<h2>บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารหลังแผ่นดินไหว นำโดยทีมผู้บริหารพฤกษาฯ และทีมวิศวกร ยืนยันความปลอดภัย พร้อมผนึกพันธมิตร ดูแลอำนวยความสะดวกทุกขั้นตอน ล่าสุดได้มีการเริ่มเข้าซ่อมแซมแก้ไขให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดผลกระทบและความเสียหายเป็นวงกว้าง พฤกษาฯ ใช้ความเชี่ยวชาญด้านการอยู่อาศัยและความแข็งแกร่งในการผนึกพันธมิตร ทั้งด้านทีมวิศวกร ผู้รับเหมา บริษัทประกันภัย กลุ่มวัสดุก่อสร้าง สถาบันทางการเงิน และ บริการด้านสุขภาพ ร่วมมือผ่านมาตรการเชิงรุกเพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านพฤกษาฯ ทั้งในกลุ่มโครงการแนวสูงและแนวราบ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“โดยให้ความสำคัญกับมาตรฐานคุณภาพความปลอดภัยในการดำเนินงานทุกขั้นตอน ให้ความมั่นใจกับลูกบ้านและผู้อยู่อาศัยครบทุกมิติ พร้อมอยู่เคียงข้างและยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพชีวิต ความปลอดภัยสูงสุด และความเป็นอยู่ที่ดีในระยะยาว”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/04/XHhS96rt8fswNPQkmLzt.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="XHhS96rt8fswNPQkmLzt.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,540"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ภัคริน ทัตติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว ได้มีการจัดตั้งทีมเฉพาะกิจ ประกอบด้วยทีมผู้บริหารพฤกษาฯ ทีมวิศวกรและนิติบุคคลประจำโครงการ ลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อทำการตรวจสอบโครงการอย่างละเอียด ทั้งโครงสร้างอาคารและระบบสาธารณูปโภค จนขณะนี้เร่งตรวจสอบแล้วกว่า 44 โครงการ เบื้องต้นไม่พบความเสียหายที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคาร​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/04/7AdPqjLc7yCbKErueEMB.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="7AdPqjLc7yCbKErueEMB.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="720,540"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“พฤกษาฯ คำนึงถึงการดูแลลูกบ้านที่ได้รับผลกระทบให้ได้รับการซ่อมแซมเพื่อกลับไปอยู่อาศัยได้อย่างปกติโดยเร็ว ได้มีมาตรการร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตร ผู้รับเหมา และทีมช่างมืออาชีพ โดยความร่วมมือประสานงานจากนิติบุคคลประจำโครงการและบริษัทประกันภัย ซึ่งปัจจุบันได้มีการร่วมกับกลุ่มพันธมิตรเริ่มเข้าซ่อมแซมโครงการที่มีการตรวจสอบความเสียหายอย่างละเอียดให้กับลูกบ้านที่ได้รับผลกระทบแล้ว โดยมุ่งเน้นให้การซ่อมแซมเป็นไปตามมาตรฐานที่ปลอดภัย เพื่อให้ทุกท่านสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว” ภัคริน กล่าว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/04/o7tj6kD1wQNjHiRnVDTw.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="o7tj6kD1wQNjHiRnVDTw.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2" origin-size="720,540"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ พฤกษา ให้ความใส่ใจลูกบ้านทั้งในกลุ่มโครงการทั้งแนวสูงและแนวราบที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ในการให้คำแนะนำและประสานงานทีมวิศวกรตรวจสอบโครงสร้าง, ให้คำแนะนำวิธีดำเนินการเคลมประกันและเร่งรัดกระบวนการดูแล ในกลุ่มบริษัทประกันที่เป็นกลุ่มพันธมิตร, ให้คำแนะนำและประสานงานผู้รับเหมาในกลุ่มพันธมิตรพร้อมช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดคิวเข้าซ่อมแซม, ให้คำแนะนำด้านสินเชื่อช่วยเหลือ โดยประสานงานกับธนาคารที่เป็นกลุ่มพันธมิตร สำหรับลูกบ้านที่ได้รับผลกระทบและต้องการขอพักชำระหนี้ หรือขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับค่าซ่อมแซมบ้าน ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/04/HX2yx29bb142maN9cxoS.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="HX2yx29bb142maN9cxoS.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3" origin-size="720,540"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พร้อมดูแลจิตใจด้วยความห่วงใยโดยร่วมมือกับ โรงพยาบาลวิมุต ในเครือพฤกษา โฮลดิ้งฯ ขออยู่เคียงข้างคุณในทุกช่วงเวลาที่ยากลำบาก ให้บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยทีมแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและทีมสุขภาพใจ ทุกวันเวลา 8.00 - 20.00 น. ผ่าน Line Official ViMUT Telemedicine : <a href="https://lin.ee/nps0jRa" alt="@vimuttelemd">@vimuttelemd</a>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พฤกษาฯ ขอยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการดูแลลูกบ้านทุกท่าน และจะดำเนินมาตรการต่างๆ ภายใต้การคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ด้วยความใส่ใจเพื่อชีวิตที่ อยู่ดี มีสุข และ ความมั่นใจของลูกบ้านพฤกษา ทางบริษัทขอขอบคุณลูกบ้านทุกท่านที่เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หากต้องการความช่วยเหลือและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ท่านสามารถติดต่อนิติบุคคลประจำโครงการและทาง Pruksa Contact Center โทร 1739 แจ้งผ่านช่องทาง Facebook Fanpage Pruksa Family Club หรือแจ้งผ่านช่องทาง Line Official Pruksa : <a target="_blank" href="https://line.me/R/ti/p/@gpb1728q" alt="@pruksa">@pruksa</a>&nbsp; ภาพ: พฤกษา เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/other/tgia-earthquake-28-mar-2025" alt="เมื่อเกิดแผ่นดินไหว เคลมได้! ส.ประกันวินาศภัยไทย เผย 5 ประเภทประกันฯ ที่มีความคุ้มครองกรณีแผ่นดินไหว">เมื่อเกิดแผ่นดินไหว เคลมได้! ส.ประกันวินาศภัยไทย เผย 5 ประเภทประกันฯ ที่มีความคุ้มครองกรณีแผ่นดินไหว</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘พฤกษา’ ตรวจสอบแล้ว 44 โครงการ หลังแผ่นดินไหว ยืนยันความปลอดภัย พร้อมผนึกพันธมิตร ‘เริ่มลุยงานซ่อม’

<h2>พฤกษา โฮลดิ้ง เผยเป้าหมายปี 2568 คาดมีรายได้รวม 23,500 ล้านบาท ฝั่งธุรกิจอสังหาฯ มองว่าจะเติบโต 8% โดยมองว่าการลดดอกเบี้ยของ กนง.ที่ 0.25% ต่อปี แต่แบงก์ลดให้ผู้กู้ราว 0.1% ต่อปี จึงมองว่าการผ่อนปรนมาตรการ LTV ในการกู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 ขึ้นไปอาจช่วยได้มากกว่า ขณะที่ 2-3 ปีที่ผ่านมาภาวะตลาดอสังหาฯ ที่เล็กลงจึงหันมาเน้นธุรกิจเฮลท์แคร์เชื่อว่าในระยะยาวจะมีสัดส่วน 50% ของรายได้ โดยปี 68 คาดว่าธุรกิจนี้จะเติบโต 19% ภายในปีหน้าเตรียมขยาย 3 โรงพยาบาลใหม่</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH กล่าวว่า 2-3 ปีมานี้ตลาดอสังหาฯ มีขนาดเล็กลง โดยปี 2567 ภาพรวมตลาดอสังหาฯ เผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารที่ยังคงสูงอยู่ แต่มองว่าเป็นการปรับลดลงในระยะหนึ่งหลังจากนั้นจะกลับมาโตขึ้น ซึ่งในปี 2567 พฤกษามีรายได้รวมอยู่ที่ 21,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิที่ 456 ล้านบาท&nbsp; &nbsp; ปี 2568 ตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 23,500 ล้านบาท เติบโต 11.9% จากปี 67 โดยแบ่งเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ 18,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8%YoY และเฮลท์แคร์ที่ 2,600 ล้านบาท เติบโต 19%YoY โดยหลังจากนี้ยังมองหาโอกาสในธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงในระยะยาวคาดว่ารายได้ส่วนเฮลท์แคร์อาจเพิ่มสัดส่วนขึ้นเป็น 50% จากกระแสการขยายตัวที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ กลยุทธ์หลักของปี 2568 ยังเน้นที่ 1) กลยุทธ์เชิงรับเพื่อรักษาข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน เน้นบริการให้เกิดประสิทธิภาพ มุ่และปรับโครงสร้างสินทรัพย์ให้เหมาะสม 2) กลยุทธ์เชิงรุก เร่งพัฒนาและพร้อมลงทุนร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ<div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/KCzMPbGwBLbdtEJTGGXm.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="KCzMPbGwBLbdtEJTGGXm.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,399" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในด้านธุรกิจอสังหาฯ นายธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2568 นี้ มองว่าจะไม่แย่ไปกว่าไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา โดยฝั่งทาวเฮ้าส์อาจหดตัวลง แต่บ้านเดี่ยวและคอนโดฯ ยังเติบโตได้ดี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดังนั้นปี 2568 นี้จะหันมาเน้นโครงการบ้านเดี่ยวที่จะใกล้เมืองมากขึ้นตามความต้องการของตลาด โดยพฤกษาวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 22 โครงการ มูลค่ารวม 23,400 ล้านบาท แบ่งเป็น ทาวน์เฮาส์ 8 โครงการ มูลค่า 4,900 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่า 10,400 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 8,100 ล้านบาท​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/N6vBwUY7kgmRRx7aoyNY.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="N6vBwUY7kgmRRx7aoyNY.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,408" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp; &nbsp; ในปี 2568 จะมีการเปิดตัวแบรนด์ระดับบนหลายโครงการ เช่น The Palm, The Reserve และ Chapter โดยมีสัดส่วนสินค้าในกลุ่มราคามากกว่า 7 ล้านบาท ราว 50% และโครงการที่ใกล้เมืองมากขึ้นและมีขนาดเล็กลง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ตั้งเป้ายอดขายที่ 19,800 ล้านบาท และยอดขายผ่านโครงการ JV อีก 3,200 ล้านบาท รวมถึงยอดโอน 18,700 ล้านบาท และยอดโอนผ่านโครงการ JV อีก 1,600 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้จะรับรู้เป็นกำไรจากการลงทุนใน JV&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันบริษัทฯ มี Backlog อยู่ในมือราว 3,500 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 2,000 ล้านบาท โดยยังตั้งเป้าที่จะทำให้การจำจดแบรนด์พฤกษาในการเป็น Well Being Wellness มากขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ต่อปี แต่ธนาคารมีการลดดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ราว 0.1% ต่อปี จึงมองว่าไม่ได้ส่งผลต่อลูกหนี้และผู้กู้มากนัก แต่มองว่าหากมีการผ่อนปรนมาตรการ LTV ที่จะช่วยให้ผู้กู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 และ 3 ได้ง่ายขึ้น น่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ในภาพรวมมากกว่า​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/GrDZigVP7SZqCpBEifyn.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="GrDZigVP7SZqCpBEifyn.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,408" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้านธุรกิจเฮลแคร์หรือการดูแลสุขภาพ นายแพทย์สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า ปี 2568 ตั้งเป้ารายได้ 2,600 ล้านบาท (จากปี 67 มีรายได้ 2,187 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน มี EBITDA อยู่ที่ 112 ล้านบาท) โดยมีรายได้หลักจากโรงพยาบาลวิมุตที่ พหลโยธิน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ปี 68 ได้วางงบลงทุนไว้ที่ 3,500 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงเฟสการลงทุนสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางเพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ ทองหล่อ สุขุมวิท ปิ่นเกล้า ซึ่งใน 2 พื้นที่หลังยังต้องติดตามสถานการณ์ตลาดในระยะข้างหน้าว่าตลาดจะมีความต้องการแบบใด จึงจะออกแผนงานว่าจะทำโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านใด แต่ใน 3 ปีข้างหน้าคาดว่าจะมีจำนวนเตียงรวม 600-700 เตียง จากปัจจุบันที่มี Capacity อยู่ราว 400 เตียง ภาพ:&nbsp; PSH เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/news/property/frasers-property-develop-a-new-distribution-center-for-watsons-thailand" alt="'เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้' เตรียมสร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ให้ 'วัตสัน ประเทศไทย' คาดแล้วเสร็จ เม.ย. ปี 69">'เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้' เตรียมสร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ให้ 'วัตสัน ประเทศไทย' คาดแล้วเสร็จ เม.ย. ปี 69</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

พฤกษา มอง ‘ลดดอกเบี้ย’ ส่งถึงผู้กู้แค่ 0.1% หวังรัฐผ่อนปรน LTV คาดปี 68 รายได้แตะ 23,500 ล้าน

จาก ‘ที่ดินตาบอด’ สู่โครงการถนนหอการค้าไทย มูลค่า 5 หมื่นล้าน จากความร่วมมือ 8 บิ๊กอสังหาฯ ไทย

<h2>“พฤกษา” จับมือธนาคารพันธมิตรใหญ่ 3 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารทหารไทยธนชาต แบ่งเบาภาระลูกค้า สนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อและเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น ด้วยสินเชื่อที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษคงที่เพียง 1.99% ต่อปี ผ่อนต่อเดือนแบบเบาๆ นานถึง 3 ปี</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 พบว่า ยังมีหลายปัจจัยที่กระทบกำลังซื้อผู้บริโภค อาทิ ภาวะเศรษฐกิจ รายได้ อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ความกดดันจากภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงติดต่อกันหลายไตรมาสที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยลูกค้าในกลุ่มไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยเฉพาะในตลาดทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม รวมถึงกลุ่มบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ถูกกดดันจากกำลังซื้อที่ฟื้นตัวช้า และความระมัดระวังในการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงิน ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มนี้เป็นความต้องการซื้ออย่างแท้จริง (Real Demand) และยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นอกจากการสร้างความเติบโตทางธุรกิจแล้ว พฤกษายังมุ่งสนับสนุนคนไทยให้สามารถเข้าถึงความเป็นอยู่ที่ดี มีชีวิตที่ดีขึ้นในเรื่องของที่อยู่อาศัย และสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น พฤกษาจึงได้ดึงสถาบันการเงินพันธมิตร 3 ธนาคาร ร่วมกันแบ่งเบาภาระให้ลูกค้า ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารทหารไทยธนชาต ผนึกกำลังมอบสินเชื่อในเงื่อนไขสุดพิเศษเฉพาะลูกค้าของพฤกษาเท่านั้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“สำหรับผู้จองหรือทำสัญญา บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม ทั้งโครงการใหม่และโครงการพร้อมเข้าอยู่ในเครือพฤกษาทั่วประเทศ ด้วยสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยคงที่ต่ำเพียง 1.99% ต่อปี นาน 3 ปี***” ปิยะกล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สักวัฏ อิทธิสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Direct Sales Channels ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB เปิดเผยว่า “ธนาคารไทยพาณิชย์ มุ่งมั่นนำขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินเชื่อและเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น โดยคำนึงถึงหลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ของ ธปท. พร้อมตระหนักถึงความสำคัญในการให้ข้อมูลกับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ากู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว โดยความร่วมมือกับพฤกษาในครั้งนี้ ธนาคารหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระ พร้อมอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยได้ง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;(***หมายเหตุ: ธนาคารไทยพาณิชย์ มอบข้อเสนอ ผ่อนต่ำล้านละ 2,500 บาท/เดือน (คำนวณจากเงินต้น 1,000,000 บาท) อัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี ดอกเบี้ยทั้งสัญญา 568,000 บาท ผ่อนนาน 30 ปี อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ระหว่าง 4.54%-4.79% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR ) ปัจจุบันเท่ากับ 7.30% ต่อปี (มีผลวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว สามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามประกาศของธนาคาร) ศึกษารายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ <a target="_blank" href="https://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans/home-loans/scb-new-loan.html" alt="https://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans/home-loans/scb-new-loan.html">https://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans/home-loans/scb-new-loan.html</a>) <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/kCkqVEeL7ZZzJQjCTnTS.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="kCkqVEeL7ZZzJQjCTnTS.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="900,600"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ลัคนา หัตถกา Senior Vice President สินเชื่อบ้าน พัฒนาผลิตภัณฑ์ลูกค้าบุคคล สายลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงเทพ เผยว่า “ธนาคารกรุงเทพ ให้ความสำคัญและสนับสนุนคนไทยให้มีบ้านเป็นของตนเองสำหรับลูกค้าที่มีความพร้อม จึงผนึกกำลังกับธนาคารพันธมิตร 3 แห่ง เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อ พร้อมแบ่งเบาภาระให้ลูกค้าสามารถบริหารค่าใช้จ่ายของตนเอง และใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“อย่างไรก็ตาม ธนาคารตระหนักถึงความสำคัญในการให้ความรู้ และข้อมูลที่ถูกต้องกับลูกค้าก่อนการขอสินเชื่อทุกครั้ง เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้ามีสุขภาพทางการเงินที่ดี และพร้อมอยู่เคียงคู่ลูกค้า ตามสโลแกน “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;(***หมายเหตุ: ธนาคารกรุงเทพ หลังจากครบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3 ปีแรก อัตราดอกเบี้ยปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR-1.50% (=5.80%) สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย กรณีลูกค้าทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.40% ต่อปี คำนวณจากวงเงินกู้ 1,000,000 บาท ระยะเวลากู้ 20 ปี) อัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 29 กันยายน 2566 = 7.30% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ <a target="_blank" href="https://www.bangkokbank.com/th-TH/Personal/My-Home/Home-Loan" alt="https://www.bangkokbank.com/th-TH/Personal/My-Home/Home-Loan">https://www.bangkokbank.com/th-TH/Personal/My-Home/Home-Loan</a> #กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อธิศ วงศ์ศศิธร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าผลิตภัณฑ์สินเชื่อมีหลักประกัน ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ttb เปิดเผยว่า “ธนาคารมีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับพฤกษาเพื่อสนับสนุนให้คนไทยได้เป็นเจ้าของบ้านคุณภาพ เพื่อความเป็นอยู่และชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“โดยนอกจากอัตราดอกเบี้ยพิเศษดังกล่าวแล้ว ธนาคารยังตั้งใจจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าที่เลือกใช้สินเชื่อบ้านจากทีทีบี ด้วยข้อเสนอ ฟรี! ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ และค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยตลอดอายุสัญญา ทั้งยังเลือกผ่อนได้นานสูงสุดถึง 35 ปี โดยสามารถสอบถามรายได้ละเอียดและเงื่อนไขข้อเสนอนี้ได้จากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อบ้านที่พร้อมให้คำแนะนำและดูแลลูกค้าถึงที่”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;(***หมายเหตุ: ธนาคารทหารไทยธนชาต มอบอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก 1.99% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR-2.08% (=5.75%) สำหรับลูกค้าที่สมัครผลิตภัณฑ์เสริมครบทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ 1) สมัครประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อบ้าน 2) สมัครใช้บริการหักบัญชี อัตโนมัติผ่านบัญชีออมทรัพย์ทีทีบีเพื่อผ่อนชาระสินเชื่อบ้าน 3) สมัครบัตรเดบิต ทีทีบี โดยอัตราดอกเบี้ยแท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.39% ต่อปี (คำนวณจากวงเงินกู้ 1,000,000 บาท ระยะเวลากู้ 20 ปี) อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปัจจุบัน ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2566 = 7.83% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว สามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามประกาศของธนาคาร ศึกษารายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ <a target="_blank" href="https://www.ttbbank.com/th/personal/loans/home-loan/home-loan" alt="https://www.ttbbank.com/th/personal/loans/home-loan/home-loan">https://www.ttbbank.com/th/personal/loans/home-loan/home-loan</a> #กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นอกจากพฤกษาฯ จะมอบสินเชื่อพิเศษแล้ว เรายังเข้าใจความต้องการของลูกค้าที่อยากจะมีบ้าน ซึ่งอาจมีความกังวลต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการเงิน เราจึงมีทีมที่ปรึกษาด้านการเงิน เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีบ้านได้ง่ายขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ทีมพนักงานขายที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่พร้อมดูแลและให้คำแนะนำลูกค้า ตั้งแต่ขั้นตอนต่างๆ ในการกู้บ้าน ช่วงวางแผนการเงิน แนะนำสินเชื่อจากธนาคารชั้นนำต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรพร้อมโปรโมชันพิเศษสำหรับพฤกษา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“รวมถึงการเตรียมเอกสารและ Pre-approve สำหรับขออนุมัติสินเชื่อ ตลอดจนช่วยประสานงานและติดตามผลกับธนาคาร และดูแลไปจนถึงลูกค้าตรวจเช็ครับโอนบ้าน จนกระทั่งพร้อมเข้าอยู่ นอกจากนี้ เรายังมีทีมคลินิกให้คำปรึกษาทางการเงินจากพฤกษา (PRUKSA Financial Clinic) ที่จะช่วยเหลือดูแลลูกค้าที่ติดปัญหาเรื่องการขอสินเชื่อกับธนาคารด้วย” ปิยะกล่าวทิ้งท้าย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/property/demand-to-buy-a-house-decreases" alt="ยุคดอกเบี้ยแพง คนอยากซื้อบ้านน้อยลง สภาพคล่องยังเป็นอุปสรรค หนุนเทรนด์เช่าเพิ่มขึ้น">ยุคดอกเบี้ยแพง คนอยากซื้อบ้านน้อยลง สภาพคล่องยังเป็นอุปสรรค หนุนเทรนด์เช่าเพิ่มขึ้น</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘พฤกษา’ หนุนคนไทยมีบ้าน จับมือ 3 แบงก์ใหญ่ ส่งสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 1.99% ต่อปี คงที่นาน 3 ปี

<h2>ภัคริน ทัตติพงศ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยข้อมูล คอนโด CHAPTER ONE SPARK CHARAN โครงการล่าสุดจากพฤกษา ชูจุดยืนคอนโดตึกสูงพร้อมส่วนกลางที่ใหญ่และหลากหลายที่สุด พร้อมรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา บนทำเลติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ ใกล้ MRT สถานีบางพลัดเพียง 150 ม.* กับราคาที่เข้าถึงได้ เริ่มเพียง 1.xx ลบ.* เตรียมพบกับโครงการพร้อมความอยู่ดีมีสุข Live well Stay well เร็วๆ นี้ </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;CHAPTER ONE SPARK CHARAN เป็นคอนโดสูง 26 ชั้น จำนวน 1อาคาร ที่มาพร้อมส่วนกลางที่ใหญ่และหลากหลาย สระว่ายน้ำ Rooftop ยาว กว่า 50 เมตร ที่สามารถพักผ่อนไป ชมวิวแม่น้ำไปได้แบบชิลล์ๆ พร้อมความสะดวกสบายครบครันรองรับทุกรูปแบบไลฟ์สไตล์ เพื่อจุดประกายชีวิตให้คุณได้ทุกวัน ภายใต้แนวคิด “เจิดจรัญ ชีวิตเจิดๆกับดีไซน์สุดชิค” สำหรับ Facility ของโครงการนี้ร่วมมือกับโรงพยาบาลวิมุตในการออกแบบ เพื่อสร้าง Wellness Living Experience ในการอยู่อาศัยได้อย่างมั่นใจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากโครงการ CHAPTER ONE ALL RAMINTRA ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาและได้รับผลตอบรับดีเยี่ยมมาแล้ว CHAPTER ONE SPARK CHARAN มาในทำเลติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ ใกล้ MRT สายสีน้ำเงินสถานีบางพลัดเพียง 150 ม. 3 สถานีถึง เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ สถานีเชื่อมต่อสายสีม่วง 4 สถานีถึง Bang Sue Grand Station 6 สถานีถึงสถานีเชื่อมต่อสายสีเขียว สวนจตุจักร ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.xx ลบ.เท่านั้น <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 75%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/09/EaC6XFnYtWxrJrL37bPB.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="EaC6XFnYtWxrJrL37bPB.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," style="width: 100%;" data-index="0" origin-size="1040,1040"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/71254" alt="ซีพี แอ็กซ์ตร้า โชว์ความสำเร็จ หลังปิดการขายหุ้นกู้ 4 รุ่น รวม 15,000 ล้านบาท">ซีพี แอ็กซ์ตร้า โชว์ความสำเร็จ หลังปิดการขายหุ้นกู้ 4 รุ่น รวม 15,000 ล้านบาท</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

“พฤกษา” เปิดตัว "CHAPTER ONE SPARK CHARAN" พร้อมให้คุณเจิดจรัสที่จรัญสนิทวงศ์

<h2>ท่ามกลางวิกฤตที่เกิดขึ้น เป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับทุกองค์กร ขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับตัว ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำธุรกิจอสังหาฯ เมืองไทย ถึงเวลาต้องปรับตัวเช่นเดียวกัน เพื่อก้าวไปสู่การเป็น Thinking Company ภายใต้การนำของ “ปิยะ ประยงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คนปัจจุบัน</h2>
<img class="alignnone size-full wp-image-43383" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/ปิยะ-ประยงค์_005.jpg" alt="" width="640" height="427" />

Forbes Thailand มีนัดพูดคุยกับ ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท ถึงทิศทางของธุรกิจหลังจากนี้ รวมถึงการปรับตัวในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา จนนำมาสู่การปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจของพฤกษา จากการเป็น Operation Company มาสู่การเป็น Thinking Company เพื่อจะนำองค์กรแห่งนี้ก้าวไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต

“ผมมีความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็นเจ้าของกิจการ จึงเลือกทำงานกับบริษัทเล็ก เพราะอยากเป็นเจ้าของบริษัท ซึ่งตอนนั้นสำนักงานของพฤกษาเป็นเพียงตึกแถว มีพนักงานเพียง 10 กว่าคน” ปิยะ เล่าย้อนอดีตในวันแรกที่เริ่มทำงานกับพฤกษา ด้วยวัยเพียง 19 ปี และวันนี้ในวัย 50 ปี เขาพร้อมนำองค์กรก้าวไปสู่ทิศทางใหม่อีกครั้ง

ปิยะ เริ่มทำงานกับพฤกษาในตำแหน่งวิศวกร พร้อมปลุกปั้นบ้านจัดสรรโครงการแรก คือ พฤกษา 1 ที่รังสิตคลอง 8 ซึ่งถือเป็นโครงการบ้านจัดสรรที่มีราคาถูกที่สุดในตลาดขณะนั้น  โดยขายทาวน์เฮาส์ ในราคาเพียง 200,000 บาท เป็นการใช้โมเดลสร้างบ้านสำเร็จรูปครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้พฤกษาฯ มีต้นทุนค่าก่อสร้างต่ำที่สุดในประเทศ ด้วยโมเดลดังกล่าว โครงการบ้านจัดสรรของพฤกษาขยายตัวอย่างรวดเร็วตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี จนก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย

ขณะที่ ปิยะ ไต่เต้าในเส้นทางการทำงานที่พฤกษาจากวิศวกรภาคสนาม จนขึ้นเป็นระดับบริหารในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายก่อสร้างโครงการ ภายในระยะเวลา 10 ปี ด้วยวัยเพียง 26 ปี จากนั้นบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด ได้ก้าวเป็นบริษัทมหาชน เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้บริษัทยังคงเดินหน้ามุ่งสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งขนาดธุรกิจและการสร้างรายได้

&nbsp;

ถึงจุดเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ

“การสร้างบ้านด้วยเทคโนโลยีสำเร็จรูปของพฤกษา ถือเป็นการปฏิวัติวงการอสังหาริมทรัพย์ครั้งหนึ่งเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ถือเป็นนวัตกรรมที่เข้ามาดิสรัปต์วงการ ด้วยการก่อสร้างที่ใช้ต้นทุนถูกที่สุดในประเทศ ดำเนินธุรกิจด้วยเงินสด ทำให้เราขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา บิสิเนส โมเดล แบบเดิมเริ่มมีปัญหา เราจึงต้องเปลี่ยน”

ปิยะ เล่าถึงจุดเปลี่ยนของวงการอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค การขยายตัวของธุรกิจ รวมทั้งผู้เล่นรายใหม่ที่เกิดขึ้นจำนวนมาก รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้การดำเนินธุรกิจในรูปแบบเดิมไม่สอดรับกับสถานการณ์ พฤกษาจึงต้องปรับเปลี่ยนโมเดลทางธุรกิจอีกครั้ง ด้วยการก้าวข้ามจากการเป็น Operation company มีโรงงานพรีคาสท์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มาสู่การเป็น Thinking Company ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ลดขนาดโครงการลงทุนให้เหมาะสม และมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก

ปิยะ กล่าวว่า การเปลี่ยนบิสิเนส โมเดลใหม่ครั้งนี้ ถือเป็นการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรใหม่ หันมาโฟกัสที่ความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก โดยไม่จำเป็นต้องขยายการลงทุนก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ซึ่งทำให้บริษัทต้องแบกต้นทุนค่าก่อสร้างและดอกเบี้ย ที่ผ่านมาบริษัทมีต้นทุนทรัพย์สินประมาณ 5–6 หมื่นล้านบาทต่อปี มีเป้าหมายจะลดขนาดโครงการลงทุนให้เหลือประมาณ 4 หมื่นล้านบาทต่อปี และมุ่งเพิ่มยอดขายต่อโครงการให้มากขึ้น พร้อมปรับลดทีมผู้รับเหมาให้สอดคล้องกับการก่อสร้าง และเน้นขยายพันธมิตรให้มากขึ้น

“ที่ผ่านมา พฤกษามุ่งขยายโครงการจำนวนมาก ปีละ 70–80 โครงการ แต่ปี 2563 ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจ และผลกระทบจากโควิด-19 มีการเปิดตัวโครงการใหม่เพียง 13 โครงการ และมุ่งบริหารจัดการสินทรัพย์ที่มี เพื่อเคลียร์สินทรัพย์ที่มีอยู่ให้จบ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จในปี 2565 ระหว่างนี้ถือเป็นโอกาสของลูกค้าที่ต้องการมีบ้านจะได้ของดี ราคาถูก” ปิยะกล่าว

พฤกษาคิกออฟแผนปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ และให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ตั้งแต่ปลายปี 2563 ที่ผ่านมา ผ่านฮีโร่โปรเจ็ค พร้อมจัดแคมเปญต่อเนื่องในปีนี้ด้วย “PRUKSA FREE FEST มหกรรมแจกฟรี” ถือเป็นแคมเปญที่ดีที่สุดสำหรับคนซื้อบ้านที่สามารถเลือกรับสิทธิพิเศษ อยู่ฟรี หรือ ดอกเบี้ยฟรี หรือ ส่วนกลางฟรี ตลอดระยะเวลา 36 เดือน เมื่อจองทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยวและคอนโดของพฤกษาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคมนี้

<img class="alignnone size-full wp-image-43384" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/ปิยะ-ประยงค์_006.jpg" alt="" width="640" height="427" />

ก้าวสู่ Year of Value

สำหรับปี 2564 ปิยะ วางยุทธศาสตร์ให้เป็น Year of Value ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) โดยมุ่งสร้างคุณค่าให้กับ 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ ลูกค้า พนักงาน และองค์กร ในด้านลูกค้า อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ปีนี้จะเป็นปีที่ลูกค้าของพฤกษา จะได้มีบ้านในราคาคุ้มค่า และมีโปรโมชั่นดีที่สุด ขณะเดียวกันในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ต่อจากนี้ไปจะมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการมีพื้นที่ ฟังก์ชันการใช้งานที่สอดรับกับชีวิตวิถีใหม่ โดยจะมีการพัฒนาโครงการใหม่ประมาณ 30 โครงการ

บริษัท กำหนดแนวทางสร้างคุณค่าให้ลูกค้า 8 ด้านด้วยกัน ได้แก่ ทำเล ฟังก์ชัน การออกแบบ ความยืดหยุ่น สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย บริการ และการสร้างแบรนด์ โดยแต่ละโครงการจะต้องสอดรับกันระหว่างความต้องการและที่อยู่อาศัย ในขณะที่ราคาจะเป็นสิ่งกำหนดความคุ้มค่า

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการวางแผนรองรับอนาคต บริษัทได้ลงทุนร่วมกับเครื่องโรงพยาบาลวิมุต เปิดศูนย์ดูแลสุขภาพ ประกอบด้วยคลินิก ศูนย์กายภาพ ศูนย์ดูแลและบริบาลผู้สูงอายุ รวมทั้งการให้บริการดูแลสุขภาพถึงบ้าน ให้กับลูกบ้านของพฤกษา รวมทั้งพัฒนาโครงการที่จะตอบสนองความเป็นอยู่ที่ดีของผู้สูงวัย

“การร่วมมือกับโรงพยาบาลวิมุต ถือเป็นตัวอย่างของคุณค่า ที่บริษัทต้องการสร้างให้กับลูกค้า ขณะเดียวกันก็สร้างคุณค่าการเติบโตให้กับองค์กรอย่างยั่งยืนในอนาคต” ปิยะกล่าว

ในด้านพนักงาน และองค์กร ปีนี้จะถือเป็นปีที่ดีสำหรับพฤกษา ด้านการเติบโตบริษัทวางเป้าหมายเติบโตจากปีก่อนร้อยละ 50 หรือมีรายได้ 3.2 พันล้านบาท และแน่นอนบริษัทจะตอบแทนคุณค่าให้กับพนักงานด้วยโบนัส ซึ่งถือเป็นขวัญ และกำลังใจ ให้พนักงานมุ่งสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าและองค์กรต่อไป

นี่คืออีกหนึ่งกลยุทธ์ในการปรับตัวของผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย ภายใต้การนำของ ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท ที่ยึดมั่นในหลักพุทธศาสนาในการดำเนินชีวิต และการบริหารงาน รวมทั้งใช้การวิ่งออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย เพื่อมุ่งสร้างคุณค่าให้องค์กรต่อไป

ภาพ: พฤกษาฯ for ForbesThailand


<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘ปิยะ ประยงค์’ ปั้นพฤกษา สู่ Thinking Company

<h2 class="p3">พฤกษา ประกาศแผนธุรกิจปี 2563 ชู 5 กลยุทธ์ระยะสั้นและระยะยาว รักษาแชมป์ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ท้าทาย ตั้งเป้ายอดขาย 38,000 ล้านบาท และรายได้ 40,000 ล้านบาท รุกเปิดโครงการใหม่ 30 โครงการ มูลค่า 36,000 ล้านบาท</h2>
สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2563 นี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังมีความท้าทาย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เป็นผู้นำตลาดจะมีความได้เปรียบกว่ารายเล็ก
<img class="alignnone size-full wp-image-27173" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/02/pruksa02.jpg" alt="" width="720" height="403" />
โดยในปีนี้พฤกษาตั้งเป้ายอดขายที่ 38,000 ล้านบาท และเป้ารายได้รวมที่ 40,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับผลงานดำเนินงานปีที่แล้ว โดยมีการปรับกลยุทธ์ในการรุกธุรกิจอสังหาฯ อย่างรัดกุมในทุกมิติ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวให้เติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแรง ภายใต้ 5 กลยุทธ์หลัก เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ได้แก่
1.Strengthen Core Business รักษาฐานกลุ่มธุรกิจหลักของพฤกษา ออกแบบสินค้า ฟังก์ชั่น และ IoT รองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละเซ็กเมนต์ และพร้อมขยายเซ็กเมนต์ไปกลุ่มบนมากขึ้น ที่ผ่านมาพฤกษาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการเปิดขายโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี โดยมีอัตราการขาย (Take up rate) มากกว่า 50% ในปีนี้จึงมีแผนเปิดโครงการ “เดอะ ปาล์ม” อีก 2 โครงการบนทำเลศักยภาพ เพื่อเจาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อมากขึ้น รวมถึงทาวน์เฮาส์ที่จะขยายไปยังเซ็กเมนต์ 3-5 ล้านบาทมากขึ้นภายใต้แบรนด์พฤกษาวิลล์และเดอะคอนเนค พร้อมใช้แบรนด์พาทิโอ ขยายตลาดเจาะกลุ่มทาวน์เฮาส์ระดับลักชัวรี
2.Innovation and Data Tech เพิ่มช่องทางการขายในรูปแบบใหม่ ตอบโจทย์ลูกค้าให้ครบในทุกมิติ และพัฒนา Data Science ในการวิเคราะห์ฐานข้อมูลลูกค้าพร้อมทั้งนำเสนอโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ รวมไปถึงการเพิ่มขีดความสามารถของดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

3.Asset Management เน้นขายโครงการที่เป็น inventory โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม และเลือกเปิดขายโครงการใหม่เฉพาะทำเลที่มีศักยภาพในช่วงเวลาเหมาะสมกับสภาพตลาด ควบคุมการก่อสร้างและวัสดุเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงกลยุทธ์ในการเลือกซื้อที่ดิน

4.Recurring Income สร้างรายได้อย่างต่อเนื่องด้วยการผลิตแผ่นคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปเพื่อขายให้กับหน่วยงานภายนอก พฤกษามีโรงงานที่มีกำลังการผลิตสูงที่สุดและใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับพฤกษาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มดำเนินการในปีนี้ ในขณะที่ธุรกิจโรงพยาบาลวิมุต การก่อสร้างยังเป็นไปตามแผน คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนพฤษภาคม 2564

5.Bottom Line การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้กำไรสูงขึ้น ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มีการ Optimize ดีไซน์ของตัวบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละเซ็กเมนต์ รวมถึงเพิ่มการใช้ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งให้มากขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงสุด 
โดยปี 2563 มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม 30 โครงการ มูลค่า 36,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ทาวน์เฮาส์ 18 โครงการ บ้านเดี่ยว 6 โครงการ คอนโดมิเนียมกลุ่มแวลู 4 โครงการ และคอนโดมิเนียมกลุ่มพรีเมียม 2 โครงการ เน้นทำเลที่มีศักยภาพและมีความต้องการซื้อจริง โดยจะเปิดขายในช่วงจังหวะที่เหมาะสม ควบคู่กับสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง โดยหัวใจสำคัญคือพัฒนาคุณภาพบ้านพร้อมนวัตกรรมการอยู่อาศัย เพื่อส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า 
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้ 35,601 ล้านบาท รายได้ 39,885 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 5,359 ล้านบาท เปิดตัวโครงการทั้งสิ้น 36 โครงการ มูลค่า 41,170 ล้านบาท แม้จะยังไม่ถึงตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากมีการเลื่อนบางโครงการมาเปิดในปีนี้ แต่โดยรวมถือว่ายังเป็นที่น่าพึงพอใจ เนื่องจากปีที่ผ่านมามีปัจจัยที่เหนือการควบคุมไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย รวมถึงมาตรการ LTV ที่ทำให้ตลาดหดตัวลง
<img class="alignnone size-full wp-image-27174" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/02/pruksa03.jpg" alt="" width="720" height="403" />
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่าสูงถึง 29,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ 10,900 ล้านบาท ที่เหลือจะทยอยรับรู้ใน 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ จะมีการเปิดขายโครงการใหม่ 30 โครงการ รวมถึงการเร่งดำเนินธุรกิจขายแผ่นพรีคาสท์ จะทำให้พฤกษามีรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 1.55 บาท โดยจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 จึงคงเหลือจ่ายเงินปันผลในรอบนี้ในอัตราหุ้นละ 0.95 บาท โดยจะนำเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในที่ 29 เมษายน 2563 และกำหนดจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2563
&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม
<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/property/%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b8%af-%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b9%81%e0%b8%9c%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b8%a3.html">อนันดาฯ ปรับแผนเพิ่มแกร่งขยายแหล่งรายได้ใหม่ เล็งผุดมิกซ์ยูสร่วมกับบีทีเอส</a></li>
</ul>
&nbsp;

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

พฤกษา กาง 5 กลยุทธ์รักษาแชมป์อสังหาฯ โชว์ผลงานปี 62 ทำกำไร 5,359 ล้านบาท

คุณปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท แวลู          บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แบรนด์ The Palm เป็นโครงการบ้านเดี่ยว    ในระดับไฮเอนด์ที่สุดของบริษัท โดยปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 10% ของรายได้รวม ตั้งเป้าหมายเปิดโครงการหรูบนทำเลศักยภาพหลายทำเลในกรุงเทพฯ จะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ผลักดันให้สัดส่วน รายได้    จากโครงการระดับไฮเอนด์ขยับขึ้นมาเป็น 1 ใน 3 ได้ภายใน 4 ปี (พ.ศ.2566)

“ปัจจุบันตลาดบ้านเดี่ยวของพฤกษามี 3 แบรนด์ คือ แบรนด์เดอะแพลนท์ บ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาทเจาะกลุ่มลูกค้าบ้านเดี่ยว หลังแรกด้วยคอนเซ็ปต์ครีเอทีฟลีฟวิ่ง แบรนด์ภัสสร ราคา 5-10 ล้านบาท    เจาะกลุ่มบ้านเดี่ยวหลังที่สองแนวสไตล์ลิสต์เฮาส์ และ แบรนด์เดอะปาล์ม ราคา 10-30 ล้านบาท บ้านหรูระดับไฮเอนด์ด้วยคอนเซ็ปต์มาสเตอร์ลีฟวิ่ง เป็นบ้านเดี่ยวที่ตอบรับความต้องการของผู้นำและนักธุรกิจ    รุ่นใหม่ ที่ภูมิใจกับความสำเร็จในชีวิต”

<img class="alignnone size-full wp-image-21128" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/7-1.jpg" alt="" width="720" height="480" />

<img class="alignnone size-full wp-image-21129" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/2-1.jpg" alt="" width="720" height="480" />

คุณปิยะกล่าวว่า บริษัทเริ่มเข้าสู่ตลาดบ้านเดี่ยวแบรนด์ไฮเอนด์เมื่อสองปีที่ผ่านมา ด้วยโครงการ The Palm พัฒนาการ 38 ทำเลใกล้ทางด่วน ใกล้สุขุมวิท ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีเกิดคาด ส่งผลให้สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 300 ล้านบาทหลังเปิดตัวได้เพียง 1 สัปดาห์ ด้วยความได้เปรียบทั้งด้านทำเล และคอนเซ็ปต์    ทุกฟังก์ชันใช้สอยภายในบ้านกว้างขวางโอ่อ่า ตอบสนองการใช้ชีวิตในแบบลักซัวรี่ บนพื้นที่ใช้สอยประมาณ 200-400 ตารางเมตร ห้องนอนมาตรฐานที่มากถึง 4 ห้อง (รวมห้องแม่บ้านเป็น 5 ห้องนอน) และที่จอดรถ 3-4 คัน

ปัจจุบัน แบรนด์เดอะปาล์มใน 2 ทำเล (รวม 1 โครงการที่ภูเก็ต) สามารถสร้างรายได้ให้บริษัทในสัดส่วนประมาณ 10%  “แบรนด์เดอะปาล์มจะช่วย uplift แบรนด์พฤกษาให้ดีขึ้น และผลักดันรายได้จากบ้านเดี่ยวในระดับไฮเอนด์ให้มีสัดส่วนมากขึ้น ส่งผลให้อัตราส่วนการทำกำไรของบริษัทให้มีความกว้างและ      ความสมดุลมากขึ้น ส่งผลดีต่อทั้งนักลงทุนที่ลงทุนในกิจการ ในขณะที่ลูกค้าก็จะได้รับประโยชน์จากการ  ได้อยู่อาศัยบ้านคุณภาพสูงด้วยราคาที่สมเหตุสมผล

<figure><img class="wp-image-21130 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/1-1.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> คุณปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท แวลู บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)</figcaption></figure>

ปิยะกล่าวว่า เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากบ้านเดี่ยวระดับหรู ในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่ “เดอะปาล์ม กรุงเทพกรีฑา-วงแหวน” จำนวน 91 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ    1,400 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จภายใน 2.5 ปี ซึ่งจะเปิดโซน Exclusive Zone ติดคลับเฮาส์    ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นโซนที่ดีที่สุดก่อนแค่เฉพาะในวันงาน

โดยโครงการแบ่งเป็นบ้านเดี่ยวขนาด 222-292 ตารางเมตร ที่ดิน 62-100 ตารางวา ราคา10-20 ล้านบาท ทุกหลังใช้เทคโนโลยี ที่อยู่อาศัย (Pruksa Living Tech) ในระดับสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ ด้วยระบบระบายอากาศในบ้าน ระบบระบายอากาศ และความร้อนออกสู่นอกบ้าน ทำให้อุณหภูมิจะต่ำกว่าข้างนอก  1 องศา การประหยัดพลังงาน คลับเฮาส์ต่างๆ ใช้โซลาร์เซลล์ ที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยประหยัดค่าใช้จ่าย  ส่วนกลาง ระบบความปลอดภัย Tripple Securities มีประตูกั้นรถและบุคคลภายนอก กล้องวงจรปิด (CCTV) เมื่อเข้ามาในโครงการ ภายในบ้านมีประตูหน้าต่างด้วยตัวล็อคแมกเนติก

นอกจากนี้ยังใส่ใจพิถีพิถันทุกรายละเอียดด้วยการคัดสรรวัสดุระดับ World Class อย่างพื้นไม้คุณภาพ Hybrid Engineered Floor ผลิตจากประเทศเบลเยี่ยม ที่นอกจากดีไซน์ที่สวยงาม มีลวดลายเสมือนไม้จริงยังมีเทคโนโลยี Scratch Guard ที่ปกป้องพื้นผิวจากรอยขีดข่วนได้มากถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับพื้นไม้ Engineered Flooring

ปิยะกล่าวว่า ในปี 2563 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการเดอะปาล์มแจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์ และ
โครงการเดอะปาล์ม บางนา-วงแหวน ในไตรมาส 3 เพิ่มเติมอีกด้วย

<hr />

เตรียมสัมผัสความสมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียดของการใช้ชีวิตที่ ‘เดอะปาล์ม กรุงเทพกรีฑา-วงแหวน’ เร็วๆ นี้ ลงทะเบียนรับข้อมูลโครงการและสิทธิพิเศษเหนือระดับก่อนใคร คลิก  <a href="http://bit.ly/2kqHzJ3">http://bit.ly/2kqHzJ3</a>

พฤกษาตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์แตะ 1 ใน 3 ของพอร์ตรายได้ ภายใน 4 ปี สร้างสมดุลการเติบโตในระยะยาว ส่งแบรนด์ The Palm จับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์  ประเดิมสุดยอดทำเลกรุงเทพกรีฑา-วงแหวน

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events