<h2>อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยปี 2568 คาดว่ามูลค่าตลาดจะพุ่งแตะ 4 แสนล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 6–7% ต่อปี ครองตำแหน่ง “ตลาดใหญ่สุดในอาเซียน” ทั้งในแง่ผู้บริโภคและผู้ผลิต พร้อมโอกาสก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจความงามระดับโลก </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ลักษณ์สุภา ประภาวัต นายกสมาคมการค้าคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยเติบโตต่อเนื่องจากฐานเพียง 7 หมื่นล้านบาทเมื่อ 20 ปีก่อน ภาพรวมเติบโตเฉลี่ย 6-7% ต่อปี คาดว่าปีนี้จะมีมูลค่าแตะ 4 แสนล้านบาท สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการในประเทศที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะแบรนด์ไทยที่เริ่มมีศักยภาพในการ “โคแบรนด์” กับต่างประเทศ และสามารถแข่งขันได้ในตลาดเอเชีย &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ประเทศไทยมีความได้เปรียบด้านทรัพยากรชีวภาพ พืชพรรณกว่า 1,500 ชนิดที่ใช้เป็นวัตถุดิบเครื่องสำอางได้ และเป็นที่สนใจในตลาดโลก ขณะที่เทรนด์ ‘บิวตี้จากธรรมชาติ’ ยังคงมาแรง ทำให้ไทยมีศักยภาพจะเป็นฐานการผลิตเครื่องสำอางจากวัตถุดิบธรรมชาติที่สำคัญของโลก” ลักษณ์สุภากล่าว <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/11/NiHzDeFZg1PwhghGiVfd.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="720px,480px" data-align="center" data-file-name="NiHzDeFZg1PwhghGiVfd.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="720px,480px" style="width: 720px; height: 480px; transform: rotate(0deg);" data-index="0"><figcaption style="margin-top: 0px;"><div>ลักษณ์สุภา ประภาวัต</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ลักษณ์สุภามองว่าตลาดเครื่องสำอางไทยปีนี้ขับเคลื่อนด้วย 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การเติบโตของแบรนด์ไทยในตลาดทั้งในและต่างประเทศ, เมกะเทรนด์ด้านผลิตภัณฑ์และบริการความงามที่เน้นสุขภาพและธรรมชาติ, การขยายฐานผู้บริโภคสู่กลุ่มใหม่ เช่น กลุ่มผู้ชายและวัยทำงาน และการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้เล่นรายใหม่ ทั้งในและต่างชาติ ​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ไทยยังได้เปรียบด้านระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นฐานการผลิต บรรจุภัณฑ์ การวิจัย ไปจนถึงบุคลากรคุณภาพ โดยมีสถาบันการศึกษากว่า 26 แห่ง เปิดสอนด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางโดยเฉพาะ” ลักษณ์สุภากล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายกสมาคมฯ ระบุว่า “จุดแข็งของไทยคือการมีภูมิปัญญาและเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติและวัฒนธรรม ซึ่งโลกให้คุณค่าไม่แพ้เทคโนโลยีใหม่ๆ” พร้อมยกตัวอย่างว่า อุตสาหกรรมเครื่องสำอางระดับโลก เช่น ฝรั่งเศส ใช้ “เรื่องเล่าและประวัติศาสตร์” เป็นจุดขายสำคัญ เช่นเดียวกับไทยที่สามารถต่อยอดจุดแข็งนี้ได้เช่นกัน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อม ทั้งศูนย์นิทรรศการระดับนานาชาติ สนามบิน และเครือข่ายโลจิสติกส์ ทำให้เป็นฐานการจัดแสดงและเชื่อมโยงธุรกิจเครื่องสำอางในภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แม้ตลาดเติบโตต่อเนื่อง แต่อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยยังเผชิญความท้าทายจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะจากการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่ที่ต้องการช่วงชิงตลาด “บิวตี้ธรรมชาติ” ซึ่งเติบโตหลังโควิด-19 ​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ผู้ประกอบการที่จะอยู่รอดได้ ต้องให้ความสำคัญกับ คุณภาพ วัตถุดิบ การวิจัย และการตลาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมาตรฐานระดับสากล &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ลักษณ์สุภากล่าวอีกว่า ในระยะยาว ไทยยังมีโอกาสขยายตลาดสู่ภูมิภาคใหม่ในแง่ของวัตถุดิบที่เป็นที่ต้องการในโลก สามารถปลูกในไทยและส่งกลับไปขายในต่างประเทศ โดยเฉพาะเอเชียกลาง เช่น คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน และเติร์กเมนิสถาน ซึ่งมีความต้องการสินค้าความงามสูงและสภาพภูมิอากาศคล้ายไทย เหมาะสำหรับใช้วัตถุดิบจากประเทศไทย เพราะมีสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกัน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ล่าสุดสมาคมฯ ผนึกพันธมิตร จัดงาน COSMEX 2025 ภายใต้แนวคิดการชู T-Beauty ยืนหนึ่งเคียงข้าง Global Beauty &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ RX BITEC กล่าวว่า “งาน COSMEX เป็นเวทีสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมความงามในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบกับนวัตกรรมใหม่ๆ จากต่างประเทศ การสร้างเครือข่ายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการส่งเสริมแบรนด์ในภูมิภาคอาเซียนให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมั่นใจ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/11/CovFDuaYVUmmba5b4WgA.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="720px,480px" data-align="center" data-file-name="CovFDuaYVUmmba5b4WgA.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="720px,480px" style="width: 720px; height: 480px; transform: rotate(0deg);" data-index="1"><figcaption style="margin-top: 0px;"><div>วราภรณ์ ธรรมจรีย์</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“COSMEX ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานแสดงสินค้า แต่เป็นเวทีกำเนิดและบ่มเพาะแบรนด์ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพแบบเฉพาะ และเป็นจุดเชื่อมโยงผู้ประกอบการในอาเซียนและอีกหลายประเทศ เป็นพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านได้มาแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และร่วมกันสร้างมาตรฐานใหม่ของ ASEAN Beauty ที่มีความหลากหลายในเวทีโลก ทำให้บทบาทสำคัญของงานนี้ คือ การผลักดันให้ภูมิภาคของเรากลายเป็นศูนย์กลางความงามที่มีอัตลักษณ์และศักยภาพสูง” วราภรณ์ กล่าว ภาพ COSMEX เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://www.forbesthailand.com/news/it/marketing/line-man-no-1-half-half-plus" alt="LINE MAN ขึ้นอันดับ 1 ลงทะเบียนร้านคนละครึ่งวันแรก! กวาดกว่า 3 หมื่นร้านทั่วไทย">LINE MAN ขึ้นอันดับ 1 ลงทะเบียนร้านคนละครึ่งวันแรก! กวาดกว่า 3 หมื่นร้านทั่วไทย</a>​ ​<a target="_blank" href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

เครื่องสำอางไทยบูม! โตพุ่ง 6% แตะ 4 แสนล้านบาท ยืนหนึ่งในอาเซียน COSMEX สร้างแต้มต่อแบรนด์ไทยสู่เวทีโลก

เครื่องสำอางแบรนด์ไทย CATHY DOLL&nbsp;เปิดตัวคอลเล็กชันสุดพิเศษ&nbsp;CATHY DOLL x MAENG ด้วยการผนึกกำลังคอลแล็บกับเมคอัพอาร์ทิสต์ระดับโลกที่แต่งหน้าให้กับ 'ลิซ่า'&nbsp;หวังยกระดับคุณค่าแบรนด์พร้อมกระตุ้นยอดขายได้ 100 ล้าน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;CATHY DOLL (เคที่ดอลล์) แบรนด์บิวตี้ชั้นนำของไทยในเครือ KARMART หรือ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน)&nbsp;ประกาศเดินหน้ารุกตลาดโกลบอล สู่ผู้นำ T-Beauty World Class ด้วยการเปิดตัวคอลเล็กชันสุดพิเศษ&nbsp;CATHY DOLL x MAENG ที่ผนึกกำลังร่วมกับ MAENG หรือ Lee Myung Sun เมคอัพอาร์ทิสต์ชื่อดังระดับโลกที่อยู่เบื้องหลังลุคของศิลปิน K-Pop อย่าง ลิซ่า วง BlackPink และเซเลบริตี้แนวหน้ามากมายด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปี&nbsp; จาก&nbsp;“Thai Soft-Glam”&nbsp;สู่&nbsp;“T-Beauty”&nbsp;บนเวทีโลก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เทรนด์ T-Beauty (Thai Beauty) กำลังขึ้นแท่นความสนใจในโซนเอเชียและไต่ขึ้นสู่เทรนด์ระดับโกลบอล ด้วยความละมุนที่เข้าถึงได้ ผสานวัฒนธรรมสมัยนิยมไทยและการท่องเที่ยว ทำให้เกิดการทดลองใช้และซื้อซ้ำในช่องทางค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซระดับภูมิภาค ช่วยขยายการมองเห็นแบรนด์ไทยสู่ผู้บริโภคสากลอย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทาง&nbsp;“คาร์มาร์ท” จึงตั้งเป้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “T-Beauty World Class” และหวังที่จะดันยอดขายแบรนด์ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้เครือให้แตะ 1 หมื่นล้านบาท ภายในอนาคตข้างหน้าอีก 5 ปี พร้อมผลักดันแบรนด์ CATHY DOLL ในตอนนี้ ด้วยการเลือกคอลแล็บกับพาร์ตเนอร์ระดับโลกอย่าง MAENG เมคอัพอาร์ทิสต์ชื่อดังผู้สร้างลุคสวย-หล่อ ให้แก่เหล่า K-Pop ศิลปินและนักแสดงเกาหลีชื่อดังเป็นจำนวนมากในกาพัฒนาคอลลเล็กชันสุดพิเศษ&nbsp;“CATHY DOLL x MAENG”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล รองกรรมการฯ สายงานสื่อสารการตลาด และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการคอลแลปครั้งสำคัญนี้ว่า “เราใช้เวลากว่า 2 ปี ในการร่วมพัฒนากับคุณ MAENG โดยตั้งต้นจากคอนเซ็ปต์ของ ‘งานผิวจริงของคนเอเชีย’ และ soft-glam ที่แต่งหน้าแบบดูมืออาชีพแม้ใช้ในชีวิตประจำวัน ทุกเฉด สี เนื้อสัมผัส ไปจนถึงแพ็กเกจจิ้ง ถูกพัฒนาภายใต้หลัก ‘less but pro น้อยชิ้นแต่ได้ฟินิชระดับโปร’ เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกมั่นใจและใช้งานได้จริงในทุกวัน” <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/8pTC1YZ4zMr1DQ3ZEqhT.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="4" data-file-name="8pTC1YZ4zMr1DQ3ZEqhT.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""><figcaption><div>​MAENG หรือ Lee Myung Sun เมคอัพอาร์ทิสต์ชื่อดังระดับโล​</div></figcaption></figure></div>​คอลเล็กชัน CATHY DOLL x MAENG เปิดตัวสินค้าเรือธง&nbsp;8 รายการ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เริ่มด้วย&nbsp;Skin-Like Waterfall Cushion (Pre-Finish/Enhancer) คุชชั่นเผยผิวเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ช่วยปรับโทนให้ผิวฉ่ำสุขภาพดี ใส่สกินแคร์ 70% , Fix &amp; Fill Setting Spray อณูสเปรย์ละเอียด finish ไม่วาว ไม่แมทท์ ช่วยเมคอัพติดทน, Artist Eyebrow Powder พาเลตต์คิ้วฝุ่นอัดแข็ง พร้อมแปรง 3 หัว เซ็ตคิ้วฟุ้งละมุน สไตล์ MAENG, Curvy Metal Mascara มาสค่าหัวแปรงทรงแม่เหล็กรับแนวขนตา ปัดแล้วล็อกขนตาเรียงเส้น ไม่เป็นก้อน ล็อกทรงทั้งวัน, กลุ่ม Color ครบตั้งแต่ Smooth Blur Lip Liner, Matte Lip, Ink Lip Gloss กลอสวาวฉ่ำแต่บางเบา ให้สีชัด ริมฝีปากดูสุขภาพดีเป็นธรรมชาติ อินสไปร์จากกลอสรุ่นโปรดของ MAENG ที่เลิกผลิตแล้ว และ Dot Pop Liquid Blush บลัชลิควิดฟินิช “กลืนผิว” เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ใช้ได้ทั้งก่อนหรือหลังเซ็ตแป้ง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/LgLRZ1gg3w7x7M1rxDuM.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="1" data-file-name="LgLRZ1gg3w7x7M1rxDuM.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/3xmwfyoSAWdtdAyJY1UX.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="2" data-file-name="3xmwfyoSAWdtdAyJY1UX.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน ชลธิดา สถาวรวิจิตร รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คอลเล็กชัน CATHY DOLL x MAENG เราเดินเกม ออมนิชาแนลเต็มรูปแบบ ทั้ง online engine คอนเทนต์รีวิว ไลฟ์คอมเมิร์ซแบบต่อเนื่อง เจาะแฟน K-Beauty ทั่วภูมิภาค พร้อม Retail Re-imagination คอนเซ็ปต์สโตร์และป็อปอัพ “Cathy Doll Popup Store @ BTS สยาม” เพื่อสร้างประสบการณ์ลอง-ซื้อ-แชร์ครบวงจร ให้ผู้บริโภคได้สัมผัสฟินิชระดับโปรด้วยขั้นตอนน้อยชิ้นจริงๆ พร้อมระบบสมาชิก ข้อมูลเชิงลึกเพื่อพัฒนาคอนเทนต์และสินค้ารุ่นต่อไป&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราตั้งเป้ายอดขาย&nbsp;100&nbsp;ล้านบาท สำหรับคอลเล็กชัน CATHY DOLL x MAENG ที่จะจำหน่ายไปยังประเทศเป้าหมายหลักในแถบเอเชียและตะวันออกกลางรวม 13 ประเทศ โดยเบื้องต้นหลังเปิดจำหน่ายเพียงไม่กี่วันแรก กระแสตอบรับอยู่ในระดับน่าพอใจและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตลอดถึงสิ้นปีหน้า ซึ่งกลยุทธ์หลักคือความร่วมมือกับ MAENG เมกอัปอาร์ทิสต์แถวหน้าของสาย K-Beauty เพื่อสร้างการรับรู้ในระดับสากล พร้อมจับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ที่นิยมลุค “เผยผิว ไม่เน้นปกปิด” ให้จบสวยแบบมืออาชีพในไม่กี่สเต็ป” ชลธิชา กล่าว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/2HeFvAWgGHqpaeNTQfEJ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="3" data-file-name="2HeFvAWgGHqpaeNTQfEJ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> คาร์มาร์ท&nbsp;ปักธง SEA เป็นฐานตลาด ก่อนสเต็ปอัปสู่ Global&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) เผยถึงเป้าหมายการพาแบรนด์สู่ตลาดโลกว่า “การเปิดตัวคอลเล็กชัน CATHY DOLL x MAENG คือหมุดหมายสำคัญ โดยในเดือนพฤศจิกายนนี้ เราจะเปิดขายทางออนไลน์ที่เกาหลีและสหรัฐอเมริกา และกำลังเจรจาเพิ่มอีกหลายประเทศ ซึ่งกระแสตอบรับที่ดีจากคอลเล็กชันนี้ มาจากความเชื่อมั่นที่สั่งสมตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา เมื่อโปรดักต์ของ CATHY DOLL และแบรนด์ในเครือถูกเมคอัพอาร์ทิสต์และผู้เชี่ยวชาญความงามทั่วโลกหยิบไปใช้กับศิลปินระดับโลกอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเซเลบริตี้ระดับสากลที่นำไปใช้และโพสต์บนโซเชียลจนเกิดไวรัล ทั้งหมดนี้แปลงเป็นดีมานด์จากคู่ค้าต่างชาติที่ต้องการนำสินค้าเราไปจำหน่ายในหลายประเทศ”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ทางคาร์มาร์ท ยังเผยด้วยว่า ณ ปัจจุบันบริษัทมีแบรนด์ในเครือกว่า 21 แบรนด์ อาทิ Cathy Doll, Baby Bright, Browit และอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นแบรนด์ที่เข้าใจเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง วางจำหน่ายแล้วกว่า 33 ประเทศ ครอบคลุมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/nav4XwAeC7oz4xQbkpNa.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="5" data-file-name="nav4XwAeC7oz4xQbkpNa.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp; &nbsp; "เราตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการส่งออกให้เติบโตขึ้น 20% ภายใน 5 ปี และต้องการทำให้กระแส T-Beauty เกิดขึ้นจริงและยั่งยืน เราเชื่อในการเปิดพื้นที่ให้แบรนด์ไทยอื่นๆ ได้เติบโตไปด้วยกันบนแพลตฟอร์มเดียวกัน และจะยิ่งแข็งแรงมากขึ้นหากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ&nbsp;การเป็นผู้นำเทรนด์ T-Beauty สำหรับคาร์มาร์ท ไม่ได้หมายถึงเพียงการตามกระแส แต่คือการสร้างเทรนด์ใหม่ ๆ ให้กับตลาด ขับเคลื่อนนวัตกรรมที่เชื่อมโยงผู้บริโภคกับแบรนด์อย่างใกล้ชิด และสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมความงามของไทยในระยะยาว” วงศ์วิวัฒน์ กล่าว&nbsp; ภาพ : CATHY DOLL เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/marketing/janey-live-commerce" alt="​ปรากฏการณ์ ‘เจนนี่ ไลฟ์’ บทพิสูจน์แบรนด์จ่ายเฉพาะอินฟลูที่สร้างยอดขายได้จริง">​ปรากฏการณ์ ‘เจนนี่ ไลฟ์’ บทพิสูจน์แบรนด์จ่ายเฉพาะอินฟลูที่สร้างยอดขายได้จริง</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

CATHY DOLL x MAENG เครื่องสำอางคอลเล็กชันพิเศษ collab เมคอัพอาร์ทิสต์ชื่อดังของ 'ลิซ่า' กระตุ้นยอดขาย 100 ล้าน

<h2>เมื่อกระแสนิยม หรือ เทรนด์ของผู้คนในยุคปัจจุบันมีผลต่อการผลักดันธุรกิจเครื่องสำอางของไทยให้ก้าวสู่เวทีสากลมากยิ่งขึ้น โดย 1 ในเทรนด์สำคัญของปี 2025 ผู้บริโภคจำนวน 67% ของ Gen Z ในเอเชียต่างให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากกว่าสินค้าราคาถูก ดังนั้นผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ต่างๆ ควรคำนึงถึงการผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตราย ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายหรือรีไซเคิลได้ และต้องมีความโปร่งใสแสดงให้เห็นถึงที่มาของวัตถุดิบหรือส่วนผสมให้ผู้บริโภคได้ทราบอย่างจริงใจด้วย </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันผู้บริโภคมีความต้องการเครื่องสำอางที่เฉพาะเจาะจงและมีความหลากหลายมากขึ้น โดย “เทรนด์” หรือกระแสนิยมในปัจจุบัน ได้กลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องมือทรงพลังที่จะผลักดันธุรกิจให้ก้าวสู่เวทีสากล ดังนั้น กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) จึงร่วมมือกับสาขาเคมีผลิตภัณฑ์และธุรกิจเครื่องสำอาง ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เปิดประตูให้ Hero Brand พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัยและปรับตัวให้เข้ากับความต้องการใหม่ของตลาด ผ่าน “กิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามไทย” ในหัวข้อ Future of Beauty: Trends and Forecasts 2025&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เกียรติภูมิ แสงศร กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอร์สเมติค อินโนวาทีค แลบ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสูตรตำรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง กล่าวว่า อุตสาหกรรมความงามและการดูแลส่วนบุคคลทั่วโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จากการขับเคลื่อนของเทคโนโลยี ความยั่งยืน และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่เน้นทำผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งข้อมูลจากแหล่งวิจัยชั้นนำ ยังชี้ให้เห็นถึง 4 เทรนด์สำคัญในปี 2025 ดังนี้​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/07/iQxWnxDP8bE3x44XB7kC.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="iQxWnxDP8bE3x44XB7kC.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> ​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. ความยั่งยืนและความโปร่งใส (Sustainability &amp; Transparency)&nbsp; &nbsp; ถือเป็นหนึ่งในแกนหลักของอุตสาหกรรมความงามโลกปี 2025 ต่อเนื่องถึงอนาคต เพราะผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการให้ผลิตภัณฑ์และแบรนด์ “ดีต่อโลก” ด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตราย และใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายหรือรีไซเคิลได้ อีกทั้งต้องมีความโปร่งใสของส่วนผสม ซึ่งผู้บริโภคต้องการทราบถึงส่วนผสมและแหล่งที่มาของวัตถุดิบ เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยและจริยธรรมของผลิตภัณฑ์ สะท้อนจากผลสำรวจผู้บริโภคที่พบว่า 67% ของ Gen Z ในเอเชียให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากกว่าราคาถูก และ 78% ของผู้บริโภคในยุโรปและอเมริกาเหนือเลือกแบรนด์ที่มีความโปร่งใสเรื่องส่วนผสม รวมถึงแบรนด์ที่เน้นความโปร่งใสมียอดขายเติบโตเฉลี่ยปีละ 10-20%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2. เทคโนโลยีและการปรับแต่งเฉพาะบุคคล (Technology &amp; Personalization)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกหนึ่งเทรนด์ความงามระดับโลกที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในปี 2025 และต่อเนื่องไปอีกหลายปี โดยคาดการณ์ว่าตลาด AI ในเครื่องสำอางจะเติบโตจาก 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2022 สู่ 13.3 พันล้านเหรียญ ในปี 2030 ซึ่งการใช้ AI และ AR ในการวิเคราะห์สภาพผิวและแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลกำลังได้รับความนิยม เพื่อมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่แม่นยำและตอบโจทย์ผู้บริโภคเฉพาะราย โดย AI ช่วยให้แบรนด์นำข้อมูลของผู้บริโภคไปปรับปรุงผลิตภัณฑ์และประสบการณ์การใช้งานให้ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคล รวมทั้งแก้ pain point เช่น วิเคราะห์จากภาพถ่าย หรือการสแกนใบหน้า เพื่อประเมินความชุ่มชื่น, จุดด่างดำ หรือริ้วรอย ในขณะที่การใช้ AR ให้ผู้ใช้ลองเมคอัพเสมือนจริงผ่านกล้องมือ ช่วยลดปัญหาการคืนสินค้าในอีคอมเมิร์ซ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3. ความเป็นอยู่ที่ดีและการดูแลตนเอง (Wellness &amp; Self-Care)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันผู้บริโภคไม่ได้ต้องการเพียง “ผิวที่ดี” แต่ยังต้องการสุขภาพจิตดี การนอนหลับดี ความสมดุลของร่างกายและอารมณ์ ส่งผลให้เกิดนวัตกรรม “Well-Beauty Integration” ซึ่งเชื่อมโยง “สกิน แคร์ บวก สุขภาพ บวก จิตใจ” เข้าด้วยกัน Wellness &amp; Self-Care จึงกำลังกลายเป็นหัวใจของอุตสาหกรรมความงามปี 2025 ไม่ว่าจะเป็นการบูรณาการสุขภาพและความงาม อาทิ สกินแคร์ที่ช่วยในการนอนหลับ ผลิตภัณฑ์ช่วยลดความเครียด และการดูแลตนเองแบบองค์รวม โดยผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแค่ดูแลผิวพรรณ แต่ยังส่งเสริมสุขภาพจิตและความเป็นผู้ที่ดูดีโดยรวม ทั้งนี้ ข้อมูลเชิงพฤติกรรมผู้บริโภค ระบุว่า 72% ของผู้บริโภค Gen Z และ Millennials ใช้สกินแคร์เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพจิต และตลาดสินค้า Beauty + Wellness คาดว่าจะมีมูลค่ารวมกว่า 1.1 ล้านล้านเหรียญ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4. ความงามที่ครอบคลุมและหลากหลาย (Inclusivity &amp; Diversity)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เทรนด์นี้กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความงามทั่วโลกในปี 2025 โดยผู้บริโภคคาดหวังให้แบรนด์ “ยอมรับและเคารพตัวตนที่แตกต่าง” ทั้งในเรื่องสีผิว เพศ วัย ศาสนา ความพิการ และอัตลักษณ์ทางเพศ (LGBTQ+) ผ่านผลิตภัณฑ์ การสื่อสาร และการตลาดอย่างจริงใจ ซึ่งปัจจุบันแบรนด์ต่างๆ กำลังขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อรองรับความหลากหลาย เพื่อให้ทุกคนรู้สึกเป็นที่ยอมรับ รวมถึงทำการตลาดที่ครอบคลุม ผ่านการใช้โมเดลและมีผู้อิทธิพลจากหลากหลายภูมิหลังในแคมเปญการตลาด เพื่อสะท้อนถึงความหลากหลายของผู้บริโภคอีกด้วย&nbsp; &nbsp; "นอกจาก 4 เทรนด์หลักแล้ว พฤติกรรมผู้บริโภคยังเปลี่ยนมาซื้อสินค้าผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซ โซเชียลมีเดีย หรือช่องทางออนไลน์ต่างๆ มากขึ้น ทั้ง TikTok เฟซบุ๊ค ไอจี ซึ่งเป็นอีกเทรนด์ที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ โดยหากมีการใช้แพลตฟอร์มออนล์ ร่วมกับ AI หรือ AR ก็จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และช่วยลดต้นทุนให้เจ้าของแบรนด์จากการไม่ต้องมีหน้าร้าน นอกจากนี้ อินฟลูเอนเซอร์จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้ดาราเบอร์หนึ่งอย่างเดียวในการประชาสัมพันธ์"&nbsp;เกียรติภูมิ แสงศร กล่าวทิ้งท้าย​​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/07/TcS3UfFwugwMueBFpjKp.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="TcS3UfFwugwMueBFpjKp.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> ​ ภาพ :&nbsp;บริษัท คอร์สเมติค อินโนวาทีค แลบ จำกัด เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://forbesthailand.com/news/marketing/srichan-no-1-skincare-sales-confident-it-will-reach-2-billion-baht-in-2025" alt="ศรีจันทร์ ผงาด 'สกินแคร์' เบอร์ 1 ของไทยมั่นใจปี 2025 ยอดขายแตะ 2,000 ล้าน">ศรีจันทร์ ผงาด 'สกินแคร์' เบอร์ 1 ของไทยมั่นใจปี 2025 ยอดขายแตะ 2,000 ล้าน</a>​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

แบรนด์เครื่องสำอางต้องใส่ใจ! เมื่อ 67% ของ Gen Z ให้ความสำคัญเรื่องความโปร่งใสในการผลิตและความยั่งยืน

<h2>Burberry Beauty ปักหมุดเปิดตัวสโตร์แห่งใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Burberry Basecamp ณ ห้างเมกาบางนา พร้อมเสิร์ฟความงามไร้ที่ติ ผ่านเมคอัพ คอลเลกชัน 'Beyond Wear' โดยที่นี่ถือเป็นสาขาแรกที่กลุ่มลูกค้าจะได้สัมผัสและทดลอง Beyond Wear Perfecting Matte Cushion รุ่น Heritage Check ดีไซน์ลิมิเต็ด อิดิชั่น ตลับกรอบสีทองหรูหรา พร้อมลวดลาย Burberry Check อันเป็นเอกลักษณ์นั่นเอง </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Burberry Beauty (เบอร์เบอรี่ บิวตี้) จัดงานเปิดตัว Burberry Basecamp สโตร์แห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ณ ศูนย์การค้า เมกาบางนา เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยภายในงานมีแขกรับเชิญสุดพิเศษมาร่วมเฉลิมฉลองการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ได้แก่&nbsp;“มีน นิชคุณ&nbsp;ขจรบริรักษ์”&nbsp;นักแสดงและนายแบบที่มีผลงานโดดเด่นในวงการบันเทิง และ&nbsp;“น้ำตาล ทิพนารี&nbsp;วีรวัฒโนดม”&nbsp;นักแสดงหญิงมากความสามารถที่มาพร้อมกับคาแรคเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ ​&nbsp; &nbsp; ทั้งนี้ การปักหมุดเปิดตัวสโตร์แห่งใหม่ เป็นผลมาจากการที่ห้างดังกล่าวถือเป็น 1 ในจุดหมายปลายทางช้อปปิ้งระดับภูมิภาคที่โดดเด่นที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยภายในสโตร์แห่งใหม่นี้ ทุกท่านจะได้สัมผัสกับโลกแห่งความงามตามแบบฉบับของ Burberry ที่ผสานความเรียบหรูอย่างมีระดับของแฟชั่นอังกฤษเข้ากับเสน่ห์ของบรรยากาศกลางแจ้งอันน่าค้นหาได้อย่างลงตัว <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/Y5oPmNKREMCWooj4vuK6.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Y5oPmNKREMCWooj4vuK6.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp; ด้วยดีไซน์อันสวยงามสุดคลาสสิกของสโตร์ ได้รับแรงบันดาลใจจากเต็นท์และอุปกรณ์ตั้งแคมป์แบบดั้งเดิม ถ่ายทอดออกมาเป็น Basecamp พื้นที่ที่จิตวิญญาณแห่งการค้นหาตัวตนและนวัตกรรมมาบรรจบกันอย่างลงตัว รวมถึงการตีความใหม่ของผ้า Gabardine และเสื้อ Trench Coat อันเป็นไอคอนิกของแบรนด์ ผ่านมุมมองร่วมสมัย เมื่อนำมาผสานกับโครงสร้างภายนอกในรูปแบบ Basecamp ลวดลายตาราง รวมถึงการใช้โทนสีอันเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกออกแบบและจัดวางได้อย่างเหมาะสม&nbsp;&nbsp; &nbsp; โดยไฮไลท์สำคัญของสโตร์แห่งใหม่นี้ คือคอลเลกชั่น Beyond Wear ที่มาพร้อมนวัตกรรม Trench Protect Technology™ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเนื้อผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของเสื้อ Trench Coat สุดไอคอนิกของ Burberry มอบการปกปิดที่ติดทนยาวนานถึง 24 ชั่วโมง แต่ให้เนื้อสัมผัสบางเบา สบายผิว พร้อมส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผิวในขณะเดียวกัน เสริมด้วยคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากสภาพอากาศ* ทั้งความร้อน ความชื้น เหงื่อ และมลภาวะ ให้คุณออกไปใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ เต็มที่กับทุกกิจกรรม พร้อมเผยผิวสวยเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติในทุกมุมมอง <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/kndQXFdjGZvpxj2h4hMk.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="kndQXFdjGZvpxj2h4hMk.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp; และเพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Burberry Basecamp ณ เมกาบางนา ที่นี่จะเป็นสาขาแรกที่ทุกท่านจะได้สัมผัสและทดลอง Beyond Wear Perfecting Matte Cushion รุ่น Heritage Check ในดีไซน์ลิมิเต็ด พร้อมตลับกรอบสีทองหรูหราและลวดลาย Burberry Check อันเป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับพกพาเติมระหว่างวัน พร้อมบริการห่อของขวัญสุดพิเศษสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/4fdFZHUK2H7xg8wXFeP2.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="4fdFZHUK2H7xg8wXFeP2.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp; อย่างไรก็ตาม ภายในร้านทุกท่านยังจะได้สัมผัสกับบิวตี้ไอเท็มครบครันจาก Burberry Beauty ตั้งแต่เมคอัพคอลเลกชั่น Beyond Wear, ลิปสติกรุ่น Brit Shine และ Kisses ที่มีให้เลือกหลากหลายเฉดสี ไปจนถึงน้ำหอมไอคอนิกอย่าง Burberry Goddess Eau de Parfum Intense, Burberry Hero Eau de Parfum และคอลเลกชั่น Burberry Signatures น้ำหอมระดับ Ultra-Premium ที่ยกระดับประสบการณ์แห่งความหอมให้หรูหรายิ่งกว่าเคย​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังมีบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก Beauty Advisor ที่ให้คำปรึกษาได้แบบตัวต่อตัว พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกท่านได้เรียนรู้ถึงประสิทธิภาพอันโดดเด่นของเมคอัพจากไลน์ Beyond Wear อีกทั้งบริการพิเศษสำหรับท่านที่เลือกช้อปน้ำหอมภายในสโตร์แห่งนี้ สามารถใช้บริการสลักชื่อบนขวดน้ำหอม และดีไซน์ตัวอักษรในแบบที่เป็นคุณได้อย่างอิสระ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/2XxjQ3vSmHY9geibbSPs.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="2XxjQ3vSmHY9geibbSPs.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div>&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/3BBSrUW5c25CSNgjQoMe.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="3BBSrUW5c25CSNgjQoMe.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/ReSYkfs1XwM9RkySfh7u.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ReSYkfs1XwM9RkySfh7u.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="5"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“GO BEYOND” สู่ความงามเหนือระดับ&nbsp;ด้วย&nbsp;4&nbsp;ขั้นตอนผิวสวย&nbsp;ตามแบบฉบับของ&nbsp;Burberry Beauty&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขั้นตอนที่ 1: เตรียมผิวให้พร้อมด้วย Beyond Radiance Primer&nbsp;ไพรเมอร์สูตรแรกจาก Burberry ให้ผิวโกลว์เปล่งปลั่งและมอบความชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง พร้อมคุณสมบัติในการบำรุงและปกป้องผิว ให้ผิวดูสุขภาพดีในระยะยาว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขั้นตอนที่ 2: ลงงานผิวให้เพอร์เฟกต์ไปกับ Beyond Wear Perfecting Matte Cushion หรือ Foundation&nbsp;รองพื้นเนื้อแมตต์ที่ให้งานผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ติดทนนาน พร้อมคุณสมบัติในการบำรุงผิว เนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย ให้การปกปิดตั้งแต่ปานกลางถึงสูง ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนและพรางรูขุมขนได้อย่างดีเยี่ยม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขั้นตอนที่ 3: ปกปิดรอยต่าง ๆ ด้วย Beyond Wear Perfecting Concealer&nbsp;คอนซีลเลอร์เนื้อลิควิดที่ผสาน Trench Protect Technology ให้การปกปิดยาวนาน 12 ชั่วโมง พร้อมดูแลและปกป้องผิวจากมลภาวะ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขั้นตอนที่ 4: เซ็ตผิวให้ติดทนยิ่งขึ้นด้วย Beyond Wear Setting and Refining Powder&nbsp;แป้งฝุ่นอัดแข็งเนื้อบางเบา ผสานคุณค่าจากสารสกัดธรรมชาติ ช่วยควบคุมความมัน ไม่ทำให้ผิวแห้ง พร้อมปกป้องผิวและเบลอผิวให้ดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ผิวแมตต์ยาวนานตลอด 24 ชั่วโมง และเหมาะกับทุกสีผิว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/5PCdj1tPYYcRbjzbocHz.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="5PCdj1tPYYcRbjzbocHz.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="6"></figure></div> ​ ภาพ : Burberry Beauty&nbsp; เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/forbes-life/the-eye/guerlain-launches-new-foundation-terracotta-le-teint-glow" alt="GUERLAIN เปิดตัวรองพื้นสูตรใหม่ ‘TERRACOTTA LE TEINT GLOW’ เนรมิตผิวสวยฉ่ำโกลว์ ปกปิดยาวนานตลอดวัน">GUERLAIN เปิดตัวรองพื้นสูตรใหม่ ‘TERRACOTTA LE TEINT GLOW’ เนรมิตผิวสวยฉ่ำโกลว์ ปกปิดยาวนานตลอดวัน</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Burberry Beauty เปิดตัวสโตร์แห่งใหม่ ณ เมกาบางนา พร้อมเสิร์ฟความงามไร้ที่ติ ผ่านเมคอัพ คอลเลกชัน 'Beyond Wear'

<h2>GUERLAIN เปิดตัวรองพื้นสูตรใหม่ล่าสุด ‘TERRACOTTA LE TEINT GLOW’ พร้อมเนรมิตให้ผิวหน้ามีความเปล่งปลั่ง&nbsp;ดูสุขภาพดี&nbsp;สวยฉ่ำโกลว์ โดยเนื้อสัมผัสของสูตรใหม่นี้เป็นแบบลิควิดบางเบาไม่หนักหน้า แถมปกปิดยาวนานได้ตลอดทั้งวัน ทางแบรนด์พร้อมคัดสรร 8 เฉดสีมาจำหน่ายเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละโทนสีผิวของคนไทย</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;GUERLAIN (เกอร์แลง) หนึ่งในแบรนด์ความงามระดับสูงของเครือ LVMH จัดงานเปิดตัว 'TERRACOTTA LE TEINT GLOW' (เทอร์ราค็อตตา เลอแต็งต์ โกลว์) รองพื้นสูตรลิควิดรุ่นใหม่ในคอลเลกชัน TERRACOTTA ซึ่งถือเป็นรองพื้นระดับตำนานที่ผสานความงามจากธรรมชาติกับวิทยาการการแต่งผิวอย่างล้ำลึก เติมเต็มความสมบูรณ์แบบของผิว เผยความเปล่งปลั่ง สดใส สะท้อนสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก โดยภายในงาน มีผู้บริหารจากทางแบรนด์, ศิลปินชายชื่อดัง อย่าง 'มาย ภาคภูมิ' Friend of GUERLAIN Thailand พร้อมด้วยเหล่าเซเลบริตี้ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/Lz2uGXATbR6QXJSERb7G.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Lz2uGXATbR6QXJSERb7G.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/3abqk11dnCrNRTdpdB4c.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="3abqk11dnCrNRTdpdB4c.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp; TERRACOTTA ได้รับการยกย่องในฐานะผลิตภัณฑ์แต่งผิวระดับไอคอนิกมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1984 โดยในปี 2023 ทางแบรนด์ก็ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ TERRACOTTA LE TEINT รุ่นเนื้อแมตต์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับปี 2025 นี้ HOUSE OF GUERLAIN ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยการเปิดตัว 'GLOW'&nbsp;เวอร์ชั่นล่าสุด ในรูปแบบรองพื้นเนื้อลิควิดบางเบาสบายผิว ติดทนนาน&nbsp;เน้นมอบผลลัพธ์ให้ผิวสวยฉ่ำโกลว์ เป็นประกายมากขึ้นถึงสองเท่า&nbsp;และยังมีความเบาบนใบหน้ากว่ารองพื้นเนื้อแมตต์ถึงสองเท่าด้วยเช่นกัน อีกทั้ง​ยังช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยเพราะสามารถปกปิดได้เนียนเรียบแนบสนิทราวกับเป็นผิวจริง <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/fJPebY1r3f8FqR2boHrs.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="fJPebY1r3f8FqR2boHrs.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp; Terracotta Le Teint Glow สูตรใหม่&nbsp;อุดมไปด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 95% มีสารประกอบจากน้ำปฏิบัติการฟื้นบำรุง (Active Skincare Water) และน้ำมันอาร์แกน (Argan Oil) มอบการบำรุงอย่างล้ำลึกให้ผิวเนียนนุ่มยาวนานตลอดวัน และเมื่อผสานกับเม็ดแป้งซึ่งช่วยกระจายแสง ก็ยิ่งมอบความเปล่งประกายทำให้ผิวดูมีชีวิตชีวามากขึ้น&nbsp; &nbsp; ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย ทางแบรนด์จึงได้คัดสรร 8 เฉดสีมาจำหน่าย โดยสามารถเลือกได้จาก 3 โทนสีรองพื้น ได้แก่ โทนกลาง (Neutral) โทนเย็น (Cool) และโทนอบอุ่น (Warm) ให้เหมาะสมกับโทนสีผิวของแต่ละบุคคล และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนไร้ที่ติ ควรใช้คู่กับ “แปรงคาบูกิ” จะช่วยให้การเกลี่ยเรียบเนียนทั่วใบหน้าอย่างง่ายดาย ควบคุมทิศทางได้อย่างแม่นยำ&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/4TA8u5E2G6DzQnKvmrLd.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="4TA8u5E2G6DzQnKvmrLd.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div>​&nbsp;&nbsp; สำหรับบรรยากาศภายในงานยังมีไฮไลท์สุดพิเศษการสาธิตการแต่งหน้าจาก Justina Sim Makeup Artist ผู้มีประสบการณ์ทำงานกับแบรนด์ดังระดับโลกมาแล้วมากมาย โดยเธอยังได้แชร์เคล็ดลับดีๆ สำหรับการเลือกรองพื้นกับทาง Forbes Thailand ด้วยว่า "ควรจะเลือกสีโทนสว่างกว่าผิวตนเองสัก 1 เฉดสี เวลาแต่งหน้าไปแล้วระหว่างวัน โทนสีของรองพื้นจะได้ไม่ดร็อปลง ซึ่งการทดลงเฉดสีนั้น ควรจะลองบริเวณขากรรไกรเพราะจะได้เห็นความชัดเจนว่ารองพื้นสีนั้นเหมาะกับโทนสีผิวบนใบหน้าและบริเวณลำคอของเราจริงๆ หรือไม่ ส่วนเทรนด์การแต่งหน้าในปีนี้จะเน้นความฉ่ำวาว ผิวดูสุขภาพดีแบบ Glass Skin Look โดยเครื่องสำอางหลักที่อยากจะแนะนำสาวๆ นอกเหนือจากการใช้ Skincare บำรุงผิวที่มีคุณภาพดีแล้ว ก็คือการเลือกใช้บลัชให้เหมาะกับโทนผิวเพื่อแต่งแต้มสีสันบนโหนกแก้ม ซึ่งถ้าเลือกและแต่งแบบปัดเบาๆ ได้ถูกวิธีก็จะช่วยให้เราดูหน้าอ่อนเยาว์เด็กลงได้อีกด้วย" <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/EPdMuF4zFWDMALBVLFcj.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="EPdMuF4zFWDMALBVLFcj.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ทาง&nbsp;Guerlain ยังเผยข้อมูลการทดลองด้วยว่า กลุ่มผู้หญิงที่ใช้รองพื้นรุ่นล่าสุดนี้ ผิวพรรณแลดูเรียบเนียนขึ้นถึง 62% ริ้วรอยแลดูลดเลือนลงถึง 79% ผิวยังคงความเรียบเนียนต่อเนื่องนานถึง 12 ชั่วโมง และเนื้อผิวยังแลดูอิ่มเอิบยิ่งขึ้นถึง 40% ซึ่งเมื่อใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำถึงสี่สัปดาห์ สภาพผิวจะได้รับการฟื้นบำรุง เนื้อผิวแลดูเรียบเนียนอิ่มเอิบมากยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลองไปสัมผัสผลิตภัณฑ์เพื่อผิวโกลว์สุขภาพดีกันได้ง่ายๆ ณ เคาน์เตอร์ GUERLAIN ทุกสาขา​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/Nz73kZEgRcZxPufefw9t.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Nz73kZEgRcZxPufefw9t.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="5"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/mkuGs11mstsWpH6i6NF2.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="mkuGs11mstsWpH6i6NF2.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="6"></figure></div>​ ภาพ :&nbsp;GUERLAIN เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/forbes-life/the-eye/delvaux-a-luxury-leather-brand-from-belgium-opens-its-first-branch-in-thailand" alt="Delvaux แบรนด์เครื่องหนังระดับตำนานเกือบ 200 ปี จากเบลเยียม พร้อมเชื่อมต่อความ Luxury เปิดตัวสาขาแรกในไทย">Delvaux แบรนด์เครื่องหนังระดับตำนานเกือบ 200 ปี จากเบลเยียม พร้อมเชื่อมต่อความ Luxury เปิดตัวสาขาแรกในไทย</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>&nbsp;

GUERLAIN เปิดตัวรองพื้นสูตรใหม่ ‘TERRACOTTA LE TEINT GLOW’ เนรมิตผิวสวยฉ่ำโกลว์ ปกปิดยาวนานตลอดวัน

<h2>Coty บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจความงามและเครื่องสำอางระดับอินเตอร์ ล่าสุดเลือกส่งแบรนด์ดังอย่าง 'Kylie Cosmetics' เข้ามาบุกตลาดไทย ผ่านการจัดจำหน่ายด้วยระบบออนไลน์และร้าน EVEANDBOY ที่มีอยู่หลากหลายสาขาทั่วประเทศ เพราะเล็งเห็นศักยภาพตลาดเครื่องสำอาง สกินแคร์ และน้ำหอมในไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยคาดว่าจะก้าวเข้าสู่อันดับ 1 ของภูมิภาคได้ในอนาคต</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตลาดธุรกิจความงามของไทยยังคงเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากข้อมูลตัวเลขของสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทยที่ระบุว่า ปี 2566 ที่ผ่านมา ภาพรวมของตลาดธุรกิจดังกล่าวมีมูลค่าอยู่ที่ 258,275 ล้านบาท เติบโตขึ้น 11.6% โดยผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องสำอางมีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 11% เป็นผลมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปิดรับเทรนด์การแต่งหน้าและสีสันใหม่ๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ต่อเนื่องมาถึง ปี 2567 ทางสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทยได้คาดการณ์ด้วยว่า ตลาดธุรกิจความงามจะขยายตัวเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับปีก่อน 9.5% โดยมีมูลค่าราว 3.40 แสนล้านบาท แต่ทั้งนี้เหล่าผู้ประกอบการจะต้องพึงระวังและรับมือกับความไม่แน่นอนในหลายๆ ปัจจัย ทั้งเรื่องของภาวะเศรษฐกิจที่อาจมีผลกระทบต่อกำลังการซื้อของผู้บริโภคภายในประเทศ เรื่องของราคาต้นทุนวัตถุดิบสำหรับการผลิตที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึง การช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดที่นับวันจะมีผู้ผลิตหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเข้ามาแข่งขันกันในทุกๆ ปี ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้ยอดขายของธุรกิจยังเติบโตอยู่ได้นั้น คือ เรื่องของการรักษาคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่แตกต่างเพื่อตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้าได้อย่างเหมาะสม &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้วยโอกาสของตลาดความงามโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอางในไทยยังคงเติบโตสูง จึงเป็นผลให้ Coty Thailand หนึ่งในบริษัทเครื่องสำอางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ที่ก่อตั้งขึ้น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1904 ณ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส หันมาผนึกกำลังร่วมกับร้านค้าปลีกเครื่องสำอางรายใหญ่ในไทยอย่าง EVEANDBOY ในการดึงเครื่องสำอางแบรนด์ Kylie Cosmetics มาเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/qbByyxmJhrbHbV74ZFi7.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="3" data-file-name="qbByyxmJhrbHbV74ZFi7.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Kristina Strunz กรรมการผู้จัดการ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย บริษัท Coty ได้ให้สัมภาษณ์สุด Exclusive กับทาง Forbes Thailand ว่า เธอมองเห็นศักยภาพการเติบโตของธุรกิจตลาดเครื่องสำอางในไทย อีกทั้งแบรนด์ Kylie Cosmetics ที่เธอเลือกส่งมาแข่งขันเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดในครั้งนี้ ถือเป็นแบรนด์ที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ทั่วโลกต่างนิยมใช้และให้การยอมรับเป็นอย่างมากทั้งจากตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และภาพลักษณ์อันโดดเด่น ทันสมัย สะท้อนตัวตนของ Kylie Jenner เจ้าของแบรนด์และกลุ่มผู้บริโภคที่นิยมใช้แบรนด์นี้ได้เป็นอย่างดี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;"นับจากอดีตที่ผ่านมา Coty ถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เริ่มจากการผลิตและจำหน่ายน้ำหอมหลากหลายแบรนด์ดังใน 125 ประเทศทั่วโลก มีที่ตั้งสำนักงานใน 30 ประเทศ มี 8 โรงงานการผลิต และมีพนักงานกว่า 11,000 คน โดยถือครองแบรนด์สินค้ามากมายในระดับพรีเมียม เช่น Gucci Beauty, Chloe Parfum, Burberry Beauty, Marc Jacobs, HUGO BOSS และ Calvin Klein Fragrances เป็นต้น ปัจจุบันทางเรามีการขยายธุรกิจมาที่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวมากยิ่งขึ้น โดยคิดเป็นสัดส่วนน้ำหอม 70% และเครื่องสำอาง 30% ซึ่งการเลือกเปิดตัวแบรนด์ Kylie Cosmetics ในไทยล่าสุดนี้ เรามองเห็นโอกาสจากมูลค่าตลาดที่มหาศาล อีกทั้งไทยยังเป็นประเทศที่มีศักยภาพในเรื่องของเทรนด์การแต่งหน้าในรูปแบบต่างๆ รองจาก เกาหลี ที่นับวันจะเห็นได้ว่ากลุ่มประเทศในแถบเพื่อนบ้านหรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้หันมานิยมเทรนด์การแต่งหน้าและเลือกซื้อเครื่องสำอางจากไทยมากยิ่งขึ้น เราจึงตั้งเป้าขยายตลาดธุรกิจเครื่องสำอางในไทยให้อยู่ในระดับ Top 5 ในอนาคต" <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/NGd6Tre2mxPxSFwrL7Lz.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="NGd6Tre2mxPxSFwrL7Lz.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทาง Kylie Cosmetics ได้เปิดตัว Pop Up Store ณ ห้างสยามสแควร์วัน เพื่อสร้างการรับรู้และดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มาสัมผัสประสบการณ์ใหม่จากเครื่องสำอางแบรนด์ดังที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในไทย พร้อมขยายสาขาร่วมกับพาร์ทเนอร์คนสำคัญ ไปยัง EVEANDBOY สาขาต่างๆ เช่น เมกะ บางนา,เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ บางแค, แฟชั่น ไอส์แลนด์, ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต,เทอร์มินอล 21 พัทยา และ เซ็นเตอร์พอยท์ สยามสแควร์ วัน ที่พึ่งเปิดตัวล่าสุดในเดือนสิงหาค,&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับแบรนด์ Kylie Cosmetics ถือได้ว่าเป็นแบรนด์เครื่องสำอางที่เหล่าบรรดาสาวๆ ทั่วโลกต่างรู้จักกันดีถึงความมีเอกลักษณ์โดดเด่นของผลิตภัณฑ์ลิปสติกที่มีหลากหลายสีสันสวยงามและยังขึ้นชื่อในเรื่องของคุณภาพ ทุกผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ได้ส่งต่อจิตวิญญานที่รักการผจญภัยและความชอบในการทดลองผ่านสีสันจัดจ้านสวยงามในแต่ละชิ้น โดดเด่นด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และเป็นผู้นำในการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ สู่ตลาดความงามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องของเครื่องสำอางแล้ว ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กก็ได้รับความนิยมจากหลายประเทศทั่วโลกไม่แพ้กัน โดยสินค้าทั้งหมดของแบรนด์นี้ยังขึ้นชื่อได้ว่ามีการเลือกสรรใช้วัตถุดิบคุณภาพดีที่ทำมาจากวีแกนมาใช้ในส่วนผสม โดยตลาดความงามและกลุ่มลูกค้าคนไทยเองก็มีความเปิดกว้างต่อแบรนด์ใหม่ๆ และให้การตอบรับแบรนด์ เป็นอย่างดี ซึ่งทางแบรนด์เองยังคงยึดมั่นในความรักที่มีต่อแบรนด์และยังคงไม่หยุดพัฒนาเพื่อให้มีสินค้าที่ดีและน่าสนใจอยู่เสมอ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/QLDS2rsZ863PmjaCtjN6.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="2" data-file-name="QLDS2rsZ863PmjaCtjN6.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ผู้บริหารของบริษัท Coty ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ความร่วมมือในการเปิดตัวแบรนด์กับพันธมิตรในไทยอย่าง EVEANDBOY ในครั้งนี้ มั่นใจได้ว่าด้วยศักยภาพที่มีของทั้ง 2 ฝ่ายจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจของแบรนด์ Kylie ภายใต้การดูแลของ Coty และ EVEANDBOY เติบโตไปได้อย่างแข็งแกร่งพร้อมๆ กัน และภายในสิ้นปี 2567 นี้ บริษัท จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สกินแคร์แบรนด์ใหม่ และคาดว่าในปีหน้าจะมีโอกาสขยายแบรนด์เครื่องสำอางอื่นๆ มาไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;"แม้ปัจจุบันเศรษฐกิจในไทยและทั่วโลกจะยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่สาวๆ ทั่วโลกก็ยังให้ความสำคัญและใส่ใจในเรื่องของความงามและดูแลผิวพรรณอยู่เสมอเห็นได้จากมูลค่าตัวเลขของตลาดผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่ยังคงมีมูลค่ามหาศาลและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทาง Coty เองยังมั่นใจด้วยว่าประเทศไทยถือเป็น 1 ในตลาดใหญ่ของภูมิภาคที่ในอนาคตอาจจะขยายตัวได้มากกว่าเกาหลีใต้ อีกทั้งเหล่าบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ หรือบิวตี้ไอดอล คนดังจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากเดิมที่เคยนิยมแต่งหน้าแต่งตัวตามสไตล์เกาหลีก็หันมานิยมเทรนด์การแต่งหน้าสไตล์ไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการเปิดตัวเครื่องสำอางแบรนด์ Kylie ในไทยก็ถือเป็นโอกาสอีกหนึ่งช่องทางให้สาวๆ ที่เป็นกลุ่มบริโภคเป้าหมายทั้งในไทยและต่างประเทศสามารถเดินทางมาเลือกซื้อเครื่องสำอางที่จำหน่ายผ่านร้าน EVEANDBOY ที่มีอยู่หลากหลายสาขาทั่วประเทศไทยได้ง่ายยิ่งขึ้น" Kristina กล่าวทิ้งท้าย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/Ri3BUnKJeLoNqCGaVVkB.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="4" data-file-name="Ri3BUnKJeLoNqCGaVVkB.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/nChTJKGTWfgiLP3mcRGy.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="5" data-file-name="nChTJKGTWfgiLP3mcRGy.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> ​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/executive-interview/pipatchara-turns-worthless-waste-into-thai-fashion-products" alt="Pipatchara เปลี่ยนขยะไร้ค่าสู่สินค้าแฟชั่นแบรนด์ไทยในตลาดโลก">Pipatchara เปลี่ยนขยะไร้ค่าสู่สินค้าแฟชั่นแบรนด์ไทยในตลาดโลก</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

Coty ส่งแบรนด์ 'Kylie Cosmetics' มัดใจสาวๆ มั่นใจอนาคตตลาดเครื่องสำอางไทยขึ้นแท่นอันดับ 1 ในภูมิภาค

<h2>อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ เตรียมจัดงาน COSMEX 2023 ให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมความงามได้พบกับเหล่าซัพพลายเออร์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ระหว่างวันที่ 7-9 พ.ย.นี้ ณ ไบเทค บางนา พร้อมคาดการณ์ผู้สนใจเข้าร่วมชมงานไม่ต่ำกว่า 25,000 ราย หลังธุรกิจความงามในเอเชียแปซิฟิกเติบโตเป็นสัดส่วน 67% ของตลาดโลก และตลาดในประเทศไทยยังโตได้ต่อเนื่อง </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ (RX Tradex เดิมชื่อ รี้ด เทรดเด็กซ์) ผู้นำด้านการจัดงานแสดงสินค้าแห่งอาเซียน เปิดเผยว่า งานแสดงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมความงาม COSMEX 2023 ที่จะจัดขึ้นระหว่าง 7-9 พฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “For The Look of Success” หรือ “เผยโฉมความสำเร็จธุรกิจคุณ” คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 25,000 ราย&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/AtHhtei2fyvsBZNZ1GZn.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="AtHhtei2fyvsBZNZ1GZn.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ อุตสาหกรรมความงาม เป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีอัตราการเติบโตในแต่ละปีค่อนข้างสูง เห็นได้จากงานวิจัยของ Euromonitor ระบุว่า เมื่อเทียบกับตลาดโลกแล้ว ตลาดเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายในเอเชียแปซิฟิก เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มากมีอัตราการเติบโตเป็นสัดส่วนสูงถึง 67% ของตลาดโลกหรือมูลค่ากว่า 13 ล้านล้านบาทภายในปี 2027&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะเดียวกันตลาดในประเทศไทยก็ยังคงมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าได้เปิดเผยข้อมูลตลาดในปีที่ผ่านมาว่า ตลาดในประเทศจะมีการขยายตัวจากปีก่อนหน้า 12.1%&nbsp; คิดเป็นมูลค่า 25,953.6 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะขยายตัวที่ 10.4% หรือคิดเป็นมูลค่า 28,651.2 ล้านบาท&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/faQxjoQ9J7hsrsXjgo9n.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="faQxjoQ9J7hsrsXjgo9n.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับตัวเลขด้านการส่งออก กระทรวงพาณิชย์แจ้งในรายงานว่า ปีที่ผ่านมา สินค้าในหมวดเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว มีมูลค่าการส่งออก 112,859.69 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 17.4% โดยสินค้าที่ส่งออกมากสุด 6 อันดับแรก คือ ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เครื่องสำอางและสกินแคร์ สบู่ ผลิตภัณฑ์เพื่ออนามัยในช่องปากและฟัน ผลิตภัณฑ์โกนหนวด อาบน้ำ และดับกลิ่นตัว และหัวน้ำหอมและน้ำหอม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย 5 ประเทศหลักที่ส่งออกคือ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ออสเตรเลีย และจีน สำหรับ 8 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 76,090.65 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 2.32% โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมส่งออกในปีนี้ คือ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและฟัน สบู่ ผลิตภัณฑ์โกนหนวด อาบน้ำ และดับกลิ่นตัว และหัวน้ำหอมและน้ำหอม&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/10/De5EcvP7hjDcZnSne83o.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="De5EcvP7hjDcZnSne83o.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม เรื่องของเทรนด์ความงามที่กำลังแพร่หลายไปทั่วโลก และยังจะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2024 มีด้วยกัน 4 เทรนด์ ได้แก่&nbsp;1.&nbsp;เทรนด์ Conscious Beauty หรือความงามอย่างมีสติ งามจากภายในด้านจิตสำนึก ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นค่านิยมของคนรุ่นใหม่ในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตจากธรรมชาติ 100% ไม่ทดลองในสัตว์ ผู้ผลิตมีความเป็นธรรมต่อชุมชนและสังคม&nbsp;2. เทรนด์ NeuroGlow งามจากภายในด้านจิตใจ คือการดูแลตนเองแบบองค์รวม ทั้งการรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีผลต่อสุขภาพผิวที่ดี บริษัทวิจัยตลาดชื่อดังอย่าง Mintel ระบุว่า 70% ของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา ยินดีจ่ายในราคาแพงกว่าให้กับสินค้าที่ทำให้ผิวสวยและช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์บางแบรนด์มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารระเหยที่เมื่อสูดดมเข้าไปแล้วช่วยเสริมการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมการฟื้นฟูของผิวในช่วงเวลากลางคืนเป็นต้น &nbsp;3. เทรนด์ Beauty-AI เช่น การนำดาต้าอย่าง Feedback ใน Social media ไลฟ์สไตล์ สภาพแวดล้อมของที่พักอาศัย หรือข้อมูลด้านพันธุกรรม มาใช้ในการวิเคราะห์เพื่อมองหาช่องว่างและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล เกิดเป็นผู้ช่วยด้านความงามแบบ virtual ที่สามารถให้คำปรึกษาและแนะนำการดูแลตนเองที่เฉพาะเจาะจงกับความต้องการ&nbsp;4.&nbsp;เทรนด์ Sophisticated Simplicity หรือความเรียบง่ายที่ซับซ้อน คือผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับส่วนผสมในผลิตภัณฑ์มากกว่าหน้าตาบรรจุภัณฑ์ภายนอก และใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจว่าจะซื้อผลิตภัณฑ์ตัวนั้นหรือไม่ รวมถึงยินดีที่จะจ่ายเพิ่มเพื่อให้ได้สินค้าที่มีประสิทธิภาพ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ในฐานะที่อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ ได้จัดงาน COSMEX อย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 8 แล้ว จึงอยากให้ผู้ประกอบการไทยทุกขนาด โดยเฉพาะกลุ่ม SME ซึ่งมีสัดส่วนขนาดใหญ่สุดในบรรดาผู้เล่นทั้งหมดของวงการความงาม ได้มีโอกาสปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง ด้วยการมาเปิดโลก มาเห็นเทรนด์ มาเรียนรู้นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มีอย่างมากมาย และที่สำคัญได้มาเห็นว่า ความสำเร็จที่ผู้ประกอบการได้วาดฝันไว้นั้น มีหน้าตาเป็นอย่างไร ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้าร่วมชมงาน จะมีโอกาสได้อัปเดตเทรนด์ของอุตสาหกรรมความงาม หรือมองหาพาร์ทเนอร์ทางการค้าใหม่ ๆ เพื่อนำไปปรับใช้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง” วราภรณ์กล่าวทิ้งท้าย อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%95-2200-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%95" alt="ตลาดศิลปะร่วมสมัยเติบโต 2200% เป็นสถานที่ปลอดภัยในยามวิกฤต">ตลาดศิลปะร่วมสมัยเติบโต 2200% เป็นสถานที่ปลอดภัยในยามวิกฤต</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

งาน COSMEX 2023 ระหว่าง 7-9 พ.ย.นี้   คาดผู้เข้าชมงาน 25,000 ราย  หลังธุรกิจความงามยังโตต่อเนื่อง

<h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัญหาสิทธิสตรีในละตินอเมริกาขัดขวางการที่ผู้หญิงจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ประกอบการ&nbsp;ทว่าเมกอัพอาร์ทิสต์สาวผู้หนึ่งกลับพลิกบทบาทเป็นนักธุรกิจหญิง เจ้าของร้านเสริมสวยและโรงเรียนสอนศาสตร์แห่งความงาม เธอมีนามว่า Andrea Paola ผู้เล็งเห็นโอกาสช่วยเหลือผู้หญิงคนอื่นๆ ยามเธอก้าวเข้าสู่ธุรกิจความงามครั้งในปี 2012</h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“อาชีพเมกอัพอาร์ทิสต์เริ่มต้นจากงานอดิเรก ฉันเคยแต่งหน้าด้วยกระเป๋าเครื่องสำอางของแม่” เธอเล่า “ฉันไม่เคยรู้สึกเหมือนทำงานเลย การแต่งหน้าคือความหลงใหลของฉันมาโดยตลอด”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 75%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/08/j3if83bYxQ5v1a29wjD8.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="j3if83bYxQ5v1a29wjD8.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," origin-size="959,640" style="width: 100%;" data-index="0"></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Andrea Paola ผู้ประกอบการสาวชาวกัวเตมาลา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ครั้นเริ่มเป็นครูสอนแต่งหน้าหลังไปเรียนที่เมืองบาร์เซโลนาและลอสแองเจลีส เธอพบว่าผู้หญิงมากมายจากชุมชนของเธอในเมืองกัวเตมาลาซิตี้ต่างมีความต้องการจะเรียนรู้ว่า “จะเป็นเมกอัพอาร์ทิสต์แบบคุณได้อย่างไร?” และ “ฉันจะจุนเจือครอบครอบจากการทำงานนี้ได้หรือเปล่า?”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วันนี้ Andrea Paola คือผู้เชี่ยวชาญการแต่งหน้าที่ก่อตั้งสถาบันสอนด้านความงาม สปา แบรนด์เครื่องสำอาง และร้านเสริมสวยของเธอเอง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทุกอย่างเริ่มต้นตอนที่เธอเปิดโรงเรียนสอนแต่งหน้าแห่งแรกในห้องขนาด 100 ตารางฟุตในปี 2014 ซึ่งกลายเป็นที่นิยมและเริ่มมีพื้นที่ไม่เพียงพอสำหรับทุกคน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“บรรดาความฝันที่ยิ่งใหญ่เหมือนกับของฉันนั้นไม่อาจอยู่ในที่คับแคบได้หรอก” Paola กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดังนั้นในปี 2015 เธอจึงเปิดสถาบันในแหล่งธุรกิจที่กว้างขวางขึ้น “จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเราต้องขยายเวลาทำการเป็นวันจันทร์ถึงวันอาทิตย์”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กระทั่งปี 2017 เธอตระหนักว่าการสอนทักษะความงามนั้นได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้หญิงเหล่านี้ไปมากขนาดไหน เธออยากช่วยเหลือผู้คนในอเมริกากลางมากกว่านี้ แต่เธอรู้ดีว่ายังเร็วเกินกว่าจะเปิดสาขาประจำทุกเมืองหลวง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 75%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/08/iCPbqk5EBK9RiGFsaH81.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="iCPbqk5EBK9RiGFsaH81.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," origin-size="960,640" style="width: 100%;" data-index="1"></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Beauty Truck ร้านเสริมสวยติดล้อ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เธอเลือกวิธีที่ง่ายและเร็วกว่าคือร้านแบบป๊อปอัพเกิดเป็น Beauty Truck รถตู้สีชมพูที่มาพร้อบรรดาเมกอัพอาร์ทิสต์ กลายเป็นร้านเสริมสวยติดล้อคันแรกในอเมริกากลาง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Beauty Truck กลายเป็นหนทางของ Paola ในการส่งบริการความงามตรงถึงบ้านลูกค้า หรือที่ตั้งตามงานกิจกรรมต่างๆ เช่น งานแต่งงาน หรืองานเลี้ยงวันเกิด เธอจะพาทีมเมกอัพอาร์ทิสต์และสไตลิสต์ไปช่วยเหลือหญิงสาวมากมาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“งานนี้เปิดโอกาสให้ฉันเป็นที่รู้จักและปรากฏบนหน้าสื่อต่างๆ” เธอบอก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และในปี 2019 เธอก็ได้ฤกษ์เปลี่ยนชื่อธุรกิจเป็น Andrea Paola Makeup School สู่สถาบันแห่งแรกของกัวเตมาลาที่มีคอร์สเรียนแต่งหน้าออนไลน์ ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา นักเรียนของเธอราว 200 คนก้าวไปเป็นมืออาชีพในอุตสาหกรรมความงาม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“หลายคนก็เปิดตัวธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความงามของตัวเอง จ้างงานผู้หญิงคนอื่นๆ และเป็นหัวหน้าครอบครัว” Paola กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นี่จึงไม่ใช่เพียงศาสตร์แห่งการแต่งหน้าและความงามเท่านั้น แต่บรรดาสตรีต่างผ่านการรับรองและได้เรียนรู้ที่จะสร้างอาณาจักรธุรกิจความงามของพวกเธอ “เรามีห้องเรียนการเป็นผู้ประกอบการ การเงิน โซเชียลมีเดีย การบริหารโครงการ และการขาย”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 75%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/08/2t8SZdD8FdHzi4qvKNHV.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="2t8SZdD8FdHzi4qvKNHV.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," origin-size="959,535" style="width: 100%;" data-index="2"></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Andrea Paola และทีมงานของเธอ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“คอร์สของเราไม่ใช่เพียงให้การศึกษา แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจแก่นักเรียนเพื่อไล่ตามความฝันในโลกแห่งความงาม” Paola เผย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นักเรียนทั้งหลายจะได้เรียนการแต่งหน้าแบบมืออาชีพผ่านเทรนด์ดั้งเดิมและเทรนด์ในปัจจุบันของวงการ ตลอดจนสามารถเข้าถึงทุนต่างๆ ตั้งแต่พบเวทีเดินแบบไปจนละครเวที “เพื่อขัดเกลาพรสวรรค์ที่พวกเธอมี”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในปี 2020 เธอเปิดตัวไลน์เครื่องสำอางแรกของเธอ Andrea Paola Cosmetics ซึ่งปลอดพาราเบน ผ่านการทดสอบการแพ้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และผลิตในแคนาดา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ไลน์เครื่องสำอางของฉันออกแบบมาตอบโจทย์ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวของชาวละติน” Paola อธิบาย ผลิตภัณฑ์ของเธอใช้ส่วนผสม วัตถุดิบ และสารสกัดจากพืช&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของเธอ ได้แก่ ลิปสติก “Empowered Woman” บลัชสติ๊ก และรองพื้น เร็วๆ นี้ทางแบรนด์จะเปิดตัว “Fairy Powder” แป้งผสมชิมเมอร์ออกแบบมาเพื่อลุคเจ้าสาว และ “Beauty Stix” สีใหม่ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์อเนกประสงค์ จะใช้เป็นบลัช ลิปสติก ไฮไลต์ และอายแชโดว์ก็ย่อมได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Andrea Paola ยังไม่หยุดง่ายๆ ในปี 2021 เธอก่อตั้งร้านเสริมสวยของเธอเองนาม Beauty Lab ซึ่งให้บริการทุกอย่างทั้งตัดผม ดูแลบำรุงผิวกาย และห้องเรียนแต่งหน้า เธอยังจัดรายการไลฟ์สดทาง Instagram โดยเป็นเวิร์คช็อปด้านการเงินในวันอังคาร ส่วนวันพฤหัสบดี เธอจะพาผู้ชมไปพบกับผู้ประกอบการชาวกัวเตมาลาที่กำลังมาแรงในวงการความงาม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 75%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/08/mefpc6mJwDjKSkuUKhkP.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="mefpc6mJwDjKSkuUKhkP.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," origin-size="960,1440" style="width: 100%;" data-index="3"></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Andrea Paola ในกัวเตมาลาซิตี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“บนโซเชียลมีเดียยังมีการพูดคุยเรื่องการเงินส่วนบุคคล อิสรภาพทางการเงิน การออม และหัวข้ออื่นๆ เพื่อช่วยบรรดาผู้หญิงให้มีอำนาจควบคุมชีวิตของพวกเธอเอง ให้พวกเธอมีพลังฮึดสู้ และเข้าถึงอิสรภาพทางการเงิน” Paola เล่า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ก่อนหน้านี้ในปี 2020 เธอเปิด Verana Spa เพื่อการดูแลตัวเองแบบครบวงจร สำหรับเป้าหมายต่อไป เธอกำลังจะเปิด Facial Gym ให้บริการดูแลผิวหน้าโดยเฉพาะในกัวเตมาลา “ก็เหมือนกับที่เราออกกำลังกายส่วนอื่นๆ เราควรออกกำลังกายกล้ามเนื้อหน้าเช่นกันด้วยกิจวัตรที่ต่างออกไปในการกระชับและนวดกระตุ้นใบหน้า”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แม้ Andrea Paola จะบรรลุความฝันไปมากมายแล้ว เธอกำลังอยู่ระหว่างไล่ตามความฝันอีกอย่างหนึ่ง “ความฝันใหญ่สุดของฉันคือเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงทั่วละตินอเมริกา มอบโอกาสทางการงานแก่พวกเธอทั่วโลก และสร้างพันธมิตรเพื่อช่วยผู้หญิงคนอื่นๆ ให้เติบโตและพิชิตความฝันสำเร็จ” &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แปลและเรียบเรียงจาก How Andrea Paolas Makeup School Is A Game Changer In Guatemala ซึ่งเผยแพร่บน Forbes&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp; อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87-%E0%B8%88%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3-%E0%B8%94%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-29-%E0%B8%AA-%E0%B8%84-2566" alt="ธนาคารกสิกรไทย แต่งตั้ง จงรัก รัตนเพียร ดำรงตำแหน่ง กรรมการและกรรมการผู้จัดการ มีผลวันที่ 29 ส.ค. 2566">ธนาคารกสิกรไทย แต่งตั้ง จงรัก รัตนเพียร ดำรงตำแหน่ง กรรมการและกรรมการผู้จัดการ มีผลวันที่ 29 ส.ค. 2566</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>&nbsp;​

Andrea Paola เมกอัพอาร์ทิสต์ผู้พลิกชีวิตสตรีในกัวเตมาลา

ทำความรู้จัก ‘แบงค์–ภัคคณวัฒน์ เหมะธนานันท์’ President & CEO Brother Global ผู้ปลุกปั้นและอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของอาหารเสริมแนวหน้าหลายแบรนด์ชื่อดัง

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events