<h2>แอสเซทไวส์ ตั้งเป้าปี 68 ยอดขาย 19,500 ล้าน โตจากปีก่อน 20% เตรียมเปิดตัว 10 โครงการ รุกตลาดภูเก็ตต่อเนื่อง พร้อมขยายธุรกิจใหม่เพิ่มทั้งเอนเตอร์เทนเมนต์, คอมมูนิตี้มอลล์ และ Health &amp; Wellness </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร&nbsp;บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)&nbsp;หรือ&nbsp;ASW เผยว่า ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 20&nbsp;แอสเซทไวส์สามารถทำยอดขายปี 2567&nbsp;ได้ถึง 19,330&nbsp;ล้านบาท สูงเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ และเติบโตขึ้นกว่า 17% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในปี 2568 แอสเซทไวส์ เตรียมแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่ารวม 22,000&nbsp;ล้านบาท&nbsp;แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม&nbsp;8 โครงการ มูลค่ารวม 20,500 ล้านบาท&nbsp;ผ่านแบรนด์หลักอย่าง KAVE, ATMOZ และ MODIZ พร้อมสานต่อความสำเร็จของโครงการ Leisure Residences&nbsp;ในภูเก็ตแบรนด์ THE TITLE&nbsp;ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)&nbsp;หรือ TITLE&nbsp;ในเครือแอสเซทไวส์&nbsp;และโครงการแนวราบ 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,500&nbsp;ล้านบาท&nbsp;เตรียมขยายแบรนด์ THE TITLE สู่โครงการ Luxury Villa เป็นครั้งแรกอีก 2 โครงการบนทำเลหาดในยางและเชิงทะเล <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/onLgTNqtSPa1jGwRQRBg.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="onLgTNqtSPa1jGwRQRBg.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;"ในส่วนของคอนโดเพื่อการลงทุนจะเห็นได้ว่ามีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงสู่ภาะปกติ อีกทั้งความต้องการของบรรดานักศึกษาต่างชาติในการพักอาศัยอยู่ตามคอนโดติดสายรถไฟฟ้าสีต่างๆ เพื่อการเดินทางไปสถานศึกษาได้อย่างสะดวกก็มีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการลงทุนสำหรับปล่อยเช่าก็น่าจะโตเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเราจึงวางโครงการใหม่ไว้ตามทำเลสถานศึกษาให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการรุกตลาดอสังหาฯ และธุรกิจใหม่อื่นๆ ที่มีศักยภาพในจ.ภูเก็ต ก็น่าจะช่วยหนุนให้รายได้ในปีนี้เป็นไปตามเป้าได้มากขึ้น" ผู้บริหารของแอสเซทไวส์ กล่าวเสริม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับเป้าหมายยอดขายและรายได้ในปี 2568 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 19,500&nbsp;ล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 10,500&nbsp;ล้านบาท เติบโต 20% จากปี 2567 ขณะเดียวกัน แอสเซทไวส์ยังมีโครงการสร้างเสร็จใหม่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2568&nbsp;ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวม 14,050 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สิ้นปี 2567 มูลค่ารวมกว่า&nbsp;25,200 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นโครงการในกรุงเทพฯ ปริมณฑล จำนวน 12,600&nbsp;ล้านบาท โครงการในทำเล EEC จำนวน 2,700 ล้านบาท และโครงการในภูเก็ตอีกกว่า 9,900&nbsp;ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้สร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทอย่างต่อเนื่องจนถึงปี&nbsp;2570&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ บริษัทยังขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) โดยเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพและเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของคนทุกเจเนอเรชันผ่านบริษัทย่อยในเครือ เริ่มจากธุรกิจ Health &amp; Wellness&nbsp;ผ่าน WHB&nbsp;ให้บริการ Rocket Fitness ฟิตเนสทางเลือกใหม่ในราคาและทำเลเข้าถึงง่าย และ Vitala คลินิกกายภาพบำบัดและฟื้นฟูร่างกาย&nbsp;&nbsp; &nbsp; และมีแผนขยายสาขาต่อเนื่องในธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ ผ่าน ZAAP World ในการจัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์ต่างๆ โดยในปีที่ผ่านมาได้จัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์ไปแล้วกว่า 40 งาน อาทิ SangSom MOONLAB งานอาร์ตแลนด์มาร์กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี, SkyTrain Music Fest เทศกาลดนตรีบนรถไฟฟ้าครั้งเเรกในเอเชีย เป็นต้น ธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์และรีเทล&nbsp;ผ่าน Treasure M โดยพัฒนา Mingle Mall แหล่งไลฟ์สไตล์ที่รวมร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์กีฬาในร่ม ซึ่งล่าสุดเปิด 'Mingle Naiyang' จ.ภูเก็ต&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/dAhzg1pbAsit1cTizgBc.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="dAhzg1pbAsit1cTizgBc.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ แอสเซทไวส์ยังมุ่งสร้างความสุขอย่างยั่งยืนให้กับสังคม ลูกค้า และ Stakeholder ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม&nbsp;นำแนวคิด GrowGreen&nbsp;มาปฏิบัติจริงในองค์กร โครงการที่อยู่อาศัย&nbsp;และขยายผลสู่ชุมชนต่างๆ ด้านสังคม&nbsp;โดยร่วมกับมูลนิธิก้าวคนละก้าว&nbsp;ซึ่งมีตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย เป็นประธานมูลนิธิฯ พร้อมสนับสนุนเงินจำนวน 10 ล้านบาท ให้กับโครงการ 'ก้าวเพื่อน้องปีที่ 5'&nbsp; ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่หลุดออกจากระบบการศึกษา ผ่านกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เป็นต้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของแอสเซทไวส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสพิเศษนี้บริษัทได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์ โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร&nbsp;และไบรท์-พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ&nbsp;คู่รักนักเปียโนและผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ที่มีคาแรคเตอร์สมาร์ท อบอุ่น ที่สร้างความสุขและรอยยิ้มให้กลุ่มคนทุกเจเนอเรชัน มาร่วมสะท้อนตัวตนของแบรนด์แอสเซทไวส์ และถ่ายทอดแนวคิด 'การสร้างความสุข ให้ทุกจังหวะของชีวิต' โดยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา&nbsp;AssetWise 20 years of Happiness ผ่านโซเชียลมีเดียครั้งแรก มีขึ้นในวันที่ 5&nbsp;ก.พ.นี้&nbsp;สามารถรับชมได้ทาง Facebook Page: AssetWise และ YouTube: AssetWise​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/jjqBnMz7u6N2thrNfSJn.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="jjqBnMz7u6N2thrNfSJn.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> ภาพ : แอสเซทไวส์ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/property/sansiri-extends-its-2025-plan-set-sales-target-of-53000-baht-after-transferring-46000-baht" alt="แสนสิริ กางแผนปี 68 ตั้งเป้ายอดขาย 53,000 ลบ. ยอดโอน 46,000 ลบ. พร้อมเปิดตัว 29 โครงการใหม่">แสนสิริ กางแผนปี 68 ตั้งเป้ายอดขาย 53,000 ลบ. ยอดโอน 46,000 ลบ. พร้อมเปิดตัว 29 โครงการใหม่</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

แอสเซทไวส์ ตั้งเป้าปี 68 ยอดขาย 19,500 ล้าน โตจากปีก่อน 20% เตรียมเปิดตัว 10 โครงการ รุกตลาดภูเก็ตต่อเนื่อง พร้อมขยายธุรกิจใหม่เพิ่ม

<h2>แอสเซทไวส์ (ASW)&nbsp;ตอกย้ำความแข็งแกร่ง กางผลงาน 9 เดือนแรกปี 67&nbsp;กวาดยอดขาย 14,578&nbsp;ล้านบาท คิดเป็น 82% ของเป้าพรีเซลทั้งปี โครงการแนวราบ-คอนโดภูเก็ต THE TITLE&nbsp;CIELO&nbsp;RAWAI มาแรงดันยอดขายต่อเนื่อง คาดปลายปียอดนักท่องเที่ยวพุ่ง หนุนกำลังซื้อในประเทศ โอกาสดีอสังหาเมืองท่องเที่ยว เตรียมส่งแฟล็กชิปโปรเจ็กต์ทำเลจอมเทียน พัทยา ต้อนรับไฮซีซั่น ‘ควารัส จอมเทียน พัทยา’ โครงการคอนโดมิเนียมหรูสไตล์ Luxurious Staycation Residence รองรับดีมานด์คอนโดพักตากอากาศ</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)&nbsp;หรือ&nbsp;ASW เผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย. 2567) บริษัทมียอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรทั้งหมด 14,578&nbsp;ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 24%&nbsp;และคิดเป็น&nbsp;82%&nbsp;ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีซึ่งตั้งไว้อยู่ที่ 17,800&nbsp;ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ผลงานดังกล่าวมาจากโครงการที่อยู่อาศัยที่เปิดตัวในไตรมาส 2/2567 และยังคงสร้างยอดขายต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการดิ อาเบอร์ รามอินทรา-วัชรพล (The Arbor Ramintra-Watcharapol) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และโครงการฌาน เดอะ ริเวอร์ไซด์ บรมราชชนนี (CHANN The Riverside Boromratchachonnani) มูลค่าโครงการรวม 1,800 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการที่สร้างยอดขายโดดเด่น คือ โครงการเดอะ ไทเทิล เชียโล่ ราไวย์ (THE TITLE&nbsp;CIELO&nbsp;RAWAI)&nbsp;โครงการ Leisure Condominium ในทำเลภูเก็ต มูลค่าโครงการ 1,200&nbsp;ล้านบาท ซึ่งอยู่ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)&nbsp;หรือ&nbsp;TITLE&nbsp;บริษัทย่อยในเครือ ที่ได้รับการตอบรับยอดเยี่ยมจนมียอดขาย (Take up rate) ถึงกว่า 90% หลังเปิดขายได้เพียง 1 สัปดาห์​<div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/5dvxyeksLNCQ7apuVvvj.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="5dvxyeksLNCQ7apuVvvj.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="2000,1125" style="width: 720px; height: auto;" data-index="0"></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กรมเชษฐ์&nbsp;กล่าวอีกว่า ทุกช่วงปลายปีจะเป็นช่วงเวลาสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หนึ่งใน Key Engine ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่า ช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี 2567 (ก.ย.-ธ.ค.) นี้ จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 12.22 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ถึง 20% และคาดว่าจะสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศประมาณ 6.53 แสนล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 29%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัทเชื่อมั่นว่าแนวโน้มดังกล่าวจะช่วยให้ผู้บริโภคในประเทศมีกำลังซื้อที่แข็งแกร่งขึ้น และเป็นโอกาสอันดีของตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะตามหัวเมืองท่องเที่ยว ในการเข้าถึงตลาดชาวต่างชาติที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยระหว่างท่องเที่ยวระยะสั้น และพักอาศัยแบบ Long stay ตามจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างอีอีซีและภูเก็ต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 นี้ บริษัทยังมุ่งหน้าตามกลยุทธ์&nbsp;The New Frontier&nbsp;พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในอีอีซีและภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศ โดยเตรียมเปิดตัวแฟล็กชิปโปรเจ็กต์คือ โครงการอควารัส จอมเทียน พัทยา (Aquarous Jomtien Pattaya)&nbsp;โครงการคอนโดมิเนียมหรูสไตล์ Luxurious Staycation Residence ขนาด 5-3-76.1 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 5,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใกล้ถนนสุขุมวิทและชายหาดจอมเทียน ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการคอนโดมิเนียมสำหรับพักตากอากาศ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/property/sansiri-first-9-months-of-2024-performance" alt="แสนสิริอวดยอดขาย 9 เดือน 37,000 ล้านบาท โตแรง 10% YoY พร้อมลุยต่อ 16 โครงการไตรมาสสุดท้าย">แสนสิริอวดยอดขาย 9 เดือน 37,000 ล้านบาท โตแรง 10% YoY พร้อมลุยต่อ 16 โครงการไตรมาสสุดท้าย</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

แอสเซทไวส์ย้ำแกร่ง 9 เดือนแรกปี 67 กวาดยอดขาย 14,578 ล้านบาท โตแรง 24% YoY

<h2>ASW จับมือ TITLE ฉลองความสำเร็จ THE TITLE CIELO RAWAI โครงการ Leisure Condominium มูลค่า 1,200 ล้านบาท กวาดยอดขายแล้วถึง 90% หลังเปิดขายเพียง 1 สัปดาห์ สะท้อนความเชื่อมั่นในคุณภาพและศักยภาพทำเลราไวย์ หาดสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การพักผ่อน ภายใต้แนวคิด ‘The Breeze of Blissful Living’ ผสานกลิ่นอายสถาปัตยกรรมเมืองทะเลยุโรปและภูเก็ต ราคาเริ่มต้น 3.88 ล้านบาท</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด ‘ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ (We Build Happiness)’ กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ เดอะ ไทเทิล เชียโล่ ราไวย์ (THE TITLE CIELO RAWAI) โครงการ Leisure Condominium มูลค่า 1,200 ล้านบาท ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทย่อยในเครือ ล่าสุดสามารถทำยอดขายได้แล้วถึง 90% หลังเปิดขายได้เพียง 1 สัปดาห์​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/CVxMBLZ4n5fxewQWfH6b.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="CVxMBLZ4n5fxewQWfH6b.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1280,720" style="width: 720px; height: auto;" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นอกจากศักยภาพของทำเลราไวย์ที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์งดงามแล้ว ความสำเร็จของเราในครั้งนี้ ยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งต่อแบรนด์ THE TITLE ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ ในด้านคุณภาพการก่อสร้าง ความใส่ใจในทุกรายละเอียดการออกแบบที่ลงลึกถึงไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยจริงของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย บริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม และ Facilities ที่ครบครันตามสไตล์แอสเซทไวส์ ทำให้ THE TITLE CIELO RAWAI เป็นอีกหนึ่งโครงการของแบรนด์ THE TITLE ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง กลุ่มนักลงทุน และชาวต่างชาติที่ต้องการคอนโดมิเนียมสำหรับพักอาศัยทั้งระยะยาวและระยะสั้น” กรมเชษฐ์กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน ดรงค์ หุตะจูฑะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต เผยว่า โครงการ THE TITLE CIELO RAWAI ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 5-0-82.7 ไร่ บนทำเลศักยภาพ ใกล้หาดราไวย์ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของภูเก็ตเพียง 250 ม. และมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อาทิ หาดแหลมกา หาดในหาน จุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่แหลมพรหมเทพ​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/s1LnJwmNsLJgMkFvYtzZ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="s1LnJwmNsLJgMkFvYtzZ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1280,683" style="width: 720px; height: auto;" data-index="1"></figure></div>​ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/spTWSwZ6eQeMmMrrrRPe.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="spTWSwZ6eQeMmMrrrRPe.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1280,640" style="width: 720px; height: auto;" data-index="2"></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โครงการดังกล่าวยังรายล้อมด้วยแหล่งอาหารทะเลสดๆ จากชาวประมง ร้านอาหารชื่อดัง และแหล่งแฮงค์เอาท์ทำกิจกรรมมากมาย เช่น บีชคลับ มวยไทย ล่องเรือ ดำน้ำ สวนน้ำ รวมถึงใกล้โรงเรียนนานาชาติ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตัวโครงการเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 4-5 ชั้น จำนวน 4 อาคาร รวมทั้งสิ้น 171 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.88 ล้านบาท เน้นการออกแบบสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน โทนสีขาวตัดกับสีฟ้าและน้ำเงิน โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมเมืองริมชายฝั่งอมัลฟี่ (Amalfi Coast) ในอิตาลี มาผสมผสานให้เข้ากับกลิ่นอายวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของภูเก็ต​&nbsp; &nbsp; ห้องพักภายในอาคารเป็นห้องแต่งพร้อมอยู่ (Fully Fitted) มีทั้งรูปแบบ 1 Bedroom 31-51 ตร.ม. 1 Bedroom plus 51-61 ตร.ม. 2 Bedroom 69-148 ตร.ม. พร้อมระเบียงกว้างเหมาะกับการนั่งพักผ่อนชมวิว และห้องพักแบบ Pool Access เชื่อมสระว่ายน้ำ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/o23sMV91Qbn3vBF5qyoS.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="o23sMV91Qbn3vBF5qyoS.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" origin-size="1280,720" style="width: 720px; height: auto;" data-index="3"></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ภายในโครงการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในทุกอาคารมากถึง 15 ฟังก์ชัน อาทิ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่โอบล้อมรอบอาคาร ทั้ง Beach Coast Pool สระว่ายน้ำรูปทรงอิสระขนาดยาวกว่า 30 เมตร มอบบรรยากาศผ่อนคลายเหมือนอยู่ริมหาด Iconic Blue Grotto สระน้ำวนที่ตกแต่งด้วยหลังคาโดมสูงสะท้อนผิวน้ำระยิบระยับ Tearoom สไตล์ยุโรปสำหรับสังสรรค์จิบชายามบ่าย Sky Rooftop ที่มีโซนพักผ่อนชมวิวท่ามกลางสวนสีเขียวและโซนบาร์สำหรับสังสรรค์ รวมถึง Co-Working Area, Game Area, Fitness, Theater Room, Library Room และ Meeting Room ครบครันรองรับได้ทั้งไลฟ์สไตล์การทำงานและการพักผ่อน เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/news/other/boi-approved-investment-in-haier-13-billion-baht" alt="บีโอไออนุมัติลงทุนกว่า 13,000 ล้านบาท เสริมฐานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า Haier ในไทย">บีโอไออนุมัติลงทุนกว่า 13,000 ล้านบาท เสริมฐานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า Haier ในไทย</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘แอสเซทไวส์’ อวดความสำเร็จโครงการ THE TITLE CIELO RAWAI มูลค่า 1,200 ล้านบาท กวาดยอดขาย 90% ใน 1 สัปดาห์

<h2>แอสเซทไวส์ (AssetWise) ต่อยอดแนวคิด GrowGreen จับเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า ผนึกกำลัง “การไฟฟ้านครหลวง” (MEA) ติดตั้งเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุด PLUG ME EV เพื่อยกระดับการอยู่อาศัยให้กับลูกบ้าน ชูจุดเด่นสะดวกสบาย - ลดค่าใช้จ่าย และมีจุดให้บริการมากถึง 12 ช่องจอด พร้อมนำร่องติดตั้งเป็นครั้งแรกที่โครงการ “แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช” คอนโดมิเนียมใหม่สไตล์รีสอร์ท เตรียมพร้อมขยายการให้บริการไปยังโครงการอื่นๆ ต่อไปในอนาคต</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วุฒิ วิพันธ์พงษ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารความยั่งยืนทางธุรกิจและสิ่งแวดล้อม บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เทรนด์การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ในประเทศไทย มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น เห็นได้จากข้อมูลสถิติการจดทะเบียนรถไฟฟ้า 100% ในปี 2023 ที่มีเกือบ 80,000 คัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพื่อรองรับเทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรงในขณะนี้ แอสเซทไวส์จึงได้จับมือกับ การไฟฟ้านครหลวง นำเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) นวัตกรรมใหม่ล่าสุด PLUG ME EV เข้ามาติดตั้งเป็นที่แรกในโครงการ “แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช” คอนโดมิเนียมใหม่สไตล์รีสอร์ท ที่ปัจจุบันมีลูกบ้านเข้าอยู่อาศัยแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวก ให้กับลูกบ้านแอสเซทไวส์ ในการเข้าถึงสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นแนวคิดการพัฒนาธุรกิจแบบยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 75%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/BjqpkSzxKiRevnk5sNrR.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="BjqpkSzxKiRevnk5sNrR.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," origin-size="4096,2290" style="width: 100%;" data-index="0"><figcaption><div>โครงการ แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นวัตกรรมนี้สอดคล้องกับความตั้งใจของแอสเซทไวส์ ภายใต้แนวคิด GrowGreen ด้าน Energy Efficiency และ Clean Air ที่ส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทน และยังช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ที่มีการดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์โดยคำนึงถึง ESG ในทุกมิติ ตลอดจนเป็นสนับสนุนนโยบายในระดับประเทศที่ส่งเสริมให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“การร่วมมือในครั้งนี้ ถืออีกหนึ่งความใส่ใจในการพัฒนาโครงการของแอสเซทไวส์ ที่มีแนวคิด We Build Happiness เพื่อสร้างความสุขให้กับลูกบ้าน เรามีความมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตในการอยู่อาศัยของลูกบ้านให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยนวัตกรรม PLUG ME EV ของ MEA นั้น ยังเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่มีระบบอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อรองรับการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าในคอนโดมิเนียม ที่มีจำนวนผู้พักอาศัยเป็นจำนวนมาก”&nbsp;วุฒิกล่าว พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ได้ติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้าในโครงการแอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช มากถึง 12 ช่องจอด ซึ่งรองรับการชาร์จในรูปแบบ Smart Charging ที่สามารถจัดการพลังงานในสถานีชาร์จให้เหมาะสมกับการใช้ไฟฟ้าในแต่ละช่วงเวลาของโครงการให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ซึ่งลูกบ้านสามารถชาร์จรถได้ข้ามคืน โดยการชาร์จในลักษณะนี้เป็นการช่วยถนอมแบตเตอรี่โดยไม่ให้เกิดความร้อนมากเท่ากับการชาร์จเร็ว และการบริหารสถานีชาร์จยังดำเนินการโดยนิติบุคคลของโครงการ ซึ่งสามารถคิดค่าบริการได้ถูกกว่าสถานีชาร์จภายนอก”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกทั้งค่าบริการดังกล่าว ยังเป็นรายได้ของนิติบุคคลด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ไปยังโครงการต่างๆ ในอนาคต เพื่อรองรับการขยายตัวการใช้รถยนต์ไฟฟ้า และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม สู่การอยู่อาศัยที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืนต่อไป​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 75%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/btLBuNNUMLPmRTgvJydY.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="btLBuNNUMLPmRTgvJydY.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," origin-size="3984,2656" style="width: 100%;" data-index="1"><figcaption><div>สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายในโครงการ</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน จาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการ การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA กล่าวว่า การร่วมมือกับแอสเซทไวส์ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในการเข้ามาติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้นวัตกรรม PLUG ME EV ในรูปแบบที่อยู่อาศัยประเภทกลุ่มอาคารคอนโดมิเนียม และยังเป็นการขยายพื้นที่การให้บริการของการไฟฟ้านครหลวงให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกบ้านของแอสเซทไวส์ และผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยนวัตกรรม PLUG ME EV รูปแบบโมเดลหัวชาร์จ Type-2 ขนาดพิกัด 7.4 กิโลวัตต์เป็นระบบอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่อาคารสำนักงานหรืออาคารชุดที่ใช้ 1 ชุดควบคุมในการควบคุมและบริหารจัดการหัวชาร์จประจำช่องจอดรถยนต์ไฟฟ้า สามารถขยายจำนวนได้สูงสุด 32 หัวชาร์จ เหมาะกับพื้นที่อาคารสำนักงานหรือคอนโดมิเนียมที่มีผู้ใช้งานรถ EV จำนวนมาก&nbsp; &nbsp; Plug ME EV ยังสามารถปรับการใช้พลังงานในระบบไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย อีกทั้งยังได้รับประสิทธิภาพจากการใช้งานสูงสุดอีกด้วย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/property/britania-business-plan-2024" alt="‘บริทาเนีย’ เปิดแผนปี 2567 เปิดบ้านจัดสรรใหม่ 20 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 17,000 ล้านบาท">‘บริทาเนีย’ เปิดแผนปี 2567 เปิดบ้านจัดสรรใหม่ 20 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 17,000 ล้านบาท</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

"AssetWise" ผนึกกำลัง "MEA" ตอบโจทย์ลูกบ้านรับเทรนด์ EV ติดตั้งเครื่องชาร์จในโครงการ

<a href="https://assetwise.co.th/" alt="บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW">บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW</a> บริษัทอสังหาริมทรัพย์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดได้ไม่นาน และเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 18 ปีที่ผ่านมา ด้วยความหลงใหลในธุรกิจนี้และมีวิธีคิดในการบริหารงานที่รัดกุม มองลึกถึงทุกมิติ เป็นแรงผลักดันให้ "กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สร้างบริษัทจนแอสเซทไวส์มี Market Cap ระดับ 8,000 ล้านบาท จนล่าสุดได้รับรางวัลองค์กรดีเด่นที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในเอเชียปี 2023 และรางวัลจากเวทีชั้นนำอื่นๆ อีกหลายรางวัล แอสเซทไวส์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับ "พนักงาน" ที่ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยผลักดันให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง ด้วยความเชื่อที่ว่า “บ้านเป็นส่วนหนึ่งของความสุข และคนที่สร้างบ้านให้มีความสุขได้นั้นจะต้องมีความสุขด้วย” กรมเชษฐ์จึงดูแลพนักงานเป็นอย่างดีทั้งในช่วงที่ดำเนินธุรกิจในยามปกติและยามเกิดวิกฤต ซึ่งการเกิดวิกฤตโดยทั่วไปจะเห็นได้ว่ามีพนักงานถูกเลิกจ้างเสมอ “ผมมองว่าไม่ใช่แค่คนที่ตกงานได้รับผลกระทบ พวกเขายังมีครอบครัวข้างหลัง จากประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มาทั้งจากองค์กรและคนรอบข้าง จึงเป็นวัคซีนที่ดีให้ผมเตรียมพร้อมก้าวข้ามวิกฤตที่จะผ่านเข้ามา และตั้งใจว่าจะดูแลพนักงานและลูกค้าของเราให้ดีที่สุด” <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/czZqXqRruVSEKSrCSo2v.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="czZqXqRruVSEKSrCSo2v.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"><figcaption><div>กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร&nbsp;บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW​</div></figcaption></figure></div>​นำพาองค์กรสู่ความมั่นคง กรมเชษฐ์กล่าวว่า หากแบ่งการเติบโตขององค์กรเป็น 3 ช่วง ตอนนี้แอสเซทไวส์ ถือว่าอยู่ในช่วงที่มั่นคง (Stable) หลังจากผ่านช่วงดิ้นรนเพื่ออยู่รอด (Survivor) มาแล้ว ซึ่งการผ่านช่วง Survivor นั้น เจอวิกฤตหลายครั้งทั้งวิกฤตเศรษฐกิจโลก วิกฤตน้ำท่วม และโควิด สำหรับแอสเซทไวส์จะมีการตั้งรับ วิเคราะห์สถานการณ์ และมองว่าวิกฤตจะจบเมื่อไร และหาแนวทางที่จะอยู่กับวิกฤตนั้น จะทำอย่างไรให้กระทบกับพนักงานน้อยที่สุด โดยในช่วงโควิดเราไม่มีการลดคนเลย อีกทั้งยังมุ่งมั่นเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยยื่นไฟลิ่งให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาในปี 2563 และเข้าระดมทุนในปี 2564 เพื่อขยายการลงทุนเข้าสู่ใจกลางเมือง และในหลายๆ ทำเล ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงโดยสามารถสร้างสถิติทำรายได้และกำไรดีที่สุดในรอบ 17 ปี​ปัจจุบันแอสเซทไวส์พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรกว่า 57 โครงการ ภายใต้แบรนด์ที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความสุขทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ คอนโดมิเนียมแบรนด์เคฟ (KAVE), แบรนด์แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์โมดิซ (MODIZ), บ้านเดี่ยวแบรนด์เอสต้า (ESTA), แบรนด์ดิอาเบอร์ (THE ARBOR) แบรนด์ดิ ออร์เนอร์ (THE HONOR) รวมมูลค่าโครงการกว่า 6.9 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมอยู่ 41 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่การพัฒนา 16 โครงการ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 14,513 ล้านบาท <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/ok7Yv8MwXyKzZvPBRVYJ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ok7Yv8MwXyKzZvPBRVYJ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/xCxY1vT4AZcgQnM2gay8.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="xCxY1vT4AZcgQnM2gay8.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div>​ ​ความสุขของพนักงานคือสิ่งสำคัญ แนวคิดการดำเนินธุรกิจของแอสเซทไวส์ คือ “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ซึ่งสำหรับ&nbsp; &nbsp; “กรมเชษฐ์” แล้วการสร้างความสุขนั้นไม่ใช่แค่ลูกค้า แต่ยังรวมถึงคู่ค้า พนักงาน และผู้ถือหุ้น ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการสร้างความสุขไปด้วยกัน แต่เขาถือว่าพนักงานมีส่วนสำคัญที่สุดในการร่วมสร้างความสุขนั้น ดังนั้น แอสเซทไวส์จึงให้ความสำคัญตั้งแต่การออกแบบออฟฟิศให้พนักงานมาทำงานแล้วมีความสุข มีโซนคาเฟ่ ห้องเกม ห้องฟิตเนส ห้องนวดผ่อนคลาย บริการนวดออฟฟิศซินโดรมถึงโต๊ะทำงาน มีอาหารเช้าสำหรับพนักงานที่เข้างานก่อนและตรงเวลาอาหารกลางวัน กิจกรรมพิเศษ ปาร์ตี้ ในโอกาสต่างๆ นอกจากนี้ พนักงานสามารถนำน้องหมา น้องแมวมาทำงานด้วยอีกด้วย ​สวัสดิการที่โดดเด่นของแอสเซทไวส์คือ วันลาพิเศษเพิ่มเติมในโอกาสต่างๆ เช่น ลาปฏิบัติธรรมได้ 3 วัน ลาคลอดได้นานถึง 120 วัน สามีลาดูแลภรรยาคลอดบุตรได้ 15 วัน วันลาในเดือนเกิด มอบทุนการศึกษาให้กับบุตรพนักงานทุกคนตั้งแต่แรกเกิดจนถึงชั้นมัธยมเทอมละ 5,000 บาท โดยมองว่าการให้ผลตอบแทนที่ดีและสิทธิประโยชน์ต่างๆ จะช่วยจูงใจให้พนักงานอยู่กับองค์กรในระยะยาว และเติบโตไปด้วยกัน “อีกสิ่งที่สำคัญคือ การสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความรู้ ความสามารถ และศักยภาพของพนักงานทุกสายวิชาชีพทุกระดับ เพื่อตอบสนองความต้องการและเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจด้วยแนวคิดที่ว่า ถ้าเราสามารถสร้างคนเก่งแบบซีอีโอได้สัก 10 คน องค์กรจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต” กรมเชษฐ์กล่าว และเขาพร้อมที่จะสนับสนุนการเรียนรู้ให้กับพนักงานเสมอ ทั้งด้วยตัวเองและเสริมสร้างการเรียนรู้ใหม่ๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพของพนักงาน และสร้างการเติบโตให้องค์กรอย่างยั่งยืน <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/mXgdY2MdjcoEEyEZd9Jk.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="mXgdY2MdjcoEEyEZd9Jk.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div>​ ​สำหรับรางวัลที่เป็นอีกหนึ่งสิ่งพิสูจน์ความสามารถของบุคลากรของแอสเซทไวส์ ที่ในอุตสาหกรรมให้การยอมรับ โดยในเดือนสิงหาคม ปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทได้รับรางวัลนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยอดเยี่ยม Developer of the Year 2023 จากเวที Dot Property Thailand Awards 2023 ซึ่งแสดงความมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ทั้งการคัดเลือกทำเลศักยภาพ การออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการดีไซน์ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มอย่างแท้จริง รวมถึงโครงการ Modiz Launch ที่ได้รับรางวัล Best Investment จากเวที Living insider Awards 2023 เป็นคอนโดไฮไรส์ที่โดดเด่นบนทำเลที่ดีที่สุดใจกลางไลฟ์สไตล์ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ Sold Out ภายในวันแรกที่เปิดขาย รวมถึงมี Capital Gain และ Rental Yield ที่สูงเป็นประวัติการณ์ ด้วยคุณภาพโครงการและทำเลทำให้ได้รับการตอบรับที่ล้นหลามจากกลุ่มผู้อยู่อาศัยจริง นักลงทุน และผู้เช่า และล่าสุดกับรางวัล “องค์กรดีเด่นที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในเอเชีย ปี 2023” (Best Companies to Work for in Asia 2023) จัดโดย HR Asia นิตยสารชั้นนำด้านบริหารทรัพยากรบุคคลที่ได้รับการยอมรับในเอเชีย ที่มีเกณฑ์การพิจารณาจากการจัดการด้านทรัพยากรบุคคลในองค์กรที่ดี เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน การดูแลเอาใจใส่ ตลอดจนส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงาน​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/vGvyjUcsmbJrxDBRQcLN.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="vGvyjUcsmbJrxDBRQcLN.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"></figure></div> “สิ่งที่แอสเซทไวส์สร้างขึ้นมาได้ตลอดระยะเวลา 18 ปีที่ผ่านมาคือการมีบุคลากรที่มีมายด์เซ็ตที่ดี ซึ่งสะท้อนออกมาที่การยอมรับนับถือของคู่ค้า ลูกค้า ความเชื่อมั่นต่อผู้ถือหุ้น ถึงความเป็นคนที่มีความตรงไปตรงมา ขายสินค้าที่จริงใจต่อลูกค้า และมีเป้าหมายเติบโตไปข้างหน้า นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดที่องค์กรยึดมั่น” กรมเชษฐ์กล่าวทิ้งท้าย

 กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ผู้นำพา “แอสเซทไวส์” ก้าวผ่านทุกขีดจำกัด สู่องค์กรอสังหาริมทรัพย์ดีเด่นด้านที่น่าทำงานที่สุดในเอเชีย

&nbsp; &nbsp; "แอสเซทไวส์" เดินหน้ารุกตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 2 เปิดตัวคอนโดมิเนียม 4 โครงการใหม่ ภายใต้ 3 แบรนด์ดัง KAVE, ATMOZ และ MODIZ มูลค่ารวม 6,450 ล้านบาท บน 4 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ ศาลายา, บางแสน, ลาดพร้าว - วังหิน และเกษตร - ศรีปทุม เพื่อให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของลูกค้าทุกกลุ่ม มั่นใจดันเป้ายอดขายปีนี้โตตามเป้า 15,000 ล้านบาท <div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/d7gCC6a14QBK2VPGgQSU.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="d7gCC6a14QBK2VPGgQSU.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1568,1046" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งปัจจัยบวกจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการท่องเที่ยวในประเทศที่โดดเด่นและคึกคัก จนส่งผลให้ไตรมาส 1 บริษัทสามารถกวาดยอดขายได้สูงถึง 3,495 ล้านบาท และเพื่อตอบรับดีมานด์กำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง แอสเซทไวส์จึงเดินหน้าเปิดตัว 4 โครงการใหม่ 3 แบรนด์สำคัญ อย่าง เคฟ (KAVE), แอทโมซ (ATMOZ) และโมดิซ (MODIZ) บน 4 ทำเลศักยภาพ ศาลายา, บางแสน, ลาดพร้าว-วังหิน และเกษตร - ศรีปทุม มูลค่ารวมกว่า 6,450 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับโครงการใหม่ทั้ง 4 โครงการ ประกอบด้วย&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/emkSGBXNzSEwnpc3fb6b.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="emkSGBXNzSEwnpc3fb6b.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1920,1062" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. โครงการเคฟ ป็อป ศาลายา (Kave Pop Salaya) แคมปัสคอนโดสุดป๊อป ที่จะทำให้ชีวิตคนรุ่นใหม่ป๊อปมากกว่าใคร บนทำเลศักยภาพ ถนนศาลายา - นครชัยศรี เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 238 ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท โดดเด่นด้วยการออกแบบสไตล์ Pop art ยุค 70's เพียบพร้อมด้วยพื้นที่ส่วนกลางถึง 26 รายการ จัดเต็มทั้ง Learn และ Play ตอบโจทย์ทุกโหมดการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ให้โดดเด่นไม่ซ้ำใคร...ได้ทุกวัน ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท*​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/7NqgcDHnof518r5DFWaf.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="7NqgcDHnof518r5DFWaf.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="12000,8000" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2. โครงการเคฟ โคโค่ บางแสน (Kave Coco Bangsaen) แคมปัสคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 974 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยตั้งอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยบูรพาเพียง 200 เมตร มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่จัดหนัก จัดเต็มกว่า 40 รายการ และชายหาดส่วนตัว หนึ่งเดียวไม่เหมือนใคร เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ใช้ชีวิตสุดมันส์แบบตะโกน ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท *​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/Xp7kinu4NP12KGDCtjTf.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="Xp7kinu4NP12KGDCtjTf.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="2048,1432" style="" data-index="3"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3. โครงการแอทโมซ พาลาซิโอ ลาดพร้าว-วังหิน (Atmoz Palacio Ladprao-Wanghin) เป็นคอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ทสุดหรู มาพร้อมนิยามการอยู่อาศัยแบบ “YOUR PLACE IS YOUR PALACE” จำนวน 4 อาคาร 759 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,750 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพใจกลางลาดพร้าว ที่สามารถเดินทางเข้า - ออกเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย มาพร้อมการออกแบบดีไซน์ที่โดดเด่น ครบครันด้วยส่วนกลางขนาดใหญ่จัดเต็มกว่า 30 รายการ และพื้นที่สีเขียวกว่า 2 ไร่ ที่จะช่วยเติมเต็มชีวิตให้พิเศษมากกว่าเคย ในราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท*​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/363wmECoUtsJeWtso5xV.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="363wmECoUtsJeWtso5xV.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1920,1520" style="" data-index="4"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4. โครงการโมดิซ วอลท์ เกษตร - ศรีปทุม (Modiz Vault Kaset-Sripatum) คอนโดมิเนียมไฮไรส์ใหม่ล่าสุด จำนวน 2 อาคาร 798 ยูนิต 2,200 ล้านบาท ถือเป็นคอนโดมิเนียมหนึ่งเดียวในย่านเกษตร - ศรีปทุม ที่ตอบโจทย์ทุกความสมดุลในทุกด้าน LIVE - WORK - LEARN - RELAX และ SHOPPING โดยตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพติดถนนใหญ่ บนถนนเลียบคลองบางเขนตัดใหม่พหลโยธิน -วิภาวดี ซึ่งยังติดกับม.เกษตรศาสตร์ ใกล้ม.ศรีปทุม เดินทางสะดวกสบาย เพียง 2 นาที ถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีบางบัว ครบครันด้วยส่วนกลางจัดเต็มกว่า 3 ชั้น ที่ตอบโจทย์ทุก Activity ได้ตลอดวัน ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท*&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ ถ่ายทอดความตั้งใจและผ่านการคัดสรรในทุกๆ รายละเอียด ทั้งทำเล การออกแบบพื้นที่อยู่อาศัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพื้นที่ส่วนกลางที่ครบครัน ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญของเรา เพื่อให้พร้อมตอบโจทย์และสามารถใช้งานได้จริง โดยเชื่อมั่นว่าทั้ง 4 โครงการใหม่นี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าดังเช่นที่ผ่านมา และเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำยอดขายทั้งปีได้ตามเป้าหมาย 15,000 ล้านบาท ที่วางไว้อย่างแน่นอน” นายกรมเชษฐ์ กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อนึ่ง แอสเซทไวส์ ได้กำหนดจัดงานใหญ่แห่งปี กับงาน “AssetWise EXPO’23” เพื่อแทนคำขอบคุณจากใจในโอกาสครบรอบ 19 ปี โดยนำคอนโดมิเนียม และบ้าน ทั้งโครงการใหม่และโครงการพร้อมอยู่ บนทำเลคุ้มค่า รวมกว่า 29 โครงการ นำเสนอพร้อมมอบดีลสุดพิเศษที่คุ้มค่าที่สุด โดยจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1 - 7 มิถุนายน ศกนี้ ณ ชั้น 1 โซน Bศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับผู้ที่สนใจโครงการภายใต้แบรนด์เคฟ, แอทโมซ และโมดิซ ทั้ง 4 โครงการใหม่ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.assetwise.co.th, โทร. 02-168-0000 หรือ Line: @assetwise &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/other/commentaries/insights/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81-etf-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A-warren-buffett" alt="เลือก ETF ให้ปังแบบฉบับ Warren Buffett">เลือก ETF ให้ปังแบบฉบับ Warren Buffett</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events