Reid Hoffman ผู้ร่วมก่อตั้ง LinkedIn และหนึ่งในนักลงทุนคนสำคัญประจำวงการเทคโนโลยี ได้เผยแนวคิดของเขาผ่าน YouTube ในหัวข้อ The Truth About AI and Jobs เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา โดยเนื้อหาวิดีโอดังกล่าวเป็นการตอบคำถามรวมถึงให้คำแนะนำกลุ่มคน Gen Z เรื่องอาชีพและการทำงาน โดยสาระสำคัญนั้นเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือที่ทุกคนติดเรียกกันแบบย่อๆ ว่า AI
ปฏิเสธไม่ได้ว่า AI กำลังเข้ามามีบทบาทในภูมิทัศน์ของการทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ ครอบคลุมแทบทุกอุตสาหกรรมหาใช่เพียงแวดวงไอทีเท่านั้น ทำให้ผู้คนมากมายเริ่มกลัวจะถูก AI แย่งงาน ซึ่ง Hoffman มองว่าความวิตกกังวลดังกล่าวไม่ใช่เรื่องผิดเลย
“คุณมีสิทธิจะกังวลครับ สิ่งที่คุณควรจำใส่ใจไว้ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแนวคิดแบบผู้ประกอบการ (entrepreneurial mindset) เลยก็คือ คุณจะเปลี่ยนความท้าทายมาเป็นโอกาสได้อย่างไร? คุณจะพลิกสิ่งที่อาจส่งผลเชิงลบมาเป็นแต้มต่อได้อย่างไร?”
Hoffman อธิบายว่าในมุมหนึ่ง AI อาจทำให้บัณฑิตจบใหม่หางานในระดับเริ่มต้น (entry-level job) ยากขึ้น เพราะ AI สามารถจัดการงานพื้นฐานหลายอย่างให้เสร็จได้โดยอัตโนมัติ ช่วยลดขั้นตอนและประหยัดแรงงานคน
แต่ในอีกมุมหนึ่ง ชาว Gen Z คือกลุ่มคนที่เกิดมาท่ามกลางยุคสมัยที่เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตซึ่งรวมถึง AI ด้วย หากพวกเขาสามารถนำความรู้และทักษะด้าน AI มาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งเหล่านี้จะกลายมาเป็นจุดแข็งของพวกเขา
อย่ากลัวความเปลี่ยนแปลง จงโอบรับและพัฒนาตัวเอง
หนึ่งวาทกรรมที่ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางว่าด้วยการทำงานในโลกที่ AI เข้ามามีบทบาทคือ ‘AI ไม่ได้จะมาแทนที่คน คนใช้ AI ต่างหากที่จะก้าวข้ามพวกเขา’ ผู้ที่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้มีมากมาย Hoffman เองก็เป็นหนึ่งในนั้น เช่นเดียวกับ Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia และ Ginni Rometty อดีตซีอีโอ IBM
Hoffman แนะนำชาว Gen Z ให้ลับคมความรู้และทักษะด้าน AI เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับคว้าโอกาส โดยชี้ว่า AI จะนำมาซึ่งอาชีพใหม่ๆ พร้อมอธิบายว่าโลกของการทำงานนั้นไม่เคยหยุดนิ่ง
เขายกตัวอย่างประสบการณ์ส่วนตัว “อันที่จริง นักออกแบบเว็บไซต์ (web designer) เป็นอาชีพใหม่ที่เกิดขึ้นมาสมัยผมเรียนอยู่ ก่อนหน้านั้นไม่มีใครคิดว่าจบไปจะเป็นนักออกแบบเว็บไซต์เลยครับ ไม่รู้ด้วยว่าต้องใช้ทักษะอะไรในการออกแบบเว็บไซต์”
สำหรับกรณีของ AI ก็คล้ายคลึงกัน โลกของการทำงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จะมีอาชีพใหม่ๆ งานใหม่ๆ เกิดขึ้น สิ่งสำคัญคือคนต้องปรับและวิวัฒน์ตัวเองให้พร้อมคว้าโอกาส โดยผู้ร่วมก่อตั้ง LinkedIn เน้นย้ำว่าทักษะการใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพไม่ใช่แค่การป้อนคีย์เวิร์ดหรือคำสั่ง (prompting) แต่ผู้ใช้ต้องเข้าใจปัญหา รู้ว่าควรนำเทคโนโลยีนี้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาตรงไหนและอย่างไร
“ในอีก 2-5 ปี เราทุกคนจะใช้ผู้ช่วย AI (AI co-pilot) ควบคู่ไปกับสิ่งที่เราทำ และคำถามคือเราจะใช้มันอย่างชาญฉลาดได้อย่างไร เปรียบกับการเล่นเกม ทฤษฎีของเกมนี้คืออะไร และกลยุทธ์ที่จะใช้เป็นแบบไหน”
แค่ปริญญาอาจไม่เพียงพอ สิ่งสำคัญคือห้ามหยุดเรียนรู้
อีกหนึ่งความวิตกกังวลของบัณฑิตจบใหม่ Gen Z รวมถึงนักศึกษาที่ยังคงเรียนรู้คือกลัวว่าสิ่งที่พวกเขาร่ำเรียนมาตลอดหลายปีจะ ‘ตกรุ่น’ หรือ ‘ไม่สามารถใช้งานได้จริง’ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปโดยมี AI เป็นตัวขับเคลื่อน
“สิ่งที่คุณได้จากมหาวิทยาลัยและควรนำมาต่อยอดไม่ใช่ความรู้จากวิชา X101 ไม่ใช่ปริญญาเฉพาะทาง หรือแม้กระทั่งทักษะจำเป็นเฉพาะทาง แต่เป็นความสามารถในการเรียนรู้” Hoffman กล่าว “อย่าโฟกัสแค่กับปริญญาที่จบมา แต่ให้โฟกัสว่าคุณจะเรียนรู้และยังคงเรียนรู้ต่อไปได้อย่างไร”
อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรละเลยคือ “ชีวิตเปรียบได้กับกีฬาประเภททีม ไม่ใช่ประเภทเดี่ยว คนที่คุณรู้จักจะกลายมาเป็นเพื่อนที่คอยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน” และนั่นก็คือเหตุผลที่เขาร่วมสร้าง LinkedIn ขึ้นมา
Hoffman ย้ำเตือนว่าในโลกนี้มีผู้คนมากมาย ต่างคนต่างรู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้ มีทักษะที่คนอื่นไม่มี ทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ การได้พบปะและทำความรู้จักผู้คนมากหน้าหลายตาจะช่วยเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถไขว่คว้าความสำเร็จในโลกของการทำงานได้ในที่สุด
ที่มา: The Truth About AI and Jobs
ภาพ: Frederic J. Brown on AFP
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : บทเรียนจาก Steve Jobs สิ่งที่ผู้นำควรทำตาม กับสิ่งที่ “เลิกได้เลิก”
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine