Neil Davidson ดัน Coda Payments สำหรับเกมออนไลน์รุกตลาดใหม่ทั่วโลก

<h2>ตลาดเกมไทยเนื้อหอม Playwith จากเกาหลีใต้เปิดตัว Seal M บนมือถือ พร้อมดาวน์โหลด ผ่าน App Store หรือ Play Store ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 พร้อมกับเกมเมอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชูโมเดล Play-to-Earn เล่นเกมได้ PLWI Token คาดยอดดาวน์โหลดพุ่ง 1 ล้านรายใน 1 เดือน</h2> ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/04/yWb6G9tYC4feS3zLswHY.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="yWb6G9tYC4feS3zLswHY.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="650,433" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำนักงานเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า รายงานตัวเลขอุตสาหกรรมเกมในประเทศไทยมีมูลค่าราว 40,000 ล้านบาท และเติบโตสูงมากในช่วงโควิดที่ผ่านมา ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานระบบ 5G ที่มีการพัฒนาอย่างมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้การพัฒนาเกมบนมือถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ที่สำคัญจำนวนคนไทยเล่นเกมมีมากกว่า 30 ล้านคน ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากสำหรับผู้พัฒนาเกมจากทั่วโลก​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/04/ZTUP5PAMkMpMAUH48AFv.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ZTUP5PAMkMpMAUH48AFv.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="650,433" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;HakJoon Kim ประธานบริหาร เพลย์วิธ (Playwith Inc.) ประเทศเกาหลีใต้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดเกมในประเทศไทยมีการเติบโตสูงต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทได้เข้ามาเปิดตัวเกม Seal online ในเดือนมีนาคม 2560 ได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ มาโดยตลอด หลังจากผ่านไป 6 ปี ได้มีการพัฒนาจาก Seal online IP สู่ Seal M เพื่อผู้เล่นชาวไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะเปิดตัว Seal M พร้อมกันอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 นี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Seal online เป็นเกมที่มีผู้เล่นประมาณ 10 ล้านคนทั่วโลก ตลาดหลักอยู่ในจีน ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเทศไทยเป็นตลาดหลักที่มีผู้เล่นมากกว่า 50,000 คน ถือเป็นอันดับ 1 ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจากการเปิดตัว Seal M ในครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ดาวน์โหลดผ่าน App Store หรือ Play Store มากกว่า 1 ล้านดาวน์โหลด ภายใน 1 เดือน และ 5 ล้านดาวน์โหลดภายใน 1 ปี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“Seal online เป็นเกมที่ได้รับความรักจากเกมเมอร์ทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาเป็นเวลานาน เต็มเปี่ยมไปด้วยความทรงจำทุกหนแห่ง และเพื่อเป็นการร่วมสร้างความทรงจำต่อไปอีกนานๆ ล่าสุด เราจึงเปิดตัว Seal M อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 นี้ ซึ่ง Seal M จะตอบสนองความต้องการของผู้ที่รักใน Seal Online ซึ่งจะแตกต่างจากเกม Seal บนสมาร์ทโฟนที่เคยเปิดมาก่อน” Kim กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ บริษัทได้พัฒนา PLWI Token เพื่อตอบโจทย์ผู้เล่น เพื่อตอบแทนความสนับสนุนและฟีดแบ็กที่ดีจากผู้เล่นโดยไม่ต้องไปขุดหาไอเทม หรือจ่ายเงินเพื่อเล่นเกมให้ชนะ (Pay-to-Win) ซึ่งจะทำให้เกมมีความสนุกยิ่งขึ้นไปอีก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ในภาษาเกาหลี คำว่า อุนมยอง (운명) แปลว่า พรหมลิขิต ซึ่งความหมายไม่ใช่แค่ได้พบเจอเท่านั้น แต่ยังเป็นความผูกพันลึกซึ้ง เป็นคนที่เราจะต้องพบเจอและคงความสัมพันธ์นั้นไปตลอด ดังนั้นความหวังของ PLAYWITH ก็คือ การได้นำเสนอคอนเทนต์ที่สนุกสนานให้แก่ผู้เล่น และสื่อสารกัน โดยยังคงความสัมพันธ์กับผู้เล่นให้ยาวนานที่สุด” HakJoon Kim กล่าว และนี่คือกลยุทธ์ใหม่ของ Playwith ในการทำตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พัฒนาโมเดลใหม่เจาะคนไทย ด้าน JeongHyun Park หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเกม กล่าวว่า ระบบต่างๆ ภายในเกม Seal M นั้น ได้มีการพัฒนาและต่อยอดจากจุดเด่นของเกม Seal Online ที่พัฒนาจากสำรวจความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น กราฟฟิกสไตล์การ์ตูน ที่มีลายเส้นสวยงามไม่เหมือนใคร หรือจะเป็นระบบสัตว์เลี้ยง ที่มีความหลากหลาย สามารถพัฒนาขีดความสามารถเพื่อช่วยเหลือในการต่อสู้ได้เช่นกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวมไปถึงคอสตูม ที่สำคัญยังช่วยเพิ่มความสามารถให้ตัวละครภายในเกมอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีไฮไลต์สำคัญ คือ ระบบคอมโบ ที่ช่วยโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงไอเทมน่าสนใจอีกมากมายที่เราได้ออกแบบ และพัฒนาเกมให้เหมาะสมกับในเวอร์ชันมือถืออีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนที่จะอัปเดตคอนเทนต์ภายในเกมให้รวดเร็ว หลังจากที่เปิดให้บริการไปแล้ว ซึ่งได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เพื่อให้เกม Seal M เป็นที่ถูกใจของผู้เล่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากที่สุด รวมถึงชาวเกมเมอร์ในประเทศไทย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/04/qffd87PYzboW7wPnSNjY.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="qffd87PYzboW7wPnSNjY.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="650,433" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp; JaeYong Lee หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจในประเทศไทยนั้น บริษัทได้ออกแบบเหรียญ PLWI Token ให้มีความเชื่อมโยงกับตัวเกม Seal M ซึ่งจะแตกต่างจากเกม Play-to-Earn (P2E) ทั่วๆ ไป โดย Seal M นั้นจะใช้วิธีการเล่นเกมแทนการขุด (Mining) เพื่อให้ได้รับ Token แทน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะเดียวกันเพื่อให้เป็นการเข้าถึงผู้ใช้งานให้ใกล้ชิดมากขึ้น ได้ประกาศการทำ AMA หรือ Ask Me Anything บนแพลตฟอร์ม Discord เพื่อจะได้มีการพูดคุยสอบถามกับผู้ใช้งานได้โดยตรงอีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับ Play-to-Earn เป็นโมเดลธุรกิจที่ให้ผู้เล่นสามารถใช้งานเหรียญและองค์ประกอบต่าง ๆ ของเกมภายในระบบนิเวศของเกมได้อย่างเต็มที่ และสามารถซื้อขายไอเทม หรือ NFT ในตลาดซื้อขายของแพลตฟอร์มเกมได้ โดยผู้เล่นสามารถนำ NFT ไปซื้อขายใน NFT Marketplace เพื่อทำเงินได้ ทำให้แนวโน้มการเล่นเกม Play-to-Earn ได้รับความนิยมจากเกมเมอร์มากขึ้น อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/marketing/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%87%E0%B8%9A-%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88-%E0%B8%9F%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2566-%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-1-09-%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99" alt="ทีเส็บ มั่นใจเศรษฐกิจฟื้นตัวตั้งเป้าปี 2566 รายได้ 1.09 แสนล้าน">ทีเส็บ มั่นใจเศรษฐกิจฟื้นตัวตั้งเป้าปี 2566 รายได้ 1.09 แสนล้าน</a>​<hr class="__se__solid">​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Playwith ชูโมเดลใหม่ ลุยธุรกิจเกมในไทย 

ตะลุยเกมธุรกิจ "กฤตย์ พัฒนเตชะ" ผู้อยู่เบื้องหลัง "ROV"

<h2>Park Kwan-ho ผู้ก่อตั้ง WeMade บริษัทพัฒนาเกมในเกาหลีใต้ ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีพันล้าน หลังหุ้นของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นราว 4 เท่า นับตั้งแต่เปิดตัวเกมที่ใช้ระบบบล็อคเชนในปลายเดือนสิงหาคม</h2>
<img class="alignnone wp-image-52703" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/10/MIR4_Global_Grand_Opening_of_MIR4_on_August_26th-1024x576.jpg" alt="Park Kwan-ho " width="720" height="405" />

เกมดังกล่าวมีชื่อว่า <a style="color: #008000;" href="https://www.wemade.com">Mir 4</a> เปิดให้บริการในประเทศเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ก่อนที่จะขยายไปใน 170 ประเทศทั่วโลกกว่า 12 ภาษา เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม และนับแต่นั้นมาก็ได้มีการดาวน์โหลดมากกว่า 1 ล้านครั้งใน Play Store ของ Google ส่งผลให้หุ้นของ WeMade ปรับตัวสูงขึ้นประมาณร้อยละ 290 

ด้าน Park Kwan-ho ซึ่งจะมีอายุครบ 49 ปีในเดือนหน้า ดำรงตำแหน่งประธานของบริษัทและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดราวร้อยละ 45 ในชื่อของเขาเอง ซึ่งในที่นี้ Forbes ประเมินว่า ปัจจุบันเขามีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ 

Mir 4 เป็นเกมที่อาศัยระบบบล็อคเชน ที่อนุญาตให้ผู้เล่นสามารถแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลได้ ซึ่งเกมดังกล่าวได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของคริปโตเคอร์เรนซี 

เช่นเดียวกับ Axie Infinity ที่พัฒนาโดยผู้สร้างเกมชาวเวียดนาม Sky Mavis ซึ่งปัจจุบันมีผู้เล่นมากกว่า 2 ล้านคนต่อวัน และล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา บริษัทสามารถระดมทุนได้ 152 ล้านเหรียญ นำโดย Andreessen Horowitz บริษัทร่วมทุนใน Silicon Valley

"เกมของเรากำลังพัฒนาไปสู่การเป็น metaverses  หรือการประสานการทำงานระหว่างโลกจริงกับโลกเสมือนจริง ท่ามกลางมูลค่าของสินทรัพย์เสมือนที่กำลังเป็นที่ยอมรับ" Henry Chang ซีอีโอของ WeMade กล่าวกับนักวิเคราะห์ในเดือนสิงหาคม "ตั้งแต่นั้นมา WeMade จึงมุ่งเน้นไปที่การคว้าโอกาสในช่วงการเปลี่ยนแปลงนี้”

ผลประกอบการของ WeMade ซึ่งตั้งอยู่ใน Seongnam ทางใต้ของกรุงโซล เป็นไปในทิศทางที่ดีตั้งแต่ก่อนการเปิดตัว Mir 4 ทั่วโลก โดยบริษัทรายงานว่า มีรายรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 175 ไตรมาสที่ 2 เป็น 6.9 หมื่นล้านวอน (60 ล้านเหรียญ) ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านวอน (16 ล้านเหรียญ) จากเดิมที่ขาดทุน 5 พันล้านวอน (4 ล้านเหรียญ) ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 

Lee Moon-jong นักวิเคราะห์จาก Shinhan Investment กล่าวว่า "เราคาดว่ารายรับจะยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการเปิดตัว Mir 4 ทั่วโลกในเดือนสิงหาคมและการเปิดตัว Mir M (เกมเวอร์ชั่นมือถือ) ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้” 

ทั้งนี้ นอกจากแฟรนไชส์ ​​Mir แล้ว เกมหลักอีกเกมของ WeMade อย่าง Icarus ก็มีการดาวน์โหลดเกมเวอร์ชั่นมือถือมากกว่า 500,000 ครั้งบน Play Store ของ Google เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่แหล่งรายได้อื่นๆ ของ WeMade ได้แก่ ธุรกิจบล็อกเชนซึ่งเปิดตัวในปี 2018 ที่มีสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองที่เรียกว่า Wemix และแพลตฟอร์มการประมูล NFT ล่าสุด ในเดือนกรกฎาคม WeMade ลงทุน 8 หมื่นล้านวอน (ประมาณ 70 ล้านเหรียญ) ใน Vidente ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดรายเดียวของ Bithumb แพลตฟอร์มซื้อขายบิตคอยน์ในกรุงโซล

ในช่วงที่ผ่านมา ผู้ผลิตเกมเกาหลีรายอื่นๆ เช่น Nexon, Netmarble, NHN Entertainment และ Smilegate ก็ได้เข้าลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลด้วยเช่นกันเพื่อทดแทนสกุลเงินในเกม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อไอเท็มในเกมได้อย่างง่ายดาย รวมถึงการขจัดการเก็งกำไรในไอเท็มและการแจกจ่ายไอเท็มที่ไม่ได้รับอนุญาต 

ดังเช่น NXC ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งของ Nexon ถือหุ้นร้อยละ 65 ใน Korbit ในกรุงโซล ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลแห่งแรกของเกาหลี "ความเชื่อมโยงระหว่างเกมและสกุลเงินดิจิทัลเป็นเรื่องใหญ่" Bang Jun-hyuk ประธาน Netmarble กล่าวในปี 2018

Park ซึ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านธุรกิจจาก Kookmin University ในกรุงโซล ก่อตั้ง WeMade ในปี 2000 และนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Kosdaq ที่เต็มไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีของเกาหลีในปี 2009 

โดยก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานให้กับ ActozSoft บริษัทพัฒนาเกมเกาหลีเป็นเวลา 4 ปี ในตำแหน่งผู้ตรวจสอบบัญชีและหัวหน้าทีมพัฒนา

นอกจาก Park แล้ว ยังมีมหาเศรษฐีเกมชาวเกาหลีอีก 7 คน ได้แก่ Chang Byung-gyu แห่ง Krafton, Kim Taek-jin แห่ง NCSoft, Bang แห่ง Netmarble, Kim Jung-ju แห่ง Nexon, Lee Joon-ho แห่ง NHN Entertainment, Kim Dae-il แห่ง Pearl Abyss และ Kwon Hyuk แห่ง Smilegate-bin

ในเดือนสิงหาคม Chang จาก Krafton มีทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าเป็น 2.9 พันล้านเหรียญ หลังนำบริษัทเข้าทเสนอขายหุ้น IPO มูลค่า 3.8 พันล้านเหรียญ ขึ้นแท่นหุ้น IPO ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ โดยเป็นรองเพียง Samsung Life Insurance ที่สามารถระดมทุนได้ 4.9 ล้านล้านวอนในปี 2010

แปลและเรียบเรียงจากบทความ Blockchain-Based Game Boosts Shares Of Korean Game Maker, Founder Becomes Billionaire เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/america/stephen-hoge-มหาเศรษฐีคนล่าสุดจาก-modern.html">Stephen Hoge มหาเศรษฐีคนล่าสุดจาก Moderna</a>

Park Kwan-ho ผู้ก่อตั้ง WeMade บริษัทพัฒนาเกมในเกาหลีใต้ ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีพันล้าน

<h2>David Baszucki นายใหญ่ของ Roblox ได้แปรเปลี่ยนประสบการณ์เสมือนจริงเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง และเปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นกองทัพนักลงทุนวัยใส ด้วยการสร้างไลน์สินค้าของเล่นและเสื้อผ้า จากเกมที่ได้รับความนิยม นอกจากนั้นเด็กๆ นักสร้างสรรค์ยังได้ส่วนแบ่งจากยอดขายเหล่านั้นผ่าน Robux ในเกมของพวกเขาอีกด้วย</h2>
ถึงบรรดาเด็กๆ นับล้านๆ คน David Baszucki เป็นที่รู้จักกันมากกว่าตัวอวตารของเขาคือเป็น “นักสร้าง” ซึ่งเขาได้สร้าง Roblox ให้เป็นวิดีโอเกมต่อสู้ที่ติดกันงอมแงมและให้เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการโซเชียลมีเดีย จนได้กลายเป็นคู่แข่งกับ Youtube และ TikTok ในการดึงดูดเด็กๆ ให้เข้ามาเล่น

บริษัทของ Baszucki กำลังเติบโตขึ้นเพราะเด็กๆ กำลังติดหงักอยู่ในห้องนั่งเล่น ทำให้พวกเขาได้หันเหความสนใจมายัง Roblox เพื่อหนีจากสถานการณ์โรคระบาด ในช่วง 9 เดือนที่สิ้นสุดในเดือนกันยายน ปี 2020 สตาร์ทอัพจากเมือง San Mateo รัฐ California มีจำนวนผู้ใช้เพิ่มมากขึ้นราว 81% เป็น 31.1 ล้านคน ขณะที่จำนวนชั่วโมงที่พวกเขาอยู่กับแอปของ Roblox และอยู่กับเว็บไซต์ได้เพิ่มทะยานขึ้น 123% เป็น 2.22 หมื่นล้านชั่วโมง

<img class="aligncenter wp-image-49017 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/David-Baszucki-“นักสร้าง”-Roblox-03.jpg" alt="David Baszucki" width="567" height="607" />

ผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ Baszucki วัย 58 ปี ผู้มีทรัพย์สินมูลค่า 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังรอบการระดมทุนในเดือนมกราคม และได้มีการประเมินมูลค่าของ Roblox ไว้ที่ 2.95 หมื่นล้านเหรียญ ณ ช่วงเวลาตีพิมพ์ของนิตยสาร เขายังมีแผนการนำหุ้นของ Roblox เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยไม่มีการเสนอขายหุ้นใหม่

สิ่งที่ทำให้ Roblox แตกต่างคือ แอปนี้ได้เสนอเครื่องมือต่างๆ ให้กับเด็กๆ ใช้สร้างและขายเกมของพวกเขา โดยเปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นกองทัพนักลงทุนวัยใส Roblox ได้ขายเหรียญเสมือนจริง โดย 100 เหรียญเท่ากับ 1 เหรียญจริง 

ผู้เล่นยังสามารถเล่นเกมและบริการดิจิทัลอื่นๆ อีก เช่น อวตาร และรายการเกมต่างๆ ที่ผู้เล่นเข้าไปมีส่วนร่วมได้ ผู้สร้างสรรค์เกมจะมีรายได้จากส่วนแบ่งที่ใช้จ่ายผ่าน Robux ในเกมของพวกเขาในอัตราที่ 35 เซนต์ต่อ 100 Robux

โดยรวมแล้วผู้สร้างสรรค์ 1 ล้านคนของ Roblox สามารถทำเงินได้ 210 ล้านเหรียญในช่วง 9 เดือนแรกที่สิ้นสุดในเดือนกันยายน ปี 2020 สำหรับบรรดาผู้สร้างสรรค์ที่อยู่อันดับต้นๆ จะได้รับเงินจริง ซึ่งมีกว่า 1,000 คนได้เงิน 10,000 เหรียญ หรือมากกว่านั้น และมีจำนวนเกือบ 250 คนได้เงินไปมากกว่า 100,000 เหรียญ สำหรับตัวของ Roblox เองนั้นมีรายได้เกือบ 600 ล้านเหรียญในช่วงเวลา 9 เดือนดังกล่าว ซึ่งมากกว่ารายได้ปี 2019 ทั้งปี ที่ได้อยู่ที่ 100 ล้านเหรียญ

&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม:
<ul id="crumbs">
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/people/%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%8a%e0%b8%a3%e0%b8%a5%e0%b8%94%e0%b8%b2-%e0%b8%9e%e0%b8%b9%e0%b8%a5%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%93%e0%b9%8c-%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%aa.html">เพชรลดา พูลวรลักษณ์ นักสะสมความสุขผ่าน DESIGNER TOYS</a></li>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/news/other/%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%9e%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%b4%e0%b9%8c-%e0%b8%9f%e0%b8%b8%e0%b9%89%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%9f%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80.html">สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง สร้าง TIMO TRUNKS ดังไกลต่างแดน</a></li>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/people/forbes-life-people/%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b8%81%e0%b9%81%e0%b8%ab%e0%b9%88%e0%b8%87-%e0%b8%a8%e0%b8%b4%e0%b8%a5%e0%b8%9b%e0%b9%8c-%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%99.html">โลกแห่ง ‘ศิลป์-การลงทุน’ ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ</a></li>
</ul>

<hr />

<a href="https://bit.ly/2Tv7p0e">คลิกอ่านฉบับเต็ม และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2564 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<img class="lazy alignnone wp-image-47783 lazy-loaded" src="https://i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/187523743_2849070525308019_3482005041219392688_n.jpg" sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/187523743_2849070525308019_3482005041219392688_n.jpg 750w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/187523743_2849070525308019_3482005041219392688_n-229x300.jpg 229w" alt="" width="300" height="394" data-lazy-type="image" data-lazy-src="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/187523743_2849070525308019_3482005041219392688_n.jpg" data-lazy-srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/187523743_2849070525308019_3482005041219392688_n.jpg 750w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/187523743_2849070525308019_3482005041219392688_n-229x300.jpg 229w" data-lazy-sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" />

David Baszucki “นักสร้าง” ผู้แสวงหาโอกาสจาก Roblox

<h2>Sea Ltd. บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จากสิงคโปร์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกว่า มีมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า โดยได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซและเกมออนไลน์ในช่วงโควิด-19 </h2>
<figure><img class="wp-image-45719" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/sea-1.jpg" alt="Sea Ltd." width="720" height="410" /><figcaption> SEA Ltd. เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2017</figcaption></figure>

Sea Ltd. มีรายได้รวมทุกธุรกิจในไตรมาสแรกเติบโตมากขึ้นราวร้อยละ 147 อยู่ที่ 1.8 พันล้านเหรียญเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยฝั่งธุรกิจอี-คอมเมิร์ซอย่าง Shopee สามารถทำรายได้ถึง 922 ล้านเหรียญ ขณะที่กลุ่มสื่อบันเทิงดิจิทัลหรือ Garena ทำรายได้อยู่ที่ 781 ล้านเหรียญ

“ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของเราในแง่ของจำนวนผู้ใช้และการมีส่วนร่วม แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทอย่างต่อเนื่อง”<a href="https://www.forbes.com/profile/forrest-li/?sh=523fcffb60b7"> Forrest Li</a> ประธานบริษัทกล่าวระหว่างแถลงการณ์ทางเว็บไซต์หลังจากรายงานผลประกอบการ “ชุมชนที่เราให้บริการจะยังคงเดินหน้าใช้ประโยชน์จากไลฟ์สไตล์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่อไป”

อย่างไรก็ดี แม้รายได้จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ Sea ยังคงมีผลขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 422 ล้านเหรียญในไตรมาสแรกจาก 281 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัทมีมูลค่าสูงขึ้นเป็น 2 เท่าจากการทำการตลาดเพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาด

ปัจจุบัน Sea กำลังแข่งขันกับ Grab และ GoTo บริษัทซึ่งเพิ่งควบรวมกิจการ เพื่อขึ้นเป็นผู้นำในแพลตฟอร์มซูเปอร์แอปฯ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยล่าสุดได้มีการขยายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซไปทั่วภูมิภาคอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในอินโดนีเซียที่เพิ่งเปิดตัวบริการเดลิเวอรี่ ShopeeFood พร้อมไปกับการยกระดับการให้บริการทางการเงินบนระบบดิจิทัล 

“เทคโนโลยีทางการเงินในภูมิภาคของเรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและคาดว่าจะมีการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ให้มากขึ้นในเวลาที่เหมาะสม” Li กล่าว “ขณะที่เราขยายธุรกิจ เราจะใช้ความเข้มงวดและวินัยในการรักษาประสิทธิภาพเช่นเดียวกับที่เราประสบความสำเร็จในธุรกิจของเราจนถึงขณะนี้”

ในปี 2020 Sea ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารดิจิทัลในสิงคโปร์ และเข้าซื้อกิจการธนาคาร BKE (Bank Kesejahteraan Ekonomi) ของอินโดนีเซีย ซึ่งทางบริษัทได้วางแผนที่จะต่อยอดไปสู่ธนาคารดิจิทัลในอนาคต 

<figure><img class="wp-image-45718 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/sea-cofounders.jpg" alt="Sea Ltd." width="960" height="427" /><figcaption> (จากซ้าย) Forrest Li, David Chen และ Gang Ye</figcaption></figure>

Li วัย 42 ปี มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 7.1 พันล้านเหรียญ พร้อมครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับที่ 7 ในการจัดอันดับ Singapore’s 50 Richest ขณะที่ผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 คน คือ <a href="https://www.forbes.com/profile/gang-ye/?sh=5b5e5f597c76">Gang Ye</a> และ <a href="https://www.forbes.com/profile/david-chen/?sh=315e916655fd">David Chen</a> ซึ่งต่างมีพื้นเพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่และได้รับสัญชาติสิงคโปร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้ก้าวเข้าสู่ทำเนียบมหาเศรษฐีพันล้านเช่นกันในอันดันที่ 11 และ 25 ตามลำดับ จากการประเมินของ Forbes ในเดือนสิงหาคม 2020

ทั้งนี้ ทรัพย์สินของ Li และผู้ร่วมก่อตั้งเพิ่มสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา เนื่องจากหุ้นของ Sea มีมูลค่าพุ่งสูงขึ้นหลังจากที่ผู้บริโภคหันมาซื้อของออนไลน์ในช่วงวิกฤตโรคระบาด ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดราว 1.18 แสนล้านเหรียญ ก้าวขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แปลและเรียบเรียงจากบทความ Billionaire Forrest Li’s Sea Doubles Revenue As Pandemic Boosts E-Commerce Demand โดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/global-world/global-2000-บริษัทเทคโนโลยี.html">10 บริษัทเทคโนโลยี จากการจัดอันดับ Global 2000 ประจำปี 2021</a>

Forest Li เผย Sea เติบโตกว่า 2 เท่า จากทั้ง Shopee และ Garena

<h2 class="p1">Roblox ธุรกิจแพลตฟอร์มเกมออนไลน์จากสหรัฐอเมริกาเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก โดยปิดตลาดที่ 69.47 เหรียญสหรัฐฯ สูงกว่าราคาประเมินที่ 45 เหรียญอยู่ราวร้อยละ 54 ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินของ<a style="color: #333333;" href="https://www.forbes.com/sites/jonathanponciano/2021/03/10/roblox-valuation-hits-42-billion-as-gen-z-gaming-giant-skyrockets-50-in-ipo/?sh=3fa491f23873"> Dave Baszucki </a>ปรับตัวสูงขึ้น 1.4 พันล้านเหรียญ มาอยู่ที่ 4.2 พันล้านเหรียญ</h2>
<img class="alignnone wp-image-42837" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/d66ae37d46e00a1ecacfe9531986690a.jpg" alt="Dave Baszucki" width="720" height="378" />
<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/sites/jonathanponciano/2021/03/10/roblox-valuation-hits-42-billion-as-gen-z-gaming-giant-skyrockets-50-in-ipo/?sh=3fa491f23873">Dave Baszucki </a>ก่อตั้ง Roblox ขึ้นในปี 2004 เพื่อให้บริการแพลตฟอร์มเกมออนไลน์สำหรับเด็กและวัยรุ่น ก่อนที่จะขยายฐานการให้บริการครอบคลุมไปยังผู้ใหญ่ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การเปิดโอกาสให้ผู้เล่นแต่ละคนสามารถออกแบบเกมและตัวละครต่างๆ ได้อย่างอิสระ ทั้งยังสามารถร่วมสนุกกับผู้เล่นรายอื่นๆ บนแพลตฟอร์ม
โดยครีเอเตอร์ผู้ทำหน้าที่พัฒนาฟีเจอร์สำหรับเกมจะได้รับเงินจริงก็ต่อเมื่อผู้เล่นใช้จ่ายเงินในเกมที่เรียกว่า Robux เพื่อซื้อไอเท็มพิเศษต่างๆ ซึ่งจากการรายงานของทางบริษัทระบุว่า ในปี 2020 ทีผ่านมา มีการทำธุรกรรมในเกมมากถึง 328 ล้านเหรียญ และมีผู้ใช้งานอยู่บนแพลตฟอร์มดังกล่าวนานกว่า 3 หมื่นล้านชั่วโมง
“เรามีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลสำหรับบริษัทที่เราต้องการจะสร้าง” Craig Donato ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจกล่าว พร้อมระบุว่า เงินที่สามารถระดมทุนได้ในครั้งนี้จะถูกนำไปใช้ในการจัดจ้างพนักงานเพื่อขยายฐานธุรกิจไปยังต่างประเทศ พร้อมกับลงทุนในการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้
ในที่นี้ Joseph Ferencz ซีอีโอ Gamefam บริษัทพัฒนาเกมสำหรับ Roblox โดยเฉพาะกล่าวผ่านทางอีเมลว่า การ IPO ในครั้งนี้จะต่อยอดการเติบโตของแพลตฟอร์มในอนาคต เพราะ “การทำ IPO ของ Roblox ได้สร้างความตระหนักรู้ให้กับนักลงทุน แบรนด์ทั่วโลก และบริษัทด้านความบันเทิงชั้นนำว่า Roblox ก็เหมือนกับ Youtube ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีของแบรนด์ เป็นปรากฎการณ์ทางวัฒนธรรมที่ถูกสร้างขึ้นมาและจะยังคงอยู่ตลอดไป”
ทั้งนี้ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีจำนวนผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มประจำเพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 85 ขณะที่จำนวนชั่วโมงของผู้เล่นโดยรวมทะยานสูงถึงร้อยละ 124 สร้างรายได้ประจำปี 2020 ให้กับบริษัทกว่า 924 ล้านเหรียญ
อย่างไรก็ดี แม้จะคาดการณ์ได้ยากว่าการเติบโตในช่วงที่ผ่านมาจะดำเนินอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงช่วงที่ผู้คนจำนวนมากเริ่มทยอยได้รับวัคซีนต้านควิด-19 แล้วหรือไม่ แต่ในที่นี้ Donato เชื่อว่า “ผลประกอบการจะยังคงมีทิศทางที่ดีต่อไปในอนาคต ทั้งในด้านของจำนวนครีเอเตอร์และจำนวนผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม”
“ปรากฏการณ์โซเชียลเน็ตเวิร์คจะชักจูงให้คนเข้าสู่แพลตฟอร์มเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนครีเอเตอร์ที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีคอนเทนต์เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น”
แปลและเรียบเรียงจากบทความ Billionaire Dave Baszucki’s Wealth Soars To $4.2 Billion As Roblox Hits The Stock Mark เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม:<a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/asia/coupang-%e0%b8%82%e0%b8%b6%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%97%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%b8%e0%b9%89%e0%b8%99-ipo-%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%8d%e0%b9%88%e0%b8%97.html"> Coupang ขึ้นแท่นหุ้น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กแห่งปี</a>

&nbsp;

Dave Baszucki นำ Roblox แพลตฟอร์มเกมออนไลน์เข้าระดมทุนใน NYSE

<h2>การระบาดของไวรัสโคโรนากลายเป็นนาทีทองสำหรับ "Sea Ltd." ของ Forrest Li เนื่องจากคนหันมาเล่นเกมออนไลน์ของ Sea ช็อปออนไลน์ทางเว็บไซต์ของ Sea และยังใช้บริการชำระเงินออนไลน์ของ Sea อีกต่างหาก</h2>
Sea Ltd. เป็นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประเทศสิงคโปร์ มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดราว 6.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2563 ส่งผลให้ Forrest Li ประธานบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Sea มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 7.1 พันล้านเหรียญ พร้อมครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับที่ 7 ในการจัดอันดับ Singapore’s 50 Richest โดยขึ้นมาจากอันดับ 21 เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 คนคือ David Chen และ Gang Ye ก็ก้าวเข้าสู่สถานะเศรษฐีพันล้านเช่นกัน

แม้ว่าโรคระบาดในครั้งนี้จะสร้างความพังพินาศให้กับบริษัทต่างๆ เป็นจำนวนมาก แต่ก็เป็นโอกาสให้กับบริษัทอีกหลายแห่ง ซึ่งบางแห่งทำผลงานได้ดีกว่า Sea เสียอีก ธุรกิจหลัก 3 อย่างของบริษัทได้รับความนิยมล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์ เกมออนไลน์ และการชำระเงินออนไลน์ ซึ่ง Li บอกว่า เป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของการเติบโตเท่านั้น

“คุณมองไม่เห็นจุดสูงสุดของธุรกิจทั้งสามอย่างนี้หรอก” นักลงทุนต่างเห็นด้วย หุ้นของ Sea ในปีนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัวมาอยู่ที่ราว 146 เหรียญ (หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 1,000% นับตั้งแต่ต้นปีที่แล้วเป็นต้นมา)

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม Sea รายงานรายรับประจำไตรมาส 2 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีผลการดำเนินงานที่ดีมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวมาอยู่ที่ 1.3 พันล้านเหรียญ อานิสงส์จากรายได้ก้อนมหึมาจาก 2 ธุรกิจขนาดใหญ่ที่สุดของบริษัทคือ เกมออนไลน์ทำรายได้เพิ่มขึ้นถึง 62% มาอยู่ที่ 716 ล้านเหรียญและร้านค้าออนไลน์ทำรายได้เพิ่มเกือบ 3 เท่าตัวมาอยู่ที่ 511 ล้าน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงไม่สามารถทำกำไรได้เนื่องจากผลขาดทุนในไตรมาส 2 กลับเพิ่มขึ้น 59% มาอยู่ที่ 373 ล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ความสำเร็จของ Sea ยังเป็นข้อพิสูจน์ความเชื่อมั่นของ Li ที่มีให้กับอนาคตวงการดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขาบอกว่าโรคระบาดเป็นแค่ตัวเร่งความเร็วให้กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มีมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว

“อีกหลายปีข้างหน้าเมื่อเรามองย้อนกลับมายังเหตุการณ์นี้ เราจะเห็นว่าในช่วงเกิดโรคระบาด เราจึงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลทั้งในวงกว้างและเชิงลึก ซึ่งเรามองว่ามันย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว” Li ให้สัมภาษณ์ผ่านวิดีโอจากสำนักงานของ Sea ที่ Galaxis ศูนย์เศรษฐกิจสุดล้ำในประเทศสิงคโปร์

<figure><img class="wp-image-40609 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/01/SEA_003.jpg" alt="" width="600" height="200" /><figcaption> (จากซ้าย) Forrest Li, David Chen และ Gang Ye</figcaption></figure>

Li จบการศึกษาระดับปริญญาจาก Shanghai Jiaotong University และปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจจาก Stanford University และนับว่าประสบความสำเร็จไม่น้อยสำหรับชายวัย 42 ปี เขาเกิดและเติบโตใน Tianjin เมืองท่าแห่งหนึ่งของจีน

ในปี 2005 Li เข้าร่วมงานรับปริญญาของ Ma ซึ่ง Steve Jobs ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ด้วยประโยคหนึ่งอันเป็นที่รู้จักกันดี “คุณต้องหาสิ่งที่คุณรักให้เจอ” Jobs เป็นแรงบันดาลใจให้ Li ลงมือทำสิ่งที่เขาหลงใหลหนักหนานั่นคือ เกมออนไลน์ เขาเปิดบริษัทเกมชื่อ GG Game ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่เขากับ Ma ย้ายไปอยู่ด้วยกัน ธุรกิจแรกเจ๊งไม่เป็นท่า แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาเสียขวัญแม้แต่น้อย ในปี 2009 เขาเปิดตัว Garena ร่วมกับ Chen และ Ye ซึ่งทั้ง 3 คนมีพื้นเพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ และได้รับสัญชาติสิงคโปร์แล้วทั้งหมด

การพยุงบริษัทแห่งที่ 2 เป็นงานที่แสนสาหัสเนื่องจากทวีปเอเชียยังคงได้รับบาดเจ็บจากวิกฤตการเงินทั่วโลก แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2010 เมื่อบริษัททำสัญญาเผยแพร่เกมจาก Riot Games บริษัทในสหรัฐฯ ขณะที่ Tencent เข้ามาซื้อหุ้นในบริษัทไป 40% ทำให้ Sea มีเงินสดก้อนโตอยู่ในมือ (ปัจจุบันลดเหลือ 20%) วิวัฒนาการก้าวต่อไปของ Sea คือ การเปิดตัว AirPay ในปี 2014 ซึ่งต่อมาได้ต่อยอดเป็นบริการทางการเงินออนไลน์ที่มีชื่อว่า SeaMoney ในปีถัดจากนั้น บริษัทลองหันมาจับธุรกิจอี-คอมเมิร์ซด้วยการเปิดตัว Shopee

ในปี 2017 Li รีแบรนด์บริษัทเป็น Sea ก่อนเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในปีเดียวกัน ชื่อใหม่นี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัทในการเสนอขายหุ้นครั้งหนึ่ง Sea ระดมทุนได้ 884 ล้านเหรียญ โดยมีการประเมินมูลค่าบริษัทไว้กว่า 4 พันล้านเหรียญเมื่อครั้งนำหุ้นเข้าสู่ New York Stock Exchange ส่วน “Connecting the dots” (การต่อจุด) วาทะที่มาจากสุนทรพจน์ของ Jobs เมื่อปี 2005 กลายเป็นสโลแกนของ Sea

<img class="alignnone size-full wp-image-40611" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/01/SEA_005.jpg" alt="" width="600" height="400" />

Li บอกว่า ในช่วงที่หลายๆ คนต้องอยู่บ้าน หรือรักษาระยะห่าง การเชื่อมต่อออนไลน์เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารธุรกิจเกมออนไลน์ของ Sea ซึ่งยังคงชื่อ Garena ไว้ เริ่มต้นปีนี้อย่างแข็งแกร่งมีจำนวนผู้ใช้งานที่ยังคงมีความเคลื่อนไหวในปัจจุบันราว 500 ล้านคนในไตรมาสที่ 2 สูงกว่าปีที่ผ่านมา 61% อานิสงส์จากคะแนนนิยมใน Free Fire เกมสไตล์ battle royale สำหรับผู้เล่นหลายคน บริษัทวิจัย App Annie บอกว่า เกมนี้มียอดดาวน์โหลดจาก Google Play สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกในไตรมาสที่ 2

ธุรกิจ Shopee ของ Sea เติบโตจากการระบาดของไวรัสโคโรนาในลักษณะคล้ายกัน เนื่องจากนักช็อปกักตุนสินค้า “ผู้บริโภคจะซื้อของจำเป็นก่อน” Li กล่าว โดยในไตรมาสที่ 2 Shopee มีมูลค่าสินค้ารวมเติบโตจากปีที่ผ่านมา 110% มาอยู่ที่ 8 พันล้านเหรียญ ขณะที่คำสั่งซื้อรวมอยู่ที่ 616 ล้านเหรียญ หรือเพิ่มจากปีที่ผ่านมา 150% ข้อมูลจาก App Annie เผยว่า Shopee เป็นแอปพลิเคชันช็อปปิ้งที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกาะกลุ่ม 3 อันดับแรกของโลกในหมวดหมู่เดียวกันในครึ่งปีแรก

อย่างไรก็ตาม Shopee ยังคงขาดทุน แม้จะดำเนินกิจการมาแล้ว 5 ปี ผลขาดทุนจากการประกอบการของฝ่ายอี-คอมเมิร์ซของ Sea เพิ่มขึ้นเป็น 345 ล้านเหรียญในไตรมาส 2 จาก 270 ล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา ต้นทุนของ Shopee มาจากสงครามราคาแพง เพื่อยึดและรักษาส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งหลายราย เช่น Lazada ของ Alibaba และ Tokopedia ของอินโดนีเซีย

<img class="alignnone size-full wp-image-40610" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/01/SEA_004.jpg" alt="" width="600" height="299" />

ด้านธุรกิจลำดับที่ 3 ของ Sea คือ SeaMoney ซึ่งเป็นธุรกิจบริการทางการเงินดิจิทัล และเป็นหน่วยธุรกิจที่เล็กที่สุดของ Sea มีรายได้ 12 ล้านเหรียญในไตรมาสที่ 2 หรือราว 1% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท ปัจจุบัน SeaMoney ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่การดำเนินธุรกิจของหน่วยอื่นๆ

Li บอกด้วยว่า Sea กำลังก้าวเข้าสู่การพัฒนาในขั้นตอนต่อไปหลังจากที่เพิ่งผ่านพ้นวัยสตาร์ทอัพมาอย่างโชกโชน “เราไม่ได้เร่งมองหาของใหม่ ซึ่งต่างจากเมื่อ 6-7 ปีที่แล้วมาก ตอนนั้นเราต้องรีบแต่ในเวลานี้เราให้ความสำคัญกับธุรกิจทั้ง 3 สาย” อย่างไรก็ตาม Li บอกว่า เขาคอยสอดส่องหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอาหาร การเรียนรู้ผ่านอิเล็กทรอนิกส์ และการแพทย์ออนไลน์

ในระยะยาว Sea จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และจะเริ่มย้ายออกไปนอกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Li บอกว่า Garena มีคอเกมออนไลน์กว่าครึ่งหนึ่งอยู่นอกภูมิภาคนี้ ซึ่งก็รวมถึงอินเดีย อเมริกาใต้ตะวันออกกลาง และรัสเซีย “ถ้าเรามีโอกาสให้บริการแก่ผู้เล่นทั่วโลกได้มากกว่านี้ เราก็อยากทำ” อย่างไรก็ตามเขายืนยันว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะยังคงมีความสำคัญเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่าเขาอยากเปลี่ยนชื่อ Sea เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความทะเยอทะยานในระดับโลกหรือไม่ Li กล่าวพร้อมหัวเราะว่า “ตอนนี้เรายังไม่มีแผนครับ”

<hr />

<a href="https://bit.ly/37liCTG">คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2563 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<a href="https://bit.ly/37liCTG"><img class="lazy alignnone wp-image-39806 size-medium lazy-loaded" src="https://i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/01/012-DEC-229x300.jpg" sizes="(max-width: 229px) 100vw, 229px" srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/01/012-DEC-229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/01/012-DEC.jpg 750w" alt="" width="229" height="300" data-lazy-type="image" data-lazy-src="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/01/012-DEC-229x300.jpg" data-lazy-srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/01/012-DEC-229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/01/012-DEC.jpg 750w" data-lazy-sizes="(max-width: 229px) 100vw, 229px" /></a>

Sea Ltd. ทะเลนี้คลื่นแรง

<h2>การเล่มเกม มีวิวัฒนาการของเครื่องเล่นวิดีโอเกมในยุค 90 มาเป็นเครื่องเล่นเกมพกพาในยุค 2000s กระทั่งถึงยุค 2010s ที่เกมมือถือเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อวงการเกมเมอร์และคงไม่มีใครไม่รู้จัก Wii, Candy Crush Saga และ Pokemon GO โดยวงการเกมในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากที่คนไทยสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตพร้อมกับความนิยมของอีสปอร์ตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทวิตเตอร์เองที่กลายเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเกมเมอร์ และทำให้ประเทศไทยติดอันดับ 4 ของประเทศที่พูดเรื่องการเล่นเกมมากที่สุดในโลก</h2>
คนไทยนิยมเล่นเกมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Animal Crossing, Fortnite และเกมแนวฆ่าเวลา (Casual) โดย การเล่นเกม และ เกมมีวิวัฒนาการทางรูปแบบและการเล่นอย่างต่อเนื่องและมักเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเมื่อเข้าถึงผู้เล่นใหม่ๆ โดยในเดือนกันยายน 2563 นี้ คาดว่าการเล่นเกมของคนไทยจะเป็นที่พูดถึงมากขึ้นอีกเมื่อภาพยนตร์ เกมเมอร์เกมแม่ พร้อมเข้าโรง เพราะเพียงแค่เปิดตัวเท่านั้นก็มีเกมเมอร์ชาวไทยและคอหนังพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ผ่านแฮชแท็ก <a href="https://twitter.com/hashtag/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88">#เกมเมอร์เกมแม่</a> และ <a href="https://twitter.com/hashtag/MotherGamer?src=hashtag_click">#MotherGamer</a> เป็นจำนวนมาก

มร.มาร์ติน ยูเรน หัวหน้าแผนกงานวิจัยทวิตเตอร์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกับภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ กล่าวว่า “เราเห็นถึงการเติบโตอย่างมหาศาลของบทสนทนาเรื่องเกมบนทวิตเตอร์ประเทศไทย การเล่นเกมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเล่นเกมในประเทศไทยเป็นกิจกรรมทางสังคมรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเราเห็นได้จากบทสนทนาที่เกมเมอร์มีส่วนร่วมและคอนเน็คกัน ตลอดจนการแข่งขันอีสปอร์ตก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น รวมถึงเกมใหม่ๆ ที่กำลังจะเปิดตัว เราจึงคาดว่าบทสนทนาเกี่ยวกับเกมในไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในปีนี้และปีต่อๆ ไป”

<img class="alignnone size-full wp-image-33204" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/การเล่นเกม-03.jpg" alt="" width="600" height="338" />

ข้อมูลของทวิตเตอร์ระบุว่า การเล่นเกมกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก เกมเมอร์หลายคนใช้ทวิตเตอร์เป็นพื้นที่ในการแสดงออกถึงความหลงใหลในการเล่นเกม รวมไปถึงรีวิวเกม และพูดคุยกับเหล่าเกมเมอร์คนอื่นๆ โดยข้อมูลสำคัญของเกมเมอร์ชาวไทยและเทรนด์การเล่นเกมบนทวิตเตอร์ประเทศไทยมีดังนี้

1.การเล่นเกมคือการเข้าสังคมอย่างหนึ่ง

คนไทยไม่ได้เล่นเกมเพื่อเอาชนะหรือเพราะต้องการความท้าทายเสมอไป แต่คือการเข้าไปพบปะพูดคุยกับเพื่อนและครอบครัว ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้การเล่นเกมเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงที่ทุกคนต่างต้องกักตัวในช่วงก่อนหน้านี้ เกมเมอร์ต่างกระชับความสัมพันธ์ขณะ <a href="https://twitter.com/search?q=%23%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99&amp;src=typed_query">#อยู่บ้าน</a> ด้วยการจัดการแข่งขันอีสปอร์ต และมีเกมเมอร์มากมายที่เข้ามาทวีตหาเพื่อนเล่นเกมร่วมกัน

2.เล่นเกมเพื่อผ่อนคลาย

ผลการสำรวจล่าสุดของทวิตเตอร์พบว่า ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ในประเทศไทยเกินครึ่งเล่นเกมเพื่อ “ฆ่าเวลา” เกมเมอร์ส่วนมากอยู่ในช่วงวัยที่เป็นกลุ่ม Gen Z (ร้อยละ 58) และกลุ่มมิลเลนเนียล (ร้อยละ 56) ซึ่งเล่นเกมเพื่อสร้างกิจวัตรประจำวันใหม่ให้กับตัวเอง ในขณะที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการเล่นเกมนี้กลายเป็นวิธีที่ช่วยลดความเครียดและสร้างความปกติในรูปแบบใหม่ในสถานการณ์อันไม่ปกติที่เกิดขึ้นได้

3.การเล่นเกมคือกิจกรรมยอดนิยมของชาว Gen Z และมิลเลนเนียล

ข้อมูลจากการสำรวจของทวิตเตอร์ในเดือนเมษายน 2563 พบว่าในช่วง 30 วันก่อนหน้า เกมเมอร์ชาวไทยที่อยู่ในช่วงวัย Gen Z (ร้อยละ 37) และที่อยู่ในกลุ่มมิลเลนเนียล (ร้อยละ 32) นิยมเล่นเกมประเภทที่มีผู้เล่นหลายคน ซึ่งเป็นกลุ่มที่พูดถึงการเล่นเกมมากที่สุดบนทวิตเตอร์ในประเทศไทย และ มากกว่า 1 ใน 3 ของเกมเมอร์วัย Gen Z (ร้อยละ 34) กล่าวว่าการเล่นเกมคืองานอดิเรก โดยนอกจากจะแบ่งปันเคล็ดลับในการเล่นเกมแล้ว พวกเขายังชอบแชร์ช่วงเวลาที่ประทับใจจากการดูสตรีมมิ่งเกมที่ชื่นชอบอีกด้วย

3 เคล็ดลับที่ช่วยให้เกมเมอร์ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นบนทวิตเตอร์

ทวิตเตอร์เป็นสถานที่ที่ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อและแบ่งปันประสบการณ์การเล่นเกมของตัวเองได้ โดยมีเคล็ดลับ 3 ข้อง่ายๆ ที่เหล่าเกมเมอร์ชาวไทยบนทวิตเตอร์สามารถสร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ ด้วยการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเกมบนทวิตเตอร์ประเทศไทย ได้แก่
<ul>
 	<li>ติดตามบทสนทนาเกี่ยวกับเกม ผ่านทางชุมชนของเหล่าเกมเมอร์บนทวิตเตอร์ประเทศไทยซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อเรียนรู้ภาษาของชาวเกมเมอร์ และติตตามเทรนด์ล่าสุดเพื่อให้ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของทุกเกมฮิต</li>
 	<li>เข้าร่วมบทสนทนาด้วยการติดแฮชแท็กยอดนิยม โดยร่วมสนทนาในหัวข้อที่กำลังเป็นกระแสในแวดวงของเกมเมอร์ในประเทศไทย หรือจะร่วมพูดคุยถึงเกมใหม่ล่าสุด เกมยอดนิยมและอื่นๆ อีกมากมาย</li>
 	<li>เรียนรู้จากผู้อื่น เพราะบรรดาเกมเมอร์มักจะแชร์เคล็ดลับต่างๆ ในการเล่นเกม รีวิวเกม และแสดงความคิดเห็นต่อเกมประเภทต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ลองติดตามและเรียนรู้จากชุมชนเกมเมอร์บนทวิตเตอร์ เพื่อดูว่าเกมประเภทไหนที่เหมาะกับคุณมากที่สุดและพร้อมที่จะสนุกไปกับเกมนั้น Game on!</li>
</ul>
การเล่นเกมกลายเป็นสิ่งที่มากกว่าความบันเทิง เพราะได้กลายเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้คุณกับเพื่อนสามารถมีส่วนร่วมกันได้ และยังเป็นการสร้างคอนเนคชั่นใหม่ๆ กับเกมเมอร์คนอื่นๆ อีกด้วย หากคุณกำลังเริ่มเล่นเกม ลองใช้แฮชแท็กเหล่านี้เพื่อศึกษาและติดตามเกี่ยวกับเกมในประเทศไทย อาทิ<a href="https://twitter.com/search?q=%23%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD&amp;src=typed_query"> #เกมดีบอกต่อ</a><a href="https://twitter.com/search?q=%23%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD&amp;src=typed_query"> #รีวิวเกมมือถือ</a><a href="https://twitter.com/search?q=%23%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1&amp;src=typed_query"> #รีวิวเกม</a><a href="https://twitter.com/search?q=%23%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1&amp;src=typed_query"> #เกม</a><a href="https://twitter.com/search?q=%23%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1&amp;src=typed_query"> #แนะนำเกม</a>

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/other/silver-gen-%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b9%82%e0%b8%a0%e0%b8%84%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%87-%e0%b8%aa.html">‘SILVER GEN’ ผู้บริโภคมั่งคั่ง สังคมผู้สูงวัย โอกาสทองนักการตลาด</a>

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ทวิตเตอร์เผยคนไทยคุยเรื่อง "การเล่นเกม" เพิ่มขึ้นร้อยละ 97

<h2 class="p3">Facebook กำลังใช้วิดีโอเกมยอดฮิต Minecraft เป็นตัวช่วยในการฝึก AI ปัญญาประดิษฐ์ที่ในอนาคตจะเป็น “ผู้ช่วย” สารพัดนึกให้กับมนุษย์โดยใช้เพียงคำสั่งภาษาพูดในเกม</h2>
แปลและเรียบเรียงจาก<a href="https://www.forbes.com/sites/mnunez/2019/08/30/facebook-is-building-an-ai-assistant-inside-minecraft/#2def1e8a328f"> Facebook Is Building An AI Assistant Inside 'Minecraft'</a> โดย Michael Nunez ตีพิมพ์ครั้งแรกที่ forbes.com
หน่วยงาน Facebook Research และนักวิจัยจาก MIT ร่วมกันเผยแพร่<a href="https://arxiv.org/pdf/1907.09273.pdf">เอกสาร</a>ที่ระบุว่า พวกเขากำลังร่างแผนเพื่อใช้เกม Minecraft เป็นแพลตฟอร์มฝึกฝนผู้ช่วย AI อัจฉริยะ โดยเป็นการฝึกให้ AI ทำงานได้หลายอย่าง มากกว่าฝึกให้ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งได้ดีระดับอภิมนุษย์ (superhuman)
“งานวิจัยนี้ เราจะทดลองสร้างผู้ช่วยในโลกเสมือนจริงภายในเกม Minecraft เพื่อศึกษาและเรียนรู้จากการปฏิสัมพันธ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรียนรู้การปฏิสัมพันธ์ผ่านทางภาษา” นักวิจัยอธิบายไว้ในเอกสารดังกล่าว
ทีมนักวิจัยระบุว่า Minecraft เป็นสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบในการฝึก AI เพราะเป็นที่ทราบกันดีกว่าเกมนี้เป็นเกมลักษณะ ‘sandbox’ โดยให้ผู้เล่นสามารถเดินไปมาในเกมได้อย่างอิสระ สามารถต่อสู้กัน สำรวจพื้นที่ และสร้างสิ่งของต่างๆ ได้ตามแต่ใจต้องการ
ผู้ช่วย AI อัจฉริยะที่สร้างโดยทีม Facebook และ MIT จะเป็น ‘บอท’ ในเกม ซึ่งจะสื่อสารกับมนุษย์เพื่อทำงานตามคำสั่งที่ได้รับ
นักวิจัยหวังว่า AI จะเรียนรู้ได้จากการมีปฏิสัมพันธ์ที่หลากหลายกับมนุษย์ และสามารถปฏิบัติงานที่แตกต่างได้หลายประเภทมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ผู้เล่นสามารถสั่งบอทให้สร้างโครงสร้างสิ่งของบางอย่างได้ หรือสั่งให้เก็บรวมรวมวัสดุในเกมมา


<figure><img src="https://specials-images.forbesimg.com/imageserve/5d69488768cb0a0008c0e619/960x0.gif?fit=scale" alt="Facebook has built a collaborative assistant bot in the game of Minecraft." width="480" height="360" /><figcaption> บอทในเกม Minecraftที่ Facebook และ MIT จับมือกันพัฒนา AI ระบบนี้จะปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับจากมนุษย์ (PHOTO CREDIT: Facebook Research)</figcaption></figure>
“แทนที่จะสร้าง AI ระดับอภิมนุษย์ที่ปฏิบัติงานอันยากยิ่งได้อย่างเดียว เราสนใจการสร้างประสิทธิภาพการทำงานตามคำสั่งทั่วไปแต่ทำได้หลายอย่างมากกว่า และเป็นสิ่งที่ปกติแล้วมนุษย์ต้องเป็นผู้ปฏิบัติ" นักวิจัยกล่าวในเอกสาร
ผู้เล่นที่สนใจลองใช้ผู้ช่วยของ Facebook สามารถ<a href="https://github.com/facebookresearch/craftassist">ดาวน์โหลดบอทผู้ช่วยเสมือนจริงนี้ได้ใน</a><a href="https://github.com/facebookresearch/craftassist"> GitHub</a> แม้ว่าจะยังอยู่ในระยะตั้งไข่ แต่นักวิจัยก็หวังว่า AI นี้จะสามารถทำงานที่ซับซ้อน เช่น “สร้างหอคอยที่สูงเหนือก้อนเมฆและมีน้ำพุด้วย” ได้ในไม่ช้า
“เราหวังว่าจะสร้างผู้ช่วยอัจฉริยะในเกมที่สามารถปฏิบัติงานใดๆ ก็ได้ที่ผู้เล่นต้องการให้ทำ (ในเกม)” นักวิจัยระบุ “ตัวอย่างของหน้าที่ผู้ช่วยคือสามารถสร้างโครงสร้างอาคารได้ตั้งแต่ระดับง่ายๆ อาคารที่มีความซับซ้อน ไปจนถึงเมืองทั้งเมือง และสามารถรื้อโครงสร้างอาคารได้ เต้นได้ หรือไปจับ mobs (สัตว์ในเกม) ได้ ฯลฯ”

<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/it/facebook-%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%aa%e0%b8%b3%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88.html">Facebook เปิดสำนักงานใหม่ ใน London พร้อมจ้างผู้เชี่ยวชาญด้าน AI กว่า 100 คน</a></li>
</ul>
สำหรับเกม Minecraft นั้นเป็นหนึ่งในวิดีโอเกมที่ขายดีที่สุดในโลก ทำยอดขายไปแล้ว 170 ล้านแผ่น มากกว่าเกมสุดคลาสสิกอย่าง Tetris และ Super Mario Bros. ปัจจุบันมีผู้เล่นเข้ามาเล่นเกมเดือนละมากกว่า 90 ล้านคน
ในโลกของการพัฒนา AI นั้น นักวิจัยจาก Google เคยฝึกระบบ AI ให้ฉลาดพอที่จะแข่งขันกับมืออาชีพเฉพาะทางมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น “AlphaGo” แข่งขันหมากล้อม หรือ “DeepMind” ซึ่งเอาชนะมนุษย์ได้ในการเล่นเกม StarCraft II

<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/it/%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad-%e0%b8%ab%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c-ai-%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87-ibm-%e0%b8%9b%e0%b8%b0%e0%b8%97.html">เมื่อ ‘หุ่นยนต์ AI’ ของ IBM ปะทะ ‘แชมป์โต้วาที’ ระดับนานาชาติ ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร?</a></li>
</ul>
แต่นักวิจัยจาก Facebook มองว่าระบบ AI ควรจะเป็นผู้แก้ปัญหาใหม่ๆ ด้วยการเรียนรู้และเข้าใจคำพูดอันซับซ้อนของมนุษย์ เมื่อผู้เล่นสั่ง AI ให้สร้างโครงสร้างบางอย่างขึ้น บอทจะต้องเข้าใจทุกคำพูดของมนุษย์ และเล็งเห็นได้ว่าข้อมูลคำสั่งอันซับซ้อนนั้นต้องการให้สร้างโครงสร้างขนาดใด วัสดุแบบไหน บนโลเคชั่นใด
เพราะ AI ที่ทำเช่นนี้ได้ อาจถูกนำมาใช้ปฏิบัติงานอันซับซ้อนในโลกแห่งความจริงได้ด้วย
&nbsp;

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Facebook กำลังพัฒนา AI ผ่านการ "เปิดบอท" ในเกมฮิต “Minecraft"

<h2 class="p1">เมื่อรัฐบาลจีนสั่งเหยียบเบรก นักพัฒนาเกมทั้งรายใหญ่รายย่อยในภาคธุรกิจระดับพรีเมียร์ของจีนจึงตกที่นั่งลำบาก</h2>
Jim Lee เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการวิดีโอเกมของจีน ผู้ประกอบการวัย 40 ปีรายนี้เคยทำงานให้บริษัท Electronic Arts ของอเมริกา โดยเป็นผู้จัดการทั่วไปของส่วนงานในจีน จนกระทั่งเมื่อปี 2014 เขาก็ลาออกจากงานรายได้ดีที่ EA เพื่อมาเปิดสตูดิโอพัฒนาเกมของเขาเองใน Beijing และเมื่อตลาดเกมออนไลน์ของจีนเฟื่องฟู บริษัทของ Lee ซึ่งดำเนิน "ธุรกิจเกม" ก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 100% ในปี 2017
แต่หลังจากจีนสั่งระงับการออกใบอนุญาตสำหรับเกมที่กำลังจะออกใหม่และเกมที่ออกจำหน่ายแล้วส่วนหนึ่งตั้งแต่เดือนมีนาคม ธุรกิจของ Lee ก็ต้องเจอกับสถานการณ์ยุ่งยาก
จีนซึ่งมีระบบการควบคุมดูแลธุรกิจคลุมเครือมาก สั่งระงับใบอนุญาตเกมโดยอ้างว่าเพื่อรอการปรับโครงสร้างองค์กรของหน่วยงานรัฐบาล 2 แห่งที่รับผิดชอบกระบวนการออกใบอนุญาต แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า เจตนาที่แท้จริงของรัฐบาลจีนคือ ต้องการลดจำนวนเงินและเวลาที่ชาวจีนใช้ไปกับเกมออนไลน์ โดยหน่วยงานรัฐกำลังร่างมาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นกว่าเดิมมาก
ทั้งนี้ วงการเกมของจีนมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และคาดว่าจะสร้างรายได้ถึง 3.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ จากยอดขายในประเทศภายในสิ้นปี
ทุกวันนี้ สตูดิโอเล็กๆ อย่างบริษัทของ Lee จึงต้องวิ่งวุ่นหาทางออก และบริษัทผู้พัฒนาเกมขนาดกลางต้องปลดพนักงานออกเพื่อชดเชยกับกำไรที่หายไป ส่วนมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทขนาดใหญ่อย่าง Tencent และ NetEase ก็หายไปหลายแสนล้านเหรียญ เนื่องจากมีสัญญาณเตือนว่าการเติบโตของธุรกิจจะช้าลงมาก


<figure><img class=" wp-image-8876" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/06/เกมดับ.jpg" alt="" width="426" height="488" /><figcaption> Jim Lee ผู้ก่อตั้ง Elevation Point Entertainment</figcaption></figure>
Tencent ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นแชมเปี้ยนด้านเทคโนโลยีของชาติ ตอนนี้กลับเหมือนถูกน้ำร้อนลวก เมื่อสื่อของรัฐเล็งเป้าเล่นงานเกมมือถือตัวเด่นของบริษัทอย่าง Honor of Kings ว่าเป็นตัวการทำให้เยาวชนเสพติดเกมออนไลน์ จนบริษัทต้องวางระบบเพื่อตรวจสอบตัวตนของผู้เล่นและจำกัดเวลาเล่นเกมของผู้เล่นที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะให้เหลือแค่วันละ 2 ชั่วโมง และเมื่อเดือนสิงหาคม หน่วยงานรัฐก็ยังประกาศเจตนาอีกว่าจะจำกัดจำนวนเกมออนไลน์ทั้งหมด โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาชาติ เพื่อต่อสู้กับปัญหาโรคสายตาสั้นที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการจ้องจอภาพมากเกินไป

<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/world/%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A-tencent.html">ลงทุนไร้ขีดจำกัดแบบ Tencent</a></li>
</ul>
แม้รัฐบาลไม่ได้อธิบายว่าจะมีวิธีการจำกัดจำนวนเกมอย่างไร แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ในที่สุดจำนวนเกมที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดอาจจะลดลงครึ่งหนึ่ง ทั้งนี้ Cui Chenyu นักวิเคราะห์ของบริษัทวิจัย IHS Markit กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีเกมที่คั่งค้างรอการตรวจสอบตามข้อบังคับของรัฐอยู่อีกถึง 7,000 เกม
ธุรกิจเกม คิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งจากรายได้ทางเว็บทั้งหมดของ Tencent และบริษัทก็กำลังปรับปรุงระบบต่อต้านการเสพติดเกม โดยเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน บริษัทบังคับให้ผู้เล่นส่วนหนึ่งต้องเข้าระบบตรวจสอบใบหน้าก่อนจะล็อกอินเข้าเล่นเกม Honor of Kings ได้
Tencent ยังคงเดินหน้าทำธุรกิจเกมต่อไปด้วยการพัฒนาเกมในต่างประเทศ รวมถึงยังเค้นเอารายได้เพิ่มเติมมาจากสายธุรกิจใหม่ๆ เช่น วิดีโอสตรีมมิ่ง และการประมวลผลผ่านระบบคลาวด์ อย่างไรก็ตาม เงินลงทุนจำนวนมากที่ต้องใช้ในสายธุรกิจเหล่านี้อาจกดอัตรากำไรของบริษัทซึ่งครั้งหนึ่งเคยสูงมากให้ลดลง
ขณะเดียวกัน ความเสี่ยงก็ก่อตัวขึ้นกับคู่แข่งอย่าง NetEase ซึ่งทำธุรกิจเว็บในจีนเช่นกัน แต่ NetEase เน้นธุรกิจเกมยิ่งกว่า Tencent และเมื่อเดือนพฤศจิกายน บริษัทเพิ่งจะเซ็นสัญญากับ Blizzard Entertainment ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาเกมสัญชาติอเมริกัน เพื่อสร้างเกมเวอร์ชั่นมือถือสำหรับแฟรนไชส์ยอดฮิตบนเครื่องเดสก์ท็อปอย่าง Diablo 
Wijman จาก Newzoo กล่าวว่า ถ้าจีนยังไม่กลับมาออกใบอนุญาตเกมต่อ เรื่องนี้ก็จะกลายเป็น “ปัญหาใหญ่มหึมา” สำหรับทั้งสองบริษัท เนื่องจากเกมมือถือคือเกมที่ออกแบบมาเพื่อตลาดจีนตั้งแต่แรก ช่วงที่ผ่านมาของปีนี้มูลค่าหุ้นในตลาดของ NetEase ตกไป 32% และบริษัทก็พยายามผลักดันธุรกิจอี-คอมเมิร์ซกับเปิดตัวเกมใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในตลาดต่างประเทศเพื่อชดเชยมูลค่าส่วนที่หายไป
<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/it/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B9%80.html">คุยเทรนด์เทคโนโลยีมาเเรง ปี 2019 กับซีอีโอ Synnex รุกจับกระเเสตลาด Gaming &amp; E-Sport</a></li>
</ul>
ผลเสียจากเรื่องนี้ลามไปถึงการหาเงินทุนของเหล่าสตาร์ทอัพด้วย โดย Song ผู้ประกอบการหนุ่มซึ่งยอมเปิดเผยเฉพาะนามสกุลและมีบริษัทซอฟท์แวร์ใน Shenzhen ที่พัฒนาเกมในฟอร์แมตอื่นเพื่อเสริมกับเกมตัวหลัก ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ผ่านมารายได้ของบริษัทลดลงไป 1 ใน 3 และสตาร์ทอัพของเขาก็มีโปรเจกต์ให้ทำน้อยลงทุกที
ส่วน Hu Bin หุ้นส่วนของบริษัทเพื่อการลงทุนในจีน Qiming Venture Partners กล่าวว่า เขาต้องระมัดระวังมากขึ้นและลงทุนในภาคธุรกิจเกมน้อยลง
อย่างไรก็ตาม วงการนี้ยังเป็นสายงานของนักผจญภัย “ผมมั่นใจว่าคนในวงการหาทางออกกันได้” Lee จาก Elevation Point Entertainment กล่าว “อุตสาหกรรมเกมไม่โดนฆ่าทีเดียวทั้งวงการแน่ แต่ตอนนี้เป็นฤดูหนาวสำหรับเรา และบริษัทต่างๆ ก็จะ (ปรับตัว) อย่างดีที่สุดเพื่อให้อยู่รอด”
&nbsp;

เรื่อง : Yue Wang  เรียบเรียง : ธรรดร โสตถิอำรุง

&nbsp;

<hr />

<a href="https://bit.ly/2GB6P6G">คลิกเพื่ออ่านฉบับเต็ม “เกมดับ” ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ เมษายน 2562 ในรูปแบบ e-Magazine</a>

<a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/bf9cd13b-9952-4a4d-b7b9-70f6777699d3/april-2019"><img class="alignnone size-full wp-image-6357" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/04/-e1554815647562.jpg" alt="" width="250" height="328" /></a>

ถึงเวลา "ธุรกิจเกม" ในจีนดับ

<h2>“Markiplier” นับเป็นตัวแทนของ YouTuber รายได้ระดับท็อปบนโลกใบนี้ที่เริ่มต้นจากการเล่นเกมหรือทำอะไรตลกๆ ไร้สาระ แต่ตอนนี้กำลังต่อยอดไปสู่สินค้ากำไรมหาศาล การเดินสายทั่วโลก และอื่นๆ อีกมากมาย</h2>
พันธมิตรร่วมกับแบรนด์ ไลน์เสื้อผ้า แฟนคลับนับล้าน สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพียงอาณาบริเวณของนักกีฬาหรือคนดังระดับเอลิสต์ แต่ตอนนี้ได้รวม “Markiplier” เข้าไปด้วย เขาเป็นหนึ่งใน YouTuber รายได้สูงที่สุดในโลก ผู้กวาดยอดเงินไปได้ 17.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงเก็บคะแนน 12 เดือนของเรา

ชาวฮาวายผู้นี้ (ชื่อจริง: Mark Fischbach) เปิดช่อง YouTube ของเขาในปี 2012 เมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษาด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์ที่ University of Cincinnati เขาเคยผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากมาก่อน นั่นคือ การเลิกกับแฟนสาว ถูกไล่ออกจากงานออฟฟิศและต้องตัดเนื้องอกที่ต่อมหมวกไตออก ซึ่งหมอพบตอนผ่าตัดไส้ติ่งให้เขา

“ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกว่าผมไม่สามารถควบคุมอะไรในชีวิตได้ ผมจึงต้องทำบางอย่าง” Fischbach วัย 29 ปี ซึ่งตอนนี้อาศัยอยู่ที่ Los Angeles กล่าว ในตอนแรก เขาอัดเสียงพูดแบบสั้นๆ เพื่อฝึกฝนสำหรับการทำงานพากย์เสียง แต่ในไม่ช้าเขาก็ได้ค้นพบผู้ชมผ่านคลิปที่เขาเล่นวิดีโอเกมขณะแสดงความเห็นเชิงตลกปนเสียดสีไปด้วย

ไม่คิดว่าการดูใครบางคนเล่นเกม PS4 ฟังดูน่าสนุกงั้นหรือ ยอดผู้ติดตาม Markiplier จำนวน 22.4 ล้านคนบน YouTube ซึ่งทำยอดวิว 1 หมื่นล้านวิวจากงานของเขา ขอเห็นค้าน ที่จริงแล้ว Fischbach คือ 1 ใน 5 เกมเมอร์ในรายชื่อ Top 10 บน YouTube โดยดารา YouTube 10 อันดับแรก มีรายได้รวมกัน 180.5 ล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 42% จากปี 2017 นั่นเท่ากับเป็นการจ่ายเงินให้เล่น เมื่อเทียบกับคอนเทนต์ YouTube ประเภทอื่นๆ ทั่วไปคลิปเล่นเกมสามารถผลิตและตัดต่อได้อย่างรวดเร็ว

เกมเมอร์บางรายโพสต์คลิปใหม่ๆ ทุกวัน ยิ่งโพสต์มากก็หมายถึงคนดูยิ่งเพิ่มขึ้นตามมาซึ่งแน่นอนว่าเงินจากโฆษณาก็มากขึ้น (เรทราคาของคนดังออนไลน์ระดับต้นๆ นั้น Forbes คาดการณ์ว่าอยู่ที่ประมาณ 5 เหรียญต่อยอดวิว 1,000 วิว) อีกเรื่องที่ช่วยเช่นกันก็คือผู้ชมอายุน้อยกลุ่มเดิม ซึ่งเมินโทรทัศน์แล้วหันมาดู YouTube เป็นกลุ่มคลั่งไคล้วิดีโอเกม

“เมื่อ 10-15 ปีก่อน การเล่นเกมไม่ใช่เรื่องเจ๋ง คุณไม่ได้เล่นเกมเพราะมันเจ๋ง แต่คุณเล่นเพราะคุณชอบ” David Huntzinger ตัวแทนฝ่ายคนดังดิจิทัล จาก WME กล่าว “ตอนนี้คุณมี Drake อยู่บน Twitch และเล่นเกม Fortnite และเหล่านักกีฬา (อาชีพ) อยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งบอกว่าพวกเขาไม่สามารถหยุดเล่นเกม Xbox ได้ นั่นคือสิ่งที่เด็กๆ พวกนั้นมีชีวิตอยู่ด้วยและหายใจซึมซับเข้าไป”

เช่นเดียวกับนักธุรกิจคนดังผู้ยอดเยี่ยมคนอื่นๆ Fischbach ทำอะไรหลายอย่าง เช่น ร่วมก่อตั้ง Cloak ไลน์เสื้อผ้าสไตล์แอธลีเชอร์กับเพื่อนสมาชิกในลิสต์คนดังคือ Seán Mcloughlin หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “Jacksepticeye” (อันดับ 8, รายได้ 16 ล้านเหรียญ) ไลน์เสื้อผ้าออกกำาลังกายนั้นรวมถึงเสื้อสเวตเตอร์ราคา 85 เหรียญ และเสื้อยืด 35 เหรียญ แม้ว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจออกกำลังกายอะไรไปมากกว่านิ้วหัวแม่มือ แฟนๆ ก็ต่างตบเกียร์เร่งเครื่องซื้อจนสินค้ารอบก่อนจำหน่ายจริงขายหมดภายใน 48 ชั่วโมง

สินค้ากลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญมากยิ่งขึ้นสำหรับดาราดิจิทัลตัวท็อปเหล่านี้ เกือบทั้งหมดนั้นอยู่ในช่วงอายุราว 20 และ 30 ปี แต่ละคนล้วนมีสินค้าของตัวเองซึ่งยอดขายสะพัดของสินค้าช่วยให้รายได้เพิ่มขึ้นมา 42% จากเมื่อปี 2017

“ผมสร้างชุมชนขนาดใหญ่นี้ขึ้น และเราสร้างเสียงหัวเราะให้คนมากมาย” Fischbach กล่าว เขามองว่า Cloak เป็นก้าวแรกสู่อาณาจักรที่สร้างขึ้นจากทรัพย์สินที่จับต้องได้มากกว่าการอัปโหลดวิดีโอ

สำหรับในตอนนี้ คลิปเล่นเกมทั้งหมดทำหน้าที่เหมือนตัวคูณกำลังรบสำหรับชายที่รู้จักกันในชื่อว่า Markiplier เช่นเดียวกับนักธุรกิจที่ชาญฉลาดคนอื่นๆ เขากำลังคิดไปข้างหน้า “ผมคงจะไม่สามารถทำวิดีโอบน Youtube ได้ตลอดไป” เขากล่าว “ผมต้องวางแผนสำหรับอนาคต”

<hr />

<a href="https://bit.ly/2Vz02jN">ติดตามอ่านฉบับเต็ม "การจัดอันดับ YouTube Stars" ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ มีนาคม 2562 และติดตามได้ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="https://bit.ly/2Vz02jN"><img class="alignnone wp-image-6384 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/04/-e1554115232435.jpg" alt="" width="250" height="328" /></a>

"Mark Fischbach" YouTuber รายได้ระดับท็อปบนโลกใบนี้

Roblox ผู้สร้าง "นักพัฒนาเกม" รุ่นเยาว์

<h2>เบื้องหลังการบรรลุข้อตกลงธุรกิจนับไม่ถ้วนของ Tencent มีจุดประสงค์สำคัญเพื่อดึงดูดผู้ใช้ให้กลับมาใช้แพลตฟอร์มของตัวเอง</h2>
ตลอดเวลาที่ผ่านมา Tencent บริษัทเว็บไซต์ยักษ์ใหญ่ของจีน ดำเนินธุรกิจโดยพึ่งพาเกมออนไลน์และแอพพลิเคชั่นสื่อสังคมออนไลน์ WeChat ในการดึงดูดผู้ใช้ แต่บริษัทกำลังให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ใหม่เพื่อสร้างความเติบโต นั่นคือลงทุนในสตาร์ทอัพเพื่อสร้างบริการใหม่

สำหรับธุรกิจหลักของบริษัทบริษัทจาก Shenzhen ซึ่งติดอันดับ Fabulous 50 ของ Forbes เป็นปีที่ 10 ติดต่อกันแห่งนี้กำลังค่อยๆ ผันตัวมาเป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีรายสำคัญ เว็บไซต์ Dealogic รายงานว่า จนถึงขณะนี้บริษัทได้ลงทุนใน 68 ข้อตกลงธุรกิจที่มีมูลค่ารวมกัน 54.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทลงทุน 31.1 พันล้านเหรียญใน 72ข้อตกลง

ตัวเลขดังกล่าวนี้เหนือกว่าคู่แข่งสำคัญอย่าง Alibaba ซึ่งในปีนี้ลงทุนใน 52 ข้อตกลงธุรกิจ คิดเป็นมูลค่ารวม 25.6 พันล้านเหรียญ ข้อมูลจาก Dealogic ระบุว่าในระดับโลก อัตราการลงทุนที่รวดเร็วของ Tencent ทำให้บริษัทขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับ Softbank กลุ่มบริษัทจากญี่ปุ่นที่ในปีนี้ลงทุนไปแล้วคิดเป็นมูลค่ารวม 62.5 พันล้านเหรียญ จาก 97 ข้อตกลง

Ken Xu หุ้นส่วนจาก Gobi Partners บริษัทร่วมทุนซึ่งลงทุนเคียงคู่กับ Tencent กล่าวว่า Tencent ลงทุนเพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้บริษัททำรายได้เพิ่มขึ้นจากฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ บริษัทให้ความสนใจในธุรกิจหลายประเภท อาทิ วิดีโอเกมสตรีมมิ่ง บริการทางการเงินและซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยส่วนใหญ่จะเริ่มต้นจากการเข้าถือหุ้นร้อยละ 10-20 ในสตาร์ทอัพน้องใหม่หรือธุรกิจที่ติดตลาดแล้วจากนั้นจะกระตุ้นให้บริษัทในพอร์ตแข่งขันกันเอง และจะให้การสนับสนุนเฉพาะแต่กับบริษัทที่ยังยืนหยัดได้

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว Alibaba บริษัทจาก Hangzhou ให้ความสำคัญกับธุรกิจค้าปลีกและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มากกว่า และยังเข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจสตาร์ทอัพที่ลงทุนมากกว่า โดยในบางครั้งยังมีเป้าหมายสุดท้ายที่จะเข้าซื้อกิจการด้วย “Alibaba มักหวังที่จะได้อำนาจบริหารงานในระดับใดระดับหนึ่งในบริษัทที่ลงทุน” Xu ซึ่งเคยทำงานกับบริษัทอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่แห่งนี้ให้ความเห็น

“สิ่งที่ Tencent ต้องการคือหุ้นส่วนธุรกิจที่สามารถสร้างความได้เปรียบให้แก่ทรัพยากรของบริษัทและนำมาซึ่งบริการที่เพิ่มมากขึ้น” Shi Jialong นักวิเคราะห์จาก Nomura ยกตัวอย่างการเข้าลงทุนใน Pinduoduo หรือ PDD บริการช็อปปิ้งสินค้าราคาประหยัดว่าได้ช่วยให้ WeChat แอพฯ ของ Tencent มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น PDD ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ดำเนินธุรกิจโดยใช้โมเดลที่คล้ายคลึงกับโมเดลของ Groupon ซึ่งเน้นการซื้อเป็นกลุ่ม แต่ PDD ใช้ WeChat เป็นฐานในการดำเนินธุรกิจ

ทำให้ผู้ใช้ประจำ 3 ล้านคนบนแพลตฟอร์มสามารถรวมกลุ่มซื้อและรับส่วนลดเพิ่มขึ้น สิ่งที่ตามมาคือมีผู้ใช้งานระบบชำระเงินของ WeChat เพิ่มมากขึ้นจากการชำระเงินให้กับ PDD “ลูกค้าของ PDD จำนวนมากอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและไม่ค่อยคุ้นเคยกับระบบชำระเงินดิจิทัล” Shi กล่าวในการประชุมทางโทรศัพท์เมื่อเร็วๆ นี้ “แต่ขณะที่ PDD ติดตลาด มันก็ได้ช่วยนำผู้ใช้มาสู่ระบบกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของ WeChat”

<figure><img class="wp-image-1839 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/11/tencent-04.jpg" alt="" width="638" height="425" /><figcaption> เชื่อมโยงเครือข่าย: คนงานกำลังติดตั้งสำนักงานของ Pinduoduo ใน Shanghai โดย PDD ใช้ระบบชำระเงินของ WeChat ในการจำหน่ายสินค้าออนไลน์</figcaption></figure>

Tencent ยังได้ผลตอบแทนมหาศาลเมื่อสามารถเปลี่ยนการลงทุนให้เป็นผลกำไรตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว บริษัท 12 แห่งในพอร์ตของ Tencent ได้เปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทมหาชน ซึ่ง CB Insights ระบุว่ามากกว่าพอร์ตของบริษัทด้านการลงทุนหรือส่วนงานธุรกิจการลงทุนของบริษัททุกแห่งทั่วโลกในช่วงของความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นหุ้นของ Tencent ในบริษัทต่างๆ เช่น China Literature และ Sea แพลตฟอร์มเกมออนไลน์ มีมูลค่ามากกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญ

บริษัทยังมีแผนลงทุนในอีกหลายธุรกิจไม่นานมานี้ บริษัท 3 แห่งที่ Tencent ร่วมลงทุน ไม่ว่าจะเป็น Meituan Dianping เว็บไซต์ด้านบริการท้องถิ่น Qutoutiao แพลตฟอร์มศูนย์รวมข่าว และ Nio ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ต่างก็ยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงสถานะเป็นบริษัทมหาชนอย่างไรก็ดี แผนลงทุนจำนวนมากเหล่านี้ก็ไม่ได้มีแต่ด้านบวกเสมอไป การเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ของบางบริษัทเมื่อไม่นานมานี้ล้มเหลวไม่เป็นท่าแสดงให้เห็นว่าการสนับสนุนจาก Tencent ไม่ได้เป็นสิ่งรับประกันความสำเร็จ

นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าการลงทุนอย่างไร้ขีดจำกัดอาจทำให้ Tencent สูญเสียจุดโฟกัสการดำเนินธุรกิจ “บริษัทค่อยๆ ผันตัวเป็นบริษัทร่วมทุน โดยมีธุรกิจเกมและสื่อสังคมออนไลน์เป็นธุรกิจรอง” Brock Silvers กรรมการผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษา Kaiyuan Capita lกล่าว “นี่เป็นผลมาจากการผสมกลมกลืนของการเข้าถึงเงินทุนจำนวนมหาศาล การส่งเสริมจากรัฐบาล และอาจจะรวมถึงความฮึกเหิมในอหังการขององค์กร”

แต่ Xu จาก Gobi Partners กล่าวว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่ Tencent จะลงทุนต่อไป WeChat มีผู้ใช้มากกว่า 1 พันล้านคน แต่ Tencent ไม่มีวิธีในการหาเงินจากผู้ใช้เหล่านี้ นอกจากการโฆษณาและเชื่อมโยงพวกเขากับเกมออนไลน์ บริษัทจำเป็นต้องสำรวจบริการภายนอกอื่นๆ ที่จะสามารถนำมาผนวกรวมเข้ากับแพลตฟอร์มที่มีอยู่เพื่อให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมมากขึ้น และอยู่นานขึ้น “Tencent ไม่สามารถทำทุกอย่างด้วยตัวเอง” เขากล่าว “ฉะนั้นบริษัทจึงมองเห็นคุณค่ามหาศาลจากการลงทุน”

เรื่อง Yue Wang เรียบเรียง: เอมวลี อัศวเปรม

<hr />

<a href="http://bit.ly/2OuRAlE">ติดตามฉบับเต็มจากการจัดอันดับ FAB 50 "50 สุดยอดบริษัทมหาชนแห่งเอเชีย" ได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2561 ได้ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="http://bit.ly/2OuRAlE"><img class="alignnone wp-image-1596 size-medium" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/11/COVER-65-750-228x300.jpg" alt="" width="228" height="300" /></a>

ลงทุนไร้ขีดจำกัดแบบ Tencent

มณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ดัน SEA (Thailand) สู่ 'ดิจิทัลคอมพานี' แถวหน้า

<h2>นักวิชาการ สจล. ลบภาพเด็กติดเกมสร้างปัญหา ชี้โอกาสพัฒนา “E-Sports” ช่วยดันเศรษฐกิจและเทคโนโลยีไทยสู่ยุค 4.0</h2>
ภาพลักษณ์ของเกมในสายตาคนส่วนใหญ่มักตัดสินให้เป็นเพียงความสนุกสนาน การใช้เวลาว่างโดยเปล่าประโยชน์ จนถึงเป็นต้นเหตุของปัญหาสังคม ทว่าผลสำรวจมูลค่าตลาดดิจิทัลคอนเทนต์ของไทยโดยสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กลับสะท้อนชัดถึงความนิยมในการเล่น เกมออนไลน์ ของคนไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยมูลค่าตลาดเฉพาะสาขาเกมจำนวน 8.89 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 70% จากมูลค่าตลาดดิจิทัลคอนเทนต์ทั้งหมด 1.27 หมื่นล้านบาท ในปี 2558

เหรียญสองด้านของเกมที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น นอกจากปัญหาเด็กติดเกม อีกด้านหนึ่งของตัวเลขมูลค่าการเติบโตมหาศาลยังแสดงให้เห็นถึงโอกาสของตลาดเกมที่เปิดกว้างสำหรับนักธุรกิจ นักพัฒนาเกมในประเทศไทย และเกมเมอร์ที่ฝึกฝนสู่การเป็นนักแข่งขัน E-Sports เวทีแข่งขันเกมที่มีเงินรางวัลสูงกว่า 7 หลักขึ้นไป

ผศ.ดร.ณฐพล พันธุวงศ์ อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เชื่อว่า เกมไม่ใช่สิ่งเสพติดที่มีสารเคมีทำให้ผู้เล่นติดเกม แต่ความสนุกสนานและองค์ประกอบสภาพแวดล้อมในการเล่นที่ได้พูดคุยคลุกคลีกับเพื่อน ทำให้ผู้เล่นให้เวลาและความสำคัญกับเกมมากไป รวมถึงทำให้ผู้เล่นไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่

<figure><img style="width: 680px; height: 518px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/76dff6f9ff691eb762a354a38c906f96.png" alt="" width="680" height="518" /><figcaption> ผศ.ดร.ณฐพล พันธุวงศ์ อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)</figcaption></figure>

ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานศึกษาที่ต้องช่วยกันดูแลให้ผู้เล่นรู้จักแบ่งเวลา รู้จักคิด และรู้รับผิดชอบ รวมถึงความสามารถในการจัดสรรเวลาและความสำคัญให้เหมาะสมได้

ในขณะเดียวกัน เกมไม่จำเป็นต้องถูกผลิตขึ้นมาเพื่อสร้างความสนุกสนานเพียงอย่างเดียว แต่สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อสาระและประโยชน์ต่อสังคมตามแผนงานของประเทศไทยยุค 4.0 ซึ่งเกมส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีคุณลักษณะที่สามารถโต้ตอบกับผู้เล่นได้ ทำให้เกมทุกชนิดที่มีการแข่งขันสามารถนำเข้าสู่เวที E-Sports พร้อมนำไปสร้างสรรค์และประยุกต์เกมให้เป็นนวัตกรรมได้อย่างหลากหลาย เช่น การสร้างเกมเพื่อช่วยสอน การประยุกต์ใช้เกมในสถานการณ์จำลองต่างๆ เป็นต้น

ตัวอย่างเกมสร้างสรรค์ที่นำไปพัฒนาต่อยอดได้ เช่น เกม Sword Art Online 2: Go Untouchable! เกมเสมือนจริง (Virtual Reality) ของ รังสิมันต์ แสนประเสริฐ โดยผู้เล่นจะต้องสวมอุปกรณ์แสดงผล Oculus Rift ให้ผู้เล่นมองเห็นภาพเสมือนอยู่ในโลกของเกม โดยใช้อุปกรณ์ Kinect Sensor ในการควบคุมและจับท่าทางของผู้เล่น ทำให้สามารถควบคุมเกมผ่านการแสดงท่าทางจริง

<figure><img style="width: 680px; height: 383px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/9d156dfe2f2467543ec6cb40ddfb0979.png" alt="" width="680" height="383" /><figcaption> เกม Sword Art Online 2: Go Untouchable!</figcaption></figure>

เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปพัฒนาและประยุกต์ใช้ในธุรกิจงานอีเว้นท์จำลองภาพงานเสมือนจริง เพื่อให้ลูกค้าได้พิจารณารูปแบบการจัดงานก่อน และหากผลงานชิ้นนี้ได้รับการต่อยอดจนสมบูรณ์ จะช่วยให้เทคโนโลยี VR ที่ปัจจุบันราคาค่อนข้างสูงถูกลงได้

ขณะที่ 3D Scanning for Game Character Creation ของ ทรงวุฒิ อมรอนุกูล และ อนิรุธ เบ็ญจลักษณ์ เป็นโครงงานพัฒนาระบบเพื่อสร้าง 3D Model สำหรับให้ผู้พัฒนาเกมสร้างโมเดลจากภาพถ่ายหลายมุม และนำภาพทั้งหมดประมวลผลเป็นโมเดล 3 มิติ เพื่อนำไปปรับให้มีการเคลื่อนไหวท่าทางต่างๆ สำหรับการสร้างคาแรคเตอร์ตัวละครในเกม การ์ตูน และภาพยนตร์ ทั้งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการขายสินค้าออนไลน์ เช่น อุตสาหกรรมแฟชั่นเครื่องแต่งกาย เพื่อเทียบการแต่งกายแบบเสมือนจริง

<figure><img style="width: 680px; height: 378px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/dde058efdbf3417509f9e30a29c19a41.png" alt="" width="680" height="378" /><figcaption> 3D Scanning for Game Character Creation </figcaption></figure>

ด้าน ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวย้ำว่า ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีย่อมส่งผลดีต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาควรร่วมกันพัฒนาสนับสนุนวงการเกมไทยในทิศทางที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อช่วยให้นักธุรกิจ นักพัฒนาเกม และเกมเมอร์ไทยทัดเทียมต่างชาติและสร้างรายให้กับประเทศชาติได้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สังคมไทยยังคงติดภาพลักษณ์ด้านลบมากกว่าด้านบวก โดยคนส่วนใหญ่มักมองว่า เกมคือตัวการสำคัญที่ทำให้เยาวชนไทยไม่สนใจเรียนหนังสือ กระตุ้นให้เสพติดความรุนแรง และก่อให้เกิดปัญหาสังคมอื่นๆ ตามมา จึงต้องทำความเข้าใจและสื่อสารกับสังคมให้เห็นถึงคุณและโทษของเกมที่ไม่ต่างจากกิจกรรมอื่นๆ

<figure><img style="width: 680px; height: 461px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/bbbef18a6332e59188b5c01a7499918d.png" alt="" width="680" height="461" /><figcaption> ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)</figcaption></figure>

ดังนั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่ความร่วมมือช่วยกันสนับสนุนเกมไปในทิศทางที่ถูกต้อง ซึ่งไม่เพียงช่วยพัฒนาความสามารถของผู้เล่นและผู้พัฒนาเท่านั้น แต่ยังสร้างเม็ดเงินมหาศาลให้กับประเทศชาติได้

เด็กติดเกมพันธุ์ใหม่หนุน Thailand 4.0

การกวาดเงินของ Nigel Eccles ไม่ได้ทำผ่านเว็บไซต์ของประเทศคอสตาริกาซึ่งกฎหมายของสหรัฐฯ เอื้อมไม่ถึงด้วย ที่จริงแล้วบริษัท FanDuel ของ Eccles แค่ตั้งอยู่เหนือป้ายร้านค้าแห่งหนึ่งใน Union Square เมือง New York City เท่านั้นเอง และธุรกิจของบริษัทก็ถูกกฎหมายอีกด้วย 
 
Eccles ใช้ประโยชน์จากข้อยกเว้นในกฎหมายการพนันออนไลน์เมื่อปี 2006 ซึ่งกำหนดว่าเว็บไซต์เล่นโป๊กเกอร์เป็นสิ่งผิดกฎหมายและห้ามเล่นการพนันกีฬาออนไลน์ แต่กฎหมายฉบับนี้กลับละเว้นการเล่นเกมแฟนตาซีกีฬา และไม่น่าเชื่อว่า 3 ปีหลังการผ่านกฎหมายฉบับดังกล่าว ไม่มีผู้ประกอบการรายใดกระโดดเข้าคว้าโอกาสที่ว่าเลย แต่ Eccles ไม่พลาดโอกาสนี้ด้วยการตั้งบริษัท FanDuel ในปี 2009 ร่วมกับคนอื่นๆ อีก 4 คน โดย 5 ปีหลังจากก่อตั้ง FanDuel มีบัญชีผู้ใช้ถึง 1.1 ล้านบัญชี 
 
บรรดานักลงทุนที่ชาญฉลาดต่างเร่งรีบเข้าไปขอส่วนแบ่งในบริษัทอายุ 5 ปีของ Eccles บริษัทได้เงินทุน 88 ล้านเหรียญ จากการร่วมทุนกับบริษัท KKR บริษัท Bullpen Capital ธนาคาร Scottish Investment Bank และ Comcast Ventures นอกจากนี้ ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ NBA ได้ให้ของขวัญอย่างเป็นทางการแก่ FanDuel ด้วยการเซ็นสัญญาเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมธุรกิจโดยเข้าถือหุ้นของบริษัทอีกเล็กน้อย 
 
<img class="img-responsive" alt="" class="img-responsive" height="825" src="/uploads/userfiles/images/May%202015/FanDuel-03-re.jpg" width="947" /> 
อย่างไรก็ดี FanDuel ยังไม่ถึงขึ้นสร้างผลกำไรเพราะบริษัทต้องใช้จ่ายเงินนับล้านเหรียญกับระบบคอมพิวเตอร์จาก Amazon Web Services เพื่อรับมือกับการจราจรในระบบอินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายชั่วโมงก่อนหน้าเกมวันอาทิตย์ของ NFL จะเริ่มขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่ FanDuel ต้องคอยจัดคิวผู้ใช้กว่า 150,000 คน ซึ่งจะทำการเปลี่ยนผู้เล่นในทีมแฟนตาซีกว่า 250,000 ตัวต่อชั่วโมง การขาดหายของสัญญาณไปครั้งหนึ่งในเดือนกันยายนที่ผ่านมาส่งผลให้บริษัทต้องจ่ายเงินคืนให้กับลูกค้าเป็นจำนวนมาก 
<hr />

	<a href="http://goo.gl/Zon5uK">คลิ๊กอ่านฉบับเต็ม "เกมจินตนาการ ทำเงินมหาศาลในโลกจริง" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ MARCH 2015</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events