10 อันดับ บริษัทนายจ้างที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2024 

<h2>‘อิคาโน่ รีเทล’ ผู้ถือแฟรนไชส์อิเกียในประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ เม็กซิโก และฟิลิปปินส์ เผยรายได้ในปีงบประมาณ 2567 รวมราว 4 หมื่นล้านบาท โดยรายได้ในไทยอยู่ที่กว่า 1 หมื่นล้านบาท เติบโต 3.9% จากปีงบก่อนหน้า ล่าสุดปีนี้ประกาศลดราคาสินค้ากว่า 2,400 รายการ และประกาศลดราคาค่าบริการจัดส่งโดยรถบรรทุก เพื่อช่วยลูกค้ารับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อิคาโน่ รีเทล เป็นหนึ่งในผู้ได้รับสิทธิ์อนุญาตแฟรนไชส์อิเกียจาก 12 รายทั่วโลก ปัจจุบันมีสโตร์รูปแบบออมนิชาเนล 14 แห่ง และสโตร์ภายในศูนย์การค้าอีก 5 แห่ง รายงานผลประกอบการที่เติบโตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับในประเทศไทย อิคาโน่ รีเทล เป็นเจ้าของและดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางออมนิชาแนลหรือการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าที่หลากหลายช่องทาง พร้อมบริหารจัดการสโตร์อิเกีย 4 แห่ง ได้แก่ อิเกีย บางนา, อิเกีย บางใหญ่, อิเกีย ภูเก็ต และอิเกีย สุขุมวิท ซึ่งเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในตลาดประเทศไทยด้วยยอดขายที่โตขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และปิดยอดปีงบประมาณ 2567 ณ วันที่ 31 สิงหาคม ด้วยรายได้รวมทั้งสิ้นกว่า 1 หมื่นล้านบาท (ราว 286 ล้านยูโร)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ รายได้ปีงบประมาณ 2567 (กันยายน 2566 - สิงหาคม 2567) ของสโตร์อิเกีย และอิคาโน่ เซ็นเตอร์ในแต่ละประเทศ มีดังนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-สิงคโปร์ 9.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6% จากปีที่แล้ว &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-มาเลเซีย 1.1 หมื่นล้านบาท ลดลง 4.2% จากปีที่แล้ว &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-ไทย กว่า 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% จากปีที่แล้ว &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-เม็กซิโก 3.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.8% จากปีที่แล้ว &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;-ฟิลิปปินส์ 5.2 พันล้านบาท ลดลง 2.0% จากปีที่แล้ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวมทั้งอิคาโน่ รีเทล รายได้อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% จากปีที่แล้ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ธุรกิจทั่วโลกต่างเผชิญปีที่ยากลำบาก อิเกียก็เช่นกัน” คริสเตียน รอยเคียร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อิคาโน่ รีเทล กล่าว ยอมรับถึงผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้นที่กระทบการใช้ชีวติตของผู้บริโภค “แต่การรวมตัวกันเพื่อร่วมเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาสใหม่ๆ คือแก่นแท้ของวัฒนธรรมองค์กร์ของอิคาโน่และอิเกีย” รอยเคียร์ กล่าวเสริม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แม้ว่าแต่ละตลาดจะมีผลประกอบการที่แตกต่างกันไป บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นลดราคาสินค้าตกแต่งบ้านที่จำเป็นและเป็นไอเท็มขายดี รวมถึงสินค้าประเภทอาหารและบริการต่างๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราพร้อมสนับสนุนให้ผู้บริโภคประหยัดในวิถีทางที่ส่วนที่เราจะทำได้ เพราะเราเข้าใจดีว่าสถานการณ์เช่นนี้ยากลำบากแค่ไหนสำหรับครัวเรือนที่อาจมีกำลังซื้อน้อย” รอยเคียร์กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในช่วงเวลาที่เงินเฟ้อและค่าครองชีพสูง อิเกีย ประเทศไทยเลือกที่จะอยู่เคียงข้างผู้คนจำนวนมาก ด้วยการลงทุนลดราคาสินค้าเพื่อช่วยให้คนไทยที่กำลังประสบปัญหาทางการเงินสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนที่สำคัญ บริษัทฯ เดินหน้าประกาศลดราคาสินค้าอีกครั้งในปีนี้กว่า 2,400 รายการ โดยมากกว่า 85% เป็นสินค้าจำเป็นหรือสินค้าขายดีในประเทศ ตั้งแต่กล่องเก็บของขนาดเล็ก ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ชุดครัว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ อิเกีย ประเทศไทยยังได้ลดราคาค่าบริการจัดส่งโดยรถบรรทุก เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้ใช้เงินเก็บที่หามาอย่างยากลำบากให้คุ้มค่าที่สุด​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/u2cq628qdDazMSQcXx5K.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="u2cq628qdDazMSQcXx5K.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,479" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สินค้าประเภทอุปกรณ์จัดเก็บยังคงตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มองหาวิธีจัดการพื้นที่ในการอยู่อาศัย สินค้าจากคอลเล็คชั่น MALM/ มาล์ม PAX/ พักซ์ และ BILLY/บิลลี่ ครองยอดขายสูงสุด 3 อันดับแรกตามลำดับ โดยคำนวณจากยอดขายรวมในอิเกียทั้ง 14 สโตร์ของอิคาโน่ รีเทล&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เฉพาะอิเกีย ประเทศไทยเพียงประเทศเดียว มีลูกค้าซื้อชั้นหนังสือ BILLY/ บิลลี่ ถึง 34,460 ชิ้น เนื่องจากมีความต้องการจัดระเบียบพื้นที่ภายในบ้านและที่ออฟฟิศเป็นจำนวนมาก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในขณะเดียวกัน สินค้าและบริการด้านอาหาร ยังเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้บริโภคในทุกๆ ตลาด โดยในปีที่ผ่านมา อิเกียได้ต้อนรับผู้เข้าใช้บริการกว่า 14.5 ล้านครั้งในร้านอาหารอิเกีย คาเฟ่ บิสโทร และมุมอาหารและขนมสวีเดน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ยอดขายอาหารรวมลดลง 3% ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากอุปทานอาหารทั่วโลก แต่ธุรกิจจะยังคงตอบสนองความต้องการลูกค้าที่มองหาตัวเลือกอาหารที่อร่อยในราคาที่เข้าถึงได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากสโตร์อิเกียแล้ว อิคาโน่ รีเทล ยังพัฒนาที่ดินและลงทุนด้านการสร้างที่อยู่อาศัย สำนักงาน และโครงการมิกซ์ยูสต่างๆ ผ่านธุรกิจอิคาโน่ เซ็นเตอร์ ซึ่งมีการดำเนินงานภายในห้างสรรพสินค้า 5 แห่ง ที่ประเทศมาเลเซีย ประเทศไทย สถานที่เหล่านี้สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังเป็นแหล่งนัดพบของผู้คนในชุมชน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านมา เมกาบางนายังคงเป็นสถานที่เคาท์ดาวน์ยอดนิยมในกรุงเทพฯ โซนตะวันออกจากการจัดงาน Mega Countdown 2024 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 371,000 คน มาร่วมชมการแสดงสดบนเวที นับถอยหลังสู่ปีใหม่ และชมการแสดงพลุสุดตระการตา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ต้องขอบคุณทีมอิคาโน่ รีเทลเป็นอย่างมากที่พาเราผ่านปีนี้มาได้ โดยช่วยทำให้องค์กรของเราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและคล่องตัวยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยกระดับโมเดลธุรกิจออมนิชาแนลที่มีสโตร์เป็นศูนย์กลางของเราให้มุ่งเน้นความต้องการของลูกค้ามากกว่าที่เคย” รอยเคียร์กล่าวปิดท้าย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/marketing/first-post-coffee-launched" alt="‘ไปรษณีย์ไทย’ มีร้านกาแฟแล้ว เปิดตัว “POST Cafe สามเสนใน” เดินหน้าก้าวสู่แบรนด์ไลฟ์สไตล์เต็มตัว">‘ไปรษณีย์ไทย’ มีร้านกาแฟแล้ว เปิดตัว “POST Cafe สามเสนใน” เดินหน้าก้าวสู่แบรนด์ไลฟ์สไตล์เต็มตัว</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ปีงบ 67 ‘อิคาโน่ รีเทล’ ผู้ถือแฟรนไชส์ ‘อิเกีย’ กวาดรายได้ในไทยกว่า 1 หมื่นล้าน

