<h2>จากความร่วมมือของ 3 บริษัทชั้นนำ Nintendo Authorized Store ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์จาก Nintendo อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดให้แฟนเกมได้เลือกซื้อสินค้าลิขสิทธ์แท้และสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมสุดพิเศษแล้ววันนี้ ที่สยามพารากอน ตั้งเป้าเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ดึงดูดลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้า จัดจำหน่าย และบริการไอทีครบวงจรในประเทศไทย ผนึกกำลังพันธมิตรกับบริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) และบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดตัว Nintendo Authorized Store by SYNNEX แห่งแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมตอบรับกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในตลาดเกม รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคทั้งไทยและต่างชาติ โดยเลือกที่ตั้งเป็นสยามพารากอน ศูนย์การค้าชั้นนำใจกลางกรุงเทพฯ เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2024 เป็นต้นไป​<div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/4bNane2yiBE5VBZcGVvv.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="4bNane2yiBE5VBZcGVvv.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="0"></figure></div>​ขยายพอร์ตเกมมิ่ง ตั้งเป้ารายได้แตะหลักพันล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราเล็งเห็นถึงศักยภาพของพอร์ต Nintendo Switch ผ่านวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นความมั่นใจในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ ความสะดวกในการเข้าถึงสินค้าและบริการ คุณค่าของประสบการณ์ในการทดลองสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ และการบริการหลังการขาย”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากการรับประกัน Nintendo Switch ที่ยาวนานถึง 2 ปี และซินเน็คฯ ก็กำลังเตรียมประสบการณ์และสิทธิพิเศษสำหรับแฟนๆ ของ Nintendo ที่มาใช้บริการและซื้อสินค้าจากร้าน Nintendo Authorized Store แห่งนี้ในอนาคต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สุธิดายังเผยว่า ซินเน็คฯ ได้วิเคราะห์อัตราการเติบโตที่ทะยานสูงขึ้นของตลาดเกมในประเทศไทย ซึ่งมีเกมเมอร์ชาวไทยมากถึง 32 ล้านคน หรือคิดเป็น 47% ของจำนวนประชากรไทยทั้งหมด ทำให้ซินเน็คฯ มั่นใจที่จะเดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุกในการเปิด Nintendo Authorized Store by SYNNEX เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค และมุ่งหมายให้ร้านค้าทางการแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้พอร์ตเกมมิ่ง โดยตั้งเป้ารายได้จากผลิตภัณฑ์ Nintendo ทั้งหมดในปี 2025 ไว้ที่ 800-1,000 ล้านบาท <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/ags7XdNkvCCZcYpS8zfU.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ags7XdNkvCCZcYpS8zfU.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" data-rotatex="" data-rotatey="" style="" data-index="1"><figcaption><div>ชฎาทิพ จูตระกูล, Mario, สุธิดา มงคลสุธี และปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของ Nintendo Authorized Store by SYNNEX คือเกมเมอร์ทุกช่วงวัยและครอบครัว เพราะเกมของ Nintendo หลายเกมสามารถเล่นร่วมกันได้ เหมาะสำหรับเป็นกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความสนุกของทุกคนในครอบครัว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ส่วนกลุ่มเป้าหมายรองคือแฟนๆ Nintendo ที่ชื่นชอบและต้องการสะสมผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงการติดตามข่าวสารอัปเดตใหม่ๆ อย่างเหนียวแน่น ในขณะเดียวกัน Nintendo Authorized Store by SYNNEX ก็พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวและผู้มาเยี่ยมชมสยามพารากอนด้วยเช่นกัน จุดหมายปลายทางไลฟ์สไตล์ระดับโลกแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Nintendo Authorized Store by SYNNEX พร้อมมอบประสบการณ์ที่ครบครันบนพื้นที่กว่า 356 ตร.ม. บนชั้น 3 สยามพารากอน ซึ่งเป็นที่ตั้งศักยภาพ สรัลธร อัศเวศน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “สยามพารากอนต้อนรับผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 150,000 - 200,000 คนต่อวัน และยังเป็นศูนย์กลางการช้อปปิ้งระดับโลกในใจกลางกรุงเทพฯ ที่นำเสนอที่สุดแห่งประสบการณ์เหนือระดับสำหรับไลฟ์สไตล์ในทุกมิติ”​​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/xMv4qxbaztMUSwvfHj9a.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="xMv4qxbaztMUSwvfHj9a.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="2"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/thnqRDomcKPSs4LFCrfR.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="thnqRDomcKPSs4LFCrfR.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="3"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สยามพารากอนสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าทุกเจนเนอเรชั่น สอดคล้องกับที่ Nintendo เป็นบริษัทที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1889 และค่อยๆ สะสมฐานแฟนมาตลอดระยะเวลากว่า 130 ปี ทำให้มีลูกค้าจากหลากหลายช่วงวัย นอกจากนี้คอนเทนต์และคาแรกเตอร์ภายใต้แบรนด์ Nintendo ก็มีจำนวนมาก รองรับรสนิยมความชอบที่แตกต่างกันของแต่ละคน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “คอปเปอร์ไวร์ด ในฐานะพันธมิตรด้านการดำเนินงานและวางแผนงานร้าน Nintendo Authorized Store by SYNNEX วางแผนกลยุทธ์ในการออกแบบและจัดสรรพื้นที่ในร้านตามพฤติกรรมการเดินซื้อสินค้าของผู้บริโภค โดยการแบ่งเป็นโซน”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/4JZdefmBDefQeBELi78J.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="4JZdefmBDefQeBELi78J.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="4"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/DcbP9UfgEEnmPc6akRjk.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="DcbP9UfgEEnmPc6akRjk.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="5"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับโซนต่างๆ ใน Nintendo Authorized Store by SYNNEX ได้แก่&nbsp; &nbsp; &nbsp;- Experience Zone เพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมแบบจัดเต็มกับ Trial Station ถึง 5 สเตชั่น ที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 98 นิ้ว เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ลองเล่นเกมก่อนตัดสินใจซื้อ&nbsp; &nbsp; &nbsp;- Merchandise Zone โซนสำหรับคนรักของสะสมที่ตกแต่งด้วยธีมตัวละครสุดฮิตจาก Nintendo Switch ทั้ง 7 คาแรคเตอร์ ได้แก่ Super Mario, Kirby, Pokemon, Pikmin, The Legend of Zelda, Animal Crossing และ Splatoon โดยมีสินค้าให้เลือกซื้อกว่า 350 รายการ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา ของเล่น ฟิกเกอร์ amiibo เครื่องเขียน ฯลฯ ภาพ:&nbsp;Nintendo Authorized Store by SYNNEX เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/it/google-said-that-thailand-digital-economy-in-2024-will-grow-second-fastest-in-southeast-asia" alt="Google เผยเศรษฐกิจดิจิทัลไทย 2567 โตเร็วอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้">Google เผยเศรษฐกิจดิจิทัลไทย 2567 โตเร็วอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

เปิดแล้ววันนี้ที่สยามพารากอน! Nintendo Authorized Store แห่งแรกในไทย ใหญ่ที่สุดในอาเซียน

<h2>​บริษัทวิจัยตลาด Circana เปิดเผยยอดขายของเล่นในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากปี 2022 แต่กลับพบว่ามีผู้ซื้อที่เป็นผู้ใหญ่เพิ่มมากขึ้น โดยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 17.3% ของยอดขายของเล่นทั้งหมด </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Frederique Tutt นักวิเคราะห์ด้านอุตสาหกรรมของเล่นระดับโลกจากบริษัทวิจัยตลาด Circana บอกกับสำนักข่าว Business Insider ว่า แม้ลูกค้ากลุ่ม Kidult หรือผู้ใหญ่ที่ยังมีความเป็นเด็กในตัว จะคอยซื้อของเล่น และเกมต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ แต่ในช่วงหลายปีมานี้พบว่าสัดส่วนยอดขายที่ได้จากกลุ่มผู้ใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ จากรายงานของ Circana เผยว่า ยอดขายของเล่นในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากปี 2022 ที่อยู่ราว 3.03 หมื่นล้านเหรียญ แต่ข้อมูลที่น่าสนใจคือ มีผู้ซื้อกลุ่มผู้ใหญ่เพิ่มมากขึ้นในสัดส่วน 17.3% ของยอดขายของเล่นทั้งหมด (หรือเท่ากับราว 6.7 พันล้านเหรียญ) ถือว่าเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 8%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Tutt ระบุว่า ตลาดฝั่งยุโรปก็เกิดสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน ยอดขายของเล่นและเกมในปี 2023 มีกลุ่มลูกค้าที่มีอายุมากกว่า 18 ปีในสัดส่วนราว 16% หรือมูลค่า 2.6 พันล้านยูโร (2.76 พันล้านเหรียญ)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Tutt มองว่าการเติบโตของสัดส่วนลูกค้ากลุ่ม Kidult เป็น ‘ปรากฏการณ์ระดับโลก’ ซึ่งมาแรงอย่างมากในเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อีกทั้ง ยังชี้ว่าเทรนด์นี้ถูกกระตุ้นด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนมีเวลาว่างมากขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ความรู้สึกโหยหาอดีต (Nostalgia) เพื่อหลีกหนีจากความจริงอันเคร่งเครียด นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเทรนด์ดังกล่าว ทำให้หลายแบรนด์หันมาโฟกัสกับความทรงจำในวัยเด็กที่ผู้ใหญ่เหล่านี้โปรดปราน ยกตัวอย่าง การเปิดตัว The Madalorian สานต่อซีรีส์ Star Wars และการสร้างภาพยนตร์ Barbie ก็ช่วยดันยอดขายสินค้าที่เกี่ยวข้อง โดยลูกค้าที่เข้ามาซื้อก็คือผู้ใหญ่นั่นเอง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ตลาดนี้สามารถเติบโตได้อีกมหาศาลเลย” Tutt เผยว่าแบรนด์และผู้ผลิตต่างก็พากันหันมาให้ความสำคัญกับลูกค้าวัยผู้ใหญ่กันมากขึ้น ตามห้างร้านมากมายมีการขยายพื้นที่ และเพิ่มผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Steve Torzke ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าบริษัทของเล่นรายใหญ่อย่าง Mattel เผยกับ Los Angeles Times เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า ความสนใจของผู้ใหญ่ที่มีต่อแบรนด์ของเล่น เช่น Barbie เพิ่มขึ้นอย่างมากตลอดหลายปีมานี้ สำหรับบางแบรนด์ สัดส่วนยอดขายมาจากผู้ใหญ่ถึง 1 ใน 4&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากข้อมูลของ Circana แม้ว่ายอดขายของเล่นในสหรัฐฯ เมื่อปี 2023 จะลดลงจากปี 2022 แต่การใช้จ่ายจากผู้ซื้อวัยผู้ใหญ่ยังคงแข็งแกร่ง โดยพวกเขามีการซื้อของเล่นและเกมมากกว่า 1.5 พันล้านเหรียญ ในไตรมาสแรกของปี 2024 ในขณะเดียวกัน 43% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ เผยว่าพวกเขาซื้อของเล่นให้ตัวเองในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2024 เหตุผลหลักในการซื้อ ได้แก่ เพื่อเข้าสังคม เพื่อความสุข และเพื่อสะสม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ศักยภาพในการเติบโตของลูกค้ากลุ่มนี้ใหญ่มาก” Tutt กล่าว แปลและเรียบเรียงจาก&nbsp;<a href="https://www.businessinsider.com/adults-are-buying-more-kids-toys-in-a-quest-for-nostalgia-and-escape-2024-11" alt="Adults are buying more and more kids' toys for themselves in a quest for nostalgia and escape" style="background-color: initial; font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; font-weight: 700; text-align: var(--bs-body-text-align);">Adults are buying more and more kids' toys for themselves in a quest for nostalgia and escape</a>​ ภาพ: Unsplash.com เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/global/toy-tycoon-enters-forbes-chinese-billionaire-list" alt="รวยด้วยพลังอาร์ตทอย! ผู้ก่อตั้ง Pop Mart ทรัพย์สิน 5.5 พันล้านเหรียญ ผงาดทำเนียบมหาเศรษฐี Forbes ครั้งแรก">รวยด้วยพลังอาร์ตทอย! ผู้ก่อตั้ง Pop Mart ทรัพย์สิน 5.5 พันล้านเหรียญ ผงาดทำเนียบมหาเศรษฐี Forbes ครั้งแรก</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ของเล่นไม่ได้จำกัดแค่เด็กอีกต่อไป! รายงานเผยยอดขายของเล่นในสหรัฐฯ 17.3% มาจากลูกค้าผู้ใหญ่

<h2>ตลาดเกมไทยเนื้อหอม Playwith จากเกาหลีใต้เปิดตัว Seal M บนมือถือ พร้อมดาวน์โหลด ผ่าน App Store หรือ Play Store ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 พร้อมกับเกมเมอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชูโมเดล Play-to-Earn เล่นเกมได้ PLWI Token คาดยอดดาวน์โหลดพุ่ง 1 ล้านรายใน 1 เดือน</h2> ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/04/yWb6G9tYC4feS3zLswHY.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="yWb6G9tYC4feS3zLswHY.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="650,433" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำนักงานเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า รายงานตัวเลขอุตสาหกรรมเกมในประเทศไทยมีมูลค่าราว 40,000 ล้านบาท และเติบโตสูงมากในช่วงโควิดที่ผ่านมา ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานระบบ 5G ที่มีการพัฒนาอย่างมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้การพัฒนาเกมบนมือถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ที่สำคัญจำนวนคนไทยเล่นเกมมีมากกว่า 30 ล้านคน ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากสำหรับผู้พัฒนาเกมจากทั่วโลก​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/04/ZTUP5PAMkMpMAUH48AFv.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ZTUP5PAMkMpMAUH48AFv.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="650,433" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;HakJoon Kim ประธานบริหาร เพลย์วิธ (Playwith Inc.) ประเทศเกาหลีใต้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดเกมในประเทศไทยมีการเติบโตสูงต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทได้เข้ามาเปิดตัวเกม Seal online ในเดือนมีนาคม 2560 ได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ มาโดยตลอด หลังจากผ่านไป 6 ปี ได้มีการพัฒนาจาก Seal online IP สู่ Seal M เพื่อผู้เล่นชาวไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะเปิดตัว Seal M พร้อมกันอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 นี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Seal online เป็นเกมที่มีผู้เล่นประมาณ 10 ล้านคนทั่วโลก ตลาดหลักอยู่ในจีน ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเทศไทยเป็นตลาดหลักที่มีผู้เล่นมากกว่า 50,000 คน ถือเป็นอันดับ 1 ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจากการเปิดตัว Seal M ในครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ดาวน์โหลดผ่าน App Store หรือ Play Store มากกว่า 1 ล้านดาวน์โหลด ภายใน 1 เดือน และ 5 ล้านดาวน์โหลดภายใน 1 ปี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“Seal online เป็นเกมที่ได้รับความรักจากเกมเมอร์ทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาเป็นเวลานาน เต็มเปี่ยมไปด้วยความทรงจำทุกหนแห่ง และเพื่อเป็นการร่วมสร้างความทรงจำต่อไปอีกนานๆ ล่าสุด เราจึงเปิดตัว Seal M อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 นี้ ซึ่ง Seal M จะตอบสนองความต้องการของผู้ที่รักใน Seal Online ซึ่งจะแตกต่างจากเกม Seal บนสมาร์ทโฟนที่เคยเปิดมาก่อน” Kim กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ บริษัทได้พัฒนา PLWI Token เพื่อตอบโจทย์ผู้เล่น เพื่อตอบแทนความสนับสนุนและฟีดแบ็กที่ดีจากผู้เล่นโดยไม่ต้องไปขุดหาไอเทม หรือจ่ายเงินเพื่อเล่นเกมให้ชนะ (Pay-to-Win) ซึ่งจะทำให้เกมมีความสนุกยิ่งขึ้นไปอีก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ในภาษาเกาหลี คำว่า อุนมยอง (운명) แปลว่า พรหมลิขิต ซึ่งความหมายไม่ใช่แค่ได้พบเจอเท่านั้น แต่ยังเป็นความผูกพันลึกซึ้ง เป็นคนที่เราจะต้องพบเจอและคงความสัมพันธ์นั้นไปตลอด ดังนั้นความหวังของ PLAYWITH ก็คือ การได้นำเสนอคอนเทนต์ที่สนุกสนานให้แก่ผู้เล่น และสื่อสารกัน โดยยังคงความสัมพันธ์กับผู้เล่นให้ยาวนานที่สุด” HakJoon Kim กล่าว และนี่คือกลยุทธ์ใหม่ของ Playwith ในการทำตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พัฒนาโมเดลใหม่เจาะคนไทย ด้าน JeongHyun Park หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเกม กล่าวว่า ระบบต่างๆ ภายในเกม Seal M นั้น ได้มีการพัฒนาและต่อยอดจากจุดเด่นของเกม Seal Online ที่พัฒนาจากสำรวจความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น กราฟฟิกสไตล์การ์ตูน ที่มีลายเส้นสวยงามไม่เหมือนใคร หรือจะเป็นระบบสัตว์เลี้ยง ที่มีความหลากหลาย สามารถพัฒนาขีดความสามารถเพื่อช่วยเหลือในการต่อสู้ได้เช่นกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวมไปถึงคอสตูม ที่สำคัญยังช่วยเพิ่มความสามารถให้ตัวละครภายในเกมอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีไฮไลต์สำคัญ คือ ระบบคอมโบ ที่ช่วยโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงไอเทมน่าสนใจอีกมากมายที่เราได้ออกแบบ และพัฒนาเกมให้เหมาะสมกับในเวอร์ชันมือถืออีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนที่จะอัปเดตคอนเทนต์ภายในเกมให้รวดเร็ว หลังจากที่เปิดให้บริการไปแล้ว ซึ่งได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เพื่อให้เกม Seal M เป็นที่ถูกใจของผู้เล่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากที่สุด รวมถึงชาวเกมเมอร์ในประเทศไทย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/04/qffd87PYzboW7wPnSNjY.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="qffd87PYzboW7wPnSNjY.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="650,433" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp; JaeYong Lee หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจในประเทศไทยนั้น บริษัทได้ออกแบบเหรียญ PLWI Token ให้มีความเชื่อมโยงกับตัวเกม Seal M ซึ่งจะแตกต่างจากเกม Play-to-Earn (P2E) ทั่วๆ ไป โดย Seal M นั้นจะใช้วิธีการเล่นเกมแทนการขุด (Mining) เพื่อให้ได้รับ Token แทน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะเดียวกันเพื่อให้เป็นการเข้าถึงผู้ใช้งานให้ใกล้ชิดมากขึ้น ได้ประกาศการทำ AMA หรือ Ask Me Anything บนแพลตฟอร์ม Discord เพื่อจะได้มีการพูดคุยสอบถามกับผู้ใช้งานได้โดยตรงอีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับ Play-to-Earn เป็นโมเดลธุรกิจที่ให้ผู้เล่นสามารถใช้งานเหรียญและองค์ประกอบต่าง ๆ ของเกมภายในระบบนิเวศของเกมได้อย่างเต็มที่ และสามารถซื้อขายไอเทม หรือ NFT ในตลาดซื้อขายของแพลตฟอร์มเกมได้ โดยผู้เล่นสามารถนำ NFT ไปซื้อขายใน NFT Marketplace เพื่อทำเงินได้ ทำให้แนวโน้มการเล่นเกม Play-to-Earn ได้รับความนิยมจากเกมเมอร์มากขึ้น อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/marketing/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%87%E0%B8%9A-%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88-%E0%B8%9F%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2566-%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-1-09-%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99" alt="ทีเส็บ มั่นใจเศรษฐกิจฟื้นตัวตั้งเป้าปี 2566 รายได้ 1.09 แสนล้าน">ทีเส็บ มั่นใจเศรษฐกิจฟื้นตัวตั้งเป้าปี 2566 รายได้ 1.09 แสนล้าน</a>​<hr class="__se__solid">​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Playwith ชูโมเดลใหม่ ลุยธุรกิจเกมในไทย 

<h2 class="p1">หลังจากการระดมทุน Series A สำเร็จเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา Ampverse ผู้ให้บริการธุรกิจเกมและอีสปอร์ตพร้อมตอกย้ำการเติบโต ด้วยการเปิดตัว Ampverse Web3 ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Amplifying the Metaverse"</h2>
Ampverse เปิดตัวโปรเจ็กต์ใหม่ Ampverse Web3 ด้วยจุดประสงค์ในการสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนธุรกิจเกมและอีสปอร์ต และส่งเสริมการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมทั้งทีมนักกีฬาอีสปอร์ตมืออาชีพระดับโลก ผู้ที่มีความสามารถด้านอีสปอร์ต รวมถึงสินค้าและทรัพย์สินทางปัญญาบนโลกดิจิทัล
โดยโปรเจ็กต์น้องใหม่นี้ ถูกออกแบบมาให้เกมมิ่งคอมมิวนิตี้ได้เข้ามามีส่วนร่วม และเชื่อมต่อกันได้ในระดับที่เหนือกว่าเคยผ่านระบบกิลด์ และการเล่นเกมรูปแบบ Play-and-Earn รวมไปถึงการสร้างสินค้าบนแพลตฟอร์มตลาดของสะสมดิจิทัลจากเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ (Digital Collectibles) ตลอดจนการส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษในการเป็นส่วนหนึ่งของโลก Metaverse และวงการอีสปอร์ตที่เติบโตเร็วที่สุดในยุคปัจจุบัน


<figure><img class="size-full wp-image-64536" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/Ferdinand-Gutierrez_CEO_Ampverse-2022-308.jpg" alt="Ampverse เปิดตัว Ampverse Web3 มุ่งเจาะธุรกิจเกมและอีสปอร์ต" width="719" height="480" /><figcaption> Ferdinand Gutierrez</figcaption></figure>
“เราเชื่อมั่นในพลังที่แข็งแกร่งของการรวมตัวกันภายในคอมมิวนิตี้ การออกเดินทางใหม่ครั้งนี้ของ Ampverse จึงเป็นโอกาสสำคัญให้เราก้าวสู่โลกอนาคตไปพร้อมกับเกมเมอร์ทุกท่านจาก Web2 สู่ Web3 ควบคู่ไปกับการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และสินค้าต่างๆ ที่จะยกระดับการมีส่วนร่วมและแรงบันดาลใจให้แก่เหล่าเกมเมอร์ทุกท่านที่เปรียบเสมือนกลไกสำคัญในการเจริญเติบโตของเรา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกก็ตาม” Ferdinand Gutierrez ประธานกรรมการบริหาร Ampverse กล่าว
Ampverse Web3 ประกอบไปด้วย 4  หน่วยงานหลักด้วยกัน
โดยหน่วยงานแรกคือ AMP Guild - Play-and-Earn ระบบกิลด์การเล่นเกมรูปแบบ Play-and-Earn ที่วางพื้นฐานการศึกษาเพื่อความเข้าใจกลไกของโลกดิจิทัล อีกทั้งยังเป็นแหล่งความรู้ให้กับคอมมิวนิตี้ เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสการสร้างรายได้ผ่านโครงสร้างของเกมในเทคโนโลยีบล็อกเชน อาทิเช่น Spider Tanks, Axie Infinity และ Townstar
<img class="alignnone size-full wp-image-64531" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/Ampverse-2022-11.jpg" alt="" width="719" height="480" />
หน่วยที่ 2 คือ Metaverse Experiences เปิดประสบการณ์โลกเสมือนจริงที่ทางทีมนักพัฒนาและทาเลนท์ของทางบริษัทร่วมกันสรรค์สร้างบนระบบ Metaverse ที่มาแรงอย่าง The Sandbox 
หน่วยต่อมาคือ Digital Collectibles ผลงาน NFT และทรัพย์สินดิจิทัลที่เกิดขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์ ควรค่าแก่การเก็บสะสม โดยผู้สนใจสามารถสะสมชิ้นงานดิจิทัลเหล่านี้ได้ผ่านกิจกรรมต่างๆ โดยเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการ Airdrop ผ่านเครือข่าย Bacon Time ที่ร่วมพัฒนากับ Bitkub ผู้นำธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อคเชนของประเทศไทย
<img class="alignnone size-full wp-image-64533" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/Ampverse_Bitkub_BaconTime.jpg" alt="" width="626" height="480" />
หน่วยงานสุดท้ายคือ AMP Guild Esports กิลด์อีสปอร์ตที่มุ่งพัฒนาทักษะ ควบคู่กับการให้เหล่านักกีฬาอีสปอร์ตได้ค้นพบศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง รวมถึงการดูแลเรื่องผลประโยชน์เชิงพาณิชย์สำหรับเกมเมอร์ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นเกมเมอร์ระดับโปรรุ่นใหม่ในวงการ GameFi อีกด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมอีสปอร์ต รวมถึงพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่กำลังมองหาการมีส่วนร่วมไปกับการเปลี่ยนแปลงนี้ ทางบริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษ เพื่อการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศนี้เต็มอย่างเด็มรูปแบบ ผ่านการก้าวเข้าสู่โลกของ Web3 ร่วมกับผู้เล่นทุกคนจากทั่วทุกมุมโลก
<img class="alignnone size-full wp-image-64532" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/Ampverse-2022-58.jpg" alt="" width="720" height="479" />
นอกจากนี้ Ampverse ยังได้ให้บริการ พร้อมดูแลและดำเนินการทีมแข่งอีสปอร์ตที่ประสบความสำเร็จระดับโลกมากมาย เช่น Bacon Time ทีมแข่งใน RoV Pro League 2021 ของประเทศไทย, ทีม MiTH สำหรับการแข่ง 2021 PUBG Champions ของประเทศไทย, ทีม SBTC ในการแข่งขัน SEA Wild Rift Champions ของประเทศเวียดนาม และทีม 7Sea ในการแข่ง PubG Mobile Invitational ของประเทศอินเดีย
อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/metaverse-like-us-clinique.html">‘Metaverse Like Us​’: Clinique มุ่งสร้างโลกเสมือนจริงเพื่อทุกคน</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Ampverse เปิดตัว Ampverse Web3 มุ่งเจาะธุรกิจเกมและอีสปอร์ต

<h2>อุตสาหกรรมเกมในไทยเติบโตต่อเนื่อง YGG SEA เปิดตัวรุกตลาดไทยและอาเซียน ชูโมเดล เพลย์-ทู-เอิร์น (play-to-earn) พร้อมเสนอขายโทเค็น $SEA เจาะตลาดเกมเมอร์ ผนึก Bitkub บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ลงทุนสร้างนักพัฒนาเกมรองรับการเติบโตอนาคต</h2>
Simon-Kucher &amp; Partners คาดว่าอุตสาหกรรมเกมทั่วโลกจะมีมูลค่า 1.7 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ และจำนวนผู้เล่นเกมจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านคนในปี 2023 สอดคล้องกับที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า สำรวจอุตสาหกรรมเกมในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 34,000 ล้านบาท ในปี 2563 เติบโตร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด ปัจจุบันในประเทศไทยมีผู้เล่นเกมสูงถึง 27 ล้านคน

Evan Spytma ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้ง ยีลด์กิลด์เกม เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ หรือ YGG SEA บริษัทสตาร์ทอัพกิลด์เกมบล็อกเชน เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเกมในประเทศไทยถือเป็นตลาดที่แข็งแกร่งในภูมิภาคนี้ และโดยเฉพาะนักเล่นเกมชาวไทยทักษะการเล่นเกมสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ซึ่งอุตสาหกรรมเกมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอัตราการเติบโตสูงและถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่มีศักยภาพ

“บริษัทฯ จึงเข้ามาเปิดสำนักงานในประเทศไทย รวมทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซีย และ เวียดนาม และจะเปิดอีก 4 ประเทศภายในสิ้นปีนี้ และตั้งเป้าจะครอบคลุมทั่วทั้งตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปี 2567”
<h3><img class="alignnone size-full wp-image-62490" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/YGG-SEA_0503.jpg" alt="" width="650" height="366" /></h3>
<h3>ชูโมเดลธุรกิจ เพลย์-ทู-เอิร์น (play-to-earn)</h3>
Evan กล่าวว่า ได้ก่อตั้ง YGG SEA เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยมีเป้าหมายสร้างระบบเศรษฐกิจโลกเสมือนเพื่อการเล่นเกมเพลย์-ทู-เอิร์นที่ใหญ่ที่สุดและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแนวโน้มการเล่นเกมเพลย์-ทู-เอิร์น Play-to-Earn (P2E) เล่นเพื่อรับรายได้เป็นเหรียญ ซึ่งปัจจุบันมี 2 ประเภท คือ NFT เช่น ไอเท็มในเกม ของสะสม และ Fungible Token หรือ สกุลเงินดิจิทัลในเกม เป็นเทรนด์ที่มีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลกและในประเทศไทย

ทั้งนี้ YGG SEA เปิดโอกาสให้เกมเมอร์ทุกคนสามารถสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมแนว Play-to-Earn (P2E) ชื่อดังต่างๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเงินต้น หรือ ลงทุนแต่อย่างใด โดยทาง YGG SEA ได้จัดตั้งโครงการ Scholarship Program เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกด้วยการออกเงินลงทุนเบื้องต้นให้ สมาชิกกิลด์เกมสามารถ “เล่นเกมโดยไม่ต้องลงทุน แถมยังมีรายได้” อีกด้วย ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วม Scholarship Program 11,000 คน และคาดว่าสิ้นปีจะมีสมาชิก 83,000 คน

<img class="alignnone size-large wp-image-62494" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/YGG-SEA_0506.jpg" alt="" width="640" height="425" />

นอกจากนี้ YGG SEA ยังได้เปิดประมูลขายโทเค็น $SEA ทั้งหมดจำนวน 75 ล้านเหรียญ โดยเป็นการเปิดเสนอขายต่อสาธารณะแบบ Initial DEX Offer (IDO) บนแพลตฟอร์ม <a href="https://copperlaunch.com/">Copper launchpad</a> ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 7.5 ของจำนวนโทเค็น $SEA ทั้งหมดหนึ่งพันล้านโทเค็น โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $0.50 เพื่อรองรับความต้องการของเกมเมอร์ในเครือข่ายของ YGG SEA

“ปัจจุบันกระแสความนิยมของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง NFT และการเล่นเกมแบบเพลย์-ทู-เอิร์น (play-to-earn) เพื่อสร้างรายได้ที่กำลังมาแรงและเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยที่สินทรัพย์ NFT กำลังเป็นที่จับตามองและได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากกลุ่มนักลงทุนและชุมชนผู้เล่นเกมในขณะนี้”

สำหรับโทเค็น $SEA เป็นโทเค็นหลักของ YGG SEA ที่ให้สมาชิกชุมชนมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในข้อเสนอในการกำกับดูแล (ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเกมใหม่ๆ การจัดอีเว้นท์ให้กับสมาชิกในชุมชน ฯลฯ) ไปจนถึงการจัดสรรรีวอร์ดตอบแทนของระบบนิเวศ คุณลักษณะ/โมเดลรางวัลที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการในแต่ละท้องถิ่น

อีวาน กล่าวว่า บริษัทฯ ได้วางแผนการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยจะมุ่งสร้างชุมชนคนเล่นเกมให้แข็งแกร่ง โดยร่วมมือกับพันธมิตร หน่วยงานภาครัฐ มหาวิทยาลัย เพื่อขยายความร่วมมือในโครงการ Scholarship Program และล่าสุด ได้จับมือกับ Bitkub ในการซื้อขายโทเค็น $SEA และบมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ในการลงทุนสร้างนักพัฒนาเกมในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ระบบนิเวศ (Ecosystem) ในอุตสาหกรรมเกมของประเทศไทยแข็งแรงขึ้น

<img class="alignnone size-full wp-image-62492" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/YGG-SEA_0505.jpg" alt="" width="650" height="432" />

ปัจจุบัน YGG SEA ได้มีการลงทุนในเกมชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วใน 76 โครงการ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นต้นมา มูลค่าการลงทุนกว่า 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสมาชิกกิลด์เกม YGG SEA สามารถเข้าถึงเกมจำนวนกว่าสิบเกม และมีแผนเตรียมออกเกมอีกมากมายที่จะเปิดตัวภายในปีนี้

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%95-%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%aa-%e0%b9%80%e0%b8%9c%e0%b8%a2-6-%e0%b8%9b%e0%b8%b1%e0%b8%88%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b8%97%e0%b8%b5.html">เครดิต สวิส เผย 6 ปัจจัยที่มีผลกับการลงทุนผ่านเทรนด์การลงทุนโลก</a>
<div class="single-content-writer-box">
<div>

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

</div>
</div>
&nbsp;

