว


แหล่งที่มา:

Millennials Are Set to Become the ‘Richest Generation in History,’ a New Report Shows

A huge wealth transfer means millennials are poised to become ‘the richest generation in history’

Millennials stand to become the richest generation in history, after $90 trillion wealth transfer


​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Elon Musk ฟ้อง OpenAI แสวงหากำไร ละทิ้งมนุษยชาติ

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine