เปิดมุมมอง 3 เชฟมิชลิน เมื่อ ‘วัตถุดิบท้องถิ่น’ คือหัวใจ พาอาหารไทยสู่ความเป็นเลิศ

‘ศรณ์’ สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ คว้ารางวัล ‘สามดาวมิชลิน’ ร้านแรกในไทย

เปิดรายชื่อ 20 ร้านใหม่ที่ได้รับรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ ใน ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย 2568

<h2>นอกจากจะมีร้านอาหารอร่อยติดดาวให้ตามรอยแล้ว ‘มิชลิน ไกด์’ ยังมีการแนะนำ ‘โรงแรม-ที่พัก’ ให้แฟนๆ ได้ไปตามเก็บกุญแจมิชลินกัน หรือที่เรียกว่า MICHELIN Key อีกด้วย </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;‘กุญแจมิชลิน’ (MICHELIN Key) เป็นตราสัญลักษณ์ที่มอบใหักับโรงแรมที่โดดเด่นทั่วโลก รางวัลนี้เปิดตัวครั้งแรกในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ปี 2567 โดยจะให้รางวัลเป็นกุญแจตั้งแต่ 1-3 ดอก &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยเกณฑ์การคัดเลือกโรงแรมสัญลักษณ์ ‘กุญแจมิชลิน’ มีดังนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. สถาปัตยกรรมโดดเด่น &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2. บริการคุณภาพ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3. มีเอกลักษณ์ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4. ความคุ้มค่าด้านราคา &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;5. มีความเชื่อมโยงกับท้องถิ่นที่ตั้งของโรงแรม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งโรงแรมที่ได้รับกุญแจมิชลิน 3 ดอก ถือเป็นโรงแรมที่ได้รับเกียรติสูงสุดในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ เพราะต้องผ่านเกณฑ์ทั้ง 5 ข้อนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ล่าสุด มิชลินได้ประกาศรายชื่อโรงแรมที่พักทั่วไทยที่คว้ารางวัล ‘กุญแจมิชลิน’ จากการคัดสรรและจัดอันดับในประเทศไทยเป็นครั้งแรก รวมทั้งสิ้น 58 แห่ง โดยมีโรงแรมที่พักได้รับรางวัล ‘3 กุญแจมิชลิน’ 8 แห่ง, รางวัล ‘2 กุญแจมิชลิน’ 19 แห่ง และ รางวัล ‘1 กุญแจมิชลิน’ 31 แห่ง &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับโรงแรมที่พักที่ได้รางวัล 3 กุญแจมิชลิน คือโรงแรมที่พักที่มอบประสบการณ์การเข้าพักเหนือชั้นที่น่าจดจำ ถือเป็นโรงแรมที่พิเศษโดดเด่นที่สุดในโลกและเป็นจุดหมายปลายทางในตัวเองสำหรับการเดินทางสุดพิเศษครั้งหนึ่งในชีวิต สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของการให้บริการชั้นยอดในทุกองค์ประกอบ จึงทำให้การเข้าพักเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำในความทรงจำและตราตรึงในใจของนักเดินทางตราบนานเท่านาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งโรงแรมที่พักทั้ง 8 แห่งที่ได้รับรางวัลกุญแจมิชลิน 3 ดอก มีดังต่อไปนี้ อมันปุรี (ภูเก็ต) , ซามูจาน่า วิลล่า (เกาะสมุย) , โซเนวา คีรี (เกาะกูด) , ภูเล เบย์ อะ ริทซ์-คาร์ลตัน รีเซิร์ฟ (กระบี่) , กีมาลา (ภูเก็ต) , โฟร์ ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ (เชียงใหม่) , แมนดาริน โอเรียนเต็ล (กรุงเทพฯ) และ เดอะ สยาม (กรุงเทพฯ) ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/CSbPFNqypAcyUngTRtWD.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="CSbPFNqypAcyUngTRtWD.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> ​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/travel/michelin-guide-has-awarded-the-michelin-key-58-outstanding-hotels-in-thailand-first-time" alt="'มิชลิน ไกด์' มอบรางวัล 'กุญแจมิชลิน' เป็นปีแรก แก่ 58 โรงแรมในไทยที่โดดเด่นเป็นพิเศษ">'มิชลิน ไกด์' มอบรางวัล 'กุญแจมิชลิน' เป็นปีแรก แก่ 58 โรงแรมในไทยที่โดดเด่นเป็นพิเศษ</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

8 โรงแรมในไทย คว้ากุญแจมิชลิน 3 ดอก

<h2>มิชลิน ไกด์ มุ่งหน้าสู่การเป็นแพลตฟอร์มอิสระอันดับ 1 ของโลกสำหรับการจองบริการร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำในนานาประเทศ โดยล่าสุดได้ทำการมอบรางวัล 'MICHELIN Key' หรือ 'กุญแจมิชลิน' เพื่อเป็นการติดดาวให้แก่ 58 โรงแรมที่โดดเด่นเป็นพิเศษในไทยเป็นครั้งแรก&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;</h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;มิชลิน ได้ประกาศรายชื่อโรงแรมที่พักทั่วไทยที่คว้ารางวัล ‘กุญแจมิชลิน’ หรือ ‘MICHELIN Key’ จากการคัดสรรและจัดอันดับในประเทศไทยเป็นครั้งแรก รวมทั้งสิ้น 58 แห่ง โดยมีโรงแรมที่พักได้รับรางวัล ‘3 กุญแจมิชลิน’ 8 แห่ง, รางวัล ‘2 กุญแจมิชลิน’ 19 แห่ง และ รางวัล ‘1 กุญแจมิชลิน’ 31 แห่ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยโรงแรมเหล่านี้ล้วนผ่านการคัดสรรจากผู้ตรวจสอบของ ‘มิชลิน ไกด์’ แล้วถึงการมอบประสบการณ์การเข้าพักสุดพิเศษที่โดดเด่นเฉพาะตัวในระดับโลก ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสำรองห้องพักผ่านช่องทางสื่อสารในระบบดิจิทัลของคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ได้อย่างสะดวกตามเป้าหมายของ ‘มิชลิน ไกด์’ ที่มุ่งทะยานขึ้นเป็นสื่อกลางอิสระสำหรับการสำรองโต๊ะอาหารและห้องพักล่วงหน้าอันดับหนึ่งของโลก &nbsp; โรงแรมที่พัก 58 แห่งในไทย คว้ารางวัล ‘กุญแจมิชลิน’&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หลังจากประกาศรายชื่อโรงแรมที่พักที่ได้รับรางวัล ‘กุญแจมิชลิน’ ไปแล้วในประเทศฝรั่งเศส, สเปน, อิตาลี, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโก&nbsp; ล่าสุด ทีมผู้ตรวจสอบของ ‘มิชลิน ไกด์’ ได้ขยายขอบเขตเข้าดำเนินการสำรวจและจัดอันดับโรงแรมที่พักในประเทศไทย ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 2 ในทวีปเอเชียที่มีการมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ให้กับสถานประกอบการในอุตสาหกรรมบริการ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Gwendal Poullennec) ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก เผยว่า “การประกาศรายชื่อ 58 โรงแรมที่พักที่ได้รับรางวัล ‘กุญแจมิชลิน’ ในประเทศไทย เป็นครั้งแรกนี้&nbsp;เป็นเสมือนการเชื้อเชิญนักเดินทางให้มาเยือนประเทศไทยเพื่อสัมผัสทัศนียภาพที่งดงาม การให้บริการที่อบอุ่น ตลอดจนประสบการณ์การเข้าพักที่น่าจดจำในราคาที่ดึงดูดใจ” <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/j47PAr8GRJ4887eD3Srh.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="j47PAr8GRJ4887eD3Srh.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ กุญแจมิชลิน 1 ดอก: ประสบการณ์การเข้าพักสุดพิเศษ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้วยเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะตัว มีความแตกต่างโดยนำเสนอความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครเมื่อเทียบกับสถานประกอบการที่อยู่ในระดับราคาเดียวกัน ได้แก่&nbsp;โรงแรมที่พักซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ 8 แห่ง, ภูเก็ต 5 แห่ง และเชียงใหม่ 4 แห่ง&nbsp;อาทิ อินเตอร์คอนติเนนตัล เขาใหญ่&nbsp;รีสอร์ท (นครราชสีมา) ,&nbsp;อินิอาลา บีช เฮาส์ (พังงา) ,&nbsp;รายาวดี (กระบี่) ,&nbsp;อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ, คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพ, โคโม เมโทรโพลิแทน กรุงเทพ ,&nbsp;137 พิลลาร์ สวีท กรุงเทพฯ&nbsp;และ&nbsp;รายา เฮอริเทจ (เชียงใหม่) เป็นต้น&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="min-width: 100%; width: 75%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/hgbwPFrkewfp3NTEtruY.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="75%," data-align="center" data-file-name="hgbwPFrkewfp3NTEtruY.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,417" data-origin="516px,299px" style="width: 100%;" data-index="1" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75,"></figure></div>​ กุญแจมิชลิน 2 ดอก: ประสบการณ์การเข้าพักอันยอดเยี่ยม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โรงแรมที่พักที่ได้รับรางวัลนี้มีความโดดเด่นและพิเศษเหนือกว่าในทุกๆ ด้าน จนกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม ทั้งด้านดีไซน์หรือสถาปัตยกรรมที่สวยงามเตะตา และการการมอบประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับท้องถิ่น ได้แก่&nbsp;คาเพลลา กรุงเทพ,&nbsp;โรงแรมเดอะ สุโขทัย กรุงเทพ,&nbsp;นภาใส อะ เบลมอนด์ โฮเทล,&nbsp;บันยันทรี สมุย,&nbsp;ศาลา สมุย เชิงมนบีช รีสอร์ท,&nbsp;ซิกส์เซ้นส์ สมุย,&nbsp;ราชมรรคา&nbsp;(เชียงใหม่) และ&nbsp;เดอะ ซาโรจิน&nbsp;(เขาหลัก) เป็นต้น <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/cJTR8BahVCBqnCEKSnfN.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="cJTR8BahVCBqnCEKSnfN.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div>​กุญแจมิชลิน 3 ดอก: ประสบการณ์การเข้าพักเหนือชั้นที่น่าจดจำ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โรงแรมที่พักที่ได้รับรางวัลนี้จำนวน 8 แห่ง ถือเป็นโรงแรมที่พิเศษโดดเด่นที่สุดในโลกและเป็นจุดหมายปลายทางในตัวเองสำหรับการเดินทางสุดพิเศษครั้งหนึ่งในชีวิต สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของการให้บริการชั้นยอดในทุกองค์ประกอบ จึงทำให้การเข้าพักเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำในความทรงจำและตราตรึงในใจของนักเดินทางตราบนานเท่านาน&nbsp;ได้แก่&nbsp;อมันปุรี (ภูเก็ต) ,&nbsp;ซามูจาน่า วิลล่า (เกาะสมุย) ,&nbsp;โซเนวา คีรี (เกาะกูด) ,&nbsp;ภูเล เบย์ อะ ริทซ์-คาร์ลตัน รีเซิร์ฟ (กระบี่) ,&nbsp;กีมาลา (ภูเก็ต) ,&nbsp;โฟร์ ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ (เชียงใหม่) ,&nbsp;แมนดาริน&nbsp;โอเรียนเต็ล&nbsp;(กรุงเทพฯ) และ&nbsp;เดอะ สยาม (กรุงเทพฯ)&nbsp;&nbsp; &nbsp; สำหรับการประกาศรายชื่อโรงแรมที่พักซึ่งได้รับรางวัล ‘กุญแจมิชลิน’ ในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ในปีนี้ กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ต่อด้วยการประกาศรายชื่อโรงแรมที่พักในเยอรมนี ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 9 ตุลาคม 2567 เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/travel/bangkok-ranks-4th-among-top-5-destinations-for-chinese-national-day" alt="กรุงเทพฯ ครองใจนักท่องเที่ยวจีน 2 ปีซ้อน! ติดอันดับ 4 ใน 5 จุดหมายปลายทางยอดฮิตช่วงวันชาติจีน">กรุงเทพฯ ครองใจนักท่องเที่ยวจีน 2 ปีซ้อน! ติดอันดับ 4 ใน 5 จุดหมายปลายทางยอดฮิตช่วงวันชาติจีน</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

'มิชลิน ไกด์' มอบรางวัล 'กุญแจมิชลิน' เป็นปีแรก แก่ 58 โรงแรมในไทยที่โดดเด่นเป็นพิเศษ 

ดุสิตธานี เกียวโต ตอกย้ำความสำเร็จระดับโลก โรงแรมไทยแห่งแรกในญี่ปุ่นที่ได้รับ ‘กุญแจมิชลิน’

“มิชลิน ไกด์” ประเทศไทย ปี 2567 เผยรายชื่อ 447 ร้านอาหารอร่อยเจิดจรัสใต้ฟ้าเมืองไทย

มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย 2567 มีร้านอาหาร 196 แห่ง คว้าสัญลักษณ์ “บิบ กูร์มองด์”

<h2>มิชลิน ไกด์ (MICHELIN Guide) เปิดตัว "มิชลิน คีย์" (MICHELIN Key) ตราสัญลักษณ์พิเศษที่มอบให้กับโรงแรมและที่พักจากทั่วโลกที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกเหนือจากการแนะนำร้านอาหาร มิชลิน ไกด์ ยังมีความมุ่งมั่นตั้งใจและทำงานอย่างเป็นอิสระเพื่อแนะนำโรงแรมและที่พักที่เป็นจุดหมายปลายทางในตัวเองอย่างแท้จริงด้วย หลังจากที่ทำโครงการนี้มาเป็นเวลา 4 ปี ขณะนี้ มิชลิน ไกด์ พร้อมแล้วที่จะนำเสนอตัวเลือกโรงแรมสุดพิเศษกว่า 5,000 แห่งใน 120 ประเทศ&nbsp;&nbsp;&nbsp;มิชลิน ไกด์ มุ่งนำเสนอโรงแรมที่พักที่มอบประสบการณ์ด้านอารมณ์ความรู้สึกที่ดีเยี่ยมให้กับผู้เข้าพัก เพื่อให้นักเดินทางได้พบกับสถานประกอบการที่กล้านำเสนอสิ่งที่แตกต่างและมีความเป็นเลิศรอบด้านตั้งแต่แนวคิดทางสถาปัตยกรรมไปจนถึงความรู้ความชำนาญในระดับมืออาชีพ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ควรค่าแก่การจดจำ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 75%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/Ub5sDGKUpPMYzHjHkySo.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Ub5sDGKUpPMYzHjHkySo.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," origin-size="2795,1864" style="width: 100%;" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp;&nbsp;สำหรับหมวดการคัดสรรใหม่นี้ มิชลิน ไกด์ จะนำเสนอโรงแรมกว่า 5,000 แห่งใน 120 ประเทศ โดยมีความหลากหลายทั้งในด้านของราคาและรูปแบบ ซึ่งเกณฑ์การคัดเลือกประกอบด้วย 5 ประการ ได้แก่&nbsp; &nbsp;&nbsp;1.	เป็นจุดหมายปลายทางในตัวเอง และมอบประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นนั้นๆ&nbsp; &nbsp;&nbsp;2.	มีความเป็นเลิศด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบตกแต่งภายใน&nbsp; &nbsp;&nbsp;3.	มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สะท้อนถึงคุณลักษณะดั้งเดิมและประสบการณ์ที่แท้จริงของสถานที่&nbsp; &nbsp;&nbsp;4.	คุณภาพและความสม่ำเสมอในการให้บริการ มีความสะดวกสบาย และการบำรุงรักษาที่ดี&nbsp; &nbsp;&nbsp;5.	ราคามีความเหมาะสมกับคุณภาพและประสบการณ์ที่ได้รับ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การพิจารณาคัดเลือกนี้จะไม่ได้อ้างอิงการรับรองใดๆ ที่ทางโรงแรมเคยได้รับ ไม่มีการกำหนดโควตาล่วงหน้า และเป็นการดำเนินการเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเดินทางที่ไว้วางใจมิชลิน ไกด์ และมองหาคำแนะนำที่น่าเชื่อถือจากข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ มิชลิน ไกด์ ได้กำหนดวัตถุประสงค์หลักในการคัดเลือกโรงแรมเอาไว้ 3 ประการ ได้แก่&nbsp; &nbsp; 1. เพื่อต่อยอดประสบการณ์ให้กับนักเดินทาง จากมื้ออร่อยสู่ประสบการณ์ที่น่าจดจำในการเข้าพัก&nbsp; &nbsp; 2. เพื่อนำเสนอที่พักที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและเป็นมากกว่าที่พักค้างคืน&nbsp; &nbsp; 3. เพื่อให้นักเดินทางสามารถค้นหาและจองที่พัก รวมถึงแบ่งปันประสบการณ์ในการเข้าพักได้อย่างง่ายดายบนแพลตฟอร์มเดียว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 75%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/6pb5kbQxbfPNUa8Sa1aa.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="6pb5kbQxbfPNUa8Sa1aa.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," origin-size="1120,630" style="width: 100%;" data-index="1"></figure></div>​ "มิชลิน คีย์" ตราสัญลักษณ์ใหม่จากมิชลิน ไกด์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับการพิจารณาตัวเลือกในหมวดนี้ ทีมงานมิชลิน ไกด์ จะมองหาสถานประกอบการที่สามารถยกระดับการบริการได้อย่างมีชั้นเชิง เพื่อสร้างสรรค์และมอบประสบการณ์ในการพักอาศัยที่โดดเด่นอย่างแท้จริงให้กับนักเดินทาง&nbsp; &nbsp;&nbsp;เกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Gwendal Poullennec) ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ มิชลิน ไกด์ ทั่วโลก เปิดเผยว่า "มิชลิน คีย์ จะเป็นคู่มือที่โปร่งใสและน่าเชื่อถือสำหรับนักเดินทางเช่นเดียวกับดาวมิชลิน ที่ได้ทำให้ร้านอาหารเป็นที่น่าจดจำของผู้บริโภคจากการนำเสนอศิลปะและความเชี่ยวชาญผ่านการปรุงอาหาร และในตอนนี้ มิชลิน คีย์ จะทำให้โรงแรมที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษทั่วโลก รวมถึงโรงแรมที่มีทีมงานมืออาชีพทำงานอย่างมุ่งมั่นเพื่อให้บริการ ได้รับการยกย่องในรูปแบบเดียวกัน"​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/Qtwny54GvM8z19FPoZp3.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Qtwny54GvM8z19FPoZp3.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," origin-size="1792,2688" style="width: 100%;" data-index="2"><figcaption><div>​Gwendal Poullennec​</div></figcaption></figure></div>​ &nbsp; &nbsp;&nbsp;ทุกปี หลังจากนี้จะมีการมอบ "มิชลิน คีย์" ให้กับสถานประกอบการที่มีความโดดเด่นและมีทีมงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะในแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยจะพิจารณาจากการส่งทีมงานของมิชลิน ไกด์ ไปเข้าพักในสถานที่ประกอบการณ์ต่างๆ โดยไม่เปิดเผยตัวตนเป็นจำนวนหนึ่งครั้งหรือมากกว่า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งในขณะนี้มีทีมงานมิชลิน ไกด์ กำลังอยู่ในระหว่างการลงพื้นที่สำรวจ และจะมีการเปิดเผยรายชื่อสถานประกอบการที่ได้รับ มิชลิน คีย์ เป็นครั้งแรกภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/people/fabulous-40s-and-50s/%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A9%E0%B9%8C-%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A5-%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87-%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B2" alt="ธนพงษ์ จิราพาณิชกุล แต่งแบรนด์เติมลุคต่าง “ธนจิรา”">ธนพงษ์ จิราพาณิชกุล แต่งแบรนด์เติมลุคต่าง “ธนจิรา”</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

MICHELIN Key กุญแจสุดพิเศษการันตีโรงแรมเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวครั้งใหม่

<h2>“เราเกิดมาในครอบครัวยากจน ต้องทำงานตั้งแต่เด็กๆ แต่ยังดีที่ยังได้เรียนหนังสือ ตอนนั้นชุดนักเรียนชุดใหม่ไม่เคยได้ใส่มีแต่ใส่ปะๆ เย็บๆ แม่ชอบเก็บเศษผ้าไว้เยอะแยะเพื่อจะได้ให้ลูกๆ มีเสื้อผ้าใส่ไปโรงเรียน”</h2>
เธอเริ่มเล่าอดีตครอบครัวให้ Forbes Thailand ฟัง ในสมัยที่ครอบครัวขายเสื้อผ้า พร้อมเผยเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดไฟไหม้เผาผลาญทุกอย่างที่มี เธอบอกว่าตอนนั้นเหลือแต่ชุดนอนเพียงตัวเดียว ร้องไห้อยู่หน้าบ้านสติแตกกับไฟที่เผาผลาญทุกอย่าง แต่ด้วยเหตุการณ์ความสูญเสียในครั้งนั้น ทำให้พ่อและแม่ของเธอเริ่มอาชีพค้าขาย ขายก๋วยเตี๋ยวไก่ เป็ด เพื่อหาเลี้ยงทุกชีวิต เจ๊ไฝในสมัยนั้นเธอไม่มีความรู้ด้านอาหารอะไรเลย  จนกระทั่งวันหนึ่งคำสบประมาทจากคนในครอบครัวของเธอได้สร้างเส้นทางอาหารและวิถีแห่งเชฟจนได้รับดาวหนึ่งดาวจากมิชลิน

“สมัยนั้นอยากจะไปช่วยครอบครัวทำอาหารขายแต่กลับถูกปฎิเสธว่าคนอย่างเราจะทำอะไรอร่อยได้ สิ่งที่ฉันคิดตอนนั้นคือเดินไปหลังบ้านแล้วพูดกับตัวเองว่าจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเราต้องทำให้ได้และทำให้ดี ตั้งแต่นั้นมาเวลาที่ครอบครัวฉันทำอาหารฉันสังเกตทุกอย่างว่ามีขั้นตอนต่างๆ มีวิธีการอย่างไร ใช้ไฟอย่างไร” เจ๊ไฝ เผยที่มาของวิถีเชฟ พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า “สมัยก่อนนะฉันชอบอ่านหนังสือมาก ฉันชอบอ่านสามก๊กที่สุด แต่ไม่ซื้อนะ ไปยืมจากห้องสมุดแห่งชาติมา อ่านไปมาหลายรอบ พออ่านจบมันก็ทำให้คิด ทำให้เกิดความรู้ว่าเวลาเราจะทำอะไร จะทำธุรกิจอะไร ควรจะทำอย่างไร แล้วเวลามีปัญหาจะแก้อะไร ทำให้เรามีลูกค้าขาประจำเป็นจำนวนมาก”

ด้วยเป็นคนที่ตั้งใจทำอะไรต้องมีดีที่สุด ให้คนกินได้กินของดี สมัยนั้นเธอและครอบครัวเดินทางไปยังแพปูถึงนครศรีธรรมราช เพื่อไปค้นหาปูที่ดีที่สุด สดที่สุด “ตอนนั้นต้องเดินทางไปใต้หลายครั้ง ไปแพปูหลายที่มาก เพื่อจะเลือกหาปูที่ดีและเลือกใช้มาตลอด สมัยก่อนปูดีๆ มีเยอะ วัตถุดิบดีๆ มีเยอะ แต่ก่อนเรารับปูจากแพปูที่นครศรีธรรมราช แต่ของมันหายากขึ้นเลยไปได้ปูจากสุราษฎร์ธานีอีกทีหนึ่ง เห็นเราขายดีอย่างนี้ เราต้องง้อแพปูนะเพื่อให้ได้ของดีๆ ให้คนได้กิน”

“คิดดูนะคะบางคนว่าเราขายของแพง อย่างไข่เจียวปูของเราเราใช้แต่เนื้อส่วนกรรเชียง ตัวหนึ่งมีแค่สองชิ้น เราใส่เนื้อปูเน้นๆ เข้าไป ทุกวันนี้ไข่เจียวปูเรามีสามราคา พันบาท พันห้าร้อยบาท และสองพันบาท จานที่ขายดีก็ราคาพันบาทนี่ละ เคล็ดลับความอร่อย นอกจากปูสดแล้วไข่ก็ต้องสดด้วยนี่คือสูตรของเรา”

<img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/7dea1518104535770d3c19ef2218bcd9.jpg" alt="" />
ไข่เจียวปูในตำนาน

สำหรับเมนูแนะนำของที่ร้านอย่าง ราดหน้า ปูผงกระหรี่  ผัดขี้เมา ของทางร้านไม่ได้แค่โด่งดังสำหรับคนในประเทศ แม้แต่ร้านอาหารชื่อดังในต่างประเทศยังส่งเชฟมาเรียนกับร้านเจ๊ไฝ “เรามีเชฟมาเรียนมาทำงานกับเราตลอด ที่ผ่านมามีกลุ่มเชฟถูกส่งมาฝึกทำอาหารกับฉัน เวลาทำอาหารขายเขาก็มาดู อย่างทำเมนู ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า เขาก็มาดูว่าเราคั่วเส้นยังไง ใช้ไฟยังไง ฉันทำอาหารวันๆ ก็ 10 ชั่วโมง ร้อนก็ร้อน ใครมาเรียนเขาก็ทนความร้อนไม่ค่อยได้เพราะเราใช้เตาถ่าน” เจ๊ไฝ เผย

ปัจจุบัน เจ๊ไฝในวัย 70 ต้นๆ ยังคงประจำการหน้าเตาถ่าน ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่เธอลุกขึ้นมาจับตะหลิวนั้นเธอไม่เคยจดสูตรอาหารใดๆ รสชาติที่ออกมานั้นมาจากการจดจำล้วนๆ ครั้งหนึ่งลูกสาวชอบกินผัดขี้เมาของร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มากจนเธอต้องเดินทางไปกินด้วยตัวเองเพราะอยากรู้ว่าทำไมผัดขี้เมาร้านนี้ถึงอร่อย “ตอนนั้นพอนั่งกินก็เขี่ยดูว่าเขาใส่อะไรบ้าง แล้วลองชิม ภาพในหัวก็รู้เลยว่ามีส่วนผสมอะไร พอกลับมาทำเองปรากฏว่าอร่อยกว่าต้นตำรับเลยเอามาขายในเมนูร้าน ก็ขายดี”

ก่อนงานแถลงข่าวเริ่มต้น เธอกล่าวทิ้งท้ายกับ Forbes Thailand ถึงคำถามที่ว่าหากได้รับดาวจากมิชลินจะทำอย่างไร เธอกล่าวว่า “ตอนแรกๆ ก็มีคนให้มาที่งานนี้ เรายังไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร มิชลินคืออะไร แล้วจะมาทำไม ก็ไม่ไป เขาก็ไปคุยกับลูกสาว สุดท้ายก็ต้องมา ส่วนตัวไม่คิดว่าจะได้รางวัลแบบนี้อะไรหรอกนะ มีแต่คนเก่งๆ ร้านเขาก็สวยๆ ส่วนร้านเราก็อย่างที่เห็นผัดกันแบบบ้านๆ ใครจะดูเราผัดว่าใส่อะไรทำอะไรก็มา เราแค่ทำอาหารให้คนที่เขาอยากกินของที่เราทำกินอิ่มกลับไปด้วยคุณภาพของวัตดุดิบที่ดี สมัยนี้คนไม่สนใจเรื่องวัตถุดิบแล้ว แล้วเขาก็จะไม่เข้าใจในสิ่งที่เราทำ”

สถานที่ตั้งร้านเจ๊ไฝ: 327 สี่แยกสำราญราษฎร์ ถนนสำราญราษฎร์ พระนคร กรุงเทพฯ โทร.02 223 9384

เปิดใจ 'เจ๊ไฝ' ก่อนได้รับ 1 ดาวมิชลินสตาร์

<h2>ททท.จับมือ มิชลิน เปิดตัว ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับกรุงเทพฯ ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการ 5 ปี ด้วยงบประมาณ 4.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สร้างชื่ออาหารไทยสู่มาตรฐานระดับโลก</h2>
ขวบปีแรกของมิชลิน ไกด์ ในประเทศไทย เปิดตัว ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับกรุงเทพฯ ที่วางแผนช่วงเดือนธันวาคมนี้ ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นประเทศที่ 6 ในทวีปเอเชีย ที่ มิชลิน ไกด์ ตัดสินใจนำมาตรฐานการตรวจสอบที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ โดยทิศทางการจัดอันดับของมิชลินในเอเชียนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2007เกิดที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก

“ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทและความผูกพันของกลุ่มมิชลินที่มีต่อประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่เราดำเนินธุรกิจมานานกว่า 25 ปีและประสบความสำเร็จอย่างเต็มภาคภูมิด้วยความร่วมแรงร่วมใจของพนักงานราว 7,000 คนทั่วประเทศ” Lionel Dantiacq กรรมการผู้จัดการกลุ่มมิชลินประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกและออสเตรเลีย เปิดเผย

<figure><img style="width: 401px; height: 474px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/2bb16ffd16931deb5411c753747b9a6c.png" alt="" width="401" height="474" /><figcaption> Lionel Dantiacq กรรมการผู้จัดการกลุ่มมิชลินประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกและออสเตรเลีย</figcaption></figure>

ในการเปิดตัวคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พักระดับโลก ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับกรุงเทพฯ ประจำ 2561 หรือ MICHELIN Guide Bangkok 2018 มีกำหนดเผยโฉมเดือนธันวาคม 2559 โดยความพิเศษของทีมมิชลิน ไกด์ สำหรับประเทศไทยในครั้งนี้คือการจัดตั้งทีมพิเศษสำหรับผู้คัดเลือกที่เชี่ยวชาญอาหารไทยโดยเฉพาะ

ด้าน ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “คู่มือ มิชลิน ไกด์ เป็นเอกสารอ้างอิงด้านอาหารที่ทรงอิทธิพลอย่างยิ่งต่อผู้คนทั่วโลก เรามั่นใจว่าความร่วมมือระหว่างมิชลินและ ททท.ในครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวของไทยในหลายระดับ ช่วยดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับบน กระตุ้นให้มีการใช้จ่ายด้านอาหารต่อหัวมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันค่าเฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 5,000 บาทต่อคน โดยในจำนวนค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายเหล่านี้จะเป็นส่วนของค่าอาหารโดยประมาณ 1,000 บาทต่อหัว”

“การมาถึงของ มิชลิน ไกด์ จะเพิ่มค่าเฉลี่ยของการใช้จ่ายด้านอาหารของนักท่องเที่ยวโดยประมาณ 15-20% ในปีต่อๆ มาเนื่องจากความน่าเชื่อถือของ ‘มิชลิน ไกด์’ ยังจะกลายมาเป็นบรรทัดฐานใหม่กระตุ้นให้ธุรกิจร้านอาหารในไทยต้องพัฒนาความเป็นเลิศทั้งด้านคุณภาพอาหารและบริการให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป”

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/9d70bd120a78610abaaabd5a561aa642.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ เสกสรรค์ ไตรอุโฆษ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด</figcaption></figure>

ทั้งนี้ ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าฯ ททท. ยังได้กล่าวเสริมถึงงบประมาณจำนวน 4.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นงบประมาณระยะยาว 5 ปี ที่ได้รับการอนุมัติการคณะรัฐมนตรี โดยแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ โดยในงวดปีแรกแบ่งจ่ายเป็นจำนวน 900,000 เหรียญสหรัฐฯ

ด้าน เสกสรรค์ ไตรอุโฆษ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด อีกหนึ่งผู้ประสานงานคนสำคัญกล่าวถึงมาตรฐานซึ่งเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศของผู้ตรวจสอบที่เดินทางเข้ามาภายในประเทศ “การเชิญอินสเปคเข้ามาไม่ใครรู้ว่าผู้ใดได้รับรางวัลแม้กระทั่งผม จนกระทั่งเชฟ ได้รับโทรศัพท์จากทาง มิชลิน ไกด์ เพื่อให้เข้ามารับรางวัล”

ทั้งนี้ภายในงานเปิดตัว ‘มิชลิน ไกด์’ ยังได้รับเกียรติจาก กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รีฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้กล่าวเปิดงานถึงความสำคัญของมาตรฐานของมิชลิน

“การเดินทางมาถึงกรุงเทพมหานครของมิชลิน ไกด์ ถึงว่าเป็นคัมภีร์ด้านอาหารที่ทรงอิทธิพลต่อผู้คนทั่วโลก จึงถือว่าเป็นมิติที่ดีสำหรับประเทศไทย เพื่อให้คนทั่วโลกรู้จักอาหารของประเทศไทยและคุณค่าอาหารของประเทศไทยซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเราหวังว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยเกิดการใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้น ภายใต้ความร่วมมือนี้เชื่อว่าจะทำเกิดประโยชน์กับการท่องเที่ยวในประเทศไทย”

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/089633e8ef5b16793df5e067fff5b1cf.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา</figcaption></figure>

ทั้งนี้เกณฑ์การตัดสินผู้ตรวจสอบจาก มิชลิน ไกด์ จะประเมินคุณภาพของร้านอาหารโดยใช้หลักเกณฑ์ 5 ประการที่มิชลินกำหนดขึ้นเอง ดังนี้ คุณภาพสินค้า, การจัดเตรียมและรสชาติ, ลักษณะเฉพาะตัวของเชฟที่สื่อผ่านอาหารที่ปรุง, ความคุ้มค่าสมราคา ตลอดจนความเสมอต้นเสมอปลายของคุณภาพและรสชาติอาหาร ทั้งนี้หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะถูกนำมารวมกัน โดยมีการจัดประชุมเพื่อพิจารณามอบรางวัลมิชลินให้แก่ร้านอาหารที่มีคะแนนสูงสุด โดยการประชุมดังกล่าวจะมีผู้บริหารมิชลิน ไกด์ เป็นประธาน รวมทั้งมีผู้ตรวจสอบของมิชลินและบรรณาธิการใหญ่ของคู่มือ มิชลิน ไกด์ ฉบับประจำประเทศนั้นๆ เข้าร่วมประชุมพิจารณา

ทั้งนี้ดาวมิชลินแบ่งออกเป็น 3 ระดับและถือเป็นราววัลที่มอบให้กับร้านอาหารเพื่อยกย่องเซฟและทีมงานโดยไม่จำกัดประเภทอาหาร นอกจากดาวมิชลินแล้ว มิชลินยังมีสัญลักษณ์อีกมากมายเพื่อการันตี อาทิ บิบ กูร์มองด์ (BIB GOURMAND) ซึ่งเป็นการนำเสนอร้านอาหารที่นำเสนออาหารคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึง และ สัญลักษณ์ช้อนส้อมไขว้กัน (FORKS AND SPOONS) ที่แบ่งเป็น 5 ระดับ อาทิช้อนส้อม 1 คู่ หมายถึง “ร้านอาหารที่สะดวกสบาย” ช้อนส้อม 5 คู่ ซึ่งหมายถึง “ร้านอาหารที่หรูหรา” หรือ สีแดงของช้อนส้อม ที่หมายถึง ร้านอาหารที่ถือว่ามีบรรยากาศ “น่าพอใจ”

&nbsp;
<h2>3 ประเทศที่รับดาวมิชลินมากที่สุด ในระดับต่างๆ</h2>
ดาวมิชลิน 1 ดวง (ร้านอาหารที่อร่อยมากเมื่อเทียบกับร้านประเภทเดียวกัน)
อันดับ 1 ฝรั่งเศส 485 ร้าน
อันดับ 2 อิตาลี 250 ร้าน
อันดับ 3 ญี่ปุ่น 224 ร้าน

ดาวมิชลิน 2 ดวง (ร้านอาหารที่อร่อยเป็นพิเศษคุ้มค่ากับการขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม)
อันดับ 1 ฝรั่งเศส 83 ร้าน
อันดับ 2 ญี่ปุ่น 61 ร้าน
อันดับ 3 อิตาลี 38 ร้าน

ดาวมิชลิน 3 ดวง (ร้านอาหารที่อร่อยยอดเยี่ยมและโดดเด่นควรค่าแก่การเดินทางไกลเพื่อไปชิมสักครั้ง)
อันดับ 1 ญี่ปุ่น 32 ร้าน
อันดับ 2 ฝรั่งเศส 26 ร้าน
อันดับ 3 อเมริกา 12 ร้าน

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events