Timeless Luxury Reimagined 'เดอมอนด์' ไฟน์จิวเวลรี่แบรนด์ไทยสุดหรู ดีไซน์สวยล้ำค่าเหนือกาลเวลา

คนไทยติดหรูแม้รายได้ไม่เยอะ เงินเก็บน้อย! CMMU แนะ 4 กลยุทธ์ พิชิตใจชาว Luxumer

'แท้ หรือ ปลอม' ดูอย่างไร? Trez Jewelry ชวนส่อง 'ไข่มุก' อัญมณีสุดหรูจากท้องทะเล

<h2>​ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป วิถีชีวิต การทำงาน และไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคใหม่จึงต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับบริบทในสังคมตามไปด้วย ในเรื่องของเชิงธุรกิจและการตลาด หลากหลายแบรนด์จึงต้องทำการโฟกัสวิเคราะห์เจาะจงกลุ่มลูกค้าหรือผู้บริโภคที่เป็นเป้าหมายหลักของตัวสินค้าและบริการให้ชัดเจนมากขึ้นตามด้วย </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย ณ ปัจจุบัน มีการจำแนกและให้คำจำกัดความถึงกลุ่มคนที่มีพฤติกรรม รูปแบบการใช้ชีวิต และฐานะทางเศรษฐกิจ ที่มีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยสิ่งต่างๆ ไว้อย่างชัดเจนขึ้น จากกลุ่มคน 4 ประเภท ดังนี้&nbsp;1. HENRYs&nbsp;&nbsp;&nbsp;มาจาก High Earners, Not Rich Yet หมายถึง กลุ่มคนที่มีรายได้สูง แต่ยังไม่รวยสักที มีที่มาครั้งแรกจากนิตยสาร Fortune ปี 2003 ใช้เรียกเซกเมนท์ครอบครัวที่มีรายได้สูงราวๆ 2.5- 5 แสนเหรียญสหรัฐ แต่ไม่ค่อยเงินเหลือเก็บเพราะมีค่าใช้จ่ายสูง เช่น ค่าภาษี ค่าเล่าเรียนลูก ค่าผ่อนบ้าน ค่าใช้จ่ายในครอบครัว จนถึงอาจไม่มีการเก็บออมสำหรับเกษียณมากเท่าที่ควร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ณ ปัจจุบัน HENRYs กลายเป็นคำเรียนกลุ่ม Gen Millennials หรือ Gen Y ที่มีหน้าที่การงานดี รายได้สูง แต่ก็มีพฤติกรรมใช้จ่ายไปกับไลฟ์สไตล์ช้อป กิน เที่ยวอย่างหรูหราจนไม่มีเงินเหลือเก็บ กล่าวคือแม้จะหาเงินมาได้มาก แต่ก็ใช้จ่ายหนักมากด้วยเช่นกัน คนกลุ่มนี้ จึงถือเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมูลค่ามหาศาลของสินค้าลักชัวรี่แบรนด์ต่างๆ ที่มีการกำหนดกลยุทธ์การตลาดสำหรับกลุ่ม HENRYs ไว้โดยเฉพาะ&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/7HKW3aGwdU3A2q6H2NTz.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="7HKW3aGwdU3A2q6H2NTz.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ 2. SINKs&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ย่อมาจากคำว่า Single Income No Kids หมายถึงคนโสดที่มีรายได้แต่ไม่มีลูก โดยคนโสดเหล่านี้มักจะนิยมใช้จ่ายเพื่อสร้างความสะดวกสบายและซื้อความสุขปรนเปรอให้แก่ตนเอง เพราะไม่มีภาระต้องรับผิดชอบจากการเลี้ยงดูแลลูก <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/FQjUxetnw2A33FkHqciU.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="FQjUxetnw2A33FkHqciU.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div>​ 3. DINKs&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ย่อมาจาก&nbsp;Double Income No Kids หมายถึง คู่แต่งงานมีรายได้สูงทั้งคู่และไม่มีลูก ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่ได้หมายถึงเฉพาะคู่หนุ่มสาวข้าวใหม่ปลามันอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงคู่สามีภรรยาสูงอายุที่ลูกๆ เติบโตจนย้ายออกจากบ้านไปดูแลตัวเองได้แล้ว รวมถึงคู่ชีวิต LGBTQ และคู่แต่งงานที่ตัดสินใจไม่มีลูก (Childless Couple) ที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับการเลี้ยงลูก ทำให้คนกลุ่มนี้มีเงินเหลือมาเก็บออมลงทุนหรือใช้จ่ายเพื่อความสะดวกสบายของตัวเองได้มากขึ้น อีกทั้งกลุ่ม DINKs ยังมีค่าใช้จ่ายในบ้านต่อคนน้อยกว่ากลุ่ม SINKs ที่เป็นคนโสด เพราะพวกเขาสามารถแชร์ค่าใช้จ่ายกับคู่ของตัวเองได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ กลุ่ม SINKs และ DINKs ถือเป็นกลุ่มที่หมายปองของเหล่าบรรดาสินค้าลักชัวรี่ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และภาคธุรกิจท่องเที่ยว ยกตัวอย่าง เช่น รถยนต์ราคาแพง แพ็คเกจโรงแรมหรู รวมถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนต่างๆ และเมื่อไม่ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่เกี่ยวกับลูก นี่จึงกลายเป็นโอกาสให้คนกลุ่มนี้สามารถนำเงินบางส่วนนี้มาเก็บออมและลงทุนในหุ้น พันธบัตร หุ้นกู้ รวมถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่นๆ ที่จะช่วยสร้างความมั่งคงให้กับตัวเองและครอบครัวได้&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/EZnUM84JzDHDEzXukmLc.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="EZnUM84JzDHDEzXukmLc.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div>​ 4. PANKs &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ย่อมาจาก&nbsp;Professional Aunt, No Kids ถือเป็นคำจำกัดความเรียกกลุ่มผู้หญิงโสดที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป มีรายได้ และอาชีพหน้าที่การงานดี&nbsp;บทความ “The Rise of PANKs and What That Means for Startup Culture” ได้กล่าวถึงแนวโน้มของกลุ่ม PANKs ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยว่า ปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่มีผู้หญิงจำนวนมากได้รับสนับสนุนทักษะความสามารถด้านผู้ประกอบการให้สร้างธุรกิจของตัวเอง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ยิ่งถ้าผู้หญิงทำธุรกิจของตัวเองมากขึ้นเท่าไหร่ แนวโน้มที่จะเกิดประชากรกลุ่ม PANKs ก็มากขึ้นเท่านั้น เพราะจะเอาเวลาในช่วงอายุ 20 มาทุ่มเทสร้างธุรกิจ มากกว่าที่จะหาคู่เพื่อแต่งงานมีลูกให้ทันช่วงวัยที่สังคมตั้งเกณฑ์เอาไว้ที่อายุ 30 ปี ยิ่งกว่านั้นการบุกเบิกธุรกิจใหม่ๆ ก็ต้องทุ่มเทเวลา พลังงานมาก และถ้าเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพที่ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ทำงานไม่จำกัดเวลา มีความไม่แน่นอนสูง จึงเป็นความท้าทายอย่างมากที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะแบกความรับผิดชอบในฐานะแม่ สร้างธุรกิจสตาร์ทอัพไปพร้อมๆ กัน และบาลานซ์ทั้งสองอย่างให้ลงตัว ผู้ประกอบการหญิงหลายคนจึงเลือกที่จะสร้างธุรกิจให้เป็นลูกของพวกเธอแทน​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/X8pxzEZuywasSWzjZLHY.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="X8pxzEZuywasSWzjZLHY.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม กลุ่ม PANKs ถือเป็นอีกหนึ่งเซกเมนต์ที่นักการตลาดพุ่งเป้าให้ความสำคัญ ด้วยเงินรายได้ที่มีอย่างเหลือเฟือและไม่มีครอบครัวเป็นของตัวเอง แต่ธุรกิจที่ขายสินค้าให้แก่เด็กและคนเป็นพ่อแม่ก็อย่ามองข้ามคนกลุ่ม PANKs เหล่านี้ เพราะคุณป้ากลุ่มนี้มีอิทธิพลชักจูงใจเด็กๆ และพ่อแม่เด็กที่อยู่รอบตัว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และจากการสำรวจกว่า 68% กลุ่ม PANKs จะเป็นแบบอย่างให้กับเด็กๆ ที่รู้จัก เช่น หลาน ลูกของเพื่อน ขณะที่ 67% กล่าวว่าพวกเขามักจะมีเพื่อนมาขอคำปรึกษาในการตัดสินใจเพื่อเลือกซื้อสิ่งของต่างๆ และ 2 ใน 3 ของคนกลุ่ม PANKs จะรู้สึกว่าดีใจที่ไม่ต้องมีลูกเอง ซึ่งคำว่า “Aunt” จากเดิมที่เคยเป็นคำเรียกจิกกัด ก็ได้แปรเปลี่ยนมาเป็นความหมายใหม่ที่นิยามถึงผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในโลกการทำงาน มีรายได้ดี ดูแลพึ่งพาตัวเองได้อย่างสง่างาม​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/fUNrvULFHB1wZX6tsxdV.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="fUNrvULFHB1wZX6tsxdV.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"></figure></div> ​ ​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;:&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/world/global-world/5-ways-henry-behavior-high-income-no-money-left-to-save" alt="5 วิธีรับมือพฤติกรรม HENRY &quot;กินหรู อยู่สบาย&quot; รายได้สูง แต่ไม่มีเงินเหลือเก็บ">5 วิธีรับมือพฤติกรรม HENRY "กินหรู อยู่สบาย" รายได้สูง แต่ไม่มีเงินเหลือเก็บ</a>​ ​​<a href="https://buffet.ookbee.com/magazine/forbes/issue/1996204f-7622-49e2-9c39-b0f5a3e7f99c" alt="​​คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2566 ในรูปแบบ e-magazine">​​คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2566 </a>

HENRYs, SINKs, DINKs และ PANKs เช็คไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ คุณคือใครใน 4 กลุ่มนี้

https://www.youtube.com/watch?v=bmbk1lsLTwE&amp;t=2s

ครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เครือโรงแรม Hilton ส่งแบรนด์ ‘วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย’ สู่ตลาด แบรนด์ที่มีอายุ 87 ปีจาก New York เมื่อมาเปิดตัวในกรุงเทพฯ การออกแบบจึงใช้กลิ่นอายความหรูหราแบบ Art Deco ด้วยเส้นสายโลหะทองเหลืองผสานเข้ากับรายละเอียดศิลปะไทยที่สอดแทรกไว้

อ่านรีวิวฉบับเต็ม <a href="http://forbesthailand.com/forbes-life/travel-forbes-life/%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9F-%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80.html">คลิกที่นี่</a>

พาชม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ เส้นสายแห่ง Art Deco จาก New York

ForbesLife เล่มพิเศษ Luxury Travel พาท่านผู้อ่านสัมผัสกับ 3 สถานที่สุดพิเศษ กรุงดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผ่านเรื่องราวของสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม การกินอยู่ และการใช้ชีวิต ที่ทำให้ดูไบเป็นนครที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในรูปแบบเหนือระดับ แล้วพบกับเสน่ห์น่าประทับใจมิลืมเลือนของ กรุงมอนติคาร์โล ประเทศโมนาโก เมืองที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ความหรูหราที่มีมากมายกว่าหลายๆ แห่งในโลก และประเทศแอฟริกาใต้ ประเทศที่มีชื่อเสียงเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศ วัฒนธรรมที่ผสมผสาน กับการท่องเที่ยวแบบซาฟารี รวมทั้งการเดินทางโดยรถไฟสุดหรูหรา Rovos Rail หรือ Pride of Africa

ในเล่มพบกับไอเทมเล่อค่าในรายชื่อ A-List ที่ควรครอบครอง และเมื่อการก่อการร้ายข้ามชาติระบาดไปยังเมืองท่องเที่ยวสำคัญมารวมอัพเดทสถานที่ "TO GO or not TO GO" เพื่อการท่องเที่ยวอย่างมั่นใจและเรื่องราวที่จะเติมเต็มความหรูหราแห่งการท่องเที่ยวอย่างมีระดับได้ที่ ForbesLife Thailand ฉบับ SEPTEMBER 2016

<hr />

<a href="http://goo.gl/tFHEVl"><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/7465369de7d66b46b998c5fdd87f902e.png" alt="" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events