<h2>นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1990 ซอฟต์แวร์สำหรับปรับแต่งรูปภาพอย่าง Photoshop ก็กลายมาเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของ Adobe ที่มืออาชีพทั้งวงการกราฟิกและถ่ายภาพต้องรู้จัก ซึ่งทางบริษัทฯ ก็มีการพัฒนาซอฟต์แวร์นี้อย่างต่อเนื่อง และมีการปล่อยเวอร์ชั่นที่หลากหลายออกมา ทั้งโปรแกรมบนเดสก์ท็อปคอมพิวเตอร์ โปรแกรมบนเว็บไซต์ รวมถึงแอปพลิเคชั่นบนอุปกรณ์ไอแพดและสมาร์ตโฟน</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ล่าสุด Adobe ประกาศเปิดตัวแอป Photoshop ใหม่เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมา สำหรับอุปกรณ์ไอโฟนของ Apple จะใช้งานได้ก่อน ส่วนสมาร์ตโฟนระบบ Android จะตามมาในเร็วๆ นี้ ซึ่งแอปดังกล่าวเป็นคนละแอปกับ Photoshop Express ที่ปล่อยออกมาตั้งแต่ปี 2010 โดยมีเครื่องมือที่ครบครันและใกล้เคียงกับเดสก์ท็อปมากกว่า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Adobe เผยว่า แอป Photoshop บนสมาร์ตโฟนไม่ได้ออกแบบมาเพื่อแทนที่ซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์แต่อย่างใด “Photoshop บนเดสก์ท็อปมีเครื่องมือที่ล้ำลึกและทรงพลังทำให้มีความแม่นยำในการแก้ไขภาพบนจอใหญ่ ส่วน Photoshop บนสมาร์ตโฟนสร้างมาเพื่อช่วยครีเอเตอร์ที่ทำงานบนมือถือเป็นหลัก”​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/2WxBNcnrCWSzWHoDTTa1.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="2WxBNcnrCWSzWHoDTTa1.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1200,800" style="width: 720px; height: auto;" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แอป Photoshop สำหรับไอโฟนสามารถใช้งานได้ฟรีบางส่วน ยกตัวอย่างเช่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;• เครื่องมือและฟีเจอร์พื้นฐานในการรวมภาพ ลบ เปลี่ยนสี หรือแทนที่บางส่วนของภาพ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;• สามารถสร้าง layer ได้ไม่จำกัดและเซฟไฟล์ PSD&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;• สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรม Adobe Express, Adobe Fresco และ Adobe Lightroom ได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;• ช่วยให้การแก้ไขที่ซับซ้อนรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้นด้วย Firefly หรือเครื่องมือ Generative AI ของ Adobe&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;• ใช้งาน asset จาก Adobe Stock ฟรีได้บางส่วน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แน่นอนว่า หากผู้ใช้งานต้องการเครื่องมือและฟีเจอร์ที่ครบเครื่องยิ่งขึ้น เช่น Content-Aware Fill, Advanced Blend Modes, Generative Fill ฯลฯ ทาง Adobe ยังมีแพ็กเกจให้ซื้อเพิ่มได้ สำหรับมือถือและบนหน้าเว็บ (Photoshop Mobile &amp; Web plan) แบบรายเดือนที่ 7.99 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 270 บาท) หรือรายปีที่ 69.99 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 2,360 บาท)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับผู้ใช้งานที่ชำระเงินซื้อแผนการใช้งาน Photoshop บนเดสก์ท็อปอยู่แล้ว สามารถใช้แอปบนไอโฟนได้โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราตื่นเต้นกับการนำความเป็นไปได้อันไร้ที่สิ้นสุดของการสร้างสรรค์ด้วย Photoshop มาสู่มือถือ ทำให้ทุกคนสามารถแก้ไขและออกแบบรูปภาพอันเป็นเอกลักษณ์ได้ ทั้งศิลปินมืออาชีพและนักออกแบบไปจนครีเอเตอร์รุ่นใหม่ที่เพิ่งลองใช้ Photoshop เป็นครั้งแรก” Ashley Still รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายสื่อดิจิทัลของ Adobe กล่าว​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/yJ94eHqyLa1ksTNafYks.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="yJ94eHqyLa1ksTNafYks.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1200,800" style="width: 720px; height: auto;" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การเปิดตัวแอป Photoshop บนสมาร์ตโฟนที่สามารถใช้งานได้ฟรีในคราวนี้ของ Adobe นับเป็นก้าวหนึ่งในการรับมือกับตลาด ณ ปัจจุบันที่มีโปรแกรมและแอปแต่งภาพออกมาให้ผู้ใช้งานเลือกได้หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งบางส่วนก็มีฟีเจอร์เหมือนกับ Photoshop เช่น การปรับสี และการลบสิ่งที่ไม่ต้องการออกจากภาพ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังเป็นการจูงใจคนรุ่นใหม่ให้หันมาใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Adobe มากขึ้น ดังเช่นที่ Deepa Subramaniam รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์แอปสร้างสรรค์สำหรับมืออาชีพของ Adobe เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำลังมุ่งเน้นดึงดูดผู้ใช้งานอายุน้อยที่ใช้มือถือสำหรับถ่ายรูปและแต่งรูปเป็นหลัก โดยการเข้าไปเป็นคำตอบเมื่อพวกเขามองหาแอปซึ่งใช้งานได้หลากหลายกว่าเครื่องมือพื้นฐานที่ติดมากับอุปกรณ์สมาร์ตโฟน แหล่งที่มา:​<a href="https://www.businesstimes.com.sg/companies-markets/telcos-media-tech/adobe-brings-free-photoshop-app-phones-courting-younger-users" alt="Adobe brings free Photoshop app to phones, courting younger users">Adobe brings free Photoshop app to phones, courting younger users</a>​ ​<a href="https://www.theverge.com/news/618859/adobe-photoshop-mobile-iphone-android-app-availability" alt="Adobe’s new Photoshop app for iPhone is more like the real thing">Adobe’s new Photoshop app for iPhone is more like the real thing</a><a href="https://blog.adobe.com/en/publish/2025/02/25/all-new-photoshop-iphone-app-reimagines-image-editing-for-mobile-creators" alt="All-new Photoshop iPhone app reimagines image editing for mobile creators">All-new Photoshop iPhone app reimagines image editing for mobile creators</a>​ ​<a href="https://news.adobe.com/news/2025/02/photoshop-mobile-web" alt="Adobe Photoshop Brings World’s Leading Image and Design App to Mobile to Empower Next Generation of Creators">Adobe Photoshop Brings World’s Leading Image and Design App to Mobile to Empower Next Generation of Creators</a>​ ภาพ: Adobe เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/pinto-ebook-sales-surge-48-percent-with-easy-e-receipt-2-0-measures" alt="ตลาดอีบุ๊กสุดคึกคัก ‘ปิ่นโต อีบุ๊ก’ ยอดขายพุ่ง 48% รับมาตรการ Easy E-Receipt 2.0">ตลาดอีบุ๊กสุดคึกคัก ‘ปิ่นโต อีบุ๊ก’ ยอดขายพุ่ง 48% รับมาตรการ Easy E-Receipt 2.0</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Adobe หวังพิชิตใจคนรุ่นใหม่! เปิดตัวแอป Photoshop บนมือถือ ใช้งานเครื่องมือพื้นฐานได้ฟรี

10 อันดับ บริษัทนายจ้างที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2024 

<h2>กระทรวงยุติธรรมแห่งสหรัฐอเมริกายื่นฟ้อง Adobe ด้วยข้อกล่าวหาว่าบริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลกรายนี้มีการเอาเปรียบผู้บริโภค ด้วยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดค่าธรรมเนียมที่ชัดเจนมากเพียงพอ และขั้นตอนการยกเลิกสมาชิกก็ยุ่งยาก</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตั้งแต่เข้าเดือนที่ 6 ของปี Adobe ก็มีเรื่องไม่หยุด จากประเด็นว่าด้วยเงื่อนไขและข้อตกลงการใช้บริการ (Term of Service) เริ่มต้นที่อัปเดตใหม่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีข้อความที่สามารถตีความได้ว่า Adobe มีสิทธิ์เข้าถึงคอนเทนต์ทั้งหมดของผู้ใช้งาน ก่อให้เกิดความวิตกกังวลว่าบริษัทฯ จะนำผลงานของพวกเขาไปใช้เทรน AI&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทาง Adobe ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิด และจะมีการปรับปรุงเงื่อนไขและข้อตกลงการใช้บริการให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยจะเผยแพร่ในวันที่ 18 มิถุนายน แต่พอเอาเข้าจริง แทนที่ทุกอย่างจะคลี่คลายลง กลับกลายเป็นว่าบริษัทฯ ถูกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐยื่นฟ้อง ละเมิดผู้ใช้ นำงานไปเทรน AI&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับความวิตกกังวลว่าผลงานอาจถูกนำไปใช้เทรน AI นั้น บริษัทฯ กล่าวว่าไม่เป็นความจริง Adobe มีความจำเป็นต้องเข้าถึงคอนเทนต์ของผู้ใช้งานเพื่อตรวจสอบว่าเนื้อหาเหล่านั้นไม่ได้ผิดกฎหมาย เช่น เข้าข่ายสื่ออนาจารเด็ก เป็นต้น แต่กรรมสิทธิ์ในผลงานนั้นเป็นของผู้ใช้งานทั้งหมด&nbsp; &nbsp;&nbsp;Adobe จะไม่มีการนำผลงานของผู้ใช้งานทั้งในเครื่องและบนคลาวด์ไปฝึกฝน AI โดยข้อมูลที่ใช้เทรน Adobe Firefly หรือโมเดล Generative AI ของบริษัทฯ นั้นมาจากการซื้อขายอย่างถูกต้อง หรือไม่ก็เป็นสาธารณสมบัติ (Public Domain) ที่ปราศจากลิขสิทธิ์ ทั้งนี้ก็มีข้อยกเว้นอยู่เช่นกันว่า หากคอนเทนต์ใดๆ ก็ตามวางขายบน Adobe Stock บริษัทฯ จะสามารถนำไปเทรน Adobe Firefly ได้ ไร้ความชัดเจน เอาเปรียบผู้บริโภค&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ความกำกวมของ Adobe ไม่ได้มีเพียงเรื่องกรรมสิทธิ์ในผลงานเท่านั้น กระทรวงยุติธรรมสหรัฐและสำนักงานคณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา (FTC) ได้ยื่นฟ้องบริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่รายนี้เมื่อวันจันทร์ที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่า Adobe ละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค เพราะมีการปกปิดค่าธรรมเนียมยกเลิกการใช้บริการซึ่งมีราคาแพง อีกทั้งการยกเลิกสมาชิกยังซับซ้อนและชวนให้สับสน&nbsp; &nbsp;&nbsp;“Adobe ล่อลวงให้ลูกค้าสมัครสมาชิกแบบรายปี โดยซ่อนค่าธรรมเนียมการยกเลิกก่อนกำหนด และขั้นตอนยกเลิกที่ยุ่งยาก” Samuel Levine ผู้อำนวยการ FTC เผยในแถลงการณ์&nbsp; &nbsp;&nbsp;แผนสำหรับสมาชิกรายปีของ Adobe นั้นสามารถแบ่งจ่ายเป็นรายเดือนได้ โดยมีค่าสมาชิกถูกกว่าปกติ แต่หากยกเลิกสมาชิกก่อนกำหนด ผู้ใช้งานจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการยกเลิกสมาชิกหลายร้อยเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งไม่ได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากเข้าใจผิด&nbsp; &nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ลูกค้าที่ต้องการยกเลิกสมาชิกยังต้องผ่านขั้นตอนอันซับซ้อนบนเว็บไซต์ มีการเปลี่ยนเว็บเพจไปมาหลายหน้า คล้ายเป็นอุปสรรคขัดขวางไม่ให้ดำเนินการได้สำเร็จ สำหรับลูกค้าที่ติดต่อขอยกเลิกสมาชิกผ่านโทรศัพท์หรือไลฟ์แชท ก็มีการร้องเรียนว่าสายหลุดบ่อยครั้ง เมื่อต่อสายได้ลูกค้าก็ต้องเริ่มต้นอธิบายทุกอย่างใหม่ตั้งแต่ต้น และบางคนก็ถูกโอนสายไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความยุ่งยากเหล่านี้ขัดต่อกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคอย่างชัดเจน&nbsp; &nbsp;&nbsp;Adobe ยังไม่ได้ออกมาตอบคำถามสื่อต่างๆ ที่ติดต่อไป อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีรายได้จากค่าสมาชิกเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในปี 2023 เทียบกับปี 2019 โดยตัวเลขอยู่ที่ 1.42 หมื่นล้านเหรียญ และรายได้รวมเมื่อปีที่ผ่านมาอยู่ที่ราว 1.94 หมื่นล้านเหรียญ แหล่งที่มา:​<a href="https://www.businessinsider.com/adobe-sued-doj-unfair-subscription-practices-ftc-investigation-signup-cancel-2024-6" alt="Adobe is having a terrible month">Adobe is having a terrible month</a>​ ​<a href="https://www.theverge.com/2024/6/18/24181001/adobe-updated-terms-of-service-wont-train-ai-on-work" alt="Adobe’s new terms of service say it won’t use your work to train AI" style="background-color: initial; font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; text-align: var(--bs-body-text-align);">Adobe’s new terms of service say it won’t use your work to train AI</a>​ ​<a href="https://www.independent.co.uk/news/world/americas/doj-ftc-adobe-photoshop-lawsuit-b2564294.html" alt="Adobe sued by DOJ and FTC for ‘hidden’ fees that make it ‘absurdly’ hard to cancel Photoshop subscriptions">Adobe sued by DOJ and FTC for ‘hidden’ fees that make it ‘absurdly’ hard to cancel Photoshop subscriptions</a>​ ​​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;:&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/global/it/nvidia-market-cap-most-valuable-public-company" alt="Nvidia แซงหน้า Microsoft เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากสุดในโลกแล้ว">Nvidia แซงหน้า Microsoft เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากสุดในโลกแล้ว</a>​ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

สหรัฐฯ ยื่นฟ้อง Adobe เอาเปรียบผู้บริโภค เงื่อนไขไม่ชัด ยกเลิกสมาชิกยาก

<h2>อินเดีย หนึ่งในประเทศทรงอิทธิพลแห่งเอเชียที่กำลังมาแรงท้าทายมหาอำนาจอย่างจีน ด้วยจำนวนประชากรมหาศาลที่พร้อมมาเป็นแรงงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ไม่เพียงเท่านั้นชาวอินเดียยังเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ ซึ่งนอกจากจะเป็นกำลังสำคัญแก่บริษัทในประเทศแล้ว ยังมีชาวอินเดียและชาวเชื้อสายอินเดียอีกหลายคนที่ก้าวไปสู่ตำแหน่งผู้บริหารบริษัทชั้นนำของโลก</h2> &nbsp; &nbsp; Forbes Thailand ขอแนะนำให้ทุกท่านได้พบกับ 6 ประธานเจ้าหน้าที่บริหารในบริษัทและแบรนด์ทรงอิทธิพลระดับโลกที่มีเชื้อสายอินเดีย โดยเขาและเธอเหล่านี้มาจากทั้งวงการเทคโนโลยี การเงิน และแฟชั่น ตอกย้ำศักยภาพของชาวอินเดียบนเวทีสากล ดังนี้ ​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="min-width: 100%; width: 50%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/71hnbxuGkaD8bNJeiirB.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="71hnbxuGkaD8bNJeiirB.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="0" origin-size="720,480"></figure></div>Sundar Pichai&nbsp;อายุ: 51 ปี&nbsp;ปีที่เข้าดำรงตำแหน่ง: 2015&nbsp;บริษัท: Alphabet&nbsp;มูลค่าตลาด: 2.04 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ&nbsp;​ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/Z3BKRK8GBJS7fNWUYPjb.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Z3BKRK8GBJS7fNWUYPjb.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="1" origin-size="720,480"></figure></div>Satya Nadella&nbsp; อายุ: 56 ปี&nbsp;ปีที่เข้าดำรงตำแหน่ง: 2014&nbsp;บริษัท: Microsoft&nbsp;มูลค่าตลาด: 2.94 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ&nbsp;​ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/5T7wFuuTUq7jy3m1cGgt.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="5T7wFuuTUq7jy3m1cGgt.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="2" origin-size="720,480"></figure></div>Shantanu Narayen&nbsp; อายุ: 60 ปี&nbsp;ปีที่เข้าดำรงตำแหน่ง: 2007&nbsp;บริษัท: Adobe&nbsp;มูลค่าตลาด: 2.10 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ&nbsp;​ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/Tz7Skz1rkVQT2irnDqnF.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Tz7Skz1rkVQT2irnDqnF.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="3" origin-size="720,480"></figure></div>Arvind Krishna&nbsp; อายุ: 62 ปี&nbsp;ปีที่เข้าดำรงตำแหน่ง: 2020&nbsp;บริษัท: IBM&nbsp;มูลค่าตลาด: 1.51 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ&nbsp;​ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/ViuJxux7gP6xzapNiyUA.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ViuJxux7gP6xzapNiyUA.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="4" origin-size="720,480"></figure></div>Leena Nair&nbsp; อายุ: 54 ปี&nbsp;ปีที่เข้าดำรงตำแหน่ง: 2022&nbsp;บริษัท: Chanel&nbsp;มูลค่าแบรนด์: 5.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ&nbsp;​ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/CmJsZekfJY2PVMBiGUXf.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="CmJsZekfJY2PVMBiGUXf.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="5" origin-size="720,480"></figure></div>Laxman Narasimhan&nbsp; อายุ: 56 ปี&nbsp;ปีที่เข้าดำรงตำแหน่ง: 2023&nbsp;บริษัท: Starbucks&nbsp;มูลค่าตลาด: 8.43 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ&nbsp;​ ที่มา: Forbes Thailand รวบรวม ณ วันที่ 2 พ.ค. 2567 เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://www.forbesthailand.com/world/america/blackstone-steve-schwarzman-grand-plan-for-world-domination" alt="แผนครองโลกอันยิ่งใหญ่ Steve Schwarzman แห่ง Blackstone">แผนครองโลกอันยิ่งใหญ่ Steve Schwarzman แห่ง Blackstone</a>​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

6 CEO เชื้อสายอินเดียในบริษัทระดับโลก

Adobe เปิดตัว AI ใหม่ ช่วยสรุปข้อมูลจาก PDF เนื้อหายาวก็ย่อยได้

&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อะโดบี (Nasdaq: ADBE) ประกาศการขยายบริการ Firefly ซึ่งเป็นโมเดล Generative AI เพื่อรองรับการสั่งงานด้วยข้อความมากกว่า 100 ภาษา ทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถเจนเนอเรทภาพ และเอฟเฟ็กต์ข้อความโดยใช้ภาษาแม่ (Native Language) ของตนเองในบริการเว็บ Firefly แบบสแตนด์อโลน โดยเว็บยังรองรับ 20 ภาษา โดยเปิดให้บริการภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น สเปน และโปรตุเกสแล้ว &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การขยายการให้บริการครั้งนี้นับเป็นการขยายการเข้าถึงของ Firefly ไปสู่ระดับโลก ช่วยให้ผู้ใช้หลายล้านคนในทุกระดับประสบการณ์มีความมั่นใจมากขึ้นในการสร้างคอนเทนต์ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ผู้ใช้งานได้เจนเนอเรทภาพไปแล้วมากกว่า 1,000 ล้านภาพบนเว็บไซต์ Firefly และใน Photoshop ทำให้โปรแกรมทั้งสองนับเป็นโปรแกรมรุ่นเบต้าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอะโดบี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;มากกว่าหนึ่งทศวรรษที่อะโดบีได้พัฒนานวัตกรรม AI อย่างจริงจัง เพื่อพลิกโฉมเครื่องมือด้านครีเอทีฟระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม โดยเพิ่มพลังให้กับทุกๆ ขั้นตอน ตั้งแต่การสำรวจเบื้องต้นไปจนถึงแนวคิดและการผลิต อะโดบียังคงยึดถือแนวทางที่มุ่งเน้นครีเอเตอร์ โดยมี Firefly ทำหน้าที่เป็น Co-pilot สำหรับงานครีเอทีฟ นับตั้งแต่ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Firefly ได้ถูกผสานรวมเข้ากับ Photoshop, Express และ Illustrator ช่วยให้ผู้ใช้สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างมั่นใจ โดยจัดการกับอุปสรรคระหว่างจินตนาการและ blank page และนำความแม่นยำ พลัง ความเร็ว และความสะดวกมาสู่แอปพลิเคชันและเวิร์กโฟลว์ Creative Cloud โดยตรง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีไล กรีนฟิลด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีดิจิทัลมีเดียของอะโดบี กล่าวว่า “เรารู้สึกทึ่งกับวิธีการที่เหล่าครีเอเตอร์ใช้ Firefly เพื่อเจอเนอเรทภาพและเอฟเฟ็กต์ข้อความที่สวยงามหลายพันล้านรายการ ทำให้ Firefly เป็นหนึ่งในโปรแกรมรุ่นเบต้าของอะโดบีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดโดยใช้เวลาหลังเปิดตัวเพียงสามเดือนเท่านั้น และวันนี้เราได้พัฒนาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Firefly ได้มากขึ้นโดยใช้ภาษาที่พวกเขาต้องการ ซึ่งจะช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จากโมเดล AI ที่โดดเด่นของอะโดบีได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพสูงสุดตามจินตนาการ และสามารถนำไปใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ Firefly ยังนำเสนอ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- Firefly for Enterprise: Firefly for Enterprise ได้รับการออกแบบมาให้มีความปลอดภัยในเชิงพาณิชย์ และอะโดบีวางแผนให้องค์กรธุรกิจต่างๆ สามารถปรับแต่งและเทรน Firefly โดยใช้แอสเซ็ทภายใต้แบรนด์ของตนเอง และสร้างคอนเทนต์ตามแนวทางและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Firefly for Enterprise ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับดิจิทัลคอนเทนต์ที่หลากหลาย และช่วยให้องค์กรปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มความรวดเร็วในการสร้างคอนเทนต์ ควบคู่ไปกับการประหยัดต้นทุนและค่าใช้จ่าย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โซลูชั่นระดับองค์กรนี้จะช่วยให้พนักงานทุกคนในทุกหน่วยงาน ทุกระดับทักษะด้านครีเอทีฟ สามารถใช้ Firefly เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่สวยงาม สอดรับกับแบรนด์ พร้อมสำหรับการเผยแพร่ และสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขได้อย่างราบรื่นใน Express หรือ Creative Cloud นอกจากนี้ องค์กรต่างๆ จะได้รับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาจากอะโดบี สำหรับคอนเทนต์ที่สร้างด้วยเวิร์กโฟลว์ที่ขับเคลื่อนด้วย Firefly ซึ่งจะช่วยให้สามารถนำไปใช้งานทั่วทั้งองค์กรได้อย่างมั่นใจ&nbsp; &nbsp; -&nbsp;ความโปร่งใสสำหรับดิจิทัลคอนเทนต์ : เนื่องจาก Generative AI ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้นในชีวิตประจำวัน ดังนั้นผู้บริโภคจึงควรทราบว่าเนื้อหาคอนเทนต์นั้นๆ ถูกสร้างหรือแก้ไขโดย AI หรือไม่ คอนเทนต์ Firefly ได้รับการเทรนโดยใช้ชุดข้อมูลที่แตกต่าง และจะถูกติดแท็ก Content Credentials แบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสให้กับดิจิทัลคอนเทนต์ Content Credentials เป็นเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สที่เปิดให้ใช้งานฟรี ทำหน้าที่เป็น “ฉลากโภชนาการ” (nutrition label) แบบดิจิทัล&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยสามารถแสดงข้อมูลต่างๆ เช่น ชื่อ วันที่ และเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างรูปภาพ ตลอดจนการแก้ไขใดๆ ที่เกิดขึ้นกับรูปภาพนั้น และยังคงเชื่อมโยงกับคอนเทนต์นั้น ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะถูกใช้งาน เผยแพร่ หรือจัดเก็บไว้ที่ใดก็ตาม จึงช่วยให้สามารถระบุแหล่งที่มาและใช้ตัดสินใจเกี่ยวกับการนำดิจิทัลคอนเทนต์ไปใช้ได้อย่างเหมาะสม Content Credentials ได้รับการออกแบบโดยอะโดบี โดยร่วมมือกับ Content Authenticity Initiative (CAI) และสมาชิกทั่วโลกกว่า 1,500 ราย รวมถึง AFP, Associated Press, BBC, Getty Images, Leica, Microsoft, Nikon, Omnicom, Reuters, Stability AI, Spawning.ai, The Wall Street Journal, Universal Music Group (UMG) และอื่นๆ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/70618" alt="“วอริกซ์” ประกาศ 10 ปีแห่งความภูมิใจ กับเป้าหมายยกระดับแบรนด์เป็น Sport Health Active Lifestyle">“วอริกซ์” ประกาศ 10 ปีแห่งความภูมิใจ กับเป้าหมายยกระดับแบรนด์เป็น Sport Health Active Lifestyle</a>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

Adobe ขยายบริการ Firefly ให้รองรับการสั่งงานได้มากกว่า 100 ภาษา รวมถึงภาษาไทย

&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Adobe Illustrator นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ Generative Recolor ซึ่งขับเคลื่อนด้วย Adobe Firefly เร่งการพัฒนาสีรูปแบบต่างๆ ในกราฟิกสำหรับโฆษณา คอนเทนต์ออนไลน์ แพ็กเกจจิ้ง และอื่นๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไม่นานหลังจากการเปิดตัว Adobe Photoshop และ Adobe Express รุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Firefly ตอนนี้ Illustrator คือแอปพลิเคชั่น Creative Cloud ล่าสุดที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ขั้นสูงของอะโดบี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ผู้ใช้ Photoshop ได้สร้างภาพมากกว่า 150 ล้านภาพในเวลาเพียงสามสัปดาห์โดยใช้ฟีเจอร์ใหม่ Generative Fill ซึ่งขับเคลื่อนด้วย Firefly&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อะโดบี (Nasdaq:ADBE) ได้เปิดตัว Generative Recolor (รุ่นเบต้า) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการรวม Adobe Firefly เข้ากับ Adobe Illustrator ช่วยให้นักออกแบบสามารถทดลองสีสันต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ข้อความคำสั่งง่ายๆ รีลีสใหม่ล่าสุดนี้เป็นการพัฒนาต่อยอดวิสัยทัศน์ของอะโดบีในการส่งเสริมศักยภาพของครีเอเตอร์ในทุกระดับทักษะ โดยมี Firefly ทำหน้าที่เป็น Co-pilot เพื่อรองรับการสร้างสรรค์ผลงานตามจินตนาการได้อย่างรวดเร็ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Generative Recolor รุ่นเบต้า ใช้ประโยชน์จาก Firefly ซึ่งเป็นโมเดล Generative AI สำหรับงานครีเอทีฟของอะโดบี เพื่อการทำงานโดยอัตโนมัติสำหรับขั้นตอนต่าง ๆ ที่ยุ่งยากซับซ้อนซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ใช้ต้องดำเนินการด้วยตนเอง โดยจะเปลี่ยนสีสันต่างๆ ในอาร์ตเวิร์กแบบเวกเตอร์ได้อย่างน่าอัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยก่อนหน้านี้แบรนด์ต่างๆ สร้างสีด้วยตนเองทุกครั้งเมื่อมีการพัฒนาแพ็กเกจจิ้งใหม่ เปลี่ยนตัวสีโลโก้ใหม่ หรือก่อนที่จะรีแบรนด์หรือออกแบบเว็บไซต์ใหม่ แต่ตอนนี้ด้วย Firefly นักออกแบบสามารถเพิ่มความรวดเร็วให้กับขั้นตอนการลงสีได้อย่างมาก และทำให้มีเวลามากขึ้นในการทำงานอื่นๆ ที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/btS9bkKYGJDTQ8F61GEz.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="btS9bkKYGJDTQ8F61GEz.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1440,810" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา อะโดบีเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรม AI จำนวนมาก และได้นำเสนอฟีเจอร์อัจฉริยะของ Adobe Sensei หลายร้อยรายการบน Creative Cloud, Document Cloud และ Experience Cloud ส่วน Firefly ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มุ่งเน้นไปที่การสร้างรูปภาพและเอฟเฟ็กต์ข้อความในระยะเริ่มต้นและ Firefly ได้กลายเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีรุ่นเบต้าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอะโดบี โดยผู้ใช้ Photoshop สามารถสร้างภาพได้มากกว่า 150 ล้านภาพในเวลาเพียงสามสัปดาห์โดยใช้ ฟีเจอร์ Generative Fill ที่ขับเคลื่อนโดย Firefly&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แอชลีย์ สติล รองประธานอาวุโสฝ่ายสื่อดิจิทัลของอะโดบี กล่าวว่า “Adobe Illustrator เป็นเครื่องมือที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบผลงานที่โดดเด่นที่สุดในโลกมากมาย ตั้งแต่โลโก้แบรนด์ไปจนถึงแพ็กเกจจิ้งสินค้า Firefly จะช่วยให้ลูกค้าเร่งขั้นตอนการทำงานครีเอทีฟ และประหยัดเวลาได้หลายชั่วโมง และขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มความสะดวกในการคิดค้นไอเดีย การทดลอง และการสร้างชิ้นงานอย่างรวดเร็ว”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การบูรณาการ Firefly เข้ากับ Illustrator โดยตรง แสดงให้เห็นถึงความพยายามของอะโดบีที่จะยกระดับเวิร์กโฟลว์งานครีเอทีฟทั้งหมด ด้วยการเพิ่มความรวดเร็ว ความแม่นยำ และประสิทธิภาพ Firefly คือบริการ AI ที่โดดเด่นที่สุดในตลาด ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ และสามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัยเข้ากับเวิร์กโฟลว์ของครีเอเตอร์โดยตรง อะโดบีวางแผนที่จะช่วยให้องค์กรและแบรนด์ต่างๆ สามารถปรับแต่ง Firefly โดยใช้แอสเสทของแบรนด์เอง และสร้างคอนเทนต์ตามแนวทางและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยใช้ API เพื่อเพิ่มการทำงานแบบอัตโนมัติ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ องค์กรต่างๆ จะได้รับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาจากอะโดบี สำหรับคอนเทนต์ที่สร้างด้วยเวิร์กโฟลว์ที่ขับเคลื่อนด้วย Firefly ซึ่งจะช่วยให้สามารถนำไปใช้งานทั่วทั้งองค์กรได้อย่างมั่นใจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; Geneative Recolor สะท้อนตัวตนและวิสัยทัศน์ของคุณในรูปแบบเวกเตอร์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Generative Recolor ที่เปิดตัวล่าสุดนี้ จะช่วยปรับปรุงการทำงานของ Illustrator ด้วยความสามารถที่น่าทึ่งของ Generative AI ฟีเจอร์ใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อตรวจจับจุดสำคัญของภาพ เช่น “เที่ยงวันในทะเลทราย” หรือ “เที่ยงคืนในป่า” แล้วแปลเป็นธีมแบบกำหนดเอง เพื่อเปลี่ยนสีของอาร์ตเวิร์กแบบเวกเตอร์ เทคโนโลยีรุ่นบุกเบิกนี้จะลงสีให้กับภาพกราฟิกแบบเวกเตอร์ที่ซับซ้อนแบบอัติโนมัติ โดยอ้างอิงจากข้อความคำสั่งง่ายๆ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาได้อย่างมาก เพราะศิลปินไม่จำเป็นต้องทำการแก้ไขวัตถุแต่ละชิ้นด้วยตนเอง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Generative Recolor ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับกระบวนการด้านครีเอทีฟอย่างมาก และเหมาะสำหรับทุกสิ่งตั้งแต่โลโก้ของแบรนด์ไปจนถึงกราฟิกด้านการตลาดและโฆษณา ภาพวาดและภาพประกอบดิจิทัล หรือการนำเสนอแรงบันดาลใจและการสร้างอารมณ์ นักออกแบบสามารถทดสอบดีไซน์แพ็กเกจจิ้งของสินค้า ซึ่งครอบคลุมตัวเลือกสีต่างๆ ดูโฆษณาในรูปแบบที่แตกต่างตามฤดูกาลหรือเทศกาล และสร้างภาพประกอบโดยใช้ชุดสีที่หลากหลายนับไม่ถ้วน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Generative Recolor นำเสนอโอกาสที่น่าตื่นเต้นมากมายสำหรับนักออกแบบ เช่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตรวจจับสีได้เร็วขึ้น : ประหยัดเวลาด้วยการเปลี่ยนสีกราฟิกอย่างรวดเร็วและชาญฉลาด โดยใช้ข้อความคำสั่งง่ายๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ค้นหาและเปลี่ยนแปลงสี : ทดลองอย่างง่ายดายโดยใช้สี จานสี และธีมต่าง ๆ เพื่อให้ได้รูปลักษณ์และความรู้สึกที่เหมาะสมสำหรับงานอาร์ตเวิร์กของคุณ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สร้างชุดสีที่หลากหลาย : สร้างสีสันต่างๆ ที่หลากหลายจากไฟล์อาร์ตเวิร์กไฟล์เดียว สำหรับใช้บนโซเชียลมีเดีย สื่อสิ่งพิมพ์ และเว็บ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; นวัตกรรมใหม่อื่นๆ ของ Adobe Illustrator&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Illustrator รุ่นล่าสุดยังประกอบด้วยฟีเจอร์และนวัตกรรมใหม่ ๆ อีกมากมาย เช่น Retype (รุ่นเบต้า), ฟังก์ชั่น Layers ใหม่ ๆ และการปรับปรุง Image Trace ซึ่งจะช่วยให้สามารถทำการสร้างสรรค์ได้รวดเร็วและง่ายดายกว่าที่เคย อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ความพร้อมใช้งาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Generative Recolor และ Retype พร้อมใช้งานแล้ววันนี้ ในรูปแบบฟีเจอร์เบต้าใน Illustrator พร้อมการปรับปรุง Layers และ Image Trace&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/70436" alt="utu ได้เงินทุน 33 ล้านเหรียญ เข้าซื้อกิจการ CardsPal ปฎิวัติวงการ Vat refund">utu ได้เงินทุน 33 ล้านเหรียญ เข้าซื้อกิจการ CardsPal ปฎิวัติวงการ Vat refund</a>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

Adobe Illustrator ใช้ Firefly สร้าง "Generative Recolor" ฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำ หนุนศักยภาพครีเอเตอร์ทุกระดับ

บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์ Adobe เล็งเปิดสำนักงานในประเทศไทยในย่านใจกลางธุรกิจหลังมองเห็นศักยภาพการเติบโตสูงเหมาะกับการเป็นฮับในภูมิภาคอินโดจีน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไซมอน เดล รองประธานบริหาร และกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกาหลี Adobe (อะโดบี) กล่าวว่า อะโดบีได้ลงทุนเปิดสำนักงานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การจัดตั้งสำนักงานแห่งใหม่นี้สะท้อนให้เห็นถึงการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัท เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจโดยสาเหตุที่เลือกประเทศไทย เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ โอกาสเติบโตสูง และอนาคตมีโอกาสที่จะกลายเป็นฮับสำหรับทำตลาดในภูมิภาคอินโดจีน&nbsp; &nbsp; การลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นนัยสำคัญ หลังจากที่อะโดบีไม่ได้ขยายสำนักงานระดับท้องถิ่นเพิ่มเติมมาเป็นเวลานาน ด้านของเป้าหมาย แน่นอนว่าคาดหวังว่าจะสามารถเติบโตได้มากขึ้น ขณะเดียวกันไทยจะสามารถสร้างสัดส่วนรายได้ให้กับภูมิภาคนี้ได้มากขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อะโดบีมองไทยเป็นตลาดที่สำคัญมาโดยตลอด ด้วยความโดดเด่นทั้งเชิงของขนาด ฐานลูกค้า ความพร้อมด้านดิจิทัลอินฟราสตรักเจอร์ ภาคธุรกิจพร้อมที่จะทรานส์ฟอร์มไปสู่ดิจิทัล ส่วนของผู้คนเปิดรับการใช้บริการบนดิจิทัลอย่างมาก&nbsp;อีกทั้งหากมองในเชิงรายได้และฐานลูกค้าของอะโดบีเอง ไทยครองอันดับ 2 ของภูมิภาคเป็นรองเพียงสิงคโปร์เท่านั้น <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/Z9tS1bJhpuk6mqoqaay6.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Z9tS1bJhpuk6mqoqaay6.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำนักงานแห่งใหม่ในไทยนั้นจะตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ ภายในอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการรับรอง LEED Platinum โดยเป็นสถานที่ทำงานแบบไฮบริดที่ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกันและติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างราบรื่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับพื้นที่ทำงานร่วมกันมีสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัย ออกแบบมาเพื่อรองรับการประชุมของทีม และการประชุมกับลูกค้า ตลอดจนโต๊ะทำงานและห้องประชุมที่สามารถใช้งานได้ทันที เพื่อเพิ่มความสะดวกในการติดต่อสื่อสารอย่างราบรื่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อะโดบีหวังว่าจะสามารถมอบประสบการณ์การทำงานที่ดีเยี่ยมให้กับพนักงาน สอดรับกับบุคลิกเฉพาะตัวของพนักงาน และช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่พนักงานในการนำเสนอประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่ลูกค้าโดยเชื่อว่าสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการเติบโต อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://www.forbesthailand.com/other/news/%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9D%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%95%E0%B9%82%E0%B8%95-10-%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89-1-5-%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99" alt="ส่งออกอาหารฝ่าวิกฤตโต 10% ลุ้นทำนิวไฮปีนี้ 1.5 ล้านล้าน">ส่งออกอาหารฝ่าวิกฤตโต 10% ลุ้นทำนิวไฮปีนี้ 1.5 ล้านล้าน</a><hr class="__se__solid">​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine" style="font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; text-align: var(--bs-body-text-align);">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

 Adobe เล็งเปิดสำนักงานในไทยมั่นใจศักยภาพหนุนให้เป็นฮับ “อินโดจีน”

<h2>หากพูดถึงซอฟต์แวร์ตัดต่อ เกือบทุกคนต้องนึกถึง Adobe ไม่ก็ Canva และล่าสุดทาง Adobe ได้เปิดตัว Creative Cloud Express พร้อมกลับมาเป็นผู้นั่งบัลลังก์เจ้าแห่งซอฟต์แวร์สายครีเอทีฟแต่เพียงผู้เดียว</h2>
Adobe เจ้าของเครื่องมือสุดล้ำมากมายผู้โด่งดัง ขวัญใจสายงานครีเอทีฟ ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่าจะทำการเปิดตัวแอปพลิเคชั่นใหม่ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใช้งานใหม่ในโลกของครีเอเตอร์ ตั้งแต่เจ้าของกิจการเล็กๆ และนักเรียน จนไปถึงโซเชียลมีเดียอินฟลูเอนเซอร์

<img class="alignnone wp-image-55554 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/12/Adobe_Forbes.jpg" alt="Adobe" width="719" height="480" />

แอปพลิเคชั่นน้องใหม่นี้จะเปิดตัวภายใต้ชื่อ Creative Cloud Express ซึ่งจะเป็นเป็นแอปพลิเคชั่นบนหน้ามือถือ และเว็บไซต์แบบฟรี และเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีต่างๆ จะซอฟต์แวร์อันโด่งดังอย่าง Photoshop, Premiere Pro และ Acrobat

แอปพลิเคชั่นดังกล่าวถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการสร้างโพสต์บนโลกโซเชียล, โลโก้ธุรกิจ และแผ่นพับต่างๆ, งานโรงเรียน และอีกมากมาย สิ่งที่ Creative Cloud Express พร้อมมอบให้กับผู้ใช้ทุกคนนั้น ดูคลับคล้ายคลับคลากับ Canva

Canva นับเป็นบริษัทระดับ Deracron และมาจากออสเตรเลีย โดย ณ เดือนกันยายนมีมูลค่าถึง 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังจากที่สามาถระดมทุนได้ถึง 200 ล้านเหรียญ ในขณะเดียวกัน Adobe มีมูลค่า ณ ราคาตลาดอยู่ที่ราวๆ 3.10 แสนล้านเหรียญ

"ในส่วนของคุณค่าที่ส่งมอบให้ลูกค้า รวมถึงคำถามว่าพวกเขาเล็งเป้าหมายไปที่ใคร และพยายามกำลังจะทำอะไรอยู่นั้น ผมคิดว่ามันเป็นการเคลื่อนตัวเข้าใส่ Canva เลยล่ะ" Chris Ross นักวิเคราะห์จาก Gartner กล่าว "และหากว่าคุณคือ Canva ล่ะก็ คุณก็คงจะต้องคิดหนักกับเรื่องนี้อยู่ ผมคิดว่านะ"

บริษัทเจ้าของซอร์ฟแวร์ชื่อดังมากมายนี้ใช้กลยุทธ์ดังกล่าวมาได้หลายปีแล้ว แต่ตอนนี้มีสถานการณ์โรคระบาดเป็นเสมือนคันเร่ง "เราเห็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคมครั้งใหญ่ และการเปลี่ยนแปลงนั้นก็ส่งผลต่อคนทุกกลุ่ม" David Wadwhani ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจของทางบริษัทกล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์

และเขายังได้กล่าวอีกว่า "มีธุรกิจเปิดตัวใหม่กว่า 4.4 ล้านบริษัทในปี 2020 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเลย และ<a style="color: #993300;" href="https://www.cnbc.com/2019/07/19/more-children-dream-of-being-youtubers-than-astronauts-lego-says.html">ผลสำรวจจาก Lego</a> ก็แสดงให้เห็นว่า หากคุณลองไปคุยกับเด็กๆ วันนี้ พวกเขามีแนวโน้มที่อยากจะเป็นยูทูปเบอร์มากกว่าอยากจะเป็นนักบินอวกาศถึง 3 เท่า"

Wadwhami ยังได้กล่าวด้วยว่า ทางบริษัทเชื่อว่าแอปพลิเคชั่นใหม่นี้จะสามารถดึงลูกค้าใหม่ให้กับแพลตฟอร์มใหม่ของทางบริษัทได้ถึง 100 ล้านคนเลยทีเดียว

<figure><img class="wp-image-55556 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/12/Adobe_Creative-Cloud-Express_Templates.jpg" alt="Adobe_Creative Cloud Express_Templates" width="720" height="410" /><figcaption> (Photo Credits: Technoglitz)</figcaption></figure>

Creative Cloud Express จะมีฟอนต์ให้ใช้กว่า 20,000 รูปแบบ และรูปภาพจากคลังของของทางบริษัทที่ปลอดค่าลิขสิทธิ์ถึง 175 ล้านรูปอีกด้วย แม้ว่ายังคงมีฟีเจอร์บางอย่างที่หลบซ่อนอยู่หลังกำแพงค่าบริการ นี้ก็ถือเป็นผลิตภัณฑ์ฟรีที่น่าประทับใจใช่เล่น

แต่ผลิตภัณฑ์น้องใหม่นี้ก็อาจจะมาพร้อมกับอุปสรรคใหม่สำหรับบริษัทนี้ด้วย Ross กล่าว "ผมคิดว่าหนึ่งในสิ่งที่ท้าทายบริษัทที่สุดคือ การกำหนดว่าพวกเขาจะขีดเส้นจำกัดความสามารถของแอปนี้ตรงไหน 

ยกตัวอย่างนะ หากคุณกำลังใช้ Creative Cloud Express เพื่อปรับรูปภาพ หรือตัดต่อวิดีโออยู่ พวกเขาจะทำอย่างไรให้ Creative Cloud Express แตกต่างจากเครื่องมืออื่นๆที่ทรงพลังกว่าเยอะของพวกเขาเอง" เช่น Photoshop หรือไม่ก็ Illustrator ที่ต้องเสียค่าบริการในการใช้ เขากล่าวทิ้งท้าย

แปลและเรียบเรียงโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร จากบทความ Adobe Releases New Set Of Creative Tools Aimed At Canva’s Offerings เผยแพร่บน ​Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/fashionphile-%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b9%89-%e0%b8%95%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%94-%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%aa%e0%b8%ad.html">Fashionphile ชี้ ตลาด 'ลักชัวรีมือสอง' ราคาพุ่ง</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Adobe เปิดตัว Creative Cloud Express มุ่งเอาใจครีเอเตอร์

[JUST 100] เมื่อองค์กรอเมริกัน “กำกับตนเอง” เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

100 The World’s Most Innovative Companies ที่จัดอันดับโดย Forbes ได้คำนวนค่าคะแนนนวัตกรรมจากบริษัททั่วโลก เราขอนำเสนอ 7 บริษัทเด่นที่ติดใน 100 รายชื่อ ประจำปี 2018

<img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/542096a175272b04906bb731e8e6a994.jpg" alt="" />
อันดับที่ 13
Adobe Systems
ค่าคะแนนนวัตกรรม 62.38
ซอฟต์แวร์ประยุกต์, สหรัฐฯ

ในเดือนพฤศจิกายน 2016 Adobe ได้เปิดตัวซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์และแมชีนเลิร์นนิ่งอย่าง Sensei (เป็นภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า “อาจารย์”) ซึ่งมีคุณสมบัติอย่างเช่น สามารถจดจำใบหน้าคนในไฟล์ Photoshop และสามารถปรับเปลี่ยนการแสดงออกทางสีหน้าของผู้คนในภาพโดยไม่ทำให้ภาพนั้นสูญเสียความเป็นธรรมชาติ เป็นต้น Sensei สามารถใช้ได้กับทุกผลิตภัณฑ์บนคลาวด์ของ Adobe “ด้วยเหตุนี้เอง คุณจึงสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากกว่าที่เคยด้วยระบบเพียงระบบเดียว” Alex Zukin นักวิเคราะห์ของ Piper Jaffray กล่าว – Igor Bosilkovski รายงาน

<img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/95a749d1b481143f28187ba87cc1ecd2.jpg" alt="" />
อันดับที่ 23
CP ALL
ค่าคะแนนนวัตกรรม 57.32
ธุรกิจค้าปลีกอาหาร, ไทย

แม้จะเป็นผู้รับบริหารแฟรนไชส์จากต่างประเทศ บมจ.ซีพีออลล์ ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนารูปแบบและวิธีการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ รวมทั้งขยายกิจการไปธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องเช่น การผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็ง เบเกอรี่ อาหารพร้อมรับประทาน การจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ค้าปลีก โลจิสติกส์ การศึกษา บริการธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางต่างๆ และแอพพลิเคชั่นที่ผสานพลังกับ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่นที่อยู่ในเครือเจริญโภคภัณฑ์เช่นเดียวกัน รวมทั้งธุรกิจค้าส่ง โดย บมจ.สยามแม็คโคร - Forbes Thailand รายงาน

<img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/18f3c5aede3f73f0cd9acdb36de20560.jpg" alt="" />
อันดับที่ 40
ORIENTAL LAND
ค่าคะแนนนวัตกรรม 46.28
อุปกรณ์เพื่อนันทนาการ, สหรัฐฯ

Oriental Land เป็นเจ้าของและผู้ซึ่งได้รับสิทธิบริหาร Tokyo Disneyland และ Tokyo DisneySea โดยสวนสนุกทั้งสองแห่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้กว่า 30 ล้านคนในปีที่ผ่านมาทำให้เป็น 2 ใน 3 สวนสนุกที่มีจำนวนผู้ใช้บริการมากที่สุดในเอเชีย ปัจจุบัน Oriental Land ได้เปิดตัวแอพฯ เพื่อลดปัญหาความแออัด โดยผู้ใช้บริการสามารถซื้อตั๋ว จองโรงแรมและร้านอาหาร รวมถึงสามารถตรวจสอบระยะเวลารอคอยเพื่อเล่นเครื่องเล่นได้จากสมาร์ทโฟนของตัวเอง “Oriental Land มีความยืดหยุ่นมากกว่าที่เคยในการนำเทคโนโลยีต่างๆอย่างเช่นสมาร์ทโฟนมาใช้งาน”

S. Takeuchi นักวิเคราะห์ของ Jefferies Group กล่าว นอกจากนี้บริษัทยังได้ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างระบบการจดจำภาพถ่ายใบหน้าคน ซึ่งสามารถคัดกรองผู้ถือบัตรผ่านประตูแบบรายปีได้ ในอดีต Oriental Land จำกัดการใช้นวัตกรรมต่างๆ ในสวนสนุกของตนเนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เสียบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมนต์ขลัง – Prisca Ang รายงาน
<img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/a19dae1cdea7fe219ccfa9719849e2fd.jpg" alt="" />
อันดับที่ 48
DASSAULT SYSTÈMES
ค่าคะแนนนวัตกรรม 43.76
ซอฟต์แวร์ประยุกต์, ฝรั่งเศส

แพลตฟอร์มการออกแบบและการจำลองแบบเสมือน 3 มิติ สำหรับภาคธุรกิจของ Dassault ช่วยเพิ่มพลังให้กับธุรกิจต่างๆ ใน 14 กลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึง Tesla, Exxon Mobil และ Pfizer ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว Boeing ได้ทำสัญญากับ Dassault (ซึ่งทำรายได้ 3.8 พันล้านเหรียญ) ในการผนวกรวมแพลตฟอร์ม 3DExperience เข้ากับโครงการพัฒนาด้านการบิน อวกาศ และการป้องกันภัยทางอากาศของตน “สิ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับ Dassault ก็คือพันธสัญญาระยะยาวที่จะนำรายได้ของบริษัทในสัดส่วนที่สูงมากกลับไปลงทุนใหม่กับการวิจัยและพัฒนา สิ่งนี้เป็นวัฒนธรรมขององค์กรมาเป็นเวลานานหลายทศวรรษแล้ว” Jay Vleeschhouwer จาก Griffin Securities กล่าว Dassault ยังมียอดขายที่แข็งแกร่งจากผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ช่วยการออกแบบของบริษัทอย่าง Catia V6 และ Solidworks อีกด้วย – Carter Coudriet รายงาน

<img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/9ff1d31ff8969f2d949a3c46510bc590.jpg" alt="" />
อันดับที่ 69
YAHOO JAPAN
ค่าคะแนนนวัตกรรม 40.38
ซอฟต์แวร์และบริการอินเทอร์เน็ต, ญี่ปุ่น

ในขณะที่ชื่อของ Yahoo ในสหรัฐฯ เสื่อมความนิยมลงเรื่อยๆ แต่ Yahoo Japan กลับเติบโตขึ้นจนกลายเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศญี่ปุ่น Yahoo Japan ได้แต่งตั้ง Kentaro Kawabe ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่เมื่อช่วงต้นปีนี้ Kawabe กำลังพยายามขับเคลื่อนบริษัทแห่งใหม่ของเขาด้วยการลงทุนเพิ่มกับการชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลและการโฆษณา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวในเดือนเมษายนที่ผ่านมา Yahoo Japan ได้เข้าซื้อหุ้น 40% ในบริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินคริปโตใน Tokyo อย่าง BitArg โดยผ่านบริษัทในเครือของตนอย่าง Z Corp. นอกจากนี้ Kawabe ก็กำลังเดินหน้าในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ รวมถึง Softbank บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นซึ่งถือหุ้น 42% ใน Yahoo Japan ก็ได้มอบสิทธิพิเศษสุดๆ ให้กับผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือของบริษัทซึ่งซื้อสินค้าผ่าน Yahoo Japan อีกด้วย – P.A. รายงาน

<img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/7c1c481e17539bd43020adb8218dcdd8.jpg" alt="" />
อันดับที่ 70
UNILEVER
ค่าคะแนนนวัตกรรม 39.62
ของใช้ส่วนตัว, เนเธอร์แลนด์

ความยั่งยืนเป็นเรื่องสำคัญมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต และ Unilever ก็รับลูกอย่างเต็มที่ ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งมียอดขาย 6 หมื่นล้านเหรียญ ได้ให้คำมั่นสัญญาในปีที่ผ่านมาว่าจะทำให้บรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งหมดของบริษัทสามารถนำไปรีไซเคิลได้ นำกลับมาใช้ใหม่ได้ หรือย่อยสลายได้ ภายในปี 2025 Unilever ได้จับมือกับบริษัทเคมีภัณฑ์อย่าง Indorama Ventures และธุรกิจสตาร์ทอัพสัญชาติเนเธอร์แลนด์อย่าง Ioniqa เพื่อค้นหาเทคโนโลยีในการย่อยพลาสติกธรรมดาให้อยู่ในรูปที่ปลอดสารปนเปื้อนและสามารถนำไปรีไซเคิลได้ Unilever ไม่เพียงแค่ลดการใช้ขวดพลาสติกเท่านั้นแต่ยังแบ่งปันวิธีการเพื่อให้บริษัทอื่นๆ สามารถนำไปปฏิบัติตามได้อีกด้วย “เราคิดว่าการที่เราเปิดโอกาสให้มีการนำเทคโนโลยีนั้นไปใช้ในวงกว้างขึ้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง” David Blanchard ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ Unilever กล่าว – C.C. รายงาน

<img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/d63531e6c66d97e1e278330425113a6e.jpg" alt="" />
อันดับที่ 83
HERSHEY
ค่าคะแนนนวัตกรรม 37.56
อาหารสำเร็จรูปและเนื้อสัตว์, สหรัฐฯ

Hershey Co. ก่อตั้งขึ้นในปี 1894 แต่มีวิวัฒนาการและนวัตกรรมใหม่ๆ ในอัตราเร่งเท่ากับบริษัทซึ่งมีอายุ (และขนาด) เพียง 1 ใน 10 ของตน ในเดือนธันวาคมเพียงเดือนเดียว บริษัทเปิดตัว “ช็อกโกแลตแบบที่ 4” หรือ Hershey Gold ซึ่งเป็นครีมคาราเมลแท่งสีเหลืองอำพันที่เรียงแถวต่อจากไวท์ช็อกโกแลต มิลค์ช็อกโกแลต และดาร์กช็อกโกแลตซึ่งผู้คนคุ้นเคยมากกว่า นอกจากนี้ยังได้ทุ่มงบประมาณ 1.6 พันล้านเหรียญเพื่อซื้อกิจการ Amplify Snack Brands ผู้ผลิตข้าวโพดคั่ว SkinnyPop ในปีนี้บริษัทต้องการจะปรับปรุงผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของตน และให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงเลิกผลิตสินค้าที่วางจำหน่ายเฉพาะในช่วงเทศกาลพิเศษ “วิสัยทัศน์ของเราก็คือเป็นเจ้าแห่งขนมหวานที่มีสุดยอดนวัตกรรม ซึ่งเราเชื่อว่าเราเดินมาถูกทางแล้วตามเทรนด์ของผู้บริโภคที่ ‘กินขนมหวานมากขึ้น และมองหาตัวเลือกใหม่ๆ มากขึ้น’” Michele Buck ซีอีโอ Hershey กล่าว – Maggie McGrath รายงาน

<hr />

<a href="http://bit.ly/2vFS9h0">คลิกอ่านการจัดอันดับ "The World’s Most Innovative Companies" ฉบับเต็มได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand เดือนสิงหาคม 2561 ในรูปแบบ e-Magazine</a>

<a href="http://bit.ly/2vFS9h0"><img class="" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/0bbafba6d1ac7ee542952c8eb0e9c4c7.jpg" alt="" width="184" height="253" /></a>
<div class="clearfix"></div>

7 บริษัทเทคโนโลยีเด่นดัง จากการจัดอันดับ 100 บริษัทสุดยอดนวัตกรรมโลก

ความคิดสร้างสรรค์ดีๆ จะพรั่งพรูขึ้นในช่วงเวลาแห่งแรงบันดาลใจ อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถเร่งรัดนวัตกรรมความคิดให้เกิดขึ้นมาทันทีได้ นวัตกรรมเป็นสิ่งที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลาเพื่อตกตะกอน และมักเกิดขึ้นเมื่อเราออกไปเจอโลกกว้างนอกห้องสี่เหลี่ยม “ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร” Bill Joy บุคคลชื่อดังในวงการเทคโนโลยีกล่าว “บรรดาหัวกะทิส่วนใหญ่มักทำงานให้กับคนอื่น” บริษัทที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดนวัตกรรมของโลกที่ได้พัฒนาและต่อยอดความคิดสร้างสรรค์มากมายยอมรับว่าความคิดดีๆ ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายอย่างที่เห็น

<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/November%202015/001.jpg" alt="" width="344" height="239" />


ADOBE คิดในกรอบ
อัตราเติบโตย้อนหลัง 5 ปี/ ผลตอบแทนรวมย้อนหลัง 5 ปี: 33%/ 167%

คุณจะทำอย่างไรถ้ามีคนให้เงินคุณ 1,000 เหรียญเพื่อเป็นทุนสำหรับการปั้นไอเดียของคุณ? Adobeเพิ่งทำเช่นนั้น
ด้วยการริเริ่มโครงการ Kickbox เมื่อปลายปี 2012 โดยพนักงานจะได้รับกล่องของขวัญสีแดงภายในบรรจุด้วยบัตรเดบิตมูลค่า 1,000 เหรียญ บัตรของขวัญจาก Starbucks  ช็อคโกแลต แบบทดสอบและขั้นตอนการทำภารกิจ

หลังผ่านการแนะนำเริ่มแรกก็ถึงเวลาที่พวกเขาต้องเริ่มลงมือ “นวัตกรรมอาจฟังดูเป็นเรื่องนามธรรม ผมจึงอยากให้พนักงานสัมผัสถึงสิ่งที่จับต้องได้” Mark Randall ประธานบริหารฝ่ายกลยุทธ์ของ Adobeกล่าว จนถึงปัจจุบัน Adobe ได้แจกจ่ายกล่องของขวัญไปแล้วมากกว่า 1,000 กล่อง และมี 24 แนวคิดที่ดีพอจะนำไปต่อยอดพัฒนาในขั้นต่อไป ซึ่งเจ้าของความคิดดังกล่าวจะได้รับภารกิจกล่องสีน้ำเงินที่บรรจุคำแนะนำที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับแต่ละแนวคิด ทั้งนี้ มี 2 แผนแนวคิดที่ทำให้ Adobe สนใจเข้าซื้อ Fotolia แหล่งซื้อขายภาพถ่ายออนไลน์ ส่วนอีกผลงานหนึ่งได้แก่การสร้าง Knowhow เว็บไซต์เพื่อการเรียนรู้การสร้างสรรค์งานออกแบบออนไลน์

<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/November%202015/005.jpg" alt="" width="346" height="240" />


KONE ห้องทดลอง ณ ความสูงที่สุดในโลก
อัตราเติบโตย้อนหลัง 5 ปี/ ผลตอบแทนรวมย้อนหลัง 5 ปี: 42%/ 124%

ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตลิฟต์และบันไดเลื่อนสัญชาติฟินแลนด์ต้องพยายามตอบสนองความต้องการลูกค้าบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จะก่อสร้างอาคารที่สูงที่สุดในโลก หนึ่งในข้อจำกัดของการก่อสร้างอาคารสูงระฟ้าคือความแข็งแรงและประสิทธิภาพของสายสลิงเหล็กที่เป็นตัวยึดติดกับตัวลิฟต์ สายสลิงที่ใช้กันในปัจจุบันมีความยืดหยุ่นและน้ำหนักมากเกินไปซึ่งจะทำให้สูญเสียพลังงานสูงเมื่อลิฟต์มีการเคลื่อนไหว ลิฟต์จะหยุดการทำงานหากอาคารมีการสั่นและแกว่งตัวมากเกินไป

Kone เพิ่งช่วยให้สถาปนิกนักออกแบบอาคารทำงานได้อย่างสบายใจมากขึ้นด้วย UltraRope ใหม่ล่าสุดที่มีน้ำหนักเบาพิเศษ ซึ่งสามารถรับน้ำหนักและขนส่งลิฟต์ไปยังความสูงถึง 3,280 ฟุต ต่อมา Kone ได้รับเลือกให้เป็นผู้ติดตั้งลิฟต์ในโครงการก่อสร้างอาคาร Kingdom Tower ของ Saudi Arabia ซึ่งจะทำลายสถิติเป็นอาคารระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก Kone คิดค้น UltraRope ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัทใน Hyvinkaa ประเทศฟินแลนด์และพัฒนาจนสมบูรณ์แบบที่เหมืองหินปูน Tytyri ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับทดสอบลิฟต์ของ Kone โดยสามารถทดสอบการใช้งานลิฟต์ในระยะทางความสูง 1,040 ฟุตและและขนส่งรถยนต์ขึ้นลงที่ความเร็ว 38 ไมล์ต่อชั่วโมง


<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/November%202015/002.jpg" alt="" width="356" height="246" />


BAIDU หวั่นอันตรายน้ำมันทอดซ้ำ
อัตราเติบโตย้อนหลัง 5 ปี/ ผลตอบแทนรวมย้อนหลัง 5 ปี: 991%/ 117%

หลังจากเกิดข่าวอื้อฉาวในจีนเกี่ยวกับการใช้น้ำมันพืชทอดซ้ำและเหม็นหืนมาประกอบอาหารในร้านอาหาร เมื่อไม่นานมานี้ Baidu ได้เปิดตัว Smart Chopsticks รุ่นต้นแบบซึ่งมีตัวตรวจจับและสามารถแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อพบน้ำมันที่ถูกนำกลับมาใช้ซ้ำหลายครั้ง นอกจากนี้ ยักษ์ใหญ่ด้านการค้นหาออนไลน์ของจีนยังจับมือกับ Tsinghua University ในการพัฒนาอุปกรณ์ที่ช่วยผู้พิการทางสายตาป้อนและอ่านข้อมูลด้วยอักษรเบรลล์และส่งคำสั่งด้วยเสียง

<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/November%202015/004.jpg" alt="" width="345" height="240" />

Shimano ปั่นขึ้นเขาให้ไกลขึ้น
Shimano บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาสัญชาติญี่ปุ่นมีทิศทางเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องจากการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งเหล่าสิงห์นักปั่นจักรยานเสือภูเขาถูกใจชุดเฟือง Deore ที่มีน้ำหนักเบาพิเศษอย่างมาก

<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/November%202015/003.jpg" alt="" width="354" height="245" />


เครื่องบินพลังงานแสงอาทิตย์
ซอฟต์แวร์ CAD ของ Dassault Systèmes ถูกนำไปใช้ในการออกแบบและสร้าง Solar Impulse 2เครื่องบินซึ่งไม่ต้องพึ่งน้ำมันเชื้อเพลิงที่กำลังเตรียมบินรอบโลก
&nbsp;

<hr />

<a href="http://goo.gl/c1X97V">คลิ๊กอ่าน "Top 100 Innovators บริษัทสุดยอดนวัตกรรมของโลก" ฉบับเต็มได้ที่ Forbes Thailandฉบับ NOVEMBER 2015</a>

<a href="http://goo.gl/c1X97V"><img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/November%202015/Cover.jpg" alt="" width="392" height="522" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events