Sunghyun Park ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Rebellions เพิ่งควบรวมกิจการ ซึ่งได้กลายเป็นยูนิคอร์นด้านชิป AI แห่งแรกของเกาหลีใต้ และเขาก็พร้อมแล้วที่จะเจาะตลาดโลกด้วยชิปประหยัดพลังงานรุ่นต่อไปของเขา
1 ปีที่แล้ว Sunghyun Park ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Rebellions บริษัทออกแบบชิป AI ที่ตั้งอยู่ใน Seongnam ได้รับสายที่เขาคาดไม่ถึงที่สุด Park วัย 40 ปี เล่าว่า Ryu Young-sang ผู้นำแห่ง SK Telecom ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ตามส่วนแบ่งการตลาด และเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มแชโบลที่ทรงอิทธิพลอย่าง SK Group อยากพบเขาเพื่อหารือเรื่องการร่วมมือกันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อันน่าภาคภูมิใจของเกาหลีใต้ "แต่ก่อนที่ Ryu จะมาคุยกับผมเรื่องการควบรวม ผมก็กำลังคิดอยู่เหมือนกันว่านั่นเป็นหนทางเดียวที่จะอยู่รอดได้” Park กล่าวอย่างตรงไปตรงมา
Rebellions สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยชิปคอมพิวเตอร์ AI ที่ประหยัดพลังงานด้วยลูกเล่นหลากหลาย มีตั้งแต่การซื้อขายหุ้นด้วยความถี่สูงจนถึงการสนับสนุนเครื่องมือที่เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ เช่น ChatGPT ของ OpenAI หลังจากเปิดตัวบริษัทในปี 2020 Park หาเงินทุนได้ 225 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผ่านการระดุมทุน 5 รอบเพื่อใช้พัฒนาชิปซีรี่ส์ Atom ซึ่งกลายเป็นชิปที่ศูนย์ข้อมูล (data centers) ต่างๆ ของเกาหลีใต้เลือกใช้ และ Rebellions กำลังพัฒนาชิปรุ่นต่อไปที่กินไฟน้อยและออกแบบมาสำหรับศูนย์ข้อมูล AI ระดับใหญ่ที่กินไฟมหาศาล แต่ Park รู้ดีว่าเขาไม่สามารถลุยตามลำพังเพื่อไปถึงเป้าหมายระดับโลก
ในขณะเดียวกัน SK Telecom ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในอาณาจักรธุรกิจที่อยู่ภายใต้บังเหียนของ Chey Tae won (ติดอันดับ 36 ในทำเนียบ 50 คนรวยสุดของเกาหลีใต้) ก็มีบริษัทสตาร์ทอัพผลิตชิป AI ของตัวเองชื่อว่า Sapeon Korea ซึ่งกำลังสู้กับ Rebellions แย่งตลาดภายในประเทศด้วยชิปรุ่น X330 ทั้ง Ryu และ Park เห็นพ้องกันว่า การร่วมมือกันไม่เพียงแต่จะสร้างสุดยอดชิปของประเทศเท่านั้น แต่ยังสร้างความแข็งแกร่งและขนาดที่ใหญ่พอจะต่อกรกับคู่แข่งระดับโลกในต่างประเทศที่มีเงินหนาได้ ซึ่งรวมถึง NVIDIA ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกาที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมอันไร้เทียมทาน
“มีผู้ผลิตชิป AI ไม่กี่รายที่อยู่รอด และท่ามกลางตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ เราต้องรวมผู้มีความสามารถเบอร์ต้นๆ ทั้งหมดของเกาหลีไว้ในบริษัทเดียว” Park กล่าว “ผมไม่อยากเสียเวลาและพลังงานไปกับการแข่งขันภายในเกาหลี” เขากล่าวเสริม
การยึดครองตลาดโลกแม้แค่เสี้ยวเล็กๆ ก็อาจพลิกเกมได้เลย เนื่องจากบริษัทต่างๆ ต่างเร่งนำเครื่องมือ AI เชิงสร้างสรรค์ (generative AI) ที่เรียนรู้จากข้อมูลมหาศาลมาใช้ ความต้องการชิป AI จึงพุ่งทะยานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ Gartner บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ระบุว่า มีการคาดว่ายอดขายทั่วโลกจะสูงถึง 9.2 หมื่นล้านเหรียญในปี 2025 เพิ่มขึ้น 29% จาก 7.1 หมื่นล้านเหรียญในปี 2024
ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาสัญญาซื้อขายด้วยหุ้นบรรลุผลสำเร็จโดย Sapeon ออกหุ้น 2.4 หุ้นต่อหุ้น Rebellion 1 หุ้น เพื่อสร้างบริษัทชิป AI ยูนิคอร์นแห่งแรกของเกาหลีใต้มูลค่า 1.3 ล้านล้านวอน หรือเทียบเท่า 1 พันล้านเหรียญในขณะนั้น (900 ล้านเหรียญในปัจจุบัน) การรวมบริษัทเข้าด้วยกันนี้ยังคงซึ่งทีมผู้บริหารและชื่อ Rebellions ไว้ ทำให้บริษัทกลายเป็นซัพพลายเออร์ชิป AI รายใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ รายชื่อลูกค้าระดับบลูชิปของบริษัท ได้แก่ แผนกคลาวด์ของ SK และบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ Kakao (ภายใต้ควบคุมของ Kim Beom-su อันดับ 7 ในทำเนียบ 50 คนรวยสุดของเกาหลีใต้) และ Naver (Lee Hae-jin อันดับ 19)
Mohamed Zeeshan Hassan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Wa’ed Ventures ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ Saudi Aramco บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัฐซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า “การควบรวมกิจการ [กับ Sapeon] ถือเป็นการเดินเกมที่ชาญฉลาดที่สุดอย่างหนึ่ง เกาหลีกลายเป็นตลาดเล็กไปแล้วและคุณต้องแข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลก แล้วจะไปแข่งกับเพื่อนบ้านตัวเองทำไมล่ะ”
ตามเอกสารที่ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแลระบุว่า ข้อตกลงใหม่ในครั้งนี้ได้ทำให้ Park ซึ่งถือหุ้นเกือบ 10% ในบริษัทที่ควบรวมกิจการได้เข้าถึง HBM3E ซึ่งเป็นชิปหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูงระดับแอดวานซ์ที่เพิ่มความเร็วในการประมวลผลข้อมูลได้อย่างมาก และผลิตโดย SK Hynix ซึ่งเป็นบริษัทชิปหน่วยความจำในกลุ่ม “กำลังการผลิตในโรงหล่อไม่เพียงพอ” Park กล่าว “และ HBM ก็ขาดด้วย” นอกจาก SK Hynix แล้ว ยังมีซัพพลายเออร์ชิปล้ำสมัยระดับโลกอีก 2 รายคือ Samsung Electronics และ Micron ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Boise รัฐ Idaho
อย่างไรก็ดี ต่อให้ไม่พูดถึงการเติบโตในระดับสากล การเพิ่มยอดขายภายในประเทศก็ยังมีความซับซ้อนและท้าทาย การโน้มน้าวศูนย์ข้อมูลให้ซื้อชิป AI จากบริษัทอื่นที่ไม่ใช่ NVIDIA ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดของโลกที่มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 90% ตามข้อมูลจากบริษัทวิจัย Futurum Intelligence ของสหราชอาณาจักรนั้นยากพอๆ กับการผลิตชิปเลย NVIDIA (มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด: 2.8 ล้านล้านเหรียญ) รายงานว่า มียอดขายชิปให้ศูนย์ข้อมูลอยู่ที่ 3.56 หมื่นล้านเหรียญในไตรมาส 4 สิ้นสุดเดือนมกราคม ปี 2025 ซึ่งมากกว่าคู่แข่งที่สูสีที่สุดอย่าง AMD (มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด: 1.56 แสนล้านเหรียญ) ใน California ถึง 9 เท่า โดย AMD ทำรายได้ได้ใกล้เคียงกันอยู่ที่ 3.9 พันล้านเหรียญในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2024
Rebellions ซึ่งเป็นบริษัทที่เล็กกว่ามากตั้งเป้ารายได้ในปี 2025 ที่ 1 แสนล้านวอน หรือราว 68 ล้านเหรียญ ทั้งนี้เอกสารที่ปรากฏอยู่ล่าสุดระบุว่า บริษัทมีรายได้ 2.7 พันล้านวอนในปีการเงินปี 2023 (ไม่มีข้อมูลยอดขายในปีก่อนหน้า) โดยขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1.37 หมื่นล้านวอนจาก 8.1 พันล้านวอนในปี 2022

บริษัทชิปที่ทะเยอทะยานจะไประดับโลกต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่าชิปของตนมีข้อดีเหนือกว่า NVIDIA อย่างชัดเจน ในช่วงต้นปี 2026 Rebellions จะเริ่มผลิตชิปสำหรับผู้ใช้ทั่วไปโดยตั้งชื่อเหมือนชื่อบริษัทว่า Rebel ซึ่งออกแบบมาเพื่อการอนุมานที่ประหยัดพลังงาน คำนี้เป็นศัพท์เฉพาะของอุตสาหกรรมเมื่อมีการใช้โมเดล AI กับข้อมูลมหาศาล เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เพราะการส่งคำสั่ง ChatGPT ผ่านเซิร์ฟเวอร์ AI ใช้ไฟฟ้ามากกว่าการค้นหาบน Google ถึง 10 เท่าตามข้อมูลจากองค์การพลังงานระหว่างประเทศ
จากการทดสอบประสิทธิภาพของบริษัท Park อ้างว่า ตัวประมวลผลใหม่นี้จะประหยัดพลังงานสำหรับงานที่ใช้ AI ได้ 3 เท่าเมื่อเทียบกับชิป AI ที่ประหยัดพลังงานที่สุดของ NVIDIA อย่าง H100 ซึ่งเป็นชิปตัวแรกในซีรี่ส์ Hopper ที่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2022 ซีอีโอผู้นี้เล่าว่า ข้อได้เปรียบสำคัญอีกอย่างคือ ความจุของหน่วยความจำ HBM3E ขนาด 144 กิกะไบต์ของ Rebel ซึ่งสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับ HBM3 ขนาด 80 กิกะไบต์ของ H100 เขาอธิบายว่า จะต้องใช้ H100 2ตัวเพื่อขับเคลื่อนโมเดลภาษาขนาดใหญ่อย่าง Llama 3.1 ของ Meta ในขณะที่ใช้ชิป Rebel แค่ตัวเดียว
Park กล่าวว่า “ในแง่ของต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ [ราคาซื้อบวกกับต้นทุนการดำเนินงาน] Rebel นั้นถูกกว่า H100 สำหรับการอนุมาน” การใช้พลังงานสูงสุดของ H100 อยู่ที่ 400 วัตต์ ในขณะที่ชิป Rebel สามารถทำงานได้ 1 เพตะฟลอป (การคำนวณ 1,000,000,000,000,000 ครั้งต่อวินาที) โดยใช้พลังงานเพียง 350 วัตต์ อย่างไรก็ตาม Park ยอมรับว่า “หากคุณต้องการทำทั้งการฝึกและการอนุมาน H100 ถือเป็นโซลูชันที่เหมาะสม”
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่เต็มใจที่จะเปิดเผยว่า มีแผนที่จะผลิตชิป Rebel จำนวนเท่าใด โดยอ้างถึงข้อตกลงการรักษาความลับกับลูกค้า ส่วน NVIDIA กำลังเตรียมการผลิตชิป AI รุ่นถัดไปหรือ B200 สำหรับผู้ใช้ทั่วไปในไตรมาสนี้โดยระบุว่า ผลิตภัณฑ์ล่าสุดในกลุ่ม Blackwell ซึ่งเป็นรุ่นต่อจาก Hopper จะมีประสิทธิภาพในการอนุมานสูงขึ้น 30 เท่า และประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงขึ้น 25 เท่าเทียบกับชิปรุ่น Hopper รวมถึงมี HBM3E ขนาด 192 กิกะไบต์ อย่างไรก็ตามคาดกันว่าชิปอันทรงพลังนี้จะมีต้นทุนที่สูงกว่า ซึ่งอาจเปิดช่องให้ชิป Rebel ของ Rebellions กลายเป็นตัวเลือกที่ประหยัดกว่า
Ki-Jun Kim ซีอีโอของ Kakao Ventures บอกว่า การสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถระดับสูงถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของ Rebellions เขาพบกับ Park ครั้งแรกในปี 2019 และตัดสินใจลงทุน 2 พันล้านวอนกับ Rebellions ภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากคุยกัน มาตรฐานการสรรหาคนที่เข้มงวดของ Park เช่น การจ้างวิศวกรออกแบบที่มีประสบการณ์ในบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำได้สร้างชื่อให้ Rebellions ในฐานะ “ยานอวกาศที่ทุกคนอยากมีส่วนร่วม” ในเกาหลีใต้ Kim บอก

แม้ว่าเกาหลีใต้จะเป็นประเทศค่อนข้างเล็กโดยมีประชากรราว 50 ล้านคน แต่ก็มีคนเก่งระดับชั้นนำด้านเซมิคอนดักเตอร์อยู่ และเป็นที่ตั้งของผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของโลก 2 ราย ได้แก่ SK Hynix ของ Chey และ Samsung Electronics ของ Jay Y. Lee (อันดับ 2) รวมถึงซัพพลายเออร์ของอุตสาหกรรมสำคัญๆ เช่น Hanmi Semiconductor บริษัทผลิตอุปกรณ์ของ Kwak Dong Shin (อันดับ 22) และ Soulbrain บริษัทผลิตสารเคมีของ Chung Ji-wan นโยบายสนับสนุนของรัฐบาลที่ผ่านมาได้ส่งเสริมระบบนิเวศทางเทคโนโลยีอันแข็งแกร่งของประเทศซึ่งประกอบด้วยกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่และสตาร์ทอัพต่างๆ เช่น ลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ Soulbrain คือ Samsung ในขณะที่ Hanmi ก็เป็นผู้จัดหาให้กับ SK Hynix
นอกจากนี้ เซมิคอนดักเตอร์ยังเป็นสินค้าส่งออกกลุ่มใหญ่ที่สุดสำหรับประเทศที่พึ่งพาการค้านี้ โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณหนึ่งในห้าของมูลค่าการส่งออกประจำปี 6.84 แสนล้านเหรียญ ซึ่งตลาดสหรัฐฯ คิดเป็น 19% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของเกาหลีใต้ แม้ว่าสินค้าเซมิคอนดักเตอร์จะรอดพ้นจากนโยบายภาษีนำเข้าของประธานาธิบดี Donald Trump หรืออย่างน้อยก็ตอนนี้ แต่ก็ไม่รอดทั้งหมดเพราะก็มีเซมิคอนดักเตอร์กลุ่มที่ฝังมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ เช่น เซิร์ฟเวอร์ AI ซึ่งอาจเผชิญกับภาษีนำเข้าเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ
หลังจากจบปริญญาตรีจาก Korea Advanced Institute of Science and Technology (KAIST) ในปี 2006 Park ย้ายไปอยู่สหรัฐฯ และได้เข้าศึกษาด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ MIT ซึ่งนำพาเขาสู่งานในตำแหน่งงานต่างๆ ที่ Intel, Samsung Mobile และ Starlink ของ Elon Musk ที่ที่เขานั่งในตำแหน่งวิศวกรออกแบบชิป ก่อนจะย้ายไปทำที่ Morgan Stanley ใน New York ในปี 2018 ระหว่างที่พัฒนาโมเดลเชิงปริมาณสำหรับระบบการส่งคำสั่งซื้อขายด้วยความถี่สูง (HFT) ของธนาคาร เขาคิดว่าน่าจะจัดการคำสั่งต่างๆ ได้เร็วขึ้นถ้าเครื่องใช้ชิปแบบสั่งทำพิเศษ
2 ปีต่อมาเขากลับบ้านเกิดเพื่อเริ่มต้นทำบริษัท Rebellions กับ Jinwook Oh ศิษย์เก่า KAIST และอดีตนักออกแบบหลักประจำห้องวิจัยของ IBM ใน New York ซึ่งรับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของ Rebellions บริษัทได้รับเงินทุนเริ่มต้น 5.5 พันล้านวอนจากผู้สนับสนุนหลายราย เช่น Kakao Ventures พวกเขาได้สร้างชิปต้นแบบหรือชิป Ion ในปี 2021 หลังจากนั้นก็พัฒนาผลิตภัณฑ์ AI เชิงพาณิชย์ตัวแรกหรือซีรี่ส์ Atom ที่ใช้พลังงานน้อยโดยเปิดตัวในปี 2023 และเป็นที่รู้จักในฐานะตัวเลือกแบบประหยัดต้นทุนสำหรับศูนย์ข้อมูล
Park กล่าวว่า ความเฉพาะตัวอีกอย่างของ Rebellions คือการเสนอโซลูชันแบบครบวงจรแทนที่จะขายชิปเพียงอย่างเดียว “สิ่งที่ผมเรียนรู้จากลูกค้าคือ พวกเขาต้องการบริการฮาร์ดแวร์แบบสำเร็จรูป” เขาอธิบาย “เสียบปลั๊กแล้วใช้ได้เลย” เมื่อไฮเปอร์สเกลเลอร์จะซื้อชิป AI ก็จำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคมาติดตั้ง ซึ่ง Park มองว่าทักษะเหล่านี้มีไม่เพียงพอ มีบริษัทชิปเพียงไม่กี่แห่งที่ทำนอกเหนือจากการขายฮาร์ดแวร์เพราะส่วนใหญ่อยากรักษาอัตรากำไรขั้นต้นเอาไว้มากกว่า
ในเดือนพฤศจิกายน Rebellions ร่วมมือกับ Pegatron บริษัทประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของไต้หวันในการพัฒนาเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ขับเคลื่อนด้วยชิป Rebel หลังจากนั้นความร่วมมือกับบริษัท Penguin Solutions ใน California ก็ตามมาโดยประกาศไปเมื่อเดือนมีนาคม โดยเป็นบริการช่วยให้ลูกค้าติดตั้งหรือเสียบชิป AI อันมากมายลงในโครงสร้างพื้นฐานเซิร์ฟเวอร์ของตน “นักออกแบบชิป AI ไม่อยากร่วมมือกับคนอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการแบ่งผลกำไรและอยากรักษาอัตรากำไรให้สูง” Park บอก “แต่ผมชอบแบ่งปัน” เขาพูดเสริม “เพราะตลาดกำลังใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น”
ความท้าทายที่ใหญ่กว่าคือการหาลูกค้าใหม่ในต่างประเทศ Park ได้บรรลุข้อตกลงแรกกับ Saudi Aramco เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อจัดหาชิป AI ให้กับศูนย์ข้อมูล (Wa'ed Ventures ของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ได้ลงทุน 15 ล้านเหรียญกับ Rebellions 1 เดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งแรกในเกาหลีใต้) และภายในสิ้นปีก็ได้รับคำสั่งซื้อจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และไทย เขาบอกว่า การเสนอขายหุ้น IPO ในนั้นเร็วที่สุดก็ปี 2026 น่าจะอยู่ในแผนเช่นกัน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยอดขายของปีนี้
Yoo Hoi-jun คณบดีของบัณฑิตวิทยาลัยด้านเซมิคอนดักเตอร์ AI ของ KAIST กำลังมีความหวังอย่างมาก เขาบอกผ่านอีเมลว่า Rebellions กำลังก้าวข้ามขีดจำกัดด้านหน่วยความจำความเร็วสูงและการเพิ่มประสิทธิภาพ AI และภายในชุมชน AI "พวกเขาบอกว่า บริษัทนี้เป็นหนึ่งในชื่อที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่ต้องจับตามองในวงการชิประดับโลกเลยละ"
เรื่อง: JOHN KANG เรียบเรียง: พินน์นรา วงศ์วิริยะ ภาพ: JAE-HYUN KIM
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : "Ron Renaud" ไขโอกาสบริษัทยาจีน
