'Donald Trump' กับฉายานาย Teflon Don - Forbes Thailand

'Donald Trump' กับฉายานาย Teflon Don

FORBES THAILAND / ADMIN
24 Jun 2025 | 09:30 AM
READ 73

Donald Trump เคยเกือบเสียอาณาจักรทั้งหมดของเขาไป เพียงเพราะคำตัดสินของศาลอุทธรณ์แค่ครั้งเดียว ในขณะที่บางคนคิดว่าเขาคงจบแล้ว แต่ผู้สนับสนุนของเขากลับยังยืนหยัดอยู่เคียงข้าง ให้ทั้งคะแนนเสียงและสนับสนุนคริปโตที่เขาจำเป็นต้องใช้เพื่อเอาตัวรอดและเพิ่มทรัพย์สินของเขาเป็นเท่าตัว


    เป็นปีทองของ Donald Trump อย่างแท้จริง 1 ปีก่อนโอกาสทางการเมืองของเขายังสั่นคลอน อนาคตทางการเงินก็น่าหวาดเสียว เขามีเงินสดอยู่ในบัญชีประมาณ 413 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่กลับมีคำพิพากษาคดีฉ้อโกงในรัฐ New York ที่สั่งให้เขาชำระเงินถึง 454 ล้านเหรียญ ขณะเดียวกัน Letitia James อัยการสูงสุดของรัฐ New York ก็พูดเปรยว่า อาจยึดทรัพย์ของเขา “ผมมองไปที่อาคาร 40 Wall Street แทบทุกวัน” ทว่า Trump ก็ทำในสิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุด: สู้กลับ ขายทรัพย์สิน และเอาชนะ ผลลัพธ์ก็คือ เขาได้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มมากกว่าเท่าตัว จากประมาณ 2.3 พันล้านเหรียญ เป็น 5.1 พันล้านเหรียญ

    Trump รู้ดีมาตั้งนานแล้วว่าการยื้อเวลานั้นมีค่าพอๆ กับชัยชนะ เมื่อเขายอมรับว่าไม่มีเงินสดมากพอจะจ่ายหนี้ 454 ล้านเหรียญ ทีมทนายของเขาก็ยื่นอุทธรณ์ต่อศาล ขอให้ยกเว้นหรืออย่างน้อยก็ลดวงเงินค้ำประกัน ปกติแล้วศาลมักจะไม่อนุมัติข้อเสนอเหล่านี้ แต่สำหรับกรณีนี้ศาลก็อนุมัติให้ลดลงเหลือเพียง 175 ล้านเหรียญ ทำให้ Trump สามารถหลีกเลี่ยงการถูกยึดทรัพย์ไปได้อย่างหวุดหวิด 

    จากนั้น Trump ก็แสดงให้เห็นว่าทำไมเขาถึงถูกขนานนามว่าเป็นนักขายที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา วันรุ่งขึ้นหลังจากศาลยืดเวลาให้เขาก็นำบริษัทแม่ของ Truth Social แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขาเข้าตลาดหุ้น แม้ว่าธุรกิจนี้จะมีรายได้เพียงไม่กี่ล้านเหรียญ พร้อมขาดทุนไปหลายสิบล้านเหรียญ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบ Trump พวกเขาแห่กันเข้าซื้อหุ้นจนราคาพุ่งสูงแบบไร้เหตุผล ทำให้ทรัพย์สินของ Trump พุ่งขึ้นอีกหลายพันล้านเหรียญทันที แม้กระแสคลั่งไคล้จะจางลง ราคาหุ้นตอนนี้ลดลงถึง 72% จากจุดสูงสุด แต่ก็ยังคงเหลืออยู่ ทำให้ Trump มีหุ้นมูลค่า 2.6 พันล้านเหรียญอยู่ในมือ

    แม้ทรัพย์สินสุทธิของเขาจะเพิ่มขึ้นแต่นั่นไม่ใช่เงินสด เพราะ Trump ยังถือหุ้นเอาไว้ไม่ได้ขายออกมา เขาจึงเริ่มทำการขายทรัพย์ออกมาอย่างจริงจัง ตั้งแต่คัมภีร์ไบเบิล, รองเท้าผ้าใบ, กีตาร์ ฯลฯ เพื่อให้มีรายได้หมุนเวียนไปพลางๆ ก่อนจะหาทางออกสุดโต่งด้วยการขายของที่เหลือเชื่อที่สุดนั่นก็คือ เงินคริปโต Trump เริ่มเปิดตัวโครงการคริปโตในเดือนตุลาคมโดยใช้ชื่อว่า World Liberty Financial โดยเน้นเจาะกลุ่มผู้ใช้หน้าใหม่ เสนอเหรียญที่ไม่สามารถขายต่อได้และให้คำมั่นอย่างคลุมเครือว่าจะเกิด “การปฏิวัติทางการเงิน” (Trump ระบุว่าตนเองเป็นประธานฝ่ายสนับสนุนเงินคริปโต ส่วนลูกชายทั้ง 3 ได้แก่ Eric, Don Jr. และ Barron ซึ่งขณะนั้นเพิ่งเข้าเรียนที่ NYU ได้รับบทบาทเป็นแอมบาสเดอร์ Web3) 

    ตอนแรกโครงการนี้แทบไม่มีใครสนใจ แต่หลังจาก Trump ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีไม่กี่สัปดาห์ต่อมา กระแสก็พลิกทันที ความคาดหวังว่า Trump จะลดกฎระเบียบในวงการคริปโตบวกกับการเข้ามาทุ่มซื้อเหรียญมูลค่า 75 ล้านเหรียญจากนักปั่นคริปโตชื่อดัง Justin Sun ก็ช่วยจุดไฟให้เกิดการแห่ซื้อเหรียญตามๆ กัน ท้ายที่สุด Trump ได้เงินเข้ากระเป๋าราวๆ 390 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นกำไรหลังหักภาษีประมาณ 245 ล้านเหรียญ

    ไม่กี่วันก่อนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ Trump ได้เปิดตัวเหรียญดิจิทัลชื่อ $TRUMP ซึ่งไม่ได้พยายามจะเสแสร้งว่าเป็นการลงทุนเลยด้วยซ้ำ แต่เสนอว่าเป็นเกมใหม่ให้กับนักเสี่ยงโชคที่อยากเล่นอะไรแปลกๆ และแน่นอนว่ามีคนเข้าร่วมจำนวนมาก จากการซื้อขายนั้นมีการสร้างรายได้ประมาณ 350 ล้านเหรียญในรูปแบบค่าธรรมเนียมการเทรดและคริปโตที่ผูกกับมูลค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ ให้กับกลุ่มที่เชื่อมโยงกับ Trump โดยตรง แม้ว่าจะไม่แน่ชัดว่า Trump ได้ส่วนแบ่งไปเท่าไร เพราะเขามีหุ้นส่วนในโครงการนี้ ซึ่งคาดว่าเชื่อมโยงกับ Bill Zanker เพื่อนเก่าที่เคยร่วมเขียนหนังสือชื่อ Trump: Think Big and Kick Ass เมื่อปี 2007 แต่ก็มีการประเมินคร่าวๆ ว่า Trump ได้เงินสุทธิหลังหักภาษีไปอย่างน้อย 110 ล้านเหรียญ

    แม้ Trump จะยังคงค้างชำระคำพิพากษาคดีฉ้อโกงเดิมอยู่ ซึ่งระหว่างการอุทธรณ์นั้นดอกเบี้ยก็ยังเดิน ทำให้ยอดหนี้พุ่งขึ้นถึงประมาณ 500 ล้านเหรียญ อัยการ Letitia James เองก็คงไม่อยากได้อาคาร 40 Wall Street อีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้ทรัพย์สินนั้นมีมูลค่าต่ำกว่าหนี้สินอย่างมาก เนื่องจากราคาตึกสำนักงานที่ตกฮวบทั่วประเทศ และยังมีเงินกู้ก้อนโตที่ผูกอยู่กับทรัพย์สินนั้นอีก แต่ก็คงจินตนาการได้ยากว่า Trump ซึ่งอยู่ในสถานะที่มีสภาพคล่องเกือบ 800 ล้านเหรียญจากการขายคริปโตจะรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอะไรกับตึกนั้น หรือแม้แต่อัยการหญิงผู้เคยขู่จะยึดทรัพย์ของเขา เพราะตอนนี้เขาคือ ราชาคริปโตคนหนึ่งของอเมริกาไปแล้ว



เรื่อง: Dan Alexander เรียบเรียง: จารุณี แตมสำราญ



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ปีสําคัญของ Donald Trump

​อ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม 2568 ในรูปแบบ e-magazine