กิฟฟารีนร่วมกับไมโครซอฟท์ และฟรอนทิส พัฒนา AI Coach เป็นผู้ช่วยนักขายในการวางแผนขายสินค้า นำเสนอผลิตภัณฑ์ เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพิ่มโอกาสใหม่ทางธุรกิจ
พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เพราะผู้บริโภคในยุคนี้มีสัดส่วนที่ซื้อสินค้าในช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ล่าสุดเปิดตัว “Giffarine AI Coach” ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ให้กับนักธุรกิจหรือนักขายให้มี Coach หรือ Mentor ส่วนตัวที่ช่วยวิเคราะห์ VDO และสร้างสคริปต์ พร้อมให้คำแนะนำที่เข้ากับกลยุทธ์และสไตล์ของแต่ละบุคคล และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้แม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น
โดยใช้เทคโนโลยีและโซลูชั่นจากไมโครซอฟท์ รวมถึง Azure AI Foundry และ FRONTIS (ฟรอนทิส) บริษัท Consulting และ Tech Company ที่ให้บริการด้านคำปรึกษา วางแผนยุทธศาสตร์ และใช้เทคโนโลยีมาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจรายใหญ่ นับเป็นครั้งแรกในวงการธุรกิจขายตรง MLM ที่บริษัทได้ลงทุนใช้ AI มาช่วยเป็นโค้ช แนะนำการขายสินค้าของตนเองโดยเฉพาะ
ทั้งนี้ คาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยสร้างยอดขาย เพิ่มจำนวนนักธุรกิจ และขยายฐานลูกค้า ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีจำนวนนักธุรกิจที่ทำธุรกิจและรับรายได้ 870,000 รหัส โดยกลุ่มที่แอคทีฟ มีจำนวน 400,000 คน อายุระหว่าง 28-50 ปี ปัจจุบันบริษัทมีอายุ 29 ปี และมียอดขายรวมอยู่ที่ 110,758 ล้านบาท
พญ.นลินี ไพบูลย์ กล่าวถึงที่มาของแนวคิดว่า 2 ปีก่อนได้ปรึกษากับ ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ว่าอยากทำ AI ที่เป็นโค้ช สอนธุรกิจ ทำสคริปต์ เพื่อให้นักขายนำไปพูดกับกลุ่มเป้าหมายแล้วโดนใจ รวมทั้งให้เอไอช่วยแนะนำด้วยว่า คลิปที่นักธุรกิจหรือนักขายทำนั้น มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

“ใช้เวลาพัฒนาปีกว่า เหนื่อยมาก เป็น AI ตัวแรกที่เป็นของขายตรง และช่วยนักขายให้ทำงานสะดวกขึ้นมากขึ้น สื่อสารได้ตรงใจผู้บริโภค... เราอยากช่วยให้เขาทำงานง่ายขึ้น ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง...ใช้เวลาพัฒนาปีกว่า ไม่ใช่แค่เครื่องมือแต่คือทางลัดสู่ความสำเร็จ”
“จุดเด่นของ Giffarine AI Coach คือ เป็น Personalize Coaching สามารถแนะนำงานขายผ่านการไลฟ์สด เป็นครั้งแรกของการสร้าง VDO Mentor ส่วนตัวให้นักธุรกิจกิฟฟารีนสามารถเรียนรู้การทำงานออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง ประหยัดเวลาในการทำงาน เพราะเป็น AI Agent สำเร็จรูปที่ทำงานได้อัตโนมัติ ใช้ง่าย เพียงแค่กรอกแบบสอบถามที่ Customize เหมือนเป็น One stop personalize trainer online service สำหรับนักธุรกิจกิฟฟารีน”
สำหรับภาพรวมธุรกิจขายตรงปี 2568 พญ.นลินี มองว่ายังมีสัญญาณบวกจากเทรนด์ของตลาดสุขภาพและความงาม และเป็นธุรกิจที่ยังไปต่อได้ โดยมูลค่าตลาดรวมธุรกิจขายตรงที่ทางสมาคมการขายตรงไทยรวบรวมไว้ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 56,400 ล้านบาท
และในปีนี้บริษัทจะรุกทำตลาดเต็มที่ โดยกลุ่มสินค้าของบริษัทที่มีแนวโน้มมีโอกาสเติบโตสูงเป็นกลุ่มสกินแคร์ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในกลุ่ม Longevity และเสริมภูมิคุ้มกัน ผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลรูปร่าง และผลิตภัณฑ์โปรตีนวีแกน
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : IdeasLabs เผย 3 กลุ่ม Influencer ไทย กวาดรายได้รวมกว่า 60% แบรนด์ยอมจ่ายเฉลี่ยดีลละ 1 แสนบาท
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine