<h2>ทรู คอร์ปอเรชั่น ประกาศปรับโครงสร้าง เสริมทัพผู้นำ ดึง ซิกเว่ เบรกเก้ ร่วมขับเคลื่อนองค์กรเพื่อยกระดับการเติบโตสู่เทคคอมปานีชั้นนำระดับโลก</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะกรรมการ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "วันนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนทรู คอร์ปอเรชั่น หลังการควบรวมในช่วงสองปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างมาก ภายใต้การบริหารงานของทีมผู้นำที่แข็งแกร่ง จนทำให้ทรูสามารถทรานสฟอร์มองค์กรผ่านไปได้อย่างราบรื่น ปูรากฐานที่มั่นคงพร้อมเติบโตต่อเนื่อง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 517px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/LYPJ9We8HWMFUJZk5EW5.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="517px,344px" data-align="center" data-index="1" data-file-name="LYPJ9We8HWMFUJZk5EW5.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="517px,344px" style="width: 517px; height: 344px; transform: rotate(0deg);"><figcaption style="margin-top: 0px;"><div>ศุภชัย เจียรวนนท์</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ซึ่งการปรับโครงสร้างครั้งนี้จะต่อยอดความแข็งแกร่งยกระดับศักยภาพขึ้นไปอีกขั้น โดยเสริมทัพผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และประสบการณ์ระดับโลก แต่งตั้ง ซิกเว่ เบรกเก้ เป็น Group CEO เข้ามาขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ภาพรวมขององค์กรสู่การเป็นเทคคอมปานีระดับโลก​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/noV1awKh2RCa6pfJZQJe.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="2" data-file-name="noV1awKh2RCa6pfJZQJe.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""><figcaption><div>มนัสส์ มานะวุฒิเวช</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ขณะที่ มนัสส์ มานะวุฒิเวช ซีอีโอคนปัจจุบัน ซึ่งประสบความสำเร็จในภารกิจนำพาทรู คอร์ปอเรชั่น ผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ พลิกฟื้นผลประกอบการทางการเงินของบริษัทให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นผู้ที่มีบทบาทขับเคลื่อนนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมาสร้างศักยภาพและความยั่งยืนขององค์กร ได้รับตำแหน่งใหม่เป็น President/CEO - Enterprise &amp; Data Business ประธานคณะผู้บริหาร - ด้านธุรกิจข้อมูลและลูกค้าองค์กร ดูแลสายงานหลักในกลุ่มธุรกิจดิจิทัล ออนไลน์ ทรูวิชั่นส์ และธุรกิจองค์กร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาคส่วนธุรกิจชั้นนำของประเทศที่กำลังขยายตัวเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจยุคดิจิทัล และมีบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ โดยมนัสส์จะนำศักยภาพความสามารถที่โดดเด่นมาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันธุรกิจที่เป็น New S-Curve สร้างโอกาสใหม่ที่จะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/F5xcNCwUxP3h53KJvMJZ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="3" data-file-name="F5xcNCwUxP3h53KJvMJZ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""><figcaption><div>ชารัด เมห์โรทรา </div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับ ชารัด เมห์โรทรา ซึ่งได้ทำงานร่วมกับมนัสส์อย่างใกล้ชิดตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมา ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง President/CEO - Consumer Business ประธานคณะผู้บริหาร - ด้านธุรกิจลูกค้าทั่วไป โดยจะดูแลฐานลูกค้าผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือของทรูที่มีมากกว่า 50 ล้านราย&nbsp; &nbsp; ทั้งนี้ ชารัดเป็นผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่มีประสบการณ์ยาวนาน เคยดำรงตำแหน่งผู้นำสำคัญในบริษัทโทรคมนาคมระดับโลกชั้นนำ เช่น อีริคสัน และ เทเลนอร์ กรุ๊ป ในหลายประเทศ ซึ่งความเชี่ยวชาญของนายชารัดด้านกลยุทธ์ธุรกิจโทรศัพท์มือถือ การยกระดับงานบริการลูกค้า และนวัตกรรมการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล จะช่วยเสริมศักยภาพของทรูให้สามารถส่งมอบประสบการณ์การการใช้งานมือถือที่ดีที่สุด ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโครงสร้างใหม่นี้จะยกระดับความเข้มแข็งของทีมผู้บริหารให้เป็นระดับเวิลด์คลาส เติมเต็มศักยภาพความเป็นผู้นำเทคคอมปานีมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซิกเว่ เบรกเก้ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและดิจิทัล เครือเจริญโภคภัณฑ์ จะเข้ารับตำแหน่ง Group CEO ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่นด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และในโอกาสที่ได้รับการแต่งตั้งครั้งนี้ ซิกเว่ กล่าวว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับตำแหน่งประธานคณะผู้บริหารกลุ่มของทรู คอร์ปอเรชั่น และขอขอบคุณคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะกรรมการ และผู้ถือหุ้นหลัก ได้แก่ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กลุ่มเทเลนอร์ และไชน่าโมบายล์ที่ไว้วางใจให้ผมเป็นผู้นำทรู คอร์ปอเรชั่นในช่วงเวลาสำคัญนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“โอกาสของประเทศไทยในยุคดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ที่ครอบคลุมทุกภาคส่วนนั้นเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของประเทศ จะยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม มุ่งมั่นนำเสนอบริการล้ำสมัยให้กับลูกค้า พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่ยั่งยืน ผมตั้งตารอที่จะร่วมทำงานกับทีมเทคโนโลยีโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศไทย” ภาพ: บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/it/ant-international-appoints-worachat-luxkanalode-as-the-ceo-of-2-c-2-p" alt="‘วรฉัตร ลักขณาโรจน์’ ได้รับแต่งตั้งเป็นซีอีโอของ 2C2P มีผลเมษายน 2568 นี้">‘วรฉัตร ลักขณาโรจน์’ ได้รับแต่งตั้งเป็นซีอีโอของ 2C2P มีผลเมษายน 2568 นี้</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ทรู ปรับโครงสร้าง ดึง ‘ซิกเว่ เบรกเก้’ เป็น Group CEO

<h2>ทรู คอร์ปอเรชั่นย้ำร่วมมาตรการ กสทช. ตัดการสื่อสารแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เดินหน้ารื้อถอนเสาอีก 10 แห่ง จ.ตาก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน หลังถอดอุปกรณ์รับส่งประจำตู้สัญญาณตามเสาแนวพรมแดน 7 จังหวัด 11 อำเภอเสร็จสิ้นเมื่อมิถุนายนปีที่แล้ว เผยลุยเดินหน้านำ “True CyberSafe” สกัดลิงก์และ URL เสี่ยงภัยพร้อมเตือนลูกค้าฉุกคิดก่อนหมดตัว พร้อมใช้งานแล้วไม่มีค่าใช้จ่ายแก่ลูกค้าทรูและดีแทค</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. และรักษาการเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยถึงการเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมสัญญาณโทรศัพท์มือถือบริเวณชายแดนไทย-เพื่อนบ้านว่า “ทีมงานจาก กสทช. ส่วนกลางและภาค 3 ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ภาคเหนือ ได้ลงพื้นที่สำรวจและตรวจสอบเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือในพื้นที่บ้านวังแก้ว ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับเมืองชเวโก๊กโก่ของเมียนมา พบว่ามีความจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันสัญญาณโทรคมนาคมข้ามพรมแดน จึงได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกรายดำเนินการรื้อถอนเสาสัญญาณรวมทั้งหมด 24 ต้น จากจำนวนรวมของผู้ให้บริการทุกรายที่ตั้งอยู่ในรัศมี 50 เมตรจากแนวชายแดน ครอบคลุมพื้นที่สามอำเภอของจังหวัดตาก ได้แก่ อำเภอแม่ระมาด แม่สอด และพบพระ โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเป็นการเพิ่มเติมจากมาตรการเดิมที่เคยมีการระงับบริการโทรคมนาคมในพื้นที่เสี่ยงตามแนวชายแดน 7 จังหวัด เพื่อป้องกันการใช้สัญญาณโทรศัพท์มือถือในการก่ออาชญากรรมข้ามแดน โดยเฉพาะการหลอกลวงผ่านแก๊งคอลเซ็นเตอร์”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยที่ผ่านมา ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ดำเนินการตามมาตรการของสำนักงาน กสทช. ด้วยการระงับสัญญาณ (Switch off) สายอากาศที่มีทิศทางหันออกจากประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และดำเนินการรื้อถอนหรือปรับทิศทางตามแนวชายแดนไทย-เพื่อนบ้าน ในพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัด 11 อำเภอ ได้แก่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตาก: อำเภอแม่สอด แม่ระมาด และพบพระ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เชียงราย: อำเภอแม่สาย เชียงของ และเชียงแสน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สระแก้ว: อำเภออรัญประเทศ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จันทบุรี: อำเภอโป่งน้ำร้อน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ระนอง: อำเภอเมือง &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บุรีรัมย์: อำเภอบ้านกรวด &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สุรินทร์: อำเภอกาบเชิง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/Hkfs6WAFLh6bnriBGr4f.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Hkfs6WAFLh6bnriBGr4f.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,540"><figcaption><div>ภาพอุปกรณ์จากเสามือถือที่ถูกรื้อถอนอุปกรณ์เสาระงับบริการตามแนวพรมแดน 7 จังหวัด 11 อำเภอที่ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อมิถุนายนปีที่ผ่านมา</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การดำเนินการนี้แล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2567 มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการลอบใช้สัญญาณโทรศัพท์มือถือของไทยในการก่ออาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง ทรู คอร์ปอเรชั่น และ สำนักงาน กสทช. ในการยกระดับความปลอดภัยให้กับประชาชน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทรู คอร์ปอเรชั่นปฏิบัติตามมาตรการ กสทช. ในการควบคุมเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือมาโดยตลอด รวมทั้งล่าสุดที่บริเวณชายแดนพื้นที่สามอำเภอของจังหวัดตาก ได้แก่ อ.พบพระ อ.แม่สอด และ อ.แม่ระมาด ตามแนวชายแดน โดยทาง กสทช. ตรวจสอบแจ้งมาว่ามีจำนวนเสาของทรู 10 แห่ง จาก 24 แห่ง ที่ต้องดำเนินการรื้อถอน ซึ่งที่ผ่านมาเสาทรู และดีแทคดังกล่าวที่อยู่ตามแนวชายแดน ได้ตัดสายสื่อสารและระงับสัญญาณเป็นที่เรียบร้อย พร้อมทั้งปรับทิศทางการส่งสัญญาณให้อยู่ในเขตชุมชน จ.ตาก”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/QeCPmg2rd7Mf6iE3sEwx.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="QeCPmg2rd7Mf6iE3sEwx.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="720,480"><figcaption><div>ตัวแทนทีมทรู คอร์ปอเรชั่นยืนยันในการปฏิบัติตามมาตรการ กสทช. ถอดอุปกรณ์เสาระงับบริการตามแนวพรมแดน</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ กสทช. กำหนดให้รื้อถอนเสา จ.ตาก ที่อยู่ในรัศมี 50 เมตรจากแนวชายแดนทั้งหมด ส่วนเสาที่อยู่ในรัศมี 200 เมตร ต้องปรับลดกำลังส่งและจำกัดความสูงไม่เกิน 15 เมตร ขณะที่เสาในรัศมี 3.5 กิโลเมตรต้องลดกำลังส่งและมีความสูงไม่เกิน 30 เมตร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อดำเนินการรื้อถอนเสร็จสิ้น ทางทีมทรู คอร์ปอเรชั่นจะเข้าสำรวจสัญญาณในพื้นที่อีกครั้ง เพื่อเช็กสัญญาณมือถือและพูดคุยกับชุมชน และจะวางแผนติดตั้งเสาสัญญาณขนาดเล็ก หรือ Small Cell สำหรับกรณีถ้าสัญญาณในชุมชนลดลง เพื่อทดแทนบริการ และคงประสิทธิภาพและคุณภาพเดิมโดยครอบคลุมชุมชนของไทย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/y3VQkuHcWJfALiJpThgA.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="y3VQkuHcWJfALiJpThgA.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2" origin-size="540,720"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นอกจากความร่วมมือกับ กสทช. ในการรื้อถอนเสาแล้ว เรายังได้พัฒนาบริการ "ทรูไซเบอร์เซฟ" (True CyberSafe) เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์จากมิจฉาชีพแก่ผู้ใช้บริการ โดยลูกค้าทรู-ดีแทคมั่นใจว่าใช้มือถือจะได้รับการปกป้องทันทีแบบอัตโนมัติ ไม่ต้องลงทะเบียน ไม่ต้องดาวน์โหลดแอป ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ปกป้องการเข้าถึงลิงก์/URL อันตราย จาก SMS หรือบราวเซอร์ หรือเมื่อมีการเข้าถึงเว็บไซต์ที่อาจเป็นอันตรายบนเว็บบราวเซอร์ของลูกค้าทรูออนไลน์” นายจักรกฤษณ์ กล่าว Photo by <a href="https://unsplash.com/@midgraph?utm_content=creditCopyText&amp;utm_medium=referral&amp;utm_source=unsplash">Maxwell Ingham</a> on <a href="https://unsplash.com/photos/white-and-black-satellite-dish-on-top-of-white-building-rg5X7mTRDz4?utm_content=creditCopyText&amp;utm_medium=referral&amp;utm_source=unsplash">Unsplash</a>

‘ทรู’ ตัดการสื่อสารแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถอดอุปกรณ์รับส่งตามเสาใน 7 จังหวัดแล้ว เตรียมรื้อเสาเพิ่ม 10 แห่งตามคำสั่ง

<h2>ทรูออนไลน์ เปิดศักราชใหม่ปี 2568 ชู 3 กลยุทธ์หลัก Smart tech, Smart Solution และ Smart Service &amp; Privilege นำเสนอเทคโนโลยี AI , Smart Home ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ตอกย้ำเบอร์หนึ่งผู้นำเน็ตบ้านไฟเบอร์ พร้อมดึง ‘หนุ่ม กรรชัย‘ นั่งแท่นพรีเซนเตอร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อดึงดูดยอดผู้ใช้งานให้เพิ่มขึ้น </h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทรู ออนไลน์ ให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกเหนือจากการวางโครงสร้างพื้นฐานไฟเบอร์ที่ปัจจุบันครอบคลุมการให้บริการทั่วประเทศไทย เรายังคงความเป็นผู้นำตลาดด้วยบริการที่ล้ำหน้าผสานการใช้เทคโนโลยี AI ร่วมกับการบริหารจัดการข้อมูลเชิงวิเคราะห์ ศึกษาความต้องการลูกค้าเพื่อนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้าเป็นการออกแบบเทคโนโลยีเพื่อการใช้ชีวิตของคนในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด “Your Everyday Connect Tech” ที่นำเทคโนโลยีมาเติมเต็มชีวิตดิจิทัลในทุกๆ วัน <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/LJaYLT2MRnw6iXVxgmDb.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="2" data-file-name="LJaYLT2MRnw6iXVxgmDb.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราเข้าใจความกังวลของลูกค้าเรื่องภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่กำลังทวีความรุนแรง จึงได้ดูแลความปลอดภัยระบบโครงข่ายแบบครบวงจร รวมทั้งลงทุนในเทคโนโลยี AI ขั้นสูง พัฒนาบริการ “True Cybersafe” เพื่อปกป้องลูกค้าจากมิจฉาชีพภัยไซเบอร์ โดยให้บริการฟรีสำหรับลูกค้าทรูออนไลน์ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบันทุกบ้าน ทั้งนี้ ในส่วนของมูลค่าตลาดอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตหรือ IOT ในไทยโตเฉลี่ยสูงถึง 15.8% ต่อปี จึงคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 4.09 แสนล้านบาทในปี 2570" ฐานพล กล่าว <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/juHcawqAP5VuJwja9ry4.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="juHcawqAP5VuJwja9ry4.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สกลพร หาญชาญเลิศ หัวหน้าสายงานโพสต์เพย์ คอนเวอร์เจนซ์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น&nbsp;เผยว่า ด้วยวิถีของผู้นำตลาดที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทรูออนไลน์ จึงได้ออกแบบและวางกลยุทธ์หลัก เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และรองรับการขยายตัวของอุปกรณ์ IOT ในบ้าน เป็น 3 ด้าน คือ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. Smart Tech - ที่แรก และที่เดียว เน็ตบ้านแพ็กเกจ 2Gbps มาพร้อม WiFi 7 เราเตอร์คุณภาพให้สัมผัส WiFi เร็วแรงเต็มสปีด 2Gbps แบบไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม เอาใจคอเกมและชาวเน็ตที่ชื่นชอบไลฟ์สด สตรีมมิ่ง ที่มีดีไวซ์รองรับ WiFi7 ให้ออนไลน์ได้เต็มประสิทธิภาพ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังมี เราเตอร์ 2 ระบบ รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านสายไฟเบอร์แบบแรงเต็มสปีด และสำรองด้วยอินเทอร์เน็ตมือถือ ในกรณีฉุกเฉินที่เกิดปัญหาการเชื่อมต่อผ่านไฟเบอร์ เราเตอร์จะเปลี่ยนไปใช้อินเทอร์เน็ตจากสัญญาณเน็ตมือถือแบบอัตโนมัติทันที ไม่ต้องตั้งค่า WIFI หรืออุปกรณ์ภายในบ้านใหม่ เป็นต้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2. Smart Solution - ที่แรก และที่เดียว เราเตอร์เชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ในบ้าน เป็นเราเตอร์ที่ปล่อยสัญญาณ WiFi และเป็น IoT hub ในเครื่องเดียว โดย IoT hub จะทำงานผ่าน Zigbee Gateway ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ Smart Home IoT อาทิ อุปกรณ์เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว สัญญาณแจ้งเตือนภัย ปุ่มกดแจ้งเตือน เซนเซอร์เตือนภัยสำหรับประตูหรือหน้าต่าง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวมถึง AI CCTV กล้องวงจรปิดที่รุ่นใหม่ ที่มี AI ตรวจจับการเคลื่อนไหวต่างๆ ของคน และสัตว์ รวมถึงสามารถจับเสียงร้องของเด็กและแจ้งเตือนผ่านแอปได้ มาพร้อมบริการบันทึกภาพเคลื่อนไหวย้อนหลังผ่านคลาวด์ได้ถึง 7 วันย้อนหลัง เป็นต้น&nbsp;&nbsp; &nbsp; 3.&nbsp;Smart Service &amp; Privilege&nbsp;-&nbsp;True iService&nbsp;แอปศูนย์รวมทุกบริการบนโลกดิจิทัล พร้อมด้วย Mari Chat ที่ดูแลให้ความช่วยเหลือลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง และทีมช่างคุณภาพเข้าซ่อมฉับไว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์ที่คัดสรรอย่างดีที่สุด มอบความสุขทั้งในบ้านและนอกบ้าน เพียงใช้ทรูพอยท์แลกรับสิทธิพิเศษที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อความสุขของลูกค้าคนสำคัญ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 516px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/rdmXcgMnfbnHvzrSiun5.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="516px,344px" data-align="center" data-index="5" data-file-name="rdmXcgMnfbnHvzrSiun5.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="516px,344px" style="width: 516px; height: 344px;"></figure></div> ​&nbsp; &nbsp; อย่างไรก็ตาม ทางผู้บริหารของทรูออนไลน์ ยังเผยด้วยว่า ยังคงเลือกใช้ 'หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย' ผู้ประกาศข่าวและพิธีกรอันดับ 1 ที่เป็นลูกค้าผู้ใช้งานจริงมาอย่างต่อเนื่อง ให้นั่งแท่นเป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์เป็นปีที่ 4 พร้อมบอกเล่าประสบการณ์ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ถ่ายทอดความอัจฉริยะของเน็ตบ้านอันดับหนึ่งยกระดับบ้านให้เป็นสมาร์ทโฮม และอีกหลากหลายบริการที่ที่เชื่อมต่อความสัมพันธ์ของ “คน” ในบ้านไว้ด้วยกัน สะท้อนความมุ่งมั่นของทรูออนไลน์ที่ตั้งใจส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดบรอดแบนด์อย่างต่อเนื่องมากว่า 20 ปี​ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 516px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/MCjjtf9ndxGF79NZzTUD.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="516px,344px" data-align="center" data-index="4" data-file-name="MCjjtf9ndxGF79NZzTUD.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="516px,344px" style="width: 516px; height: 344px;"></figure></div>&nbsp;ภาพ : ทรูออนไลน์ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/it/grab-ev-3rd-year" alt="‘แกร็บ’ ชูโปรแกรม ‘ผ่อนขับรับรถ’ ให้คนขับเช่าซื้อ BYD Seal ผ่อนจ่ายเริ่มต้น 1,010 บาทต่อวัน ไม่ต้องดาวน์">‘แกร็บ’ ชูโปรแกรม ‘ผ่อนขับรับรถ’ ให้คนขับเช่าซื้อ BYD Seal ผ่อนจ่ายเริ่มต้น 1,010 บาทต่อวัน ไม่ต้องดาวน์</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ทรูออนไลน์ ชู 3 กลยุทธ์ปี 68 พร้อมใช้เทคโนโลยี AI , Smart Home ตอกย้ำเบอร์หนึ่ง 'เน็ตบ้านไฟเบอร์' ตอบโจทย์ผู้บริโภค

<h2>ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลประกอบการแข็งแกร่งในไตรมาส 3/2567 ด้วยกำไรภายหลังการปรับปรุง 3.1 พันล้านบาท พร้อม EBITDA เติบโตต่อเนื่อง 7 ไตรมาสนับจากการควบรวมกิจการ</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 เผยมีกำไรต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีและหลังปรับปรุงรายการพิเศษ (Normalized Net Profit After Tax) ที่ 3.1 พันล้านบาท EBITDA ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน โดยมีปัจจัยหลักจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจากการมุ่งเน้นผลการดำเนินงานและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น พร้อมการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม (Synergy)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;มนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในไตรมาส 3 ปี 2567 ทรู คอร์ปอเรชั่น มีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและภูมิภาค รวมถึงเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด การลงทุนด้านโครงข่ายของเราเสริมสร้างความเชื่อมั่นทั้งในด้านความพร้อมอย่างเต็มประสิทธิภาพ การดำเนินงานที่ยืดหยุ่นคล่องตัว และการเชื่อมต่อที่แข็งแกร่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เรายังให้ความสำคัญในการเร่งช่วยเหลือลูกค้าและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“สำหรับ EBITDA เติบโตเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของเราในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทาย โดยมุ่งเน้นการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการผสานปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เพื่อยกระดับทั้งการดำเนินงานภายในและการบริการลูกค้า เรายังคงมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าเราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในไตรมาส 3 ปี 2567 เรายังคงมุ่งเน้นการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการลงทุนราว 1 หมื่นล้านบาท โดยมุ่งเน้นที่การดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วมากกว่า 10,000 สถานีจากทั้งหมด 17,000 สถานี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นอกจากนี้ เรากำลังนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าในเชิงลึก เพื่อสร้างสรรค์บริการรูปแบบใหม่ ยกระดับการดำเนินธุรกิจ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เรายังภูมิใจที่เป็นรายแรกในประเทศไทยที่นำแผนการใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างมีความรับผิดชอบ หรือ Responsible AI (RAI) Maturity Roadmap ของ GSMA มาใช้ เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้ AI ของเราเป็นไปอย่างมีจริยธรรมและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"> <figure style="margin: auto;"> <img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/H7wMoUf2qqKsEj3o8NbS.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="H7wMoUf2qqKsEj3o8NbS.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" data-index="0" style=""> </figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในไตรมาส 3 ปี 2567 ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มคุณภาพของการได้มาในส่วนผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลงสุทธิ 1.2 ล้านเลขหมาย หรือ 2.3% จากไตรมาสก่อน โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการรวม 49.3 ล้านเลขหมาย ส่วนผู้ใช้บริการระบบรายเดือนลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนมาอยู่ที่จำนวน 15.2 ล้านราย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในขณะที่ผู้ใช้บริการระบบเติมเงินมีจำนวน 34.1 ล้านราย ผู้ใช้บริการออนไลน์เพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อยู่ที่ 3.7 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 ผู้ใช้บริการ 5G มีจำนวน 12.4 ล้านราย เพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทรู คอร์ปอเรชั่นประสบความสำเร็จด้วยการเติบโตของ EBITDA เป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน ส่งผลให้ไตรมาส 3 ปี 2567 มีกำไรภายหลังการปรับปรุงดีขึ้นอยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย หรือ IC เติบโต 4.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) โดยมีปัจจัยหลักจากการเติบโตในกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และออนไลน์ รายได้รวมอยู่ที่ 5.08 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4% (YoY) โดยมีปัจจัยหลักจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการในทุกกลุ่มธุรกิจ”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการผสานการบริหารผลงานร่วมกับวัฒนธรรมองค์กร ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการ (ARPU) เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจเมื่อเทียบกับปีก่อน รายได้จากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 3.7% (YoY) จาก ARPU เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 5.6% (YoY) รายได้บริการออนไลน์เพิ่มขึ้น 7.5% (YoY) โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของ ARPU อย่างต่อเนื่องที่ 9.8% (YoY) ส่วนรายได้จากบริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (PayTV) เพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมี ARPU เพิ่มขึ้น 1.8% จากปีที่แล้ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับไตรมาส 3 ปี 2567 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (ไม่รวมค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย หรือ D&amp;A) ลดลง 9.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม และมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนเครือข่ายลดลง 13.3% (YoY) โดยมีปัจจัยหลักจากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมทั้งจากการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยและการจัดซื้อจัดจ้าง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&amp;A) ลดลง 17.7% (YoY) โดยการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมในโครงการปรับปรุงด้านธุรกิจและการพัฒนาองค์กรให้ทันสมัย ซึ่งจากการเร่งดำเนินการเพื่อรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมในด้านสำคัญต่างๆ และการมุ่งเน้นเชิงลึกในการเพิ่มประสิทธิภาพในเชิงโครงสร้าง ทรู คอร์ปอเรชั่น สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทรู คอร์ปอเรชั่นบันทึกการเพิ่มขึ้นของ EBITDA จำนวน 5,530 ล้านบาท นับตั้งแต่การควบรวมกิจการ ซึ่งนับเป็นการเติบโตของ EBITDA เป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน สำหรับไตรมาส 3 ปี 2567 EBITDA ปรับตัวดีขึ้น 646 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน (QoQ) เพิ่มขึ้น 2.7% (QoQ) อัตราส่วน EBITDA ต่อรายได้จากการให้บริการปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่การควบรวมกิจการที่ 60.2% ในไตรมาส 3 ปี 2567​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"> <figure style="margin: auto;"> <img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/jBdUQieZzEUZ28b9iaPy.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="jBdUQieZzEUZ28b9iaPy.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" data-index="1" style=""> </figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับไตรมาส 3 ปี 2567 ทรู คอร์ปอเรชั่นบันทึกผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (one-time costs) จากการด้อยค่าสินทรัพย์ที่มีความซ้ำซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย จำนวน 3,917 ล้านบาท ส่งผลให้มีขาดทุนสุทธิหลังหักภาษี 810 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งเมื่อปรับปรุงรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว กำไรสุทธิหลังหักภาษีอยู่ที่ 3,107 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 709 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากการปรับตัวดีขึ้นของ EBITDA สำหรับค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (CAPEX) ไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 9,919 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นที่การดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แนวโน้มสำหรับทรู คอร์ปอเรชั่นในปี 2567 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) เติบโต 4-5% เมื่อเทียบกับปีก่อน EBITDA จะเติบโต 12-14% (YoY) ในขณะที่แนวโน้มค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (CAPEX) รวมถึงการลงทุนเพื่อการควบรวมกิจการยังคงอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท โดยในปี 2567 จะยังคงมีกำไรหากไม่รวมการตัดจำหน่ายสินทรัพย์เครือข่ายที่มีความซ้ำซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย <a href="https://www.freepik.com/free-photo/light-trails-buildings_1120928.htm#fromView=image_search_similar&amp;page=1&amp;position=23&amp;uuid=e7888399-33cf-48b3-b0dd-b1830af0cfa1">Image by fanjianhua on Freepik</a> เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/it/what-companies-invest-in-data-centers-and-cloud-services-in-thailand" alt="'ไทย' ฮอตแค่ไหน สำหรับการลงทุน 'ดาต้าเซ็นเตอร์' และ 'คลาวด์'">'ไทย' ฮอตแค่ไหน สำหรับการลงทุน 'ดาต้าเซ็นเตอร์' และ 'คลาวด์'</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

TRUE เผย Q3/67 มีกำไรหลังการปรับปรุง 3.1 พันล้าน EBITDA โตต่อเนื่อง 7 ไตรมาสหลังควบรวม

‘ทรู’ ตั้งเป้าปี 2568 จะเป็น ‘ปีแห่งการทำกำไร’ อย่างยั่งยืน หลัง EBITDA เติบโตติดกัน 6 ไตรมาส

<h2>รับเทรนด์คนไทยมูเตลู "ทรูบิสิเนส"&nbsp; ประกาศความร่วมมือแบบเอ็กซ์คลูซีฟ กับ อ.ช้าง-ทศพร ศรีตุลา เปิดตัว “เบอร์มงคลยกบริษัท” ครั้งแรกในไทย เสริมความปังแบบยกออฟฟิศ เลือกตัวเลขเพิ่มความมงคลได้ทั้งแบบเสริมกลุ่มธุรกิจหรือแบบเสริมสายงานอาชีพ เริ่มต้นเพียงเดือนละ 499 บาท</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ฮาว ริ เร็น หัวหน้าสายงานการพาณิชย์ พันธมิตรเชิงกลยุทธ์และเทเลคอม-เทค บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทรูเป็นผู้นำด้านเครือข่ายด้วยยอดผู้สมัครใช้งานมากกว่า 51 ล้านคน 5G ครอบคลุม 90% ของประชากร ส่วน 4G ครอบคลุม 99% ของประชากรไทยแล้ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไม่เพียงเท่านั้น ทรูบิสิเนส ยังมุ่งพัฒนานวัตกรรมบริการและโซลูชั่นเพื่อทุกการสื่อสารในยุคดิจิทัลสำหรับลูกค้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมีทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์อย่างยาวนาน พร้อมให้คำแนะนำและมอบบริการที่ดีที่สุด ปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 250,000 องค์กร ทำให้รู้จักและเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าที่หลากหลาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“หนึ่งในความต้องการที่สำคัญของลูกค้าองค์กรคือความเจริญรุ่งเรืองในการทำธุรกิจ ที่มุ่งเน้นสิ่งต่างๆ ที่เป็นมงคล สอดคล้องกับผลสำรวจเรื่องความเชื่อของคนไทยของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ตัวเลขมงคล ติดอันดับ 1 ใน 5 ความเชื่อของคนไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นอกจากนี้จากผลสำรวจของเรายังพบอีกว่า 88% คนไทยเชื่อเรื่องมูเตลู 52% ของคนไทยให้คุณค่าการมูเตลูเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ 30% เน้นมูแอคชั่น หวังให้เทพบันดาลผล และกว่า 44% ขอพรเรื่องการเงินมากที่สุด ทั้งนี้ ทรูและดีแทคให้บริการเบอร์เลขมงคลมาตั้งแต่ปี 2548 หรือเกือบ 20 ปีมาแล้ว และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีลูกค้าบุคคลใช้เบอร์มงคลของเราต่อเดือนอยู่ในหลักหมื่นปลายๆ ทำให้ทรูบิสิเนสมั่นใจที่จะต่อยอดบริการนี้ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าองค์กร”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/JCLTkQZHWFQhoyHMLqKz.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="JCLTkQZHWFQhoyHMLqKz.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,540"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยล่าสุดได้ร่วมมือแบบเอ็กซ์คลูซีพกับ อ.ช้าง-ทศพร ศรีตุลา เปิดตัว เบอร์มงคลยกบริษัท ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในไทย ผสมผสานศาสตร์แห่งตัวเลข ตอบโจทย์ความมู ความเชื่อของลูกค้าองค์กร เลือกสรรตัวเลขในเบอร์โทรศัพท์ที่ช่วยเสริมมงคล เพิ่มพลังหนุนความก้าวหน้าในการดำเนินธุรกิจ มอบเบอร์ที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับธุรกิจให้ลูกค้า โดยมีแนวคิดใหม่ที่ให้องค์กรเลือกได้ตามความต้องการ จะเสริมมงคลเน้นกลุ่มธุรกิจ หรือเน้นสายงานอาชีพ ครอบคลุม 7 กลุ่มธุรกิจ คือ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1.โรงแรม &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2.โรงพยาบาล &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3.ค้าขายออนไลน์ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4.การเงินการธนาคาร &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;5.ขนส่ง &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;6.อสังหาริมทรัพย์ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;7.บันเทิง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/LjFgCg8AL7N7rTffU8pN.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="LjFgCg8AL7N7rTffU8pN.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="720,540"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวมถึงอีก 5 สายงานอาชีพ ได้แก่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1.เจ้าของกิจการ/ข้าราชการ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2.พนักงานขาย/คอลเซ็นเตอร์ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3.การตลาด &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4.สายงานโอเปอร์เรชั่น &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;5.สายงานไอทีและออนไลน์​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/wCGchR1M1oTrrCDBF5AK.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="wCGchR1M1oTrrCDBF5AK.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2" origin-size="720,540"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยมั่นใจว่าบริการนี้ จะช่วยเสริมความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจให้กับลูกค้าองค์กร นอกจากความสามารถทุกคนในองค์กรที่ร่วมกันดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จแล้ว ความเชื่อในเรื่องเบอร์มงคลก็จะเติมเต็มการทำธุรกิจให้ราบรื่นและเติบโตอย่างยั่งยืน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยทรูเตรียมเบอร์มงคลไว้ให้ในล็อตแรก 100,000-200,000 เลขหมาย และคาดว่าแคมเปญนี้จะหนุนให้เบอร์มงคลของลูกค้าองค์กรเติบโตได้เท่ากันหรือเติบโตมากกว่ากลุ่มลูกค้าบุคคล หรือเติบโตในระดับเลขสองหลัก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับแพ็กเกจเบอร์มงคลยกบริษัท มีดังนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-เบอร์มงคลเสริมธุรกิจ เริ่มต้นเพียงเดือนละ 499 บาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-เบอร์มงคลเสริมสายงานอาชีพ เริ่มต้นเพียงเดือนละ 699 บาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-เบอร์มงคลเสริมธุรกิจและสายงาน เริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,099 บาท เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;:&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/it/3-agricultural-technologies-have-investment-opportunities" alt="NIA เผยการลงทุนใน ‘สตาร์ทอัพเกษตร’ มีมูลค่าสูงกว่า 1.7 ล้านล้านบาท แนะ 3 เทคฯ สายเกษตรดาวรุ่ง มีโอกาสเติบโตรับเงินทุน">NIA เผยการลงทุนใน ‘สตาร์ทอัพเกษตร’ มีมูลค่าสูงกว่า 1.7 ล้านล้านบาท แนะ 3 เทคฯ สายเกษตรดาวรุ่ง มีโอกาสเติบโตรับเงินทุน</a>​ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

เอาใจลูกค้าสายมู! ทรูเปิดตัว “เบอร์มงคลยกบริษัท” สำหรับลูกค้าองค์กร เป็นครั้งแรกในไทย คัดสรรตัวเลขโดย อ.ช้าง ทศพร

&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้เป็นครั้งแรกภายหลังการควบรวมทรูและดีแทค โดยบริษัทและหุ้นกู้ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่” (Stable) เสนอขายจำนวน 4 ชุด อายุหุ้นกู้ตั้งแต่ 2 ปี ถึง10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง 3.35-4.50% ต่อปี คาดเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 20-21 และวันที่ 24 กรกฎาคม 2566&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยมีธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ ซีไอเอ็มบี ไทย และทหารไทยธนชาต เป็นผู้จัดจำหน่าย และมีธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เผยก้าวสู่บริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีชั้นนำอันดับ 1 ของไทย มุ่งหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลนำเทคโนโลยีเข้าถึงผู้บริโภคเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นและมุ่งเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้ภาคธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การออกหุ้นกู้นี้เป็นการออกหุ้นกู้ครั้งแรกภายใต้บริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมระหว่างทรูและดีแทค ซึ่งยังคงใช้ชื่อทรูเหมือนเดิม แต่ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากการผสานศักยภาพและจุดแข็งของทั้งทรูและดีแทค&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หลังการควบรวม ทำให้ทรูก้าวขึ้นเป็นบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีชั้นนำอันดับ 1 ของไทย ที่เปี่ยมด้วยศักยภาพการลงทุนเพื่ออนาคตยิ่งขึ้น เราให้ความสำคัญกับการยกระดับการดำเนินงาน การให้บริการ การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทุกส่วนงาน การสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าและส่งมอบคุณค่าที่ดียิ่งกว่าสู่ผู้บริโภคและภาคธุรกิจ การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย พร้อมเปิดโอกาสให้นักลงทุนร่วมเติบโตไปด้วยกันกับบริษัทใหม่ที่พร้อมเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจดิจิทัลที่มีแนวโน้มการขยายตัวดีขึ้นและมีศักยภาพการเติบโตสูงมาก”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ภายหลังการควบรวมระหว่างทรูและดีแทคบริษัทและหุ้นกู้ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่” (Stable) จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2566 ซึ่งสะท้อนถึงสถานะความเสี่ยงด้านการเงินและด้านธุรกิจที่ดียิ่งขึ้น ทั้งตำแหน่งทางการตลาด (market position) ที่แข็งแกร่งในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ เสริมทัพด้วยโครงข่ายทั่วประเทศ ชุดคลื่นความถี่ที่ครอบคลุม และชื่อแบรนด์ที่ผู้บริโภคคุ้นเคย อีกทั้งปัจจัยด้านเศรษฐกิจระดับมหภาค อาทิ ตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ประเทศไทย อันเนื่องมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หุ้นกู้ครั้งนี้จะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนเป็นการทั่วไป (Public Offering) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้ในการชำระคืนหนี้หุ้นกู้และ/หรือเงินกู้ยืมที่จะครบกำหนด ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการเติบโตของบริษัท โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ คาดว่าจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 20-21 และวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท เสนอขายจำนวน 4 ชุด ดังนี้&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; 1. หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.35% ต่อปี&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; 2. หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.60% ต่อปี&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; 3. หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.10% ต่อปี&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; 4. หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50% ต่อปี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ได้เมื่อหุ้นกู้ครบปีที่ 5&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล และร่างหนังสือชี้ชวนยังไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th หรือ สอบถามรายละเอียดที่ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 5 แห่ง ได้แก่&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; • ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาไมโคร) หรือ โทร. 1333 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Bualuang mBanking&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; • ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา โทร. 02 888 8888 กด 819 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; • ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 777 6784 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป SCB EASY&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; • ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 626 7777 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน แอป CIMB Thai Digital Banking&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; • ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 1428 กด#4 (เปิดจองซื้อเฉพาะผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น) ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/07/Fva4X9YBDojSVEKajoCD.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Fva4X9YBDojSVEKajoCD.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1201,801" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/70671" alt="NUSA แจง พิจารณาการลงทุนใน WEH อย่างระมัดระวังและรอบคอบ">NUSA แจง พิจารณาการลงทุนใน WEH อย่างระมัดระวังและรอบคอบ</a>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

“ทรู คอร์ปอเรชั่น” เสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรกหลังควบรวมชูเรทติ้ง A+ ดอกเบี้ย 3.35–4.50% ต่อปี คาดเปิดให้จองซื้อ 20-21 และ 24 กรกฎาคม 2566

<h2>เอไอเอส มั่นใจ สามารถปิดดีลซื้อกิจการ 3บีบี สำเสร็จได้ในไตรมาส 2 แม้จะล่าช้าจากเดิมที่คาดไว้ในไตรมาส 1 โดยการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทคที่เกิดขึ้นล่าสุดจะไม่มีผลให้ตลาดธุรกิจบรอดแบนด์เปลี่ยนแปลง</h2><h2> </h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ธีร์ สีอัมพรโรจน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) เผยว่า การเข้าซื้อกิจการของบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) หรือ 3บีบี น่าจะแล้วเสร็จและปิดดีลได้ภายในไตรมาส 2 ปีนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แม้ระยะเวลาจะล่าช้ากว่าที่คาดไว้จากเดิมที่น่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1 โดยเป็นผลจากขณะนี้ยังไม่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งทางเอไอเอสเองได้ดำเนินการส่งเอกสารและข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนแล้ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ การควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทคล่าสุดที่ผ่านมา ทางเอไอเอส ยังกล่าวพิ่มเติมด้วยว่า ไม่มีผลทำให้ตลาดธุรกิจบอร์ดแบนด์เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เห็นได้จากการควบรวมของทรูและดีแทคในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มลูกค้าของเอไอเอสก็ยังไม่มีการไหลออกจากระบบ (Churn Rate) แม้คู่แข่งจะพยายามดึงเอาสิทธิประโยชน์หรือออกโปรโมชั่นต่างๆ มาจูงใจ และแม้แพคเก็จค่าบริการที่เท่ากันทุกค่ายหลังการควบรวม แต่เอไอเอสยังมั่นใจด้วยว่าถึงจะเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน ราคาเท่ากัน แต่เอไอเอสมีคุณภาพมากกว่าในทุกมิติ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งหากบริษัทเข้าซื้อกิจการ 3บีบีเสร็จเรียบร้อย จะทำให้สัดส่วนธุรกิจบรอดแบนด์เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีสัดส่วน 10% เป็นกว่า 20% ของรายได้รวม และ ธุรกิจมือถือ 90% ซึ่งจำนวนนี้มีลูกค้าองค์กรประมาณ 10% โดยมองว่าธุรกิจบรอดแบนด์ปีนี้ยังมีการเติบโตได้อีกแม้จะมีการแข่งขันสูง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยปัจจุบัน 3บีบี มีฐานลูกค้าของเครือข่ายบรอดแบนด์หรืออินเตอร์เน็ตอยู่จำนวน 2.4 ล้านราย, เอไอเอสมีอยู่ 2 ล้านราย ขณะที่ทรู ออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเจ้าตลาดอันดับ 1 มีฐานลูกค้าจำนวน 5 ล้านราย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาพรวมธุรกิจมือถือ ไม่ได้มีอัตราการเติบโตของจำนวนลูกค้าเร็วเหมือนเมื่อก่อน โดย 2-3 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ดี ผู้บริโภคต่างปรับลดค่าใช้จ่าย โดยเห็นว่า ธุรกิจบรอดแบนด์ยังคงเติบโตได้อยู่ โดยมาจากฐานลูกค้าเอไอเอส ที่คาดว่าจะโต 15-20% และจากการรวมกิจการสำเร็จ ​ อ่านเพิ่มเติม:&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/other/news/travel/%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2-3-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%99-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B8%99" alt="อโกด้า เผย 3 อันดับประเทศเน้นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน">อโกด้า เผย 3 อันดับประเทศเน้นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน</a>​<hr class="__se__solid">​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine" style="font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; text-align: var(--bs-body-text-align);">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

เอไอเอส คาดปิดดีล 3บีบี สำเร็จในไตรมาส 2 หลังทรูควบรวมดีแทคไปก่อนหน้า

เปิดแล้ว "ทรู ไอคอน ฮอลล์" ศูนย์ประชุมสุดล้ำมูลค่า 2 พันล้านที่ไอคอนสยาม

<h2>ทรูประกาศความพร้อมมั่นใจผงาดเป็นผู้นำกลุ่มภายใน 3 ปี นำคลื่นความถี่เป็นใบเบิกทางขยายฐานธุรกิจแกร่งร่วมเสริมทัพโครงสร้างพื้นฐานประเทศเปิดฉากยุคเศรษฐกิจดิจิทัลสู่ศูนย์กลางแห่งอาเซียน</h2>
กว่า 3 ปีนับจากอภิมหาเศรษฐีแห่งเอเชียอาคเนย์เคยประกาศวิสัยทัศน์ไว้อย่างชัดเจนใน Forbes Thailand ฉบับกรกฎาคม 2556 ว่า “ตลาดในโลกนี้เป็นของ ซีพี” ผู้นำทัพและบรรดาทายาทแห่งเจียรวนนท์ยังคงทุ่มเทสรรพกำลังขับเคลื่อนอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจการเกษตร อาหารค้าปลีก และโทรคมนาคม สู่มูลค่าทรัพย์สิน รวม 6.6 แสนล้านบาท

หลังจากทายาทคนที่ 4 ของเจียรวนนท์ทุ่มงบปิดสองดีลประมูลแห่งปีรวม 1.16 แสนล้านบาท สปอต์ไลท์ดวงใหญ่ก็เปลี่ยนทิศสาดส่องไปยังธุรกิจโทรคมนาคม ภายใต้ปีกของ ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้พลิกเกมธุรกิจจากมวยรองที่เคยเสียเปรียบคู่แข่งอยู่หลายขุมกลายเป็นผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมครบวงจรในประเทศที่มีอาวุธครบมือ

“เราเคยเสียเปรียบ เพราะมาทีหลัง เราได้รับสัมปทานน้อยที่สุด ระยะเวลาสั้นที่สุด แต่วันนี้เรามีคลื่นที่ดีที่สุดอยู่ในมือ 4G ที่ดีที่สุด ทั้งความจุ คลื่นความถี่ ความเร็วสูงสุด และเครือข่ายคุณภาพที่มีความครอบคลุม ทั้งยังเป็นผู้นำด้านคอนเวอร์เจนซ์ครบวงจร เราเป็นรายเดียวที่มีแพลตฟอร์มครบ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ บริการโทรทัศน์ บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงครอบคลุม 10 ล้านครัวเรือน”ศุภชัยกล่าวถึงความพร้อมนำทรูขยับชั้นสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเป็นผู้นำโลกการสื่อสารโทรคมนาคมแบบคอน-เวอร์เจนซ์อย่างแท้จริง

ความมุ่งมั่นจริงจังของผู้นำทัพวัย 49 ปี ยังคงฉายชัดเช่นเดียวกับวันแรกที่เริ่มต้นทำงานบนเส้นทางธุรกิจครอบครัว จากผู้อำนวยการฝ่ายห้องปฏิบัติการ ในบริษัท เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ (ชื่อเดิมของทรู) ปี 2536 ไต่ระดับเรียนรู้งานหลายแผนกจนได้นั่งเก้าอี้รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสด้านปฏิบัติการซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับพิษต้มยำกุ้งที่เล่นงานธุรกิจสื่อสารในเครือซีพีแทบล้มละลาย ด้วยหนี้สินจำนวนเกือบแสนล้านบาทในปี2540

ด้วยกลยุทธ์ฝ่าวิกฤตของศุภชัยในขณะนั้น อยู่ที่ความเพียรพยายามสร้างความเชื่อมั่นและเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ รวมถึงความพร้อมปรับเปลี่ยนธุรกิจให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของโลกและโอกาสทางธุรกิจที่ที่เป็นมากกว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน คือการโดดเข้าสู่ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในนาม ทีเอออเร้นจ์ ก่อนเปลี่ยนเป็น ทรูมูฟ และปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจสู่ “Convergence Lifestyle” ผสมผสานสินค้าและบริการต่างๆ ในกลุ่มเพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้ใช้บริการ

“แม้ในระหว่างกระบวนการเรียนรู้จะมีความเจ็บปวด ตอนวิกฤตเราล้มละลายตอนที่ฟื้นกลับก็อ่อนแอเหมือนคนฟื้นไข้แต่สำหรับผมถือเป็นประสบการณ์และบทเรียนที่มีค่าเราเห็นวิกฤตในแต่ละยุคเราเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทางเทคโนโลยีที่ต้องปรับตัวให้ทัน ทันทีที่มีโอกาสเราเปลี่ยนตัวเองเป็น 3G การเป็นผู้นำ สร้างความเปลี่ยนแปลงดีกว่าเป็นผู้ตามความเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่โอกาสของทรู แต่เป็นโอกาสของประเทศ จากบรอดแบนด์ที่เข้าถึงทุกคนประเทศไทยจะสร้างประโยชน์ สังคม และเศรษฐกิจจากเทคโนโลยีได้อย่างไร”

ปัจจุบันกลุ่มทรูสามารถขยายอาณาจักรสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มทรูโมบาย ธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และมีแบนด์วิดท์ภายใต้ใบอนุญาตที่มากที่สุดในประเทศไทย ส่วนกลุ่มทรูออนไลน์เป็นธุรกิจให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานรายใหญ่ที่สุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการราว 1.5 ล้านราย ขณะที่กลุ่มทรูวิชั่นส์ ยังเป็นผู้นำบริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกและบริการในระบบ HD ทั่วประเทศ ด้วยจำนวนฐานลูกค้าทั้งหมด 3.1 ล้านราย ณ สิ้นปี 2558

สำหรับผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 กลุ่มทรูมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว 98,432 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 2.8 แสนล้านบาท รายได้รวม 1.2 แสนล้านบาท และกำไรสุทธิ 4.4 พันล้านบาท โดยไตรมาสแรกมี 2559 มีสินทรัพย์รวม 3.7 แสนล้านบาท รายได้ 3.3 หมื่นล้านบาทและกำไรสุทธิ 1.97 พันล้านบาท
ทรูติดอาวุธรับพรมแดนใหม่

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของทรูเริ่มต้นขึ้นหลังจากชนะดีลการประมูลคลื่นความถี่ที่กลายเป็นอาวุธครบมือ ด้วยความมุ่งมั่นร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมของไทยให้ทัดเทียมต่างประเทศ พร้อม รองรับการก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ศุภชัยวางแนวทางผสานจุดเด่นของคลื่นย่านความถี่สูง(1800 MHz และ 2100 MHz) ในเรื่องความจุและคลื่นย่านความถี่ต่ำ (850 MHz ภายใต้ CAT Telecom และ 900 MHz) ในเรื่องความครอบคลุมพร้อมเพิ่มประสบการณ์การใช้งานให้ลูกค้าและเพิ่มศักยภาพในการให้บริการของกลุ่มให้ครอบคลุมทุกมิติทั้ง 2G 3G และ 4G ที่ดีที่สุด

“ภายใน 3 ปีจะเห็นสัญญาณความเป็นผู้นำของทรูอย่างแน่นอน เราลงทุนเพื่อยุคอนาคตจากที่เป็นผู้นำคอนเวอร์เจนซ์และ 4G เราสร้างโอกาสการเป็นผู้นำในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นยุคใหม่ที่ตอบโจทย์การขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ยิ่งเอกชนแข่งขันกัน ยิ่งสร้างความแข็งแกร่งให้โครงสร้างพื้นฐานและส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้เติบโต”

ดังนั้น ก้าวต่อไปที่สำคัญของทุกองค์กรจึงอยู่ที่ความพร้อมในการ “ปรับตัว” โดยทรูไม่เคยประมาทคู่แข่งหน้าใหม่ที่มีโอกาสเกิดขึ้นตลอดเวลา โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงการใช้อินเทอร์เน็ตคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนหรือแท็บเลตได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ทำให้บริการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตหรือ VoIP เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว เช่น เฟซบุ๊ก, ไลน์, กูเกิล ซึ่งอาจจะตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดีกว่า

“เราเห็นมิติของความเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านเทคโนโลยีและการลงทุน รวมถึงเรื่องการเมืองที่มีการคุ้มครองดูแลโดยภาครัฐสูงทำให้เราต้องปรับตัวเองตลอด นอกจากเรื่องการตลาด นวัตกรรม การพัฒนาด้านคุณภาพการให้บริการต่างๆ หลังจากวิกฤตปี 2000 และปรับโครงสร้างหนี้สำเร็จ เราเติบโตขึ้นตลอดจากวิกฤตแต่ละช่วง ซึ่งต่อจากนี้ผมเชื่อว่าเราจะสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืนในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดสำหรับทรู” ศุภชัยสรุปอย่างมั่นใจในการเปิดฉากทรูยุคใหม่ที่ผ่านการจัดแต่งกระบวนทัพเป็นอย่างดี

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/b1cf50254781e3f8deb16925a8e0002e.png" alt="" />

&nbsp;

เรื่อง: พรพรรณ ปัญญาภิรมย์ ภาพ: ฐิระวิชญ์ ล้อเลิศรัตนะ

<hr />

<a href="http://goo.gl/WtgACX">คลิ๊กอ่าน "ทีของ TRUE “เรามีคลื่นทีดีที่สุดอยู่ในมือ”" ฉบับเต็มได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ AUGUST 2016 ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="http://goo.gl/WtgACX"><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/94742b79a37358f34d2263e45ceebcc0.png" alt="" width="240" height="316" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events