YGG SEA เจาะ "ตลาดเกมเมืองไทย" มูลค่า 3 หมื่นล้าน

<h2>การเล่มเกม มีวิวัฒนาการของเครื่องเล่นวิดีโอเกมในยุค 90 มาเป็นเครื่องเล่นเกมพกพาในยุค 2000s กระทั่งถึงยุค 2010s ที่เกมมือถือเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อวงการเกมเมอร์และคงไม่มีใครไม่รู้จัก Wii, Candy Crush Saga และ Pokemon GO โดยวงการเกมในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากที่คนไทยสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตพร้อมกับความนิยมของอีสปอร์ตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทวิตเตอร์เองที่กลายเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเกมเมอร์ และทำให้ประเทศไทยติดอันดับ 4 ของประเทศที่พูดเรื่องการเล่นเกมมากที่สุดในโลก</h2>
คนไทยนิยมเล่นเกมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Animal Crossing, Fortnite และเกมแนวฆ่าเวลา (Casual) โดย การเล่นเกม และ เกมมีวิวัฒนาการทางรูปแบบและการเล่นอย่างต่อเนื่องและมักเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเมื่อเข้าถึงผู้เล่นใหม่ๆ โดยในเดือนกันยายน 2563 นี้ คาดว่าการเล่นเกมของคนไทยจะเป็นที่พูดถึงมากขึ้นอีกเมื่อภาพยนตร์ เกมเมอร์เกมแม่ พร้อมเข้าโรง เพราะเพียงแค่เปิดตัวเท่านั้นก็มีเกมเมอร์ชาวไทยและคอหนังพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ผ่านแฮชแท็ก <a href="https://twitter.com/hashtag/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88">#เกมเมอร์เกมแม่</a> และ <a href="https://twitter.com/hashtag/MotherGamer?src=hashtag_click">#MotherGamer</a> เป็นจำนวนมาก

มร.มาร์ติน ยูเรน หัวหน้าแผนกงานวิจัยทวิตเตอร์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกับภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ กล่าวว่า “เราเห็นถึงการเติบโตอย่างมหาศาลของบทสนทนาเรื่องเกมบนทวิตเตอร์ประเทศไทย การเล่นเกมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเล่นเกมในประเทศไทยเป็นกิจกรรมทางสังคมรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเราเห็นได้จากบทสนทนาที่เกมเมอร์มีส่วนร่วมและคอนเน็คกัน ตลอดจนการแข่งขันอีสปอร์ตก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น รวมถึงเกมใหม่ๆ ที่กำลังจะเปิดตัว เราจึงคาดว่าบทสนทนาเกี่ยวกับเกมในไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในปีนี้และปีต่อๆ ไป”

<img class="alignnone size-full wp-image-33204" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/การเล่นเกม-03.jpg" alt="" width="600" height="338" />

ข้อมูลของทวิตเตอร์ระบุว่า การเล่นเกมกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก เกมเมอร์หลายคนใช้ทวิตเตอร์เป็นพื้นที่ในการแสดงออกถึงความหลงใหลในการเล่นเกม รวมไปถึงรีวิวเกม และพูดคุยกับเหล่าเกมเมอร์คนอื่นๆ โดยข้อมูลสำคัญของเกมเมอร์ชาวไทยและเทรนด์การเล่นเกมบนทวิตเตอร์ประเทศไทยมีดังนี้

1.การเล่นเกมคือการเข้าสังคมอย่างหนึ่ง

คนไทยไม่ได้เล่นเกมเพื่อเอาชนะหรือเพราะต้องการความท้าทายเสมอไป แต่คือการเข้าไปพบปะพูดคุยกับเพื่อนและครอบครัว ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้การเล่นเกมเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงที่ทุกคนต่างต้องกักตัวในช่วงก่อนหน้านี้ เกมเมอร์ต่างกระชับความสัมพันธ์ขณะ <a href="https://twitter.com/search?q=%23%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99&amp;src=typed_query">#อยู่บ้าน</a> ด้วยการจัดการแข่งขันอีสปอร์ต และมีเกมเมอร์มากมายที่เข้ามาทวีตหาเพื่อนเล่นเกมร่วมกัน

2.เล่นเกมเพื่อผ่อนคลาย

ผลการสำรวจล่าสุดของทวิตเตอร์พบว่า ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ในประเทศไทยเกินครึ่งเล่นเกมเพื่อ “ฆ่าเวลา” เกมเมอร์ส่วนมากอยู่ในช่วงวัยที่เป็นกลุ่ม Gen Z (ร้อยละ 58) และกลุ่มมิลเลนเนียล (ร้อยละ 56) ซึ่งเล่นเกมเพื่อสร้างกิจวัตรประจำวันใหม่ให้กับตัวเอง ในขณะที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการเล่นเกมนี้กลายเป็นวิธีที่ช่วยลดความเครียดและสร้างความปกติในรูปแบบใหม่ในสถานการณ์อันไม่ปกติที่เกิดขึ้นได้

3.การเล่นเกมคือกิจกรรมยอดนิยมของชาว Gen Z และมิลเลนเนียล

ข้อมูลจากการสำรวจของทวิตเตอร์ในเดือนเมษายน 2563 พบว่าในช่วง 30 วันก่อนหน้า เกมเมอร์ชาวไทยที่อยู่ในช่วงวัย Gen Z (ร้อยละ 37) และที่อยู่ในกลุ่มมิลเลนเนียล (ร้อยละ 32) นิยมเล่นเกมประเภทที่มีผู้เล่นหลายคน ซึ่งเป็นกลุ่มที่พูดถึงการเล่นเกมมากที่สุดบนทวิตเตอร์ในประเทศไทย และ มากกว่า 1 ใน 3 ของเกมเมอร์วัย Gen Z (ร้อยละ 34) กล่าวว่าการเล่นเกมคืองานอดิเรก โดยนอกจากจะแบ่งปันเคล็ดลับในการเล่นเกมแล้ว พวกเขายังชอบแชร์ช่วงเวลาที่ประทับใจจากการดูสตรีมมิ่งเกมที่ชื่นชอบอีกด้วย

3 เคล็ดลับที่ช่วยให้เกมเมอร์ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นบนทวิตเตอร์

ทวิตเตอร์เป็นสถานที่ที่ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อและแบ่งปันประสบการณ์การเล่นเกมของตัวเองได้ โดยมีเคล็ดลับ 3 ข้อง่ายๆ ที่เหล่าเกมเมอร์ชาวไทยบนทวิตเตอร์สามารถสร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ ด้วยการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเกมบนทวิตเตอร์ประเทศไทย ได้แก่
<ul>
 	<li>ติดตามบทสนทนาเกี่ยวกับเกม ผ่านทางชุมชนของเหล่าเกมเมอร์บนทวิตเตอร์ประเทศไทยซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อเรียนรู้ภาษาของชาวเกมเมอร์ และติตตามเทรนด์ล่าสุดเพื่อให้ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของทุกเกมฮิต</li>
 	<li>เข้าร่วมบทสนทนาด้วยการติดแฮชแท็กยอดนิยม โดยร่วมสนทนาในหัวข้อที่กำลังเป็นกระแสในแวดวงของเกมเมอร์ในประเทศไทย หรือจะร่วมพูดคุยถึงเกมใหม่ล่าสุด เกมยอดนิยมและอื่นๆ อีกมากมาย</li>
 	<li>เรียนรู้จากผู้อื่น เพราะบรรดาเกมเมอร์มักจะแชร์เคล็ดลับต่างๆ ในการเล่นเกม รีวิวเกม และแสดงความคิดเห็นต่อเกมประเภทต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ลองติดตามและเรียนรู้จากชุมชนเกมเมอร์บนทวิตเตอร์ เพื่อดูว่าเกมประเภทไหนที่เหมาะกับคุณมากที่สุดและพร้อมที่จะสนุกไปกับเกมนั้น Game on!</li>
</ul>
การเล่นเกมกลายเป็นสิ่งที่มากกว่าความบันเทิง เพราะได้กลายเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้คุณกับเพื่อนสามารถมีส่วนร่วมกันได้ และยังเป็นการสร้างคอนเนคชั่นใหม่ๆ กับเกมเมอร์คนอื่นๆ อีกด้วย หากคุณกำลังเริ่มเล่นเกม ลองใช้แฮชแท็กเหล่านี้เพื่อศึกษาและติดตามเกี่ยวกับเกมในประเทศไทย อาทิ<a href="https://twitter.com/search?q=%23%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD&amp;src=typed_query"> #เกมดีบอกต่อ</a><a href="https://twitter.com/search?q=%23%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD&amp;src=typed_query"> #รีวิวเกมมือถือ</a><a href="https://twitter.com/search?q=%23%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1&amp;src=typed_query"> #รีวิวเกม</a><a href="https://twitter.com/search?q=%23%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1&amp;src=typed_query"> #เกม</a><a href="https://twitter.com/search?q=%23%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1&amp;src=typed_query"> #แนะนำเกม</a>

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/other/silver-gen-%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b9%82%e0%b8%a0%e0%b8%84%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%87-%e0%b8%aa.html">‘SILVER GEN’ ผู้บริโภคมั่งคั่ง สังคมผู้สูงวัย โอกาสทองนักการตลาด</a>

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ทวิตเตอร์เผยคนไทยคุยเรื่อง "การเล่นเกม" เพิ่มขึ้นร้อยละ 97

<h2 class="p1">Akatsuki ใช้ความสำเร็จของ เกม Dragon Ball Z เพื่อต่อยอด และขยายเข้าสู่ธุรกิจอื่นๆ</h2>
บริษัทผลิต เกม จาก Tokyo แห่งนี้ต้องขอบคุณเกมดังระดับโลกอย่าง Dragon Ball Z เวอร์ชั่นมือถือที่บริษัทพัฒนาร่วมกับ Bandai Namco ซึ่งทำรายได้ต่อปีให้ Akatsuki ประมาณ 3 ใน 4 หรือ 2.8 หมื่นล้านเยน (254 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
เกมนี้อิงตามการ์ตูนสุดฮิตทั่วโลกที่มีทั้งแบบมังงะ (หนังสือการ์ตูน) และอะนิเมะ (การ์ตูนแอนิเมชั่น) โดยเกมของ Akatsuki มียอดดาวน์โหลด 250 ล้านครั้ง นับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในปี 2015 และความสำเร็จจากเกมนี้ก็ยังพา Akatsuki เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Tokyo เมื่อเดือนมีนาคม 2016 ด้วย
Genki Shiota ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Akatsuki เริ่มตั้งบริษัทเมื่อเดือนมิถุนายน 2010 ด้วยเงินทุน 25,000 เหรียญที่ยืมมาจากเพื่อน เกมแรกของเขาคือ Bringing Up My Girl ซึ่งจำหน่ายผ่านบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเกมของญี่ปุ่นอย่าง GREE และเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์กสำหรับเกมอย่าง Mobage ของบริษัท DeNa ซึ่ง Shiota กล่าวว่า เมื่อ Akatsuki สร้างเกมเพิ่มขึ้น บริษัทก็มีเกมดังเพิ่มขึ้น แม้จะมีบางส่วนที่ไม่ประสบความสำเร็จ
Shiota และผู้ร่วมก่อตั้ง Tetsuro Koda ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท พบกันขณะเป็นนักศึกษาฝึกงาน พวกเขากลายเป็นเพื่อนกัน และในที่สุดก็ร่วมกันก่อตั้ง Akatsuki ซึ่งแปลว่า รุ่งอรุณ ในภาษาญี่ปุ่น
ทั้งคู่ได้งานบริษัทหลังจากการฝึกงานสิ้นสุดลง โดย Shiota ทำงานที่ DeNa ส่วน Koda ทำงานที่บริษัทที่ปรึกษา Accenture แต่ทั้งคู่ก็ลาออกหลังจากทำงานได้ไม่ถึง 2 ปีครึ่ง เพราะ Shiota อยากจะเป็นผู้ประกอบการ ส่วน Koda รู้สึกว่างานเดิมไม่ท้าทายพอ


<figure><img class="size-full wp-image-27440" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/03/akatsuki-02.jpg" alt="" width="480" height="600" /><figcaption> Genki Shiota ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Akatsuki</figcaption></figure>
“ผมจำได้ว่าบังเอิญเจอ Koda หลังจากไม่ได้เจอกันมาพักหนึ่ง เขาดูหมดไฟ ท่าทางเบื่อหน่าย และไม่รู้จะเอายังไงกับงานตัวเองดี” Shiota เล่า “ผมเลยชวนมาทำบริษัทด้วยกัน เพราะคิดว่าถ้าผมออกปาก เขาต้องมาแน่”
ในช่วงแรก ทั้งบริษัทมีแค่สองคนนี้กับวิศวกรอีกคนที่ช่วยกันทำทุกอย่างตั้งแต่เขียนโปรแกรมเกมจนถึงซ่อมเซิร์ฟเวอร์เมื่อเกมล่ม “บางทีเกมก็ล่มในช่วงที่เราหลับ” Koda เล่า “เราตื่นมาเจอปัญหา ประมาณว่า ‘เอาไงกันดี’ แล้วก็ต้องรีบซ่อม 2-3 เดือนแรกเป็นช่วงที่เราทำเกมแรก ซึ่งกลายเป็นเกมฮิตและสร้างกระแสเงินสดดีใช้ได้ แม้เราจะไม่มีประสบการณ์เลยก็ตาม”
แต่ Shiota เล่าว่า ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นเสมอไป การมีพนักงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และการเปลี่ยนทิศทางในปี 2012 และ 2013 ไปสู่การทำเกมให้เหมาะสมตามแพลตฟอร์มนั้นๆ ซึ่งเป็นการเขียนแอปแต่ละตัวโดยใช้เครื่องมือที่จำเพาะเจาะจงกับระบบปฏิบัติการแต่ละอย่าง เช่น iOS ของ Apple และ Android ทำให้บริษัทต้องแบกภาระเพิ่มขึ้น
“เราเสียเงินเดือนละหลายแสนเหรียญ” Shiota เล่า “ถ้าเกมแรกของเราที่ผลิตตามแพลตฟอร์มนั้นๆ ออกมาช้ากว่านี้แค่ 3 เดือน เราคงล้มละลาย แต่เกมนั้นก็ฮิตพอที่จะสร้างกระแสเงินสดเข้ามาได้อย่างสม่ำเสมอพอดี”
การใช้เงินกู้เป็นแหล่งทุนของบริษัทในช่วงเริ่มต้นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะ Shiota อยากสร้างมูลค่าให้บริษัทก่อนที่จะเริ่มระดมทุนจากนักลงทุน Shiota ซึ่งถือหุ้นของบริษัทเกือบ 36% ดูแลด้านการตลาดและการขาย ส่วน Koda ซึ่งมีหุ้นเกือบ 20% และเป็นผู้เขียนโปรแกรมเกมฮิตเกมแรกของ Akatsuki ดูแลงานด้านปฏิบัติการและเทคนิค
ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 71% เป็น 2.8 หมื่นล้านเยน ส่วนกำไรสุทธิพุ่งขึ้น 95% เป็น 7.9 พันล้านเยน ส่งให้ Akatsuki ได้เข้ามาอยู่ในทำเนียบ Best Under A Billion ได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน


<figure><img class="size-full wp-image-27441" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/03/akatsuki-03.jpg" alt="" width="720" height="405" /><figcaption> หนึ่งในเกมมือถือของ Akatsuki</figcaption></figure>
Yasuyoshi Mimura นักวิเคราะห์จาก Ichiyoahi Research Institute ใน Tokyo เขียนวิเคราะห์ว่า บริษัทน่าจะรักษาการเติบโตเช่นนี้ต่อไปได้ เนื่องจากเกมแนว RPG เกมล่าสุดอย่าง Romancing SaGa Re;univerSe ซึ่งออกมาเมื่อเดือนธันวาคม 2018 ได้รับความนิยม และ Mimura คาดว่ากำไรสุทธิของ Akatsuki จะเพิ่มขึ้นเป็น 9.9 พันล้านเยนในรอบปีสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2020 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.09 หมื่นล้านเยนในปีต่อไป
เมื่อจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น ญี่ปุ่นจึงกลายเป็นตลาดเกมมือถืออันดับ 2 รองจากจีน App Annie บริษัทวิจัยตลาดจากสหรัฐฯ กล่าวว่า รายได้ของเกมมือถือในญี่ปุ่นคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1.8 หมื่นล้านเหรียญภายในสิ้นปี 2022 จาก 1.4 หมื่นล้านเหรียญในปี 2018
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า Akatsuki กำลังขยายการลงทุนไปสู่กิจการอื่นๆ นอกเหนือจากเกม ซึ่งทำยอดขาย 95% ให้กับบริษัท (และยอดขายส่วนใหญ่มาจากเกมเดียว) Takao Suzuki นักวิเคราะห์จาก Daiwa Securities ใน Tokyo เขียนวิเคราะห์เมื่อเดือนเมษายนว่า “บริษัทจำเป็นต้องคิดหาวิธีเติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งรวมถึงการเติบโตผ่านธุรกิจด้านประสบการณ์แบบสดๆ”
Akatsuki แตกสายธุรกิจเข้าสู่ประสบการณ์แบบสดๆ และความบันเทิง ซึ่งรวมถึงกีฬาอี-สปอร์ตที่ให้ผู้เข้าแข่งขันเล่นวิดีโอเกมเพื่อชิงรางวัลผ่านจอขนาดใหญ่ในสนามที่จัดเป็นเวทีประลอง Shiota กล่าวว่า ในช่วงทศวรรษหน้าเขาคาดหวังให้ธุรกิจใหม่แต่ละประเภทสร้างรายได้ 1 ใน 3 และให้เกมสร้างรายได้ส่วนที่เหลืออีก 1 ใน 3
Akatsuki เน้นย้ำเรื่องการผลักดันธุรกิจใหม่เหล่านี้ ด้วยการเพิ่มจำนวนคนขึ้นอีกเท่าตัวจนมีพนักงานมากกว่า 1,000 คนในปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เป็นพนักงานใหม่ที่จ้างมาทำงานอื่นนอกเหนือจากงานเกม
นอกจากนี้ Akatsuki ยังซื้อบริษัทสัญชาติสเปนคือ League of Professional Esports ซึ่งดูแลลีกที่มีทีมกีฬาอาชีพอย่างสโมสรฟุตบอล FC Barcelona จัดทีมผู้เล่นเข้าร่วมแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ภายใต้ป้ายอี-สปอร์ตของสโมสร และบริษัทยังทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับทีม Tokyo Verdy ซึ่งเป็นสมาชิกในลีก และเป็นทีมฟุตบอลอาชีพของญี่ปุ่นอีกด้วย
“ธุรกิจของเราคือ การสร้างความเคลื่อนไหว และความตื่นเต้นเร้าใจให้ผู้คน และให้ความสุขแก่พวกเขา” Shiota กล่าว “เราเรียนรู้การใช้เทคโนโลยี การรักษาฐานผู้ใช้งานและการสร้างความบันเทิงให้ผู้คนอย่างต่อเนื่องผ่านเกม และเราพร้อมจะนำความรู้นี้มาใช้ในโลกจริง ไม่ว่าจะในด้านประสบการณ์แบบสดๆ อี-สปอร์ต หรือกีฬาอื่นๆ”
&nbsp;
<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87-%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%a1-pubg-chang-byung-gyu.html">ผู้สร้าง เกม PUBG “Chang Byung-gyu” หนึ่งในเศรษฐีที่รวยที่สุดของเกาหลีใต้</a></li>
</ul>
&nbsp;

เรื่อง: James Simms เรียบเรียง: ธรรดร โสตถิอำรุง

<hr />

<a href="https://bit.ly/39j1ZrV">คลิกอ่านบทความทางด้านธุรกิจและบทความที่น่าสนใจได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับมกราคม 2563 ได้รูปแบบ e-magazine</a>

<img class="alignnone wp-image-25422" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/FB080-EBOOK-RES150_Page_001.jpg" alt="" width="301" height="396" />

Akatsuki ต่อยอดความสำเร็จเกมฮิตสู่ธุรกิจอื่น

Star Citizen กลับไม่ได้ แต่ (ยัง) ไปไม่ถึงดวงดาว

<h2 class="p1">Tencent เผยผลประกอบการไตรมาส 2/62 กำไรพุ่ง 35% หลังธุรกิจ เกมมือถือ ฟื้นชีพ แต่ธุรกิจโฆษณาเติบโตชะลอตัว ผลกระทบจากคู่แข่งเพิ่มจำนวน</h2>
Tencent ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยีจากประเทศจีน เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2/2562 ว่า หลังจากธุรกิจ เกมมือถือ ฟื้นคืนจากการถูกแช่แข็งจากภาครัฐ ส่งผลให้ผลประกอบการไตรมาสนี้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังต้องเผชิญกับสิ่งแวดล้อมที่ท้าทายในช่วงครึ่งปีหลัง
บริษัทเทคโนโลยีจาก Shenzhen รายนี้รายงานว่า ไตรมาส 2 ของปี 2562 บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 35% มาอยู่ที่ 2.41 หมื่นล้านหยวน (ราว 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ขณะที่รายได้ไตรมาสนี้อยู่ที่ 8.88 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวปีก่อน 21%
“ในภาพรวม เรามีความสุขมากจากการฟื้นตัวของรายได้จาก เกมมือถือ” James Mitchell ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ Tencent Holdings กล่าว
สำหรับรายได้จากเกมมือถือของ Tencent ในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 26% มาสู่ 2.22 หมื่นล้านหยวน ซึ่งนับเป็นการเติบโตที่เร็วที่สุดตั้งแต่ต้นปีก่อน หลังจากบริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกงต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากกฎระเบียบที่ทำให้การอนุมัติเกมใหม่ต้องล่าช้าไปถึง 9 เดือน โดย Tencent ต้องมาเปิดตัวเกมใหม่ถึง 10 เกมในไตรมาสสองที่ผ่านมา

<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/world/asia/%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%a1-%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%88%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a.html">ถึงเวลา “ธุรกิจเกม” ในจีนดับ</a></li>
</ul>
ขณะที่เกมการแข่งขัน Peacekeeper Elite ของบริษัท ได้ดึงดูดผู้ใช้งานมากกว่า 50 ล้านคน/วัน นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะช่วยหนุนรายได้ให้กับ Tencent ในไตรมาสถัดไปได้


<figure><img class="size-full wp-image-14688" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/08/tencent02.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> ผู้คนมหาศาลแวะเวียนเข้ามาที่บูธของ Tencent ในงาน China Digital Entertainment Expo ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ใน Shanghai ประเทศจีน (ภาพจาก AFP)</figcaption></figure>
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจโฆษณาออนไลน์ของ Tencent กลับมีการเติบโตที่ชะลอตัวลง โดยมีการเติบโต 16% ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีเติบโต 39%
ทั้งนี้ ตลาดโฆษณาออนไลน์ในประเทศจีนมีการเติบโตชะลอตัวลง โดย eMarketer คาดการณ์ว่าเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลในประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอย่างจีนจะแตะ 7.982 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2562 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22% แต่น้อยกว่าการเติบโตของปีก่อนที่อยู่ที่ 28%
ขณะที่ Tencent ระบุว่าเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในวงกว้าง และสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากต่อธุรกิจโฆษณา
“สถาพแวดล้อมระดับมหภาคที่ท้าทาย และจำนวนผู้ให้บริการวิดีโอสั้นที่เพิ่มขึ้น เราคาดว่าผลกระทบเชิงลบจากสภาพแวดล้อมของธุรกิจในปัจจุบัน จะยังส่งผลต่อเนื่องจนถึงครึ่งปีหลังของปี 2562” Tencent ระบุในจดหมายข่าวแถลงผลประกอบการ
ด้าน Mitchell ระบุว่า บริษัทคาดว่าสภาพแวดล้อมระดับมหภาคนั้นยังคงยากต่อธุรกิจในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ และต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า
โดย Tencent กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากคู่แข่งอย่าง ByteDance และแอพพลิเคชั่นวิดีโอสั้นอย่าง TikTok และ Douyin ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักโฆษณาในจีนและเอเชีย ส่งผลกระทบต่อแอพพลิเคชั่นโซเชียลเน็ตเวิร์กของ Tencent อย่าง WeChat

<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/world/technology/asia-technology/bytedance-vs-tencent-%e0%b8%aa%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%97%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%9e%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b9%82%e0%b8%ad-douyin-%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b8%a5.html">ByteDance VS Tencent : สตาร์ทอัพวิดีโอ Douyin กำลังแย่งวัยรุ่นจีนจากกำมือ WeChat</a></li>
</ul>
Tencent ระบุว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาแหล่งรายได้ใหม่ เนื่องจากธุรกิจเดิมที่มีอยู่ได้รับแรงกดดันจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัว โดยให้ความสนใจไปที่ธุรกิจใหม่อย่างซอฟต์แวร์ระดับองค์กร, เทคโนโลยีด้านการเงิน, เทคโนโลยีด้านการศึกษา และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ
ทั้งนี้ บิ๊กวงการเทคโนโลยีบริษัทนี้ร่วมก่อตั้งขึ้นโดย<a href="https://forbesthailand.com/forbes_lists/ma-huateng"> Pony Ma Huateng </a>ในปี 1998 ซึ่งปัจจุบันเขาถือเป็นมหาเศรษฐีที่มั่งคั่งที่สุดในประเทศจีนจากการจัดอันดับ<a href="https://www.forbes.com/real-time-billionaires/#bc4550f3d788"> Forbes Real-time Billionairs List </a>โดยทรัพย์สินสุทธิของ Ma รวมแล้วมีมูลค่า 3.73 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ Martin Lau ผู้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท Tencent มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
&nbsp;

ที่มา
<ul>
 	<li><a href="https://www.forbes.com/sites/puigwenyeung/2019/08/15/chinas-richest-man-says-tencents-profit-jumped-35-but-sees-difficulties-ahead/#62f5a70f5919">China's Richest Man Says Tencent's Profit Jumped 35%, But Sees Difficulties Ahead</a></li>
 	<li><a href="https://www.cnbc.com/2019/08/14/tencent-earnings-preview-gaming-wechat-pay-to-drive-profits.html">Tencent’s profit beats market as analysts predict stock will climb back above $500 billion in value</a></li>
</ul>
&nbsp;

แปลและเรียบเรียงโดย กนกวรรณ มากเมฆ / Online Content Creator

Tencent ฟื้นชีพ! เกมมือถือ ดันกำไรไตรมาส 2/62 พุ่ง 35%

<h2 class="p3">ชายผู้สร้าง เกม PUBG เกมแนวต่อสู้ชื่อดัง พลิกขาดทุนเป็นกำไรในช่วงปีที่ผ่านมา พาสินทรัพย์ของเขาทะยานขึ้นจนติดอันดับที่ 47 ของทำเนียบเศรษฐีที่รวยที่สุดในเกาหลีใต้ปี 2019 จัดอันดับโดย Forbes</h2>
Chang Byung-gyu ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริษัทเกม Krafton ติดอันดับทำเนียบเศรษฐีแห่งเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกในปีนี้ หลังจากที่ทรัพย์สินของเขาทะยานแตะ 890 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งให้ Byung-gyu ติดอันดับที่ 47 บนลิสต์เศรษฐีที่รวยที่สุดของเกาหลีใต้ปี 2019 โดยทรัพย์สินที่เพิ่มพูนส่วนใหญ่เกิดจาก เกม PUBG หรือ PlayerUnknown’s Battlegrounds ที่ฮิตติดลมบนสุดๆ
เกม PUBG เป็นเกมออนไลน์แบบหลายผู้เล่นที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ญี่ปุ่น Battle Royale ซึ่งผู้เล่นนับร้อยรายจะเข้าสู่สนามรบพร้อมๆ กันและคนที่รอดชีวิตเป็นคนสุดท้ายคือผู้กำชัยชนะ
เกมนี้โด่งดังในทันทีที่เปิดตัวขั้นเบต้าเมื่อเดือนมีนาคมปี 2017 และทำให้บริษัท Krafton (ขณะนั้นใช้ชื่อบริษัท Bluehole) ก้าวสู่การเป็นบริษัทระดับโลก หลังจากนั้นในเดือนธันวาคม 2017 PUBG เริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และทยอยเปิดให้เล่นทั้งระบบจำหน่ายวิดีโอเกมบน Xbox และ PlayStation4 และระบบ free-to-play บนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS
ยอดขายเกมของ PUBG ทะยานแตะ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายใน 79 วันแรกที่เริ่มเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ ดึงดูดให้ Tencent ยักษ์ใหญ่แดนมังกรเข้าติดต่อเพื่อเป็นผู้จัดจำหน่ายเกมนี้ในจีนแผ่นดินใหญ่ และแม้ว่าจะต้องปรับแต่งเกมเป็นบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับ ‘ศีลธรรมอันดี’ ที่ภาครัฐกำหนด ในที่สุดเกมก็สามารถปีนข้ามกำแพงเมืองจีนและสร้างความนิยมอย่างสูง

<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/world/asia/%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%a1-%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%88%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a.html">ถึงเวลา “ธุรกิจเกม” ในจีนดับ</a></li>
</ul>
จากผลสำเร็จที่ดี ในปี 2018 Tencent จึงยอมควักกระเป๋าลงทุนมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แลกกับหุ้น 10% ใน Krafton ส่งให้บริษัทกลายเป็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นในชั่วข้ามคืน


<figure><img src="https://www.pubg.com/wp-content/uploads/2019/06/brdm.jpg" alt="" width="800" height="444" /><figcaption> ภาพจากเกม PUBG อันโด่งดัง</figcaption></figure>
เกม PUBG นับได้ว่าเป็นปรากฏการณ์วงการเกม โดยมีจำนวนผู้เล่นถึง 400 ล้านคน (ณ เดือนมิถุนายน 2018 รวมจำนวนผู้เล่นทั้งแบบวิดีโอเกมและแบบ free-to-play บนสมาร์ทโฟน) แซงหน้าเกม Fortnite ซึ่งเป็นเกมต่อสู้ในสไตล์เดียวกันและออกจำหน่ายในเวลาไล่เลี่ยกันที่มีผู้เล่น 250 ล้านคน (ณ เดือนมีนาคม 2019)
รายได้ของ Krafton พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่า 3 เท่าตัว โดยทำรายได้รวม 1 พันล้านเหรียญไปเมื่อปี 2018 และทำให้บริษัทพลิกมาทำกำไรสุทธิที่ 220 ล้านเหรียญ ทั้งที่ปีก่อนหน้านั้น Krafton ยังขาดทุนอยู่ 820 ล้านเหรียญ
สำหรับ Chang Byung-gyu เป็นผู้ประกอบการวัย 46 ปี เขาก่อตั้ง Krafton ขึ้นเมื่อปี 2007 ปัจจุบันมีเกมที่พัฒนาในมือทั้งหมด 12 เกม นอกจากเป็นผู้บริหารบริษัทพัฒนาเกมแล้ว Byung-gyu ยังเป็นพาร์ทเนอร์ในบริษัทเวนเจอร์แคปิตอล Bon Angels ของเกาหลีใต้ซึ่งเน้นการลงทุนในสตาร์ทอัพระดับเมล็ดพันธุ์ (seed stage) ด้วย
Byung-gyu และภรรยายังคงถือหุ้นรวมกันเป็นสัดส่วน 20% ใน Krafton และกำลังเร่งสร้างความหลากหลายให้กับการพัฒนาเกมของบริษัท โดยมีการเข้าซื้อบริษัท Red Sahara Studio เกมดีเวลอปเปอร์บนมือถือสัญชาติเกาหลีใต้ไปเมื่อเดือนมีนาคม 2018

<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/world/america/roblox-ผู้สร้าง-นักพัฒนาเกม-ร.html">Roblox ผู้สร้าง “นักพัฒนาเกม” รุ่นเยาว์</a></li>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/world/asia/%e0%b9%80%e0%b8%8b%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%96%e0%b8%b7%e0%b8%ad-netmarble.html">Netmarble เซียนธุรกิจ “เกมมือถือ”</a></li>
</ul>
<img class="" src="https://www.pubg.com/wp-content/uploads/2019/04/1-3-1600x585.png" width="800" height="239" />
ทั้งนี้ Chang Byung-gyu ไม่ใช่ผู้ประกอบการด้านเกมมิ่งคนแรกในลิสต์เศรษฐีแดนโสมขาว โดยเขามีรุ่นพี่ผู้สร้างความมั่งคั่งจากธุรกิจเกมอย่าง Kim Jung-ju แห่ง Nexon (อันดับ 3), Kwon Hyuk-bin แห่ง Smilegate (อันดับ 8), Bang Jun-hyuk แห่ง Netmarble (อันดับ 13), Kim Taek-jin แห่ง NCsoft (อันดับ 18), Lee Joon-ho แห่ง NHN Entertainment (อันดับ 32) และมีเพื่อนวงการเกมอีกคนที่ติดอันดับเข้ามาครั้งแรกในปีนี้เช่นกัน คือ Kim Dae-il แห่ง Pearl Abyss (อันดับ 46)
หมายเหตุ: มูลค่าทรัพย์สินของทำเนียบเศรษฐีเกาหลีใต้ปี 2019 คำนวณมูลค่าในช่วงวันที่ 25 พฤษภาคม 2018 ถึง 21 มิถุนายน 2019

&nbsp;

ที่มา
<ul>
 	<li><a href="https://www.forbes.com/sites/ljkelly/2019/07/09/south-koreas-richest-2019-kraftons-chang-byung-gyu-debuts-with-890-million-pubg-fortune/#8689e8a6135d">South Korea's Richest 2019: Video Game Publisher Chang Byung-Gyu Debuts With $890 Million PUBG Fortune</a></li>
 	<li><a href="https://www.forbes.com/korea-billionaires/list/#tab:overall">Korea's 50 Richest People</a></li>
 	<li><a href="https://www.vg247.com/2017/11/22/playerunknowns-battlegrounds-has-been-approved-in-china-with-a-few-changes/">PlayerUnknown’s Battlegrounds has been approved in China, with a few changes</a></li>
 	<li><a href="https://www.bloomberg.com/research/stocks/private/person.asp?personId=52034594&amp;privcapId=50018983">Chang Byung-gyu: Executive Profile</a></li>
</ul>

ผู้สร้าง เกม PUBG "Chang Byung-gyu” หนึ่งในเศรษฐีที่รวยที่สุดของเกาหลีใต้

<h2 class="p1">เมื่อรัฐบาลจีนสั่งเหยียบเบรก นักพัฒนาเกมทั้งรายใหญ่รายย่อยในภาคธุรกิจระดับพรีเมียร์ของจีนจึงตกที่นั่งลำบาก</h2>
Jim Lee เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการวิดีโอเกมของจีน ผู้ประกอบการวัย 40 ปีรายนี้เคยทำงานให้บริษัท Electronic Arts ของอเมริกา โดยเป็นผู้จัดการทั่วไปของส่วนงานในจีน จนกระทั่งเมื่อปี 2014 เขาก็ลาออกจากงานรายได้ดีที่ EA เพื่อมาเปิดสตูดิโอพัฒนาเกมของเขาเองใน Beijing และเมื่อตลาดเกมออนไลน์ของจีนเฟื่องฟู บริษัทของ Lee ซึ่งดำเนิน "ธุรกิจเกม" ก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 100% ในปี 2017
แต่หลังจากจีนสั่งระงับการออกใบอนุญาตสำหรับเกมที่กำลังจะออกใหม่และเกมที่ออกจำหน่ายแล้วส่วนหนึ่งตั้งแต่เดือนมีนาคม ธุรกิจของ Lee ก็ต้องเจอกับสถานการณ์ยุ่งยาก
จีนซึ่งมีระบบการควบคุมดูแลธุรกิจคลุมเครือมาก สั่งระงับใบอนุญาตเกมโดยอ้างว่าเพื่อรอการปรับโครงสร้างองค์กรของหน่วยงานรัฐบาล 2 แห่งที่รับผิดชอบกระบวนการออกใบอนุญาต แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า เจตนาที่แท้จริงของรัฐบาลจีนคือ ต้องการลดจำนวนเงินและเวลาที่ชาวจีนใช้ไปกับเกมออนไลน์ โดยหน่วยงานรัฐกำลังร่างมาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นกว่าเดิมมาก
ทั้งนี้ วงการเกมของจีนมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และคาดว่าจะสร้างรายได้ถึง 3.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ จากยอดขายในประเทศภายในสิ้นปี
ทุกวันนี้ สตูดิโอเล็กๆ อย่างบริษัทของ Lee จึงต้องวิ่งวุ่นหาทางออก และบริษัทผู้พัฒนาเกมขนาดกลางต้องปลดพนักงานออกเพื่อชดเชยกับกำไรที่หายไป ส่วนมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทขนาดใหญ่อย่าง Tencent และ NetEase ก็หายไปหลายแสนล้านเหรียญ เนื่องจากมีสัญญาณเตือนว่าการเติบโตของธุรกิจจะช้าลงมาก


<figure><img class=" wp-image-8876" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/06/เกมดับ.jpg" alt="" width="426" height="488" /><figcaption> Jim Lee ผู้ก่อตั้ง Elevation Point Entertainment</figcaption></figure>
Tencent ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นแชมเปี้ยนด้านเทคโนโลยีของชาติ ตอนนี้กลับเหมือนถูกน้ำร้อนลวก เมื่อสื่อของรัฐเล็งเป้าเล่นงานเกมมือถือตัวเด่นของบริษัทอย่าง Honor of Kings ว่าเป็นตัวการทำให้เยาวชนเสพติดเกมออนไลน์ จนบริษัทต้องวางระบบเพื่อตรวจสอบตัวตนของผู้เล่นและจำกัดเวลาเล่นเกมของผู้เล่นที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะให้เหลือแค่วันละ 2 ชั่วโมง และเมื่อเดือนสิงหาคม หน่วยงานรัฐก็ยังประกาศเจตนาอีกว่าจะจำกัดจำนวนเกมออนไลน์ทั้งหมด โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาชาติ เพื่อต่อสู้กับปัญหาโรคสายตาสั้นที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการจ้องจอภาพมากเกินไป

<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/world/%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A-tencent.html">ลงทุนไร้ขีดจำกัดแบบ Tencent</a></li>
</ul>
แม้รัฐบาลไม่ได้อธิบายว่าจะมีวิธีการจำกัดจำนวนเกมอย่างไร แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ในที่สุดจำนวนเกมที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดอาจจะลดลงครึ่งหนึ่ง ทั้งนี้ Cui Chenyu นักวิเคราะห์ของบริษัทวิจัย IHS Markit กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีเกมที่คั่งค้างรอการตรวจสอบตามข้อบังคับของรัฐอยู่อีกถึง 7,000 เกม
ธุรกิจเกม คิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งจากรายได้ทางเว็บทั้งหมดของ Tencent และบริษัทก็กำลังปรับปรุงระบบต่อต้านการเสพติดเกม โดยเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน บริษัทบังคับให้ผู้เล่นส่วนหนึ่งต้องเข้าระบบตรวจสอบใบหน้าก่อนจะล็อกอินเข้าเล่นเกม Honor of Kings ได้
Tencent ยังคงเดินหน้าทำธุรกิจเกมต่อไปด้วยการพัฒนาเกมในต่างประเทศ รวมถึงยังเค้นเอารายได้เพิ่มเติมมาจากสายธุรกิจใหม่ๆ เช่น วิดีโอสตรีมมิ่ง และการประมวลผลผ่านระบบคลาวด์ อย่างไรก็ตาม เงินลงทุนจำนวนมากที่ต้องใช้ในสายธุรกิจเหล่านี้อาจกดอัตรากำไรของบริษัทซึ่งครั้งหนึ่งเคยสูงมากให้ลดลง
ขณะเดียวกัน ความเสี่ยงก็ก่อตัวขึ้นกับคู่แข่งอย่าง NetEase ซึ่งทำธุรกิจเว็บในจีนเช่นกัน แต่ NetEase เน้นธุรกิจเกมยิ่งกว่า Tencent และเมื่อเดือนพฤศจิกายน บริษัทเพิ่งจะเซ็นสัญญากับ Blizzard Entertainment ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาเกมสัญชาติอเมริกัน เพื่อสร้างเกมเวอร์ชั่นมือถือสำหรับแฟรนไชส์ยอดฮิตบนเครื่องเดสก์ท็อปอย่าง Diablo 
Wijman จาก Newzoo กล่าวว่า ถ้าจีนยังไม่กลับมาออกใบอนุญาตเกมต่อ เรื่องนี้ก็จะกลายเป็น “ปัญหาใหญ่มหึมา” สำหรับทั้งสองบริษัท เนื่องจากเกมมือถือคือเกมที่ออกแบบมาเพื่อตลาดจีนตั้งแต่แรก ช่วงที่ผ่านมาของปีนี้มูลค่าหุ้นในตลาดของ NetEase ตกไป 32% และบริษัทก็พยายามผลักดันธุรกิจอี-คอมเมิร์ซกับเปิดตัวเกมใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในตลาดต่างประเทศเพื่อชดเชยมูลค่าส่วนที่หายไป
<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/it/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B9%80.html">คุยเทรนด์เทคโนโลยีมาเเรง ปี 2019 กับซีอีโอ Synnex รุกจับกระเเสตลาด Gaming &amp; E-Sport</a></li>
</ul>
ผลเสียจากเรื่องนี้ลามไปถึงการหาเงินทุนของเหล่าสตาร์ทอัพด้วย โดย Song ผู้ประกอบการหนุ่มซึ่งยอมเปิดเผยเฉพาะนามสกุลและมีบริษัทซอฟท์แวร์ใน Shenzhen ที่พัฒนาเกมในฟอร์แมตอื่นเพื่อเสริมกับเกมตัวหลัก ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ผ่านมารายได้ของบริษัทลดลงไป 1 ใน 3 และสตาร์ทอัพของเขาก็มีโปรเจกต์ให้ทำน้อยลงทุกที
ส่วน Hu Bin หุ้นส่วนของบริษัทเพื่อการลงทุนในจีน Qiming Venture Partners กล่าวว่า เขาต้องระมัดระวังมากขึ้นและลงทุนในภาคธุรกิจเกมน้อยลง
อย่างไรก็ตาม วงการนี้ยังเป็นสายงานของนักผจญภัย “ผมมั่นใจว่าคนในวงการหาทางออกกันได้” Lee จาก Elevation Point Entertainment กล่าว “อุตสาหกรรมเกมไม่โดนฆ่าทีเดียวทั้งวงการแน่ แต่ตอนนี้เป็นฤดูหนาวสำหรับเรา และบริษัทต่างๆ ก็จะ (ปรับตัว) อย่างดีที่สุดเพื่อให้อยู่รอด”
&nbsp;

เรื่อง : Yue Wang  เรียบเรียง : ธรรดร โสตถิอำรุง

&nbsp;

<hr />

<a href="https://bit.ly/2GB6P6G">คลิกเพื่ออ่านฉบับเต็ม “เกมดับ” ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ เมษายน 2562 ในรูปแบบ e-Magazine</a>

<a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/bf9cd13b-9952-4a4d-b7b9-70f6777699d3/april-2019"><img class="alignnone size-full wp-image-6357" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/04/-e1554815647562.jpg" alt="" width="250" height="328" /></a>

ถึงเวลา "ธุรกิจเกม" ในจีนดับ

<h2>Bang Jun-Hyuk เซียนธุรกิจ เกมมือถือ Netmarble กลายเป็นเศรษฐีพันล้านรายล่าสุดของเกาหลีใต้ แม้ชายหนุ่มผู้ร่ำรวยรายนี้จะออกจากโรงเรียนมัธยมกลางคัน แต่เขานั้นนับว่าเป็นผู้ประกอบการในแวดวงเทคโนโลยีที่หาตัวจับยากเลยทีเดียว</h2>
Netmarble บริษัทเกมออนไลน์บนอุปกรณ์สื่อสารที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ มักเปรียบเทียบผู้ก่อตั้งของตนอย่าง Bang Jun-Hyuk กับ Steve Jobs ด้วยความที่ประวัติชีวิตคล้ายคลึงกัน ทั้งคู่เดินออกจากบริษัทเทคโนโลยีที่ตัวเองก่อตั้ง จากนั้นทั้งสองบริษัทก็เกือบพังจนต้องยกเครื่องใหม่ และสามารถฟื้นขึ้นมาเดินหน้าได้อย่างสง่างาม

แม้การเปรียบเทียบนี้จะยังเป็นที่ถกเถียงกัน แต่ความสำเร็จของ เกมมือถือ Netmarble นั้นไร้ข้อกังขา วันนี้ Bang นั่งอยู่เหนือธุรกิจเกมที่มีการแข่งขันสูง เกม Marvel Future Fight ซึ่งเป็นเกมต่อสู้ที่ให้ผู้เล่นสวมบทบาทซูเปอร์ฮีโร่ต่างๆ เช่น Iron Man และ Captain America ของ Netmarble ติดหนึ่งในสิบอันดับแรกของแอพพลิเคชั่นยอดนิยมใน 118 ประเทศรวมทั้งสหรัฐอเมริกา ในปีที่ผ่านมา

App Annie บริษัทที่ติดตามการเคลื่อนไหวของตลาด iOS และ Google Play รายงานว่า ยอดขายของ NetMarble สูงเป็นอันดับ 8 ของยอดขายแอพฯทั่วโลก และรายได้ของบริษัทในช่วงเก้าเดือนแรกปี 2016 มีมูลค่า 896 ล้านเหรียญ พุ่งขึ้น 39% ด้านกำไรสุทธิเมื่อปี 2015 พุ่งขึ้นเป็น 149 ล้านเหรียญ หรือ 300% จากปี 2014

ปัจจุบัน Netmarble เป็นผู้เล่นรายใหญ่อันดับสองในตลาดเกมออนไลน์ของเกาหลีใต้ แซงหน้า NCSoft และเป็นรองเพียง Nexon ผู้ครองอันดับหนึ่งในตลาดมาอย่างยาวนานเท่านั้น ด้วยสัดส่วนการถือครอง 32% ของหุ้นใน Netmarble ทำให้ Bang เข้าอันดับเศรษฐีพันล้านเป็นครั้งแรกด้วยวัย 47 โดย Forbes Asia ประเมินมูลค่าทรัพย์สินสุทธิไว้ที่ประมาณ 1 พันล้านเหรียญ

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/eadcaf474fe2025ba48baa8b4ffe4f17.png" alt="เกมมือถือ Netmarble" width="680" height="383" /><figcaption> เกม Marvel Future Fight ถูกดาวน์โหลดมากกว่า 50 ล้านครั้งทั่วโลก</figcaption></figure>

ดูเหมือนว่าปรากฏการณ์ตัวเลขทั้งหมดนี้เสริมสร้างให้ Bang หนุ่มใหญ่ผู้เรียนไม่จบมัธยมและพูดภาษาอังกฤษไม่คล่องคนนี้มีความมั่นใจที่จะก้าวไปสู่ดินแดนที่ไม่คุ้นเคย เขาบินไป Los Angeles เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วเพื่อร่วมงาน E3 Gaming Expo และสำรวจเทรนด์ล่าสุดของเกมเพื่อเตรียมตัวสยายปีกเข้าสู่ตลาดแถบตะวันตก และต่อมา Netmarble ได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Jam City บริษัทเกมสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ใน Los Angeles ด้วยเม็ดเงินลงทุน 130 ล้านเหรียญ

การลงทุนใน Jam City เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความทะเยอทะยานของ Bang ปีนี้เขาเตรียมยื่นจดทะเบียนบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เกาหลี และเขาจะนำทุนที่ระดมได้ไปลงทุนในบริษัทเกมออนไลน์ในสหรัฐฯซึ่งสื่อเกาหลีใต้ประเมินว่ามูลค่าบริษัทจะสูงถึง 8.5 ล้านเหรียญ และ Bang จะยังถือครองหุ้นอยู่ 24%

บรรดาเจ้าของบริษัทเกมในเกาหลีใต้อาจนิยมอวดปริญญาบัตรกัน ยกเว้น Bang เขาไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัย ตรงกันข้าม เขาเติบโตในครอบครัวยากจนห่างจากกรุง Seoul และเรียนไม่จบเกรด 11 เพราะเหนื่อยหน่ายในระบบการศึกษาแบบท่องจำ

“ผมเลิกเรียนเพราะผมอยากศึกษาสิ่งที่ผมสนใจให้ลึกซึ้ง” Bang เล่าโดยพัฒนาจากความสนใจในภาพยนตร์และเริ่มต้นธุรกิจแรกคือบริการภาพยนตร์ออนไลน์ในช่วงปลายยุค 90s แต่บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศยังล้าหลังทำให้ธุรกิจของเขาต้องพับไปในเวลาสองปี

<img class="alignnone" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/ef251ce7f848b44151eda515dbfc403f.png" alt="เกมมือถือ Netmarble" width="680" height="443" />

จากนั้น Bang ก็เบนความสนใจมาที่เกม ขณะนั้นเกมออนไลน์เริ่มเบ่งบาน อันเป็นผลจากการที่รัฐบาลปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตขนานใหญ่เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจประเทศ

Bang สร้าง Netmarble ในปี 2000 ร่วมกับพนักงานแปดคนและเงินทุน 88,000 เหรียญที่ระดมมาจากนักลงทุน โดยวางเป้าหมายไปที่กลุ่มผู้หญิงและเด็กด้วยการผลิตเกมที่เล่นได้ง่าย สามปีต่อมาเมื่อต้องการเงินมาขยายธุรกิจ

Bang จับมือร่างข้อตกลงที่แหวกแนวในยุคนั้นกับบริษัทผลิตสื่อสิ่งพิมพ์สำหรับภาพยนตร์ Planus Entertainment ถ้า Netmarble ทำกำไรสุทธิได้ไม่ถึง 4.4 ล้านเหรียญภายในสิ้นปี Bang จะส่งมอบหุ้นบางส่วนของบริษัทที่เขาถืออยู่ 49% แต่ถ้าประสบความสำเร็จ Planus จะให้กำไรพิเศษแก่ Netmarble อีก 30%

จากแรงผลักดันดังกล่าว Netmarble กลายเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกโมเดลเกมเล่นฟรีที่อาศัยการทำธุรกรรมเพื่อช่วยให้ผู้เล่นทำคะแนนได้ดีขึ้น เช่น การซื้ออาวุธที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งปีบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 14 ล้านเหรียญ

ความเคลื่อนไหวครั้งนั้นเป็นที่สนใจของ CJ Group กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ Bang ได้พบกับ Lee Jay-Hyun ประธานของ CJ Group ในปี 2004 และตกลงควบรวมกิจการโดยเปลี่ยนชื่อจาก Netmarble เป็น CJ Internet Co. “แรกทีเดียวผมไม่สนใจดีลนี้มากนัก แต่ผมตระหนักว่าดีลนี้น่าจะให้โอกาสที่ดีในการขยายธุรกิจ” Bang กล่าว

หลังจากการควบรวมกิจการ เขาช่วยสร้างผลงานเกมยิงสุดฮิตอย่างเกม Sudden Attack ให้แก่บริษัท Nexon รวมทั้งยังเดินหมากก้าวสำคัญอย่างการเริ่มเข้าสู่ตลาดมือถือที่เพิ่งเป็นรูปเป็นร่าง แต่ในปี 2006 เขาก็ต้องตัดสินใจออกจากเกมธุรกิจนี้ เนื่องด้วยปัญหาสุขภาพที่ไม่สามารถเปิดเผยได้

<img class="alignnone" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/60cdd545f1c0a23e424a54ea4d149922.png" alt="เกมมือถือ Netmarble" width="680" height="291" />

แต่หลังเขาหันไปสวมบทนักลงทุนหุ้นเขาก็ยังมีความคิดสร้างบริษัทเกมขึ้นใหม่ “หลังจากพักไปสามปีผมก็เตรียมที่จะเริ่มต้นธุรกิจเกมใหม่อีกครั้งแต่ทาง CJ Group ขอให้ผมกลับไปเพราะบริษัทมีปัญหามาก” บริษัทรายงานว่าเกมส่วนใหญ่จากทั้งหมด 32 เกมของ Netmarble ในช่วงปี 2007-2011 “ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง” เนื่องจากซีอีโอไร้ประสบการณ์ด้านธุรกิจเกมจึงปรับตัวตามเทรนด์ได้ช้ามาก

เมื่อกลับมานำทีมอีกครั้ง Bang ก็ได้หันไปให้ความสำคัญกับสมาร์ทโฟนและถอยออกจากตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่อิ่มตัวไปแล้ว เขามองเห็นการเปลี่ยนไปใช้สมาร์ทโฟนที่เกิดขึ้นในประเทศอย่างรวดเร็วและคิดว่า “นี่จะกลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ของทุกคน เพราะมันจะเป็นมากกว่าโทรศัพท์” และปัจจุบันกล่าวได้ว่า รายได้ทั้งหมดของบริษัทล้วนมาจากตลาดแอพฯ

แต่โลกแห่งแอพฯประเภทเกมก็มีความท้าทายใหม่ App Annie เผยสถิติว่าจุดอิ่มตัวของเกมใหม่ลดเหลือเพียง 17 สัปดาห์เท่านั้น เทียบกับค่าเฉลี่ย 50 สัปดาห์เมื่อปีก่อนหน้า และเมื่อสามปีก่อนเคยใช้เวลานานกว่านี้ถึงสิบเท่า ทำให้ความสำเร็จของแอพฯเกมจำเป็นต้องมีวงจรพัฒนาที่สั้นขึ้นภายในสี่เดือน และมีนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง

นี่คือหนึ่งในบรรดาอุปสรรคที่ Bang ต้องเอาชนะให้ได้ “เราต้องการพัฒนาขึ้นเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด...และรุกลงทุนในบริษัทระดับโลกเพื่อ (สร้างความมั่นคง) ด้านการพัฒนาเกมใหม่ๆ” Bang กล่าว “เราต้องการก้าวไปให้ (ไกลกว่า) ความสำเร็จของเราในเอเชียและเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ถ้าคุณประสบความสำเร็จในสหรัฐฯ ก็จะแผ่อิทธิพลครอบคลุมซีกโลกตะวันตกได้ทั้งหมด”

&nbsp;

เรื่อง: Grace Chung
เรียบเรียง: อรวรรณ แมคคอลีย์

<hr />

<a href="https://goo.gl/qT690n">คลิกอ่านฉบับเต็ม "เซียนธุรกิจเกมมือถือ" ได้ที่ Forbes Thailand Magazine ฉบับ กุมภาพันธ์ 2560
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/93a16701dc17880c01dadd3fa399ba46.png" alt="" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events