<h2>IKEA ท้าชิงตลาดเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านมือ 2 เปิดตัว Ikea Preowned แพลตฟอร์มซื้อขายแบบ Peer-to-peer เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำการซื้อขายเฟอร์นิเจอร์มือ 2 กันได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น เผยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Ikea Preowned เริ่มเปิดให้ทดลองใช้งานในเมืองมาดริด ประเทศสเปน และเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์แล้ว โดยมีแผนจะขยับขยายบริการไปทั่วโลกภายในสิ้นปี 2024 นี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Jesper Brodin ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ingka Group ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการหลักในการดูแลร้าน IKEA เผยว่า “นี่เป็นความฝันที่พวกเราตั้งใจทำมาสักพักแล้วครับ เราอยู่ในจุดที่สามารถพา IKEA ให้ทำสิ่งล้ำหน้าและมีประโยชน์ได้ เรามั่นใจอย่างมากในการวิวัฒน์บริษัทสู่ดิจิทัล”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;IKEA เคยเป็นร้านนอกเมืองที่ลูกค้าต้องเดินทางมารับและนำเฟอร์นิเจอร์ไปประกอบเอง ก่อนจะปรับรูปแบบธุรกิจให้มีการขายผ่านช่องทางออนไลน์ มีร้านอยู่ใจกลางเมือง และบริการต่างๆ เช่น การประกอบเฟอร์นิเจอร์ แพลตฟอร์มซื้อขายใหม่นี้นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของก้าวต่อไปของ IKEA ที่ต้องการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ซึ่งพวกเขาก็เริ่มดำเนินการมาหลายปีแล้ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อันที่จริง IKEA มีการซื้อเฟอร์นิเจอร์เก่าจากลูกค้าและนำมาขายเป็นมือ 2 ที่ร้านอยู่แล้ว แต่แพลตฟอร์มใหม่นี้มีความทะเยอทะยานกว่านั้น โดยตั้งเป้าไว้ที่การเข้าร่วมตลาดสินค้ามือ 2 ด้วยการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถขายเฟอร์นิเจอร์ให้กันได้โดยตรง ซึ่ง Brodin มองว่า Ikea มีส่วนแบ่งการตลาดในเฟอร์นิเจอร์มือ 2 สูงกว่ายอดขายสินค้ามือหนึ่งเสียอีก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บน Ikea Preowned ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ ลูกค้าสามารถลงขายสินค้าของตัวเอง อัปโหลดรูปภาพ และตั้งราคา ผู้ซื้อสามารถรับเฟอร์นิเจอร์จากผู้ขายได้โดยตรงไม่ต้องผ่าน IKEA อีกทั้งยังมีตัวเลือกว่าผู้ขายจะรับเงินหรือวอยเชอร์จาก IKEA พร้อมโบนัส 15%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Brodin เผยว่าแพลตฟอร์มบริการซื้อขายมีน้อยรายจนอาจเข้าขั้นผูกขาด เช่น แพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง eBay, Gumtree ในสหราชอาณาจักร และ Finn ในนอร์เวย์ ซึ่ง Finn มีสินค้า IKEA วางขายบนแพลตฟอร์มถึง 8,700 ชิ้นแค่ในเขตเมืองออสโลเพียงเมืองเดียว สำหรับการเปิดตัว Ikea Preowned มีทั้งเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ไปจนสินค้าชิ้นเล็ก การนำสินค้าเหล่านั้นขึ้นขายบนแพลตฟอร์มไม่มีค่าบริการ Brodin เผยว่า IKEA อาจมีการเก็บค่าธรรมเนียมพอเป็นพิธี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;IKEA เคยทดสอบการขายเฟอร์นิเจอร์บนแพลตฟอร์มอื่นมาก่อน เช่น Tmall ของ Alibaba ในจีน แต่ Ikea Preowned นับเป็นก้าวแรกสำหรับตลาดสินค้ามือ 2 นอกจากนี้ยังเป็นหนทางหนึ่งในการผลักดันสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมภายในปี 2030 อันเป็นเป้าหมายที่ IKEA เคยประกาศเอาไว้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ก่อนหน้านี้ในปี 2022 ทาง IKEA เคยมีแผนจะนำเสนอการชอปปิ้งออนไลน์ทั่วโลกภายใน 3 ปี แต่การแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้พวกเขาต้องเร่งมือเหลือเพียง 6 สัปดาห์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นั่นเป็นเรื่องของความอยู่รอดของเราเลยครับ” Brodin เล่า “ร้านเราปิดหมด 100 เปอร์เซ็นต์ การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลช่วยเราไว้”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ingka Group เผยว่าตอนนี้ IKEA ต้องการพัฒนาแพลตฟอร์มที่เป็น “หากจะซื้อเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้าน ก็ต้องนึกถึงที่นี่” โดยแพลตฟอร์มซื้อขายเป็นเพียง “หนึ่งในส่วนที่มีความสำคัญที่สุด” เท่านั้น ส่วนอื่นๆ ที่สำคัญไม่แพ้กัน ได้แก่ บริการ การเงิน การออกแบบบ้าน และประสบการณ์การชอปปิ้ง แปลและเรียบเรียงจาก&nbsp;<a href="https://www.irishtimes.com/business/2024/08/26/ikea-launches-secondhand-marketplace-to-compete-with-ebay/" alt="Ikea launches second-hand marketplace to compete with eBay">Ikea launches second-hand marketplace to compete with eBay</a>​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/travel/thai-people-visit-japan-repeatedly-the-most" alt="ญี่ปุ่นทั้งใจ! อโกด้าเผยญี่ปุ่นคือจุดหมายปลายทางที่ ‘ชาวไทย‘ กลับไปเที่ยวซ้ำมากสุด">ญี่ปุ่นทั้งใจ! อโกด้าเผยญี่ปุ่นคือจุดหมายปลายทางที่ ‘ชาวไทย‘ กลับไปเที่ยวซ้ำมากสุด</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

IKEA เปิดตัว Ikea Preowned แพลตฟอร์มซื้อขายเฟอร์นิเจอร์มือ 2 นำร่องก่อนที่สเปนและนอร์เวย์

<h2>IKEA ทำการตลาดเชิงรุก จัดแคมเปญ 'IKEA Road Tour' ครั้งแรกในประเทศไทยใน 9 ทำเลต่างจังหวัด พร้อมใช้กลยุทธ์กระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคด้วยการปรับลดราคาสินค้าบางรายการลง 25% </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;IKEA แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านยักษ์ใหญ่จากสวีเดน เดินหน้าจัดแคมเปญ 'IKEA Road Tour'&nbsp;รุกตลาดต่างจังหวัดตามหัวเมืองหลักและเมืองรองใน 9 พื้นที่ โดย&nbsp;ลีโอนี่ ฮอสกิ้น ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก อิเกีย ประเทศไทย และเวียดนาม เผยว่า จากเดิมแนวทางการขยายธุรกิจในไทยช่วงที่ผ่านมา จะเน้นรูปแบบการเปิดสาขา และการขยายผ่านออนไลน์ ปัจจุบัน IKEA ประเทศไทยมีฐานลูกค้าสมาชิกมากกว่า 1.5 ล้านคน ซึ่งแนวทางหรือกลยุทธ์สำหรับสร้างการเติบโตในปี 2567 นี้ ยังคงไม่มีแผนขยายหรือเปิดสาขาใหม่เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนสูงประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ยังคงซบเซา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;"ภาพรวมตลาดหลักของโฮมเฟอร์นิชชิ่ง 49% คืออยู่ในกรุงเทพฯ ดังนั้นเราจึงใช้กลยุทธ์การจัดทำโรดทัวร์ออกไปตามต่างจังหวัดเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าตามหัวเมืองต่างๆ ได้รู้จักแบรนด์มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็จะมีการจำหน่ายสินค้าต่างๆ รวมถึงสินค้าคอลเล็กชันพิเศษ ‘AURTIENDE/ออเทียนเด’ ที่เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยให้ผู้บริโภคได้สัมผัสและเลือกซื้อไปใช้กัน" ลีโอนี่ กล่าว <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/XeKLUCphbLeLEmhL94EG.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="XeKLUCphbLeLEmhL94EG.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"><figcaption>ลีโอนี่ ฮอสกิ้น ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก อิเกีย ประเทศไทย และเวียดนาม</figcaption></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/PhbrSZUPrgKinpNfk4xf.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="PhbrSZUPrgKinpNfk4xf.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ การจัดโรดทัวร์ตลอดทุกวันศุกร์-อาทิตย์ นับตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน ต่อเนื่องไปถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2567 ใน 9 พื้นที่ได้แก่ ระยอง, พัทยา, ชลบุรี, นครราชสีมา, อ.เมือง เชียงใหม่, อ.หางดง เชียงใหม่, หัวหิน, สุราษฎร์ธานี และ ภูเก็ต&nbsp;ตามลำดับ ซึ่งทางอิเกียได้พิจารณาเลือกพื้นที่ดังกล่าวจากฐานข้อมูลทางการตลาด, การขนส่งผลิตภัณฑ์ รวมถึงทำเลที่ตั้งของฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์เป็นหลัก โดยได้ร่วมกับทางแม็คโครห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ในการใช้สถานที่บริเวณลานจอดรถเพื่อเป็นที่ตั้งสำหรับการจัดป๊อปอัพแสดงและจำหน่ายสินค้าแบบชั่วคราวตามแต่ละพื้นที่ที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปในแต่ละอาทิตย์​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม คาดว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยดึงดูดให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายหันมาซื้อสินค้าต่างๆ ผ่านออนไลน์ทางเว็บไซต์ของอิเกียเพิ่มขึ้น จากการจัดทำโปรโมชั่นราคาที่ดึงดูดใจสำหรับการสั่งซื้อของที่มีน้ำหนักไม่เกิน 25 กิโลกรัม คิดค่าจัดส่งทั่วไทยในราคาแค่ 99 บาท และหากเป็นของชิ้นใหญ่ที่ต้องขนส่งด้วยรถบรรทุก ค่าจัดส่งจะเริ่มต้นที่ 590 บาท ถือเป็นราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด 4-5 เท่า เมื่อเทียบกับค่าจัดส่งของไปยังเชียงใหม่หรือภูเก็ตเป็นต้น​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/VaHFv9nm1dTGx31GRDj1.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="VaHFv9nm1dTGx31GRDj1.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;"นอกจากค่าจัดส่งที่จะช่วยเพิ่มความคุ้มค่า คุ้มราคาแล้ว ทางอิเกียยังปรับลดราคาสินค้าบางรายการถึง 25% เพื่อให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาใช้จ่ายสินค้าของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์เพื่อปรับแต่งบ้านให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น สำหรับแผนการขยายหรือเปิดสาขาเพิ่มนั้น ทางอิเกียยังไม่มีแผนภายใน 2 ปีข้างหน้าแต่อย่างใด แต่ในอนาคตย่านทำเลกรุงเทพฯ ตอนเหนืออย่าง 'รังสิต' ถือเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลในเรื่องกําลังซื้อของผู้บริโภค จํานวนประชากรในพื้นที่ และความพร้อมของตลาดประกอบกัน ซึ่งนอกจากทำเลในไทยแล้วประเทศในตลาดภูมิภาคอาเซียนอย่าง เวียดนาม ก็ถือเป็นอีกทำเลที่น่าสนใจสำหรับการขยายสาขาใหม่ภายใน 2-3 ปีนี้เช่นกัน"&nbsp;ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก อิเกีย ประเทศไทย และเวียดนาม กล่าวทิ้งท้าย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/bb7Zjeu38c64QXH5BssN.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="bb7Zjeu38c64QXH5BssN.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div> ​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://www.forbesthailand.com/news/global/marketing/japan-7-eleven-targets-aggressive-global-growth" alt="บริษัทแม่ 7-Eleven ในญี่ปุ่น ประกาศขยายสาขาไปทั่วโลก ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 100,000 สาขาในปี 2030">บริษัทแม่ 7-Eleven ในญี่ปุ่น ประกาศขยายสาขาไปทั่วโลก ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 100,000 สาขาในปี 2030</a>​​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

IKEA รุกตลาดต่างจังหวัดจัด Road Tour 9 พื้นที่  พร้อมกระตุ้นยอดขายโดยลดราคาสินค้าบางรายการ 25%

<h2>อิเกีย ประเทศไทย ประกาศเปิดรับสมัครพนักงานประจำและพนักงานพาร์ทไทม์กว่า 100 ตำแหน่ง ภายในงาน “อิเกียเปิดบ้าน ต้อนรับเพื่อนร่วมงานใหม่” เดินหน้าปั้นทีมงานเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดตัว “อิเกีย สุขุมวิท” สโตร์อิเกียแห่งที่ 4 ในไทยช่วงปลายปี 2566 ที่จะถึงนี้</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พร้อมเชิญชวนทุกคนให้มาร่วมเติบโตไปด้วยกันกับอิเกียในแบบที่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา อายุ เพศสภาพ หรือรสนิยมส่วนบุคคล เพื่อส่งเสริมโอกาสในการทำงานที่เปิดกว้าง โอบรับความหลากหลายและมอบความเท่าเทียมอย่างแท้จริง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพี่อกรอกใบสมัครงานล่วงหน้าผ่าน เว็บไซต์อิเกีย ประเทศไทย หรือเข้าร่วมงานเปิดบ้าน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในวันศุกร์ที่ 12 และวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม 2566 &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการมอบโอกาสให้แก่บุคลากรโดยวิสัยทัศน์ของอิเกียคือการ "สรรค์สร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับคนทั่วไปในทุกๆ วัน" และสะท้อนอยู่ในความเชื่อมั่นว่าชีวิตการทำงานที่มีความสุขคือทุกคนได้แสดงศักยภาพของตนเองในสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างและปราศจากการเลือกปฏิบัติ โดยอิเกีย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เน้นย้ำวัฒนธรรมและค่านิยมหลัก (IKEA culture and values) ซึ่งถือเป็นหัวใจและคุณสมบัติสำคัญของทีมงานที่ อิเกียเฟ้นหาอยู่เสมอ โดยมี 8 ข้อ ประกอบด้วย ความร่วมมือร่วมใจ ความเอาใจใส่ที่มีต่อคนและโลกเพื่อร่วมมือกันสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน การคำนึงถึงคุณค่าและความประหยัด ความเรียบง่ายและเน้นการเป็นตัวของตัวเอง การพัฒนาและริเริ่มสิ่งใหม่ ความกล้าที่จะต่างอย่างมีความหมาย การแบ่งและรับผิดชอบเพื่อเดินไปข้างหน้าร่วมกัน และการปฏิบัติเป็นแบบอย่างในลักษณะ “พูดจริง ทำจริง”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/xnfoToAtRXUK2FVjrrBp.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="xnfoToAtRXUK2FVjrrBp.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="650,434" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp; ศิรินทร์ อาศน์ศิลารัตน์ ผู้จัดการสโตร์ อิเกีย สุขุมวิท อิเกีย ประเทศไทย เผยถึงความตั้งใจในการเปิดรับสมัครทีมงานด้านปฏิบัติการที่อิเกีย สุขุมวิทในครั้งนี้ว่า “การเปิดสโตร์อิเกีย สุขุมวิท เป็นโปรเจ็กต์ที่ชาวอิเกียทุกคนภาคภูมิใจและเฝ้ารอ เนื่องจากเป็นซิตี้สโตร์แห่งแรกในประเทศไทย และด้วยความมุ่งมั่นของอิเกียในการส่งมอบบริการที่สะดวกสบายและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าของเราเสมอมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีบุคลากรที่มีอุดมการณ์และค่านิยมในแนวทางเดียวกันกับองค์กร ที่อิเกีย เรามีวัฒนธรรมและค่านิยมในการทำงานที่โอบรับความหลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อายุเท่าไร มีเพศสภาพแบบใด วุฒิการศึกษาระดับไหน อิเกียก็พร้อมมอบโอกาสในโลกของการทำงานที่เปิดกว้าง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เพียงแค่สมัครเข้ามาในตำแหน่งงานที่สนใจและมีความสามารถ เมื่อมีโอกาสเข้าร่วมงานกับอิเกียแล้ว เราก็พร้อมผลักดันความก้าวหน้าในสายอาชีพ พร้อมๆ กับการสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดี ผ่านการส่งมอบสวัสดิการดีๆ ที่เท่าเทียมกันสำหรับทั้งพนักงานประจำและพนักงานพาร์ตไทม์ ตลอดถึงการจัดหาหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อต่อยอดทักษะในการทำงานอย่างเข้มข้น” โลกแห่งการทำงานที่เปิดกว้างผ่านเสียงของพนักงานอิเกีย &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รับฟังเรื่องราวแห่งความประทับใจจากหลากหลายคำบอกเล่าของพนักงานอิเกีย ตั้งแต่ความก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพจากพนักงานพาร์ทไทม์สู่พนักงานประจำโดยไม่ต้องอาศัยใบปริญญา ตัวแทนผู้สูงอายุที่ยังมีไฟเพราะเชื่อว่าอายุไม่ใช่ข้อจำกัดในการพัฒนาความสามารถอยู่เสมอ บรรยากาศการทำงานที่เป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่และโอบรับความหลากหลาย ตลอดถึงการลดความเหลื่อมล้ำด้านโอกาสในการทำงานพร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และสวัสดิการดีๆ ที่พนักงาน อิเกียต่างชื่นชอบ เช่น สิทธิ์ลาดูแลสมาชิกในครอบครัว คุณพ่อมือใหม่ลาเลี้ยงลูกได้ อาหารและเครื่องดื่มในราคาพนักงาน เป็นต้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“คำมั่นสัญญาของอิเกียคือ พนักงานทุกคนจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะมีความแตกต่างและหลากหลายอย่างไร ที่ทำงานแห่งนี้จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่พร้อมสนับสนุนให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองและแสดงศักยภาพได้อย่างอิสระ พร้อมรังสรรค์ให้ทุกๆ วันของการทำงานที่อิเกียเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมและค่านิยมของอิเกียได้ที่นี่ และหากคิดว่าคุณลักษณะเหล่านี้ตรงกับความเป็นคุณ สามารถลงทะเบียนเพื่อกรอกรายละเอียดการสมัครงานล่วงหน้าได้ทางเว็บไซต์อิเกีย ประเทศไทย และเข้าร่วมงานเปิดบ้านณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.30 น. – 17.30 น.และวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 09.30 น. – 17.00 น. อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/other/%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A5-%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%8A%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87-66" alt="คนรุ่นใหม่ - สื่อโซเชียลชี้ชะตาเลือกตั้ง 66">คนรุ่นใหม่ - สื่อโซเชียลชี้ชะตาเลือกตั้ง 66</a>​<hr class="__se__solid">​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

อิเกีย ลุยปั้นทีมงานกว่า 100 ตำแหน่ง เน้นคอนเซ็ปต์ “ไม่ว่าใครก็ทำงานที่อิเกียได้”

IKEA ทำอย่างไร? สร้างความเท่าเทียมต่อพนักงานชาย-หญิงทั่วโลก

<h2>IKEA และธุรกิจเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ เห็นช่องทางการตลาดในช่วงล็อกดาวน์ ผู้บริโภคมองหาการตกแต่งบ้านและพื้นที่ใช้สอยใหม่ โดยเฉพาะเหล่าเกมเมอร์ที่เลือกเฟอร์นิเจอร์พิถีพิถันยิ่งขึ้น เมื่อต้องใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมากกว่าเคย </h2>
<img class="alignnone wp-image-52706" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/10/messageImage_1634725854812.jpg" alt="IKEA" width="350" height="467" />

เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม IKEA เปิดตัวเฟอร์นิเจอร์ไลน์ใหม่ที่สร้างมาเพื่อชาวเกมเมอร์โดยเฉพาะ Ewa Rychert Business Leader ประจำฝ่าย Workspaces กล่าวว่า “เราต้องการให้ตัวเลือกสำหรับชาวเกมเมอร์ของเราเข้ากับของตกแต่งบ้านอื่นๆ” 

โต๊ะเล่นเกมจะไม่โดนหมกอยู่ในมุมมืดที่ชั้นใต้ดินอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของห้องแบบเข้าธีมสุดๆ และด้วยแนวคิดนี้ Luis Porem Pires Range Design Leader มองว่า “ในการที่จะตอบทุกโจทย์ และเข้ากับทุกบ้าน มันสำคัญมากๆ ที่เราดจะหาทางทำให้มันราคาเป็นมิตร และไม่ใช่แค่แต่งเติมสิ่งที่เรามีอยู่ในโชว์รูมอยู่แล้ว ”

Joshua Hakfin ผู้ก่อตั้ง Game Gym คลับใน Maryland ที่สร้างเพื่อให้ทีม esports ท้องถิ่นได้มาฝึกและแข่ง มองว่าเฟอร์นิเจอร์ IKEA ธรรมดาๆ ที่เขามีอยู่ก็ยังใช้งานได้ดี และกล่าวว่า “นี้คือแนวคิดแบบภาษีสีชมพู” Hafkin อธิบายต่อว่า “เหมือนกันกับที่ว่าทำไมมีดโกนสีชมพูถึงแพงกว่ามีดโกนธรรมดานั่นแหละ” 

“กลุ่มลูกค้าเกมเมอร์มีกำลังซื้อ และบริษัทต่างๆก็เริ่มให้ความเคารพแก่ตลาดนี้มากขึ้นผ่านการพยายามตอบโจทย์เรื่องของใช้ในบ้านของพวกเขา” Hakfin เสริมประกอบกับหลายๆ บ้านเริ่มทำบ้านให้กลายเป็นโรงหนังไปในตัว Hafkin คาดว่า “ตัวเลือกของใช้ในบ้านสำหรับ esport จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ”

<img class="alignnone wp-image-52707" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/10/messageImage_1634725909918.jpg" alt="IKEA" width="350" height="466" />

Kevin Dang และ Kerry Dang  ผู้ร่วมก่อตั้ง esportsfurniturestore.com ก็เชื่อมั่นในการเติบโตนี้เช่นกัน ในช่วงปี 2020 พวกเขาก่อตั้งธุรกิจเฟอร์นิเจอร์สายเกมเมอร์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น โดยสองพี่น้อง Dang สังเกตว่าลูกค้าส่วนใหญ่มักจะซื้อเฟอร์นิเจอร์สำหรับเล่นเกมผ่าน Amazon ไม่ก็ Wayfair และมองว่านั่นอาจจะเป็น Footlocker แห่งตลาดเฟอร์นิเจอร์เกมเมอร์

Kerry Dang กล่าวว่า “Footlocker ขายรองเท้าผ้าใบทุกยี่ห้อ” และกล่าวต่ออีกว่า “เราเล็งเห็นช่องทางที่จะสร้างที่ที่จะรวมแต่เฟอร์นิเจอร์สำหรับเล่นเกมไว้ทุกรูปแบบ ทุกรุ่น” 

ด้าน Kevin Dang หนึ่งในผู้ก่อตั้งไม่ได้เล็งเห็นแต่การเติบโตในตลาดนี้เท่านั้น แต่ยังมุ่งที่จะสร้างความหลากหลายในตลาดอีกด้วย “เราเห็นได้ว่าเกมเมอร์ทั้งหลายอยากโชว์พื้นที่ของพวกเขา ดังนั้น เราเลยเริ่มที่จะมีตัวเลือกสีสวยๆ มากขึ้นเพื่อให้สามารถสร้างพื้นที่ที่ลงตัวได้ง่ายกว่าเดิม”

ไม่ว่าเหล่าเกมเมอร์จะไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ไหน พวกเขาก็มีตัวเลือกมากมาย ปัจจุบัน เก้าอี้แบบที่มีที่วางแขนไม่ได้แค่สามารถปรับเจ้าที่วางแขนขึ้นลงได้แล้ว แต่ยังสามารถปรับซ้ายขวาได้อีก 

เก้าอี้สีอึมครึมก็เริ่มหลีกทางให้กับเก้าอี้ที่มีสีสันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สีขาว แดง ฟ้าอมเขียว หรือแม้กระทั่งสีชมพู พื้นผิวของโต๊ะก็ไม่ได้เป็นรอยง่ายเหมือนที่เคย เพราะจากเดิมที่จากไม้ ก็กลายมาเป็น carbon fiber ที่ทนทานกว่าเดิม

Kevin Dang เปรียบเฟอร์นิเจอร์เจาะจงกลุ่มเช่นนี้กับรถ เหมือนกับสมัยก่อนที่คนส่วนใหญ่มักซื้อรถหรูหราไว้อวดเพื่อน Dang มองว่า “ทุกวันนี้ แทนที่จะอยากได้รถ คนรุ่นนี้อยากได้เก้าอี้เล่นเกมเท่ๆ คีย์บอร์ดแบบมีไฟ แล้วก็อุปกรณ์เสริมสุดเจ๋ง” เพื่อทำให้โซนเล่มเกมของพวกเขาไม่เหมือนใคร และไว้อวดชาวเกมเมอร์ด้วยกันเอง

ไม่ว่าแต่ละคนจะสรรค์สร้างมุมเล่นเกมของตัวเองยังไง คนรุ่นต่อไปอาจต้องมีมากกว่าบัญชีเงินเก็บเพื่อที่จะซื้อรถสักคัน อาจต้องมีกองทุนสำหรับเล่นเกมด้วยก็ได้

แปลและเรียบเรียงโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร จากบทความ How Ikea and Other Retailers Are Changing Furniture For Gamers เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/the-great-resignation-งานวิจัยจาก-%EF%BB%BFey-เผยกุญ.html">“The Great Resignation” งานวิจัยจาก EY เผยกุญแจลับการทำงานร่วมกัน</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

IKEA และธุรกิจเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ มุ่งสร้างเฟอร์นิเจอร์สำหรับผู้เล่นเกม

<h2>Sir Philip Green นักธุรกิจเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำ Topshop จะระดมทุน 534 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการขายร้านในย่าน Oxford Street อันโด่งดังของเขาให้กับ IKEA ซึ่งนับเป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการยื่นเรื่องล้มละลายของบริษัทแม่ Arcadia Group</h2>
<figure><img class="wp-image-51001" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/https-specials-images.forbesimg.com-imageserve-613b8bbf13c8fa650dcd4264-Philip-Green-0x0.jpgfitscale.jpg" alt="Sir Philip Green" width="720" height="476" /><figcaption> Sir Philip Green ผู้ก่อตั้ง Arcadia Group บริษัทแม่ของแบรนด์ Topshop</figcaption></figure>

แม้ว่ามูลค่ดังกล่าวจะน้อยกว่าที่เรียกไป 582 ล้านเหรียญในเดือนพฤษภาคม แต่ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็นับได้ว่าดีลดังกล่าวได้มีส่วนช่วยให้ <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/philip-cristina-green/?sh=6cfeb38d524c">Sir Philip</a> Green หาเงินมาชำระหนี้ จำนวนมหาศาลที่สะสมจากการค้าปลีก

การขายทรัพย์สินดังกล่าวจะทำให้ Green สามารถชำระคืนเงินกู้จำนวน 425 ล้านเหรียญให้กับ Apollo Global Management บริษัทไพรเวทอิควิตี้รายใหญ่ในสหรัฐฯ ขณะที่ส่วนที่เหลืออีก 109 ล้านเหรียญจะถูกใช้เพื่อชดเชยในส่วนของข้อเรียกร้องต่างๆ ที่ขึ้นต่ออาร์คาเดีย ซึ่งโดยรวมแล้ว คาดว่ามีมูลค่าราว 2.4 พันล้านเหรียญ ณ เดือนกรกฎาคม

อย่างไรก็ดี ในสัปดาห์ที่แล้ว Forbes รายงานว่า ได้มีการประมูลมูลค่าทรัพย์สินดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งก็มีโอกาสที่จะได้ราคาที่ “สูง” กว่า 425 ล้านเหรียญที่ค้างชำระอยู่

ด้านโฆษกของ IKEA ยักษ์ใหญ่ด้านเฟอร์นิเจอร์ของสวีเดนกล่าวกับ Forbes ว่า ถึงแม้จะมีการ "สำรวจ" สถานที่ใหม่ "ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ใหม่ใจกลางเมือง" แต่ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนที่จะแบ่งปันแนวทางการขยายธุรกิจในขณะนี้

แม้ว่า IKEA จะเป็นร้านค้าที่มีความจำเป็นต้องให้บริการที่จอดรถแก่ลูกค้า แต่ที่ปรึกษาด้านการค้าปลีก Nick Budd อธิบายการเสนอราคาของ IKEA สำหรับอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนว่าเป็น "การเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาด" และเสริมว่าห้องนี้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการไปรับสินค้า เช่น ต้นไม้ และจาน และร้านอาหาร 2-3 ร้าน 

อีกทั้งปัจจุบัน Nike และ Vans ซึ่งต่างมีสาขาอยู่ภายในอาคารเดียวกัน ก็ไม่จำเป็นต้องปิดให้บริการเมื่อ IKEA ย้ายเข้ามา 

นอกจากนี้ IKEA ยังมีร้านที่คล้ายคลึงกันอีกแห่ง ซึ่งมีขนาดเล็กกว่ามาก และเป็นรู้จักกันในชื่อ "สตูดิโอสำหรับการวางแผน" บนถนน Tottenham Court ในพื้นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านเฟอร์นิเจอร์

จุดจบของถนน

<img class="alignnone wp-image-51002" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/https-specials-images.forbesimg.com-imageserve-613b8c9967343be9a1a70171-Largest-IKEA-Store-In-South-China-Will-Open-In-Foshan-1960x0.jpgfitscale.jpg" alt="" width="720" height="480" />

Arcadia อาณาจักรของร้านค้า 400 แห่งและพนักงาน 13,000 คน เจ้าของแบรนด์ Topshop, Topman, Miss Selfridge, Burton และ Wallis  เข้าสู่กระบวนการยื่นเรื่องล้มละลายกับศาลในสหรัฐอเมริกาในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 

ในเดือนกรกฎาคม ได้เผยแพร่การอัปเดต โดยกล่าวว่า Arcadia จะต้องชำระเงินทั้งสิ้น 2.4 พันล้านเหรียญ รวมถึงอีก 700 ล้านเหรียญในแผนบำเหน็จบำนาญของบริษัทสำหรับอดีตพนักงานของ Arcadia

ตั้งแต่นั้นมา Teneo ผู้บริหารจัดการของ Arcadia ก็ได้ขายทรัพย์สินไปมากกว่า 820 ล้านเหรียญเพื่อชำระหนี้ รวมถึงการขายแบรนด์ดังอย่าง Topshop, Top Man, Miss Selfridge และ HIIT ให้กับเว็บไซต์ออนไลน์ ASOS ซึ่งเป็นคู่แข่งในเดือนกุมภาพันธ์ พร้อมกับการขายแบรนด์ Dorothy Perkins, Burton และ Wallis ให้กับ Boohoo ก่อนที่จะขาย Evans ให้กับ City Chic ในเดือนธันวาคม 2020

อย่างไรก็ตาม ในรายงานความคืบหน้าประจำเดือนกรกฎาคม Teneo ได้ให้คำชี้แจงว่า เงินที่ได้รับจากการขายทรัพย์สินของ Arcadia มีมูลค่าน้อยกว่าหนี้ของอาณาจักรค้าปลีกของ Sir Philip

ล่าสุด Forbes ประเมินว่า Philip และ Cristina Green มีมูลค่าทรัพย์สิน 2.4 พันล้านเหรียญ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเงินปันผล 1.7 พันล้านเหรียญจาก Arcadia ซึ่งพวกเขาจ่ายเองในปี 2005

แปลและเรียบเรียงจากบทความ IKEA To The Rescue? The Furniture Chain May Buy Topshop Billionaire’s London Store For $500 Million โดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/bill-gates-เตรียมขึ้นแท่นผู้ถือห.html">Bill Gates เตรียมขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของโรงแรม Four Season</a>

IKEA จ่อซื้อร้านค้าในลอนดอนของมหาเศรษฐี Topshop ที่มูลค่า 500 ล้านเหรียญฯ

<h2>พบกับกลยุทธ์การปรับตัวอีกครั้งของ IKEA บริษัทเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่จากสวีเดน ล่าสุดประกาศเเผนทดลองเปิดบริการ "ให้เช่า" โดยจะเริ่มนำร่องที่เเรกในสวิตเซอร์เเลนด์ ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ หวังสร้างแหล่งรายได้ใหม่ รวมถึงลดขยะเเละใช้สิ่งของได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น</h2>
Torbjorn Loof ประธานเเละซีอีโอของ Inter IKEA เปิดเผยกับ <a href="https://www.ft.com/content/da461f24-261c-11e9-8ce6-5db4543da632">Financial Times</a> ว่าเร็วๆนี้ จะมีการเปิดให้บริการให้เช่าเฟอร์นิเจอร์ภายใต้เเบรนด์ IKEA ซึ่งมีสาขาทั่วโลกกว่า 415 สาขาใน 49 ประเทศ โดยถือเป็นการปรับกลยุทธ์การตลาดครั้งสำคัญที่จะก้าวออกมาจากช่องทางการขายดั้งเดิมที่เน้นเฉพาะการผลิตเเละจำหน่าย
<ul>
 	<li><a href="http://forbesthailand.com/news/global/%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%A2-%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2-asean-2561.html">IKEA เผยยอดขายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โต 2.52 หมื่นล้านบาท</a></li>
</ul>
สำหรับโครงการนำร่องนี้ จะเริ่มต้นด้วยการเปิดให้เช่า โต๊ะ เก้าอี้เเละอุปกรณ์สำหรับสำนักงานก่อน แล้วจึงจะขยายต่อไปสู่การให้เช่าเฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องครัว ซึ่งจะเริ่มให้บริการในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นที่เเรกภายในกุมภาพันธ์นี้

“บริการให้เช่าเฟอร์นิเจอร์ของเราเป็นแบบ leasing หากหมดระยะเวลาให้เช่าตามสัญญา ผู้เช่าจะสามารถเช่าสินค้าต่อไปหรือจะส่งกลับคืนให้ IKEA ก็ได้ เเละคาดว่าบริการนี้จะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ให้กับบริษัท รวมถึงเป็นการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะจะช่วยลดปริมาณขยะเเละใช้สิ่งของได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น”

โดยบริษัทจะนำผลิตภัณฑ์กลับไปปรับปรุงแก้ไขและนำมาจำหน่ายอีกครั้ง ในราคาที่ถูกกว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตมาใหม่ ยืดอายุของเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลายให้มีการใช้งานยาวนานขึ้น  ทั้งนี้ยังส่งผลต่อสิ่งเเวดล้อม เนื่องจากปัจจุบัน IKEA เป็นบริษัทใหญ่ที่ใช้ไม้มากถึง 1% เมื่อเทียบกับปริมาณไม้ที่ผลิตออกมาได้ทั่วโลก

ก่อนหน้านี้ IKEA เริ่มปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเเละองค์กร โดยเน้นให้ความสำคัญกับ "ธุรกิจออนไลน์" พร้อมปรับโฉมรูปแบบร้านค้าให้มีขนาดเล็กลงเเละขยับเข้ามาตั้งอยู่ในทำเลกลางใจเมือง เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น รวมถึงมาตรการที่จะช่วยเพิ่มรายได้ด้วยวิธีการใหม่ๆ ในระยะยาว หลังจากในปีที่ผ่านมารายได้ของ IKEA ลดลงถึง 40%

โดยไอเดียบริการให้เช่าเฟอร์นิเจอร์ครั้งนี้ นอกจากจะเพิ่มรายได้ใหม่จากการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์เเละของตกแต่งบ้านเเล้ว คาดว่าจะนำไปสู่การให้เช่าแบบสมัครสมาชิกรายเดือนอย่างเต็มตัวต่อไปด้วย
<ul>
 	<li><a href="http://www.forbesthailand.com/commentaries-detail.php?did=2234">อ่านเพิ่มเติม : เส้นทาง 75 ปีของ Ingvar Kamprad ชายหัวขบถผู้ก่อตั้ง IKEA </a></li>
</ul>
&nbsp;

ที่มา
<ul>
 	<li><a href="https://www.fastcompany.com/90300773/ikea-wants-to-rent-you-your-next-kitchen">Would you rent Ikea furniture? Subscription plans are coming</a></li>
 	<li><a href="https://www.telegraph.co.uk/business/2018/01/24/ikea-tests-renting-furniture-eco-friendly-plan/">Ikea tests renting out furniture as eco-friendly plan</a></li>
</ul>
ภาพ IKEA

กลยุทธ์เพิ่มรายได้ใหม่ IKEA เตรียมทดลองเปิดให้บริการ "เช่าเฟอร์นิเจอร์"

<h2>อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เจ้าของและผู้บริหารงาน สโตร์อิเกีย 7 แห่งใน 3 ประเทศ สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย เผยผลประกอบการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โต 2.52 หมื่นล้านบาท ประกาศแผน 5 ปี สู่ตลาดใหม่ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และเม็กซิโก</h2>
อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผย รายงานประจำปี 2561 จากแนวโน้มสนใจสินค้าตกแต่งบ้านมากขึ้น โดยจะให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่สวยงามและประโยชน์ใช้สอยเป็นหลักซึ่งในปี 2561 สโตร์อิเกียทั้ง 7 แห่งในภูมิภาคนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ดึงดูดให้ผู้คนมาเยี่ยมชมถึง 85 ล้านครั้ง นับว่ามีผู้มาเยือนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 20% มีผลประกอบการสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 2.52 หมื่นล้านบาท) มีสมาชิก IKEA FAMILY รวม 1.71 ล้านราย

ในปีที่ผ่านมา อีเกียคาดปัจจัยที่เป็นผลเกิดจากอาทิในประเทศไทย การเปิดสโตร์อิเกียแห่งแรกที่เชื่อมต่อกับศูนย์การค้าทั้งหมดอย่างเต็มรูปแบบ, การเปิดแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศมาเลเซียสร้างยอดขายเป็นสัดส่วน 3.8% ของยอดขายทั้งหมด ภายในระยะเวลาไม่ถึง 3 เดือน และการพัฒนาศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า

ทั้งนี้ อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแผนการดำเนินธุรกิจในระยะเวลา 5 ปี โดยเตรียมเปิดธุรกิจอีคอมเมิร์ซในไทย ภายในปี 2562 เริ่มก่อสร้างสโตร์อิเกียแห่งแรกในฟิลิปปินส์ บนพื้นที่ประมาณ 6.5 หมื่นตารางเมตร ซึ่งเมื่อเปิดให้บริการ จะนับเป็นสโตร์อิเกียที่ใหญ่ที่สุดในโลก และแผนเปิดตลาดใหม่ในประเทศเวียดนามและเม็กซิโก และสามารถเข้าถึงประชากรใน 6 ประเทศรวมกันกว่า 480 ล้านคน (สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และเม็กซิโก)

<img class="alignnone wp-image-3278 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/ikea.jpg" alt="ยอดขาย อิเกีย" width="638" height="457" />
<ul>
 	<li>อ่านเพิ่มเติม: <a href="http://www.forbesthailand.com/commentaries-detail.php?did=2234">เส้นทาง 75 ปีของ Ingvar Kamprad ชายหัวขบถผู้ก่อตั้ง IKEA </a></li>
</ul>
&nbsp;

อิเกีย เผยยอดขายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โต 2.52 หมื่นล้านบาท

<h2>Ingvar Kamprad ผู้ก่อตั้ง IKEA บริษัทเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพิ่งเสียชีวิตในวัย 91 ปี เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2018 เขาคือตัวอย่างร่วมสมัยของนักธุรกิจที่สร้างตัวขึ้นจากความกล้าที่จะแตกต่าง ทำให้ร้านและแบรนด์ IKEA มีเอกลักษณ์ด้วยการออกแบบที่มีสไตล์ในราคาเข้าถึงได้ และก่อวัฒนธรรม DIY-Do it yourself ด้วยการให้ลูกค้าประกอบสินค้าเองที่บ้าน</h2>
ในเมือง Småland ทางใต้ของประเทศสวีเดน ปี 1926 เด็กชายคนหนึ่งถือกำเนิดในฟาร์มและมีสัญชาตญาณผู้ประกอบการติดตัวมาตั้งแต่เกิด Ingvar Kamprad เริ่มเป็นพ่อค้าตั้งแต่อายุ 5 ขวบด้วยการเร่ขายไม้ขีดไฟ และขยายกิจการเป็นการปั่นจักรยานขายปลา ดินสอ และเครื่องประดับตกแต่งต้นคริสต์มาสเมื่ออายุได้ 10 ปี

จนกระทั่งอายุ 17 ปี พ่อของ Kamprad ให้รางวัลเขาเป็นเงินสดจำนวนหนึ่ง เพื่อให้กำลังใจที่เขาสามารถสอบได้เกรดดีแม้จะเป็นโรคดิสเล็กเซีย (ภาวะบกพร่องในการอ่านและสะกดคำ) Kamprad ใช้เงินจำนวนนั้นก่อตั้งธุรกิจขึ้นในชื่อ IKEA เมื่อปี 1943 โดย IKEA เป็นอักษรย่อของชื่อและนามสกุลของเขา (I-Ingvar , K-Kamprad) ชื่อฟาร์มที่เขาถือกำเนิด (E-Elmtaryd) และชื่อหมู่บ้านที่ใกล้ฟาร์มมากที่สุด (A-Agunnaryd)

ในช่วงแรก IKEA ยังไม่ได้เป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ แต่ค้าขายของใช้ภายในบ้านชิ้นเล็กๆ เช่น กรอบรูป โดยจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ จน 5 ปีต่อมา Kamprad จึงได้ก่อตั้งร้านเฟอร์นิเจอร์ IKEA ที่มีหน้าร้านจริงๆ ขึ้นในเมืองบ้านเกิดของเขาที่สวีเดน

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/9efe26973940ca8e992f0a3c3b2519a8.png" alt="" width="680" height="510" /><figcaption> IKEA สาขาแรกที่เมือง Småland ประเทศสวีเดน (Cr: wikicommon)</figcaption></figure>

สิ่งที่ทำให้ IKEA ขยับขยายจากร้านเฟอร์นิเจอร์ท้องถิ่นกลายเป็นบริษัทใหญ่ มาจากบุคลิกที่ไม่เหมือนใครของ Kamprad โดย Malcolm Gladwell ผู้เขียนหนังสือวิเคราะห์บุคลิกภาพของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ อธิบายไว้ว่า บุคลิกภาพ 3 อย่างที่โดดเด่นของ Kamprad คือ “มีมโนธรรมสูง เปิดใจกว้าง แต่กระนั้นก็เป็นคนที่ไม่เป็นมิตร ไม่สนใจหากใครจะมองว่าเขาสติไม่ดี”

Gladwell อธิบายว่า เพราะไม่แคร์สายตาคนอื่นถึงทำให้ Kamprad เป็นนักสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ดีตัวอย่างเช่น ในปี 1956 IKEA เป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์แห่งแรกที่ขายเฟอร์นิเจอร์แบบ “flatpacking” หมายถึงเฟอร์นิเจอร์ที่แยกชิ้นส่วนให้ลูกค้านำไปประกอบเองที่บ้าน เมื่อเฟอร์นิเจอร์ยังไม่ประกอบจึงทำให้การบรรจุในกล่องมีพื้นที่ว่างน้อยลง ไม่เปลืองพื้นที่ขนส่ง และลูกค้าที่ไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถหิ้วเฟอร์นิเจอร์ที่ยังไม่ประกอบขึ้นรถสาธารณะได้ ณ ขณะนั้นการแยกชิ้นส่วนทำให้กล่องบรรจุเล็กและแบนของ IKEA กลายเป็นสิ่งที่ปฏิวัติวงการ จนถึงปัจจุบัน เฟอร์นิเจอร์ที่ยังไม่ประกอบก็ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของ IKEA ทั่วโลก

จิตวิญญาณของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์จากสวีเดนแห่งนี้ล้วนเริ่มต้นจากตัวตนของ Kamprad เขาเคยเขียนหนังสือเรื่อง The Testament of a Furniture Dealer (พันธสัญญาของผู้ค้าเฟอร์นิเจอร์) เมื่อปี 1976 ซึ่งต่อมากลายเป็นเหมือนคัมภีร์ไบเบิลให้กับ IKEA ในหนังสือเล่มนั้นสามารถสรุปใจความสำคัญได้ว่า IKEA คือการทำให้ทุกอย่างสมถะธรรมดาที่สุด ได้ผลลัพธ์ที่ดีด้วยวิธีการที่ง่าย ราคาถูก และประหยัดทรัพยากร

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/ef711a9bed19c3eb381028857386492d.png" alt="" width="680" height="455" /><figcaption> เฟอร์นิเจอร์แยกชิ้นส่วนแบบ flatpacking ของ IKEA ถูกออกแบบมาให้ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถประกอบเองได้ที่บ้าน เมื่อประกอบเสร็จอย่างถูกต้อง จะไม่มีชิ้นส่วนใดๆ ขาดหรือเกินไปแม้แต่น็อตเพียงตัวเดียว เป็นการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่ามากที่สุด (Cr: ikea.com)</figcaption></figure>

ยกตัวอย่างเช่น IKEA เป็นเจ้าแรกๆ ที่นำไม้ MDF หรือที่เรียกกันว่าพาร์ติเคิลบอร์ดมาใช้แทนไม้จริงในการทำเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่อย่างตู้ครัวหรือตู้เสื้อผ้า หรือการที่ IKEA ประสานความร่วมมือกับดีไซเนอร์เพื่อออกแบบเฟอร์นิเจอร์ แต่ไม่ได้นำชื่อดีไซเนอร์มาใช้เชิงการตลาดมากนักเหมือนอย่างเจ้าอื่นๆ เพราะ IKEA ให้ความสำคัญกับการนำเสนอดีไซน์ของผลิตภัณฑ์มากกว่าชื่อดีไซเนอร์ และไม่ได้ทำให้เป็นคอลเลกชันพิเศษด้วยการผลิตจำนวนจำกัดแต่กลับส่งมันออกขายไปทั่วโลก

ความไม่สนใจใครและเปิดกว้างต่อวิธีใหม่ของ Kamprad ยังสะท้อนออกมาในเชิงการบริหาร เขาย้ายแหล่งผลิตหลักไปยังโปแลนด์ตั้งแต่ปี 1961 เพราะค่าแรงถูกกว่า ทั้งที่ตอนนั้นโปแลนด์ยังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตและเขาต้องเจอแรงต้านจากสังคมในยุคสงครามเย็น ต่อมาในปี 1973 Kamprad เมินสังคมอีกครั้งเมื่อเขาย้ายสำนักงานใหญ่ของ IKEA จากสวีเดนไป Copenhagen ประเทศเดนมาร์ก เพื่อประท้วงการขึ้นภาษีของรัฐบาลสวีเดน แถมยังย้ายตัวเองกับครอบครัวไปอาศัยที่สวิตเซอร์แลนด์แทนด้วยเหตุผลเดียวกัน (อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ของ IKEA อยู่ในเนเธอร์แลนด์)

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/d41f0c97a02f092490b2f956c3c0da3e.png" alt="" width="680" height="422" /><figcaption> ไม่เพียงสินค้าที่มีเอกลักษณ์ ร้าน IKEA ยังจัดวางสินค้าเลียนแบบการตกแต่งห้องจริงเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และอนุญาตให้ลูกค้าสัมผัสหรือทดลองใช้ได้อย่างเต็มที่</figcaption></figure>

นอกจากนี้ Kamprad ยังไม่สนใจการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เหมือนอย่างบริษัทขนาดใหญ่ทั่วไปด้วย โดยเขาให้เหตุผลว่า “ผมตัดสินใจว่าการนำ IKEA เข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่ทางเลือกของบริษัท ผมรู้ว่ามีเพียงวิสัยทัศน์ระยะยาวเท่านั้นที่จะรับประกันแผนการเติบโตของบริษัทได้ และผมไม่ต้องการให้ IKEA ขาดอิสระเพราะสถาบันทางการเงิน”

ถึงแม้ IKEA จะไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่จนถึงปี 2017 บริษัทสามารถขยายสาขาไปถึง 411 สาขาใน 49 ประเทศ (รวมสาขาที่เป็นระบบแฟรนไชส์ด้วย) เมื่อปี 2016 IKEA สร้างรายได้รวม 35,074 ล้านยูโร

ส่วนทรัพย์สินของ Ingvar Kamprad นั้นย่อมติดอันดับโลกเช่นกัน เจ้าพ่อเฟอร์นิเจอร์เคยติดอันดับ 10 มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกจัดโดยนิตยสาร Forbes ช่วงปี 2005-2010 อันดับสูงสุดที่เขาเคยได้รับคืออันดับ 4 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 28,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนที่ในปี 2011 เอกสารจากทนายของ Kamprad จะเปิดเผยว่าความเป็นเจ้าของ IKEA ของ Kamprad ได้ถูกโอนย้ายไปให้มูลนิธิที่ตั้งอยู่ในประเทศลิคเตนสไตน์มานานกว่าทศวรรษแล้ว ทำให้อันดับของเขาลดฮวบลง จนถึงปี 2016 เขาจึงหลุดจากการจัดอันดับทั้งหมดของ Forbes เนื่องจาก Kamprad ได้โอนย้ายทรัพย์สินให้กับลูกชายทั้งสามของเขา ได้แก่ Peter, Jonas และ Mathias

ถึงแม้ว่า Ingvar Kamprad จะเป็นมหาเศรษฐี แต่ชีวิตความเป็นอยู่ของเขากลับสมถะเหมือนกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ IKEA เขายังคงเลือกที่นั่งชั้นประหยัดเมื่อต้องโดยสารเครื่องบิน และขับรถวอลโว่คันเดิมอยู่นานถึงสองทศวรรษจนรถหมดอายุการใช้งาน

ช่วงบั้นปลายของชีวิต Kamprad กลับไปอาศัยอยู่ในบ้านเกิดที่สวีเดน ลมหายใจสุดท้ายของเขาจากไปในบ้านที่อยู่ห่างจากฟาร์มที่เขาถือกำเนิดเพียง 10 นาทีโดยรถยนต์

&nbsp;

Forbes Facts

สำหรับประเทศไทย IKEA เปิดตัวสาขาแรกขึ้นที่บางนา-ตราด กม.8 เชื่อมต่อกับศูนย์การค้าเมกา บางนา เมื่อปี 2554 และกำลังจะเปิดสาขาที่สองที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ย่านบางใหญ่ ในเดือนมีนาคมนี้

&nbsp;

อ้างอิงจาก
<ul>
 	<li><a href="http://www.businessinsider.com/how-ikea-founder-ingvar-kamprad-became-a-billionaire-2015-7/#kamprad-was-born-in-the-south-of-sweden-in-1926-and-by-the-age-of-5-began-selling-matches-for-profit-at-10-he-rode-his-bike-around-the-neighborhood-to-sell-christmas-decorations-fish-and-pencils-1">How IKEA founder Ingvar Kamprad’s bizarrely frugal habits and ‘disagreeable’ personality trait made him one of the richest self-made billionaires</a></li>
 	<li><a href="https://www.forbes.com/sites/maxjedeurpalmgren/2018/01/28/ingvar-kamprad-founder-of-ikea-dead-at-91/#6fa3028d4972">Ingvar Kamprad, Founder of IKEA, Dead at 91</a></li>
 	<li><a href="http://www.businessinsider.com/malcolm-gladwell-on-ikