<h2>Dusit Central Park อวดความสำเร็จของโครงการ หลังเปิดขายคอนโด Residences ไปได้แล้วถึง 95% ซึ่งในส่วนของห้อง Penthouse สุดหรูจำนวน 7 ยูนิต เหลือเพียง 2 ยูนิตเท่านั้น โดยเป็นห้องขนาด 500 ตร.ม. และห้องขนาดใหญ่สุดด้วยพื้นที่ 900 ตร.ม. ที่รอผู้มั่งคั่งระดับมหาเศรษฐีมาจับจองคอนโดสุด Luxury ในรูปแบบ leasehold </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้พัฒนา Dusit Central Park โครงการมิกซ์ยูสระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ Here for Bangkok และผู้พัฒนา The Residences at Dusit Central Park โครงการที่พักอาศัยระดับอัลตร้าลักชัวรี่ใน Super Core CBD ย่านพระราม 4 - สีลม ย้ำความเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์ A World-class Complete Mixed-use Development ที่ยกระดับมาตรฐานวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยสู่ระดับสากลในทุกมิติ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โชว์ความสำเร็จของทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ อาคารสำนักงาน Central Park Offices ศูนย์การค้า Central Park Retail และสวนดุสิตอรุณ ณ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ที่ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น รวมถึงยอดขายของ The Residences at Dusit Central Park ที่ขายไปแล้วกว่า 95% นับเป็นโครงการแรกของอาเซียนที่พัฒนาตามมาตรฐานที่พักอาศัยสูงสุดระดับโลก LEED Gold v4.1 Residence Multi-Family&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด กล่าวว่า Dusit Central Park โครงการเวิล์ดคลาสมิกซ์ยูสมูลค่า 46,000 ล้านบาทที่มีทั้งโรงแรม ที่พักอาศัยระดับอัลตร้าลักชัวรี่ ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และสวนลอยฟ้าใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในพื้นที่เดียวกัน ภายใต้วิสัยทัศน์ Here for Bangkok ได้พลิกโฉมหน้าของเมืองกรุงเทพมหานครโดยเฉพาะย่านพระราม 4 - สีลมสู่การเป็นพื้นที่ Super Core CBD และ Luxury Spot ด้วยการมอบประสบการณ์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับแบบ Seamless ในทุกองค์ประกอบของโครงการฯ&nbsp; &nbsp; ทั้งนี้ หลังการเปิดตัวโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ&nbsp;ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2567 ก่อนเป็นเฟสแรกทางโรงแรมก็ได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลามทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ มียอดจองห้องพักและใช้บริการห้องจัดเลี้ยงตามเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง พร้อมตอกย้ำความโดดเด่นของแบรนด์ไทยบนเวทีระดับโลกกับการคว้ารางวัลระดับนานาชาติมากมาย อาทิ มิชลิน คีย์ 1 ดอก (One Michelin Key) 2025, Travels &amp; Leisure Luxury Awards Asia Pacific 2025 และ Best New Hotel in Asia Pacific in the Tatler Best Awards 2025 เป็นต้น <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 700px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/11/jHGhJFocTqAVNphKFZSs.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="700px,437px" data-align="center" data-file-name="jHGhJFocTqAVNphKFZSs.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,450" data-origin="700px,437px" style="width: 700px; height: 437px;" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp; ด้านอาคารสำนักงาน Central Park Offices ถือเป็นคอมมูนิตี้คนทำงานระดับ Class A ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและยั่งยืนสำหรับการทำงานทั้งต่อร่างกายและจิตใจ ผ่านความมุ่งมั่นที่จะได้รับมาตรฐานอาคาร LEED Gold, WELL Platinum และ WiredScore Platinum&nbsp; &nbsp; ด้านที่อยู่อาศัยสุด Luxury อย่าง&nbsp;The Residences at Dusit Central Park ที่นำเสนอ 2 Living Concepts ในอาคารเดียวพร้อม Facilities ที่ครบครันและครอบคุมทุกไลฟ์สไตล์ ทางผู้บริหารของโครงการนี้บอกว่า "ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 95% คิดเป็นมูลค่าราว 17,000 ล้านบาท และเหลืออีกเพียงแค่ 10 กว่ายูนิตเท่านั้นที่จะรอคนมาจับจองเป็นเจ้าของต่อไป โดยห้อง Penthouse นั้น มีทั้งหมด 7 ยูนิต ขายไปแล้ว 5 ยูนิต ในพื้นที่ขนาด 500 ตร.ม.ขึ้นไป และเหลืออีก 2 ยูนิต ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่ 900 ตร.ม. ที่เราอยากเก็บส่วนที่ดีที่สุดเสมือนลูกชิ้นในชามก๋วยเตี๋ยวไว้เป็นอย่างสุดท้ายเพื่อขายให้ได้ราคาดีที่สุดด้วย" <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 700px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/11/H2mZsq2Ys3f7TCNLp719.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="700px,437px" data-align="center" data-file-name="H2mZsq2Ys3f7TCNLp719.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,450" data-origin="700px,437px" style="width: 700px; height: 437px;" data-index="1"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp; นอกจากนี้&nbsp;อีกหนึ่งหัวใจหลักของโครงการก็คือ พื้นที่สีเขียวใจกลางเมืองกับ สวนดุสิตอรุณฯ สวนลอยฟ้าใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยขนาด 7 ไร่ (11,200 ตารางเมตร) ที่เกิดจากวิสัยทัศน์ของทีมผู้บริหารที่ต้องการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ โดยออกแบบตามหลักอารยสถาปัตย์ (Universal Design) และแนวคิด Inclusive Design For All เพื่อให้พื้นที่สีเขียวสามารถตอบรับการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ของคนทุกเพศ ทุกวัย พร้อมคัดเลือกพันธุ์ไม้ไทยแท้ 100% ที่เป็นไม้ประจำถิ่นและไม้ที่หาชมได้ยากมาปลูก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและคุณภาพเมืองให้แก่คนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลก&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 700px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/11/FFW7SH8H8Vjo9Qe5LvPX.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="700px,437px" data-align="center" data-file-name="FFW7SH8H8Vjo9Qe5LvPX.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,450" data-origin="700px,437px" style="width: 700px; height: 437px;" data-index="2"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp; อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปีนี้ ทางโครงการฯ ยังได้เตรียมจัดกิจกรรมพิเศษดนตรีในสวนโดยศิลปินชื่อดัง ได้แก่ โต๋ ศักดิ์สิทธ์, แอม เสาวลักษณ์, ใหม่ เจริญปุระ, กิต เดอะว๊อยซ์, โรส ศิรินทิพย์ และวงออเครสตร้าจากมหาวิทยาลัยศิลปากร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยพื้นที่บริเวณอัฒจันทร์ดุสิตพินีจะมีจอขนาดใหญ่แสดงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งเป็นสภานายิกาของสภากาชาดไทย หน่วยงานที่กำกับดูแลโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ในกิจกรรม “Legacy of Light เมื่อตำนานส่องแสง” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568 ไปจนถึง 4 มกราคม พ.ศ.&nbsp;2569 ซึ่งรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายจะนำมาร่วมสมทบทุนให้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ต่อยอดจากแคมเปญไลน์สติ๊กเกอร์ Park for Life ที่ทางโครงการได้จัดทำมาอย่างต่อเนื่อง&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 700px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/11/woosrrcZiJUedZWCU8JU.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="700px,437px" data-align="center" data-file-name="woosrrcZiJUedZWCU8JU.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,450" data-origin="700px,437px" style="width: 700px; height: 437px;" data-index="3"></figure></div>​ ภาพ :&nbsp;Dusit Central Park เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/property/seacon-vision-2026" alt="ซีคอน ประเมินรับสร้างบ้านปี 69 โตต่อเนื่อง แม้ต้นทุนผันผวน ชู 4 กลยุทธ์หลักดันยอดขาย พร้อมขยายบริการสู่ EEC">ซีคอน ประเมินรับสร้างบ้านปี 69 โตต่อเนื่อง แม้ต้นทุนผันผวน ชู 4 กลยุทธ์หลักดันยอดขาย พร้อมขยายบริการสู่ EEC</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Dusit Central Park อวดความสำเร็จขายห้องคอนโด Residences ไปแล้วถึง 95%

Marriott จับมือ แค๊ปสโตนฯ ลุย Branded Residences ที่ภูเก็ต เปิดตัวแบรนด์ Autograph Collection ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิกที่ PEYLAA Phuket

<h2>​City Dynamic เผย ถึงการทุ่มงบราว 4 หมื่นล้าน ใน 2 โครงการ Branded Residences สุดหรู ที่เตรียมขายแบบ Freehold โดยมีทำเลตั้งอยู่ในใจกลางถนนวิทยุ ได้แก่ Upper House Residences Bangkok และ The Wireless Residences by Upper House คาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2573 มั่นใจราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.จะสูงกว่าราคาขายของ Leasehold ในย่านนี้ถึง 40% </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท ซิตี้ ไดนามิค จำกัด&nbsp;คือ บริษัทร่วมทุนระหว่าง ซิตี้ เรียลตี้ (ธุรกิจในเครือของตระกูลดังเมืองไทย 'โสภณพานิช') และสไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ (บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมหรูแบรนด์ดังจากเกาะฮ่องกง) เผยข้อมูล Update ล่าสุด 2 โครงการ Branded Residences ได้แก่ Upper House Residences Bangkok ซึ่งเป็น Branded Residences ภายใต้แบรนด์ Upper House แห่งแรกของโลก และโครงการ The Wireless Residences by Upper House ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่มาพร้อมบริการเหนือระดับของแบรนด์&nbsp;โดยทั้ง 2 ตึกโครงการถือเป็นอสังหาฯ แบบฟรีโฮลด์แผนสุดท้ายที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางถนนวิทยุที่หาที่ไหนไม่ได้อีก! พร้อมนำเสนอวิวสุด Exclusive ของสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติแบบพาโนรามา ต่อเนื่องไปความสะดวกสบายจากทำเลที่รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โรงแรมห้าดาว โรงเรียนนานาชาติ และสถานทูตสำคัญ&nbsp;ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้เริ่มต้นก่อสร้างในเดือนเมษายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา ด้วยงบลงทุนราว 4 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2573&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/NrhtQ8LsbKHdTf7LRUNP.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="4" data-file-name="NrhtQ8LsbKHdTf7LRUNP.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""><figcaption><div style="text-align: center;">&nbsp;โครงการ Upper House ฮ่องกง</div></figcaption></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/2GuJZ2gVxW57RTaxk6dT.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="6" data-file-name="2GuJZ2gVxW57RTaxk6dT.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""><figcaption><div>โครงการ Upper House เซี่ยงไฮ้</div></figcaption></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/QgBKP7XdMMuVxXVB4k2Q.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="5" data-file-name="QgBKP7XdMMuVxXVB4k2Q.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""><figcaption><div>โครงการ Upper House เฉิงตู</div></figcaption></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เคซี อาว กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท ซิตี้ ไดนามิค จำกัด กล่าวว่า "เราภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัว Branded Residences ภายใต้แบรนด์ Upper House เป็นแห่งแรกของโลก พร้อมยกระดับกรุงเทพฯ สู่การเป็นมหานครชั้นนำในตลาดที่อยู่อาศัยลักชัวรีระดับ Global ความร่วมมือในการสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่จะกลายเป็นมรดกอันทรงคุณค่าที่ส่งต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น คาดว่าจะดันราคาอสังหาฯ ระดับ Ultra Luxury แห่งนี้ให้มีราคาต่อตร.ม.สูงกว่าราคาขายทั่วไปในย่านนี้ถึง 40% รวมถึงห้อง Penthouse ที่จะมีขนาด 600-800 ตร.ม. ก็น่าจะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้วงการอสังหาฯ ไทยด้วยราคาแตะหลักพันล้านบาทต่อยูนิตได้อย่างแน่นอน" <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/YxDh9wY4rze1cHGtJDjN.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="YxDh9wY4rze1cHGtJDjN.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โทมัส วูลซี กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท ซิตี้ ไดนามิค จำกัด เผยว่า "โครงการ Upper House Residences Bangkok และ The Wireless Residences by Upper House จะกลายเป็นสุดยอดโครงการบนทำเลหายากใจกลางถนนวิทยุ นับเป็นโอกาสทองในการเป็นเจ้าของโครงการฟรีโฮลด์บนทำเลที่มีศักยภาพที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ โครงการแห่งนี้พร้อมสานต่อความสำเร็จจากโปรเจกต์ระดับเวิลด์คลาสอย่าง OPUS Hong Kong และ EDEN Singapore โครงการนี้จะเป็นอีกหนึ่งผลงานระดับมาสเตอร์พีซในคอลเลกชันที่พักอาศัยระดับโลกของ สไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ ที่ควรค่าแก่การเป็นเจ้าของ ทั้งนี้ คาดว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักจะเป็นคนไทย 60% และอีก 40% ที่เหลือจะเป็นต่างชาติ อย่าง จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และสิงคโปร์ เป็นหลัก รวมถึงกลุ่มลูกค้าเดิมที่เคยซื้อห้องยูนิตที่แพงที่สุดในราคา 2 พันล้านบาท จากโครงการที่เราเคยพัฒนาในภูมิภาคนี้มาก่อนแล้ว" <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/R1zpVSL9Xm3TB4SkK4Y6.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="1" data-file-name="R1zpVSL9Xm3TB4SkK4Y6.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​ ด้าน โทบี สมิธ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ สไวร์ โฮเทลส์ กล่าวว่า "โครงการ Upper House Residences Bangkok และ The Wireless Residences by Upper House เป็นการเปิดบทใหม่อันน่าตื่นเต้นให้แบรนด์ Upper House พร้อมนำดีไซน์อันเป็นที่รู้จักทั่วโลกและความเชี่ยวชาญด้านบริการในโรงแรมลักชัวรีมาสู่โครงการที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ การเปิดตัวโครงการสำคัญแห่งใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังตอกย้ำวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศของเรา”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/psFNWmtQy3cv1LmQAdVW.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="2" data-file-name="psFNWmtQy3cv1LmQAdVW.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> ​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม โครงการทั้ง 2 แห่งนี้ &nbsp;ได้บริษัทที่ปรึกษาสถาปนิกระดับโลก&nbsp;Foster + Partners&nbsp;ที่ดำเนินงานผ่านบริษัทย่อยในไทย บริษัท เอฟแอนด์พี (ประเทศไทย) จำกัด มาออกแบบโครงการที่ให้ความสำคัญกับสัดส่วน แสง และองค์ประกอบที่สวยงาม นอกจากนี้ยังได้&nbsp;PLandscape&nbsp;มาร่วมออกแบบสวนและระเบียงลอยฟ้าเพื่อเชื่อมโยงพื้นที่อยู่อาศัยเข้ากับธรรมชาติในทุกๆ วัน ซึ่งทั้ง 2 ตึกจะมีความแตกต่างด้านการออกแบบภายในที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ โดย Upper House Residences Bangkok เป็นอาคารสูง 52 ชั้น จำนวน 156 ยูนิต ได้ BAR Studio เป็นผู้ออกแบบการตกแต่งภายในที่สะท้อนความอบอุ่น รายละเอียดการตกแต่ง และความสะดวกสบายมาตรฐานโรงแรมระดับโลก อีกทั้งยังร่วมมือกับ GOCO ผู้เชี่ยวชาญด้านเวลเนสระดับเวิลด์คลาส เพื่อพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงสุขภาพแบบองค์รวม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่โครงการ The Wireless Residences by Upper House เป็นอาคารสูง 71 ชั้น จำนวน 239 ยูนิต ออกแบบโดย PIA Interior ผสานแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมไทยเข้ากับฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนกรุงเทพฯ โดยโครงการแห่งนี้มาพร้อมบริการต้อนรับและงานบริการส่วนหน้าบ้านภายใต้การบริหารจัดการโดย Upper House (Front-of-houseservices managed by Upper House) เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสบริการเหนือระดับของแบรนด์​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/kz1wgQg9VBiCcVa2NCZx.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="3" data-file-name="kz1wgQg9VBiCcVa2NCZx.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> ​ ภาพ : City Dynamic&nbsp; เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/property/scope-thonglor-a-luxurious-penthouse-three-floors-priced-at-615-million-baht" alt="SCOPE Thonglor อวดโฉม Penthouse 3 ชั้นสุดหรู ราคา 615 ล้าน มั่นใจตอบโจทย์มหาเศรษฐีไทย">SCOPE Thonglor อวดโฉม Penthouse 3 ชั้นสุดหรู ราคา 615 ล้าน มั่นใจตอบโจทย์มหาเศรษฐีไทย</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

​City Dynamic เผย 2 คอนโด Freehold สุดหรูใจกลางถนนวิทยุ ภายใต้แบรนด์ 'Upper House' ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. จะสูงกว่า Leasehold ในย่านนี้ 40%

<h2>ปรากฏการณ์น่าจับตามองกำลังเกิดขึ้นบนเกาะภูเก็ต เมื่อนักลงทุนต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาจับจองอสังหาริมทรัพย์บนเกาะ จนทำให้ภูเก็ตกลายเป็นตลาด Branded Residences ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปัจจุบันมูลค่ารวมของโครงการเหล่านี้ทะลุ 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปแล้ว และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ข้อมูลจาก C9 Hotelworks กลุ่มที่ปรึกษาโรงแรมชั้นนำ ชี้ให้เห็นว่า ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นจากการขยายตัวของการท่องเที่ยว ประกอบกับความมั่นใจในศักยภาพของภูเก็ต ส่งผลให้เกิดการพัฒนาโครงการ Branded Residences ระดับหรูมากมายบนเกาะ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจของภูเก็ตจากเมืองที่พึ่งพาการท่องเที่ยวสู่การเป็นยักษ์ใหญ่วงการอสังหาริมทรัพย์ เป็นเรื่องราวที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นผ่านเส้นกั้นบางๆ ระหว่างธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/wXtvttWDLTL16qQdie8b.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="wXtvttWDLTL16qQdie8b.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,674"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตัวอย่างที่ชัดเจน คือ บริษัท ลากูน่า ภูเก็ต ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของภูเก็ต ที่ได้ปรับกลยุทธ์จากเน้นธุรกิจโรงแรมมาสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบรนด์ดังต้นปีที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวมไปถึง บริษัท บันยันทรี กรุ๊ป (Banyan Tree Group) ทุ่มเงินกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบรนด์หรู บนพื้นที่ดินข้างเคียง ลากูน่า ภูเก็ต ซึ่งโครงการนี้นำเสนอวิถีชีวิตทันสมัย สะท้อนกลยุทธ์ระยะยาวของ เคพี โฮ (KP Ho) ผู้นำด้านการท่องเที่ยวชื่อดังชาวสิงคโปร์ ที่เปลี่ยนจากเน้นการบริหารโรงแรมภายใต้แบรนด์บันยันทรีมาสู่กลยุทธ์แบบหลากหลายแบรนด์ ส่งผลให้มีการเปลี่ยนชื่อเครือโรงแรมและมุ่งเน้นการเติบโตผ่านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บิลล์ บาร์เน็ตต์ กรรมการผู้บริหาร C9 Hotelworks ผู้ติดตามการเปลี่ยนแปลงความสนใจของนักลงทุนจากธุรกิจโรงแรมไปสู่โครงการอเนกประสงค์ (Mixed-use) อธิบายว่า “หลังจากผ่านพ้นช่วงการแพร่ระบาด เราได้เห็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยจำนวนมากกลับมาลงทุนในภูเก็ตอีกครั้ง แรงผลักดันหลักมาจากการฟื้นตัวของตลาดรีสอร์ตและการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/f57C3HvacARnPrbeBfwt.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="f57C3HvacARnPrbeBfwt.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="720,479"><figcaption><div>บิลล์ บาร์เน็ตต์</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นอกจากนี้ แรงจูงใจอีกประการสำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คือความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นจากกลุ่มผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ระดับบน ทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ต้องการย้ายมาพำนักบนเกาะภูเก็ต หรือเชื่อมั่นว่า การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบรนด์ดังเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย"&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แบรนด์ดังที่เข้ามาล่าสุดในตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต มีตั้งแต่ เดอะ “สแตนดาร์ด” (The Standard) ในพื้นที่หาดบางเทา ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางการเติบโตในปีที่ผ่านมา ขณะที่ “แสนสิริ” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากกรุงเทพฯ ก็ได้ประกาศแผนการลงทุนในภูเก็ตเช่นกัน รวมไปถึงการเปิดตัว การ์เดนส์ ออฟ เอเดน (Gardens of Eden) บนพื้นที่ติดทะเลกว่า 73 ไร่ โครงการอสังหาริมทรัพย์สีเขียวที่ได้รับทุนจากดูไบ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในปี 2566 ตลาดการท่องเที่ยวภูเก็ตมีการปรับราคาห้องพักสูงขึ้น ส่งผลให้เจ้าของโรงแรมส่วนใหญ่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ข้อมูลผลประกอบการโรงแรมทั่วทั้งตลาดจาก STR เมื่อเทียบกับปี 2561 และ 2562 ซึ่งเป็นปีทองของการท่องเที่ยว พบว่า อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยสูงขึ้น 20-30%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บิลล์ ยังกล่าวอีกว่า เสถียรภาพการซื้อขายโรงแรมในภูเก็ตกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากธนาคารไทยชะลอการปล่อยสินเชื่อในช่วงวิกฤตโควิด-19 ก็ได้กลับมาปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการโรงแรมใหม่ (greenfield projects) อีกครั้ง สาเหตุหลักมาจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตมีการซื้อขายอย่างคึกคักและราคาค่าเช่าพุ่งสูงขึ้น นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงหันมาผสมผสานธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์โดยหวังว่าการใช้แบรนด์ดังจะช่วยเพิ่มมูลค่าการขายได้​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/4xFQXXbB1m7eUEyk7zhX.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="4xFQXXbB1m7eUEyk7zhX.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2" origin-size="460,430"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการพัฒนาโครงการโรงแรม คือราคาที่ดินทั่วเกาะที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้นักพัฒนาฯ ต้องปรับกลยุทธ์ หันมาผสมผสานธุรกิจโรงแรมเข้ากับอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเพิ่มมูลค่าการขาย ตัวอย่างเช่น การนำแบรนด์โรงแรมชื่อดังมาบริหารควบคู่กับการขายที่พักสำหรับอยู่อาศัย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นความต้องการอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตหลังโควิด-19 คือการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานทั่วโลก บิลล์ มองว่า เทรนด์การย้ายถิ่นฐานทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ทางการเมือง ประกอบกับแนวโน้มวิถีการทำงานแบบ work-from-anywhere และสังคมผู้สูงอายุที่เกษียณอายุเร็วขึ้นหรือเลือกใช้ชีวิตในสถานที่พักผ่อน ยิ่งส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตเพิ่มสูงขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ประกอบกับนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างประเทศของรัฐบาลไทย เช่น การยกเว้นวีซ่า โปรแกรมวีซ่าระยะยาว และโปรแกรม Thailand Elite ยิ่งช่วยกระตุ้นให้ภูเก็ตกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนและผู้มองหาที่อยู่อาศัย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;งานวิจัยของ C9 Hotelworks ยังชี้ให้เห็นปัจจัยสำคัญอีกประการ คือจำนวนโรงเรียนนานาชาติที่เพิ่มขึ้นในภูเก็ต โดยปัจจุบันมีอยู่ 13 แห่ง และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บิลล์มองว่าการเปลี่ยนแปลงของภูเก็ตไม่ได้เกิดจากตัวเกาะเอง แต่เป็นผลกระทบจากความผันผวนของสถานการณ์โลกประกอบกับความดึงดูดใจที่เพิ่มขึ้นของภูเก็ตในฐานะชุมชนนานาชาติ ความนิยมในโครงการที่พักแบรนด์สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงความต้องการของผู้ซื้ออย่างชัดเจน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยคาดว่าในอนาคต นอกจากจะมีแบรนด์โรงแรมเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังจะมีแบรนด์นอกเหนือวงการโรงแรมเข้ามาผสมผสานด้วย เช่น แบรนด์แฟชั่น แบรนด์รถยนต์ และแบรนด์ร้านอาหารต่างๆ ด้วยปริมาณโครงการที่พักแบรนด์ระดับรีสอร์ตที่พุ่งสูง ภูเก็ตได้กลายเป็นตลาดระดับพันล้านเหรียญเทียบเคียงกับเมืองท่องเที่ยวระดับแนวหน้าอย่างไมอามีและดูไบ ​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/property/so-origin-bangtao-beach-70-percent-sell" alt="ภูเก็ตฮอต! ‘ออริจิ้น’ กวาดยอดขาย ‘โซ ออริจิ้น บางเทา บีช’ ทะลุกว่า 70% ทั้งปีจ่อเปิดบ้าน-คอนโดใหม่ทั่วไทยอีก 33 โครงการ">ภูเก็ตฮอต! ‘ออริจิ้น’ กวาดยอดขาย ‘โซ ออริจิ้น บางเทา บีช’ ทะลุกว่า 70% ทั้งปีจ่อเปิดบ้าน-คอนโดใหม่ทั่วไทยอีก 33 โครงการ</a>​​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events