CHAGEE ร้านชาจากจีนของมหาเศรษฐีพันล้านวัย 30 ปี คัมแบ็กไทยพร้อมคอนเซ็ปต์ Tea Bar ตั้งเป้าขยายปีนี้ 5 สาขา - Forbes Thailand

CHAGEE ร้านชาจากจีนของมหาเศรษฐีพันล้านวัย 30 ปี คัมแบ็กไทยพร้อมคอนเซ็ปต์ Tea Bar ตั้งเป้าขยายปีนี้ 5 สาขา

ข่าวคราวการ IPO ของร้านชาจีน CHAGEE ในตลาดหุ้น Nasdaq เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สร้างความน่าสนใจไม่น้อย หลังระดมทุนได้มหาศาลท่ามกลางสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่งผลให้เจ้าของวัย 30 ปีขึ้นแท่นมหาเศรษฐี และภายใต้กว่า 6,000 สาขาที่บริษัทมีอยู่ แบรนด์ชารายนี้กำลังกลับมาเปิดอย่างเป็นทางการในไทยอีกครั้ง


    ชื่อของ Zhang Junjie กลายเป็นชื่อที่ถูกจับตามองอย่างมากในวงการธุรกิจระดับโลก หลังแบรนด์ชา CHAGEE ที่เขาก่อตั้ง สามารถระดมทุนมหาศาลจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมขึ้นแท่นมหาเศรษฐีด้วยทรัพย์สินกว่า 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัทเพียงอย่างเดียว

    Zhang Junjie ไม่ใช่ผู้บริหารที่มีพื้นฐานจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง หากแต่เริ่มต้นเส้นทางธุรกิจจากการฝึกงานในร้านชาไข่มุก และสั่งสมประสบการณ์จากการทำงานกับสตาร์ทอัปในเซี่ยงไฮ้ ก่อนจะกลับไปยังบ้านเกิดที่เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน และเริ่มก่อตั้งแบรนด์ CHAGEE ในปี 2017

    ยูนนานเป็นแหล่งปลูกชาชั้นดี มีพรมแดนติดกับเมียนมา ลาว และเวียดนาม ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญสำหรับ CHAGEE ที่เน้นฟื้นฟูและต่อยอดวัฒนธรรมการดื่มชาจีนโบราณให้ทันสมัยผ่านเทคโนโลยีและการออกแบบร้านแนวคาเฟ่ร่วมสมัย


ชาพรีเมียมในสไตล์ “Tea Bar”

    CHAGEE แตกต่างจากกระแสชาไข่มุกทั่วไป ด้วยการเน้นชาพรีเมียมเพื่อสุขภาพ ใช้ใบชาจีนโบราณอย่างชาอู่หลง ชาเขียว และชาดำ ผสมกับนมคุณภาพดีในราคาย่อมเยา เฉลี่ยเพียง 2 เหรียญสหรัฐต่อแก้ว

    ร้านสาขาของ CHAGEE ได้แรงบันดาลใจจาก Starbucks ผสมผสานการออกแบบแบบมินิมอลกับวัฒนธรรมจีน เช่น ร้านแฟล็กชิปในเซี่ยงไฮ้ที่ตกแต่งภายในด้วยภาพจิตรกรรมสไตล์ราชวงศ์ถัง มีหน้าต่างเปิดขึ้นด้านบน พื้นที่สีเขียว และเมนูพิเศษอย่าง “Teaspresso” ที่ออกแบบเพื่อสะท้อนเส้นทางชาม้าโบราณของจีน

ร้าน CHAGEE ในไทย


    การระดมทุนของ CHAGEE ถือเป็น IPO ที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทผู้บริโภคจากจีนในสหรัฐฯ นับตั้งแต่ RLX Technology ในปี 2021 โดยสามารถขาย American Depositary Shares ได้ถึง 14.7 ล้านหุ้น ที่ราคาเปิดตัว 33.75 เหรียญ (สูงกว่าราคา IPO ที่ 28 เหรียญถึง 21%) ทำให้บริษัทมีมูลค่าตลาดรวมถึง 6.2 พันล้านเหรียญ และระดมทุนได้ 411 ล้านเหรียญสหรัฐ

    การจดทะเบียนใน Nasdaq แทนที่จะเป็นตลาดหุ้นฮ่องกง สะท้อนถึงความพยายามของ CHAGEE ในการยกระดับแบรนด์ให้ทัดเทียมกับ Starbucks ท่ามกลางภาวะสงครามการค้าและความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

    ปัจจุบัน CHAGEE มี สาขามากกว่า 6,400 แห่งทั่วโลก โดยส่วนใหญ่อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ และเริ่มขยายไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย

    แม้จะนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นแล้ว แต่ Zhang ยังถืออำนาจโหวตถึง 89% ผ่านโครงสร้างหุ้นแบบสองระดับ ทำให้เขายังคงควบคุมทิศทางบริษัทอย่างเหนียวแน่น ขณะที่บริษัททำรายได้รวมในปี 2024 ถึง 4.03 พันล้านเหรียญสหรัฐ

    และดูเหมือนว่าอนาคตของ CHAGEE ยังดูมีแนวโน้มที่สดใส ตามข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนของบริษัท ตลาดเครื่องดื่มชาในจีนมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 4.26 แสนล้านหยวนในปี 2028 จาก 2.73 แสนล้านหยวนในปี 2024 โดยเฉพาะตลาดชาพรีเมียมที่มีการเติบโตจาก 11% เป็น 26% ของตลาดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา


คัมแบ็กตลาดไทยอีกครั้ง

    ก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคม 2022 CHAGEE ได้เปิดสาขาแรกในไทยที่เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมกิมมิกการขายที่ไม่มีที่ไหนในไทยมีมาก่อน คือลุ้นของรางวัลที่อยู่ด้านล่างแก้ว ก่อนจะเงียบหายไปจากตลาด


    และล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา CHAGEE กลับมาเปิดในไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยให้บริการแล้ว 3 สาขาใจกลางเมือง ได้แก่ พาร์ค สีลม (Park Silom), เอ็กซ์เชนจ์ ทาวเวอร์ (Exchange Tower) และ วานิช วิลเลจ (Vanit Village) พร้อมตั้งเป้าขยายเพิ่มอีก 2 สาขา สิ้นสุดปีนี้จะมี CHAGEE 5 สาขานั่นเอง

    ณ ครั้งแรกที่เข้ามาในเมืองไทย ร้าน CHAGEE เป็นเพียงป๊อปอัปสโตร์กลางห้างเท่านั้น แต่การกลับมาครั้งนี้เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยร้านมาในคอนเซ็ปต์ Tea Bar ที่ถูกออกแบบให้เป็น “บ้านหลังที่สาม” ดีไซน์พื้นที่ให้สงบ น่านั่ง และชวนผ่อนคลาย ให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับชาอย่างไม่ต้องเร่งรีบ


    การกลับมาของ CHAGEE ครั้งนี้ ยังมาพร้อมเมนูซิกเนเจอร์ใหม่ๆ ที่สายชาไม่ควรพลาด โดยเฉพาะ “Teaspresso Series” ที่นำเทคนิคการทำเอสเพรสโซ่มาใช้กับชา ไม่ว่าจะเป็นแรงดัน อุณหภูมิ หรือเวลาในการสกัด ทุกแก้วจึงได้รสชาที่เข้มข้น ลึก และกลมกล่อม เมนูนี้ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำในไทยมาก่อน


    อีกหนึ่งเมนูน่าลองก็คือ “Da Hong Pao Snow Cap Milk Tea” ที่ใช้ใบชาต้าหงเผา-อู่หลงระดับพรีเมียมที่หายาก ตัดกับครีมสดกลิ่นสตรอว์เบอร์รีสุดหอม และโรยหน้าด้วยพีแคนกรุบๆ เพิ่มความสดชื่นและความละมุนในแก้วเดียว



ภาพ: CHAGEE

ออกแบบภาพปก: ธัญวดี นิรุตติศาสตร์



แหล่งข้อมูล:

    - Chinese tea chain Chagee’s CEO becomes a billionaire at 30 after US IPO

    - Chagee’s 30-Year-Old CEO is Now A Billionaire



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : MAGURO ขยายต่อไม่หยุด เตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ Bincho ร้านอาหารญี่ปุ่นย่างถ่าน สาขาแรกเมกา บางนา ก.ค.นี้

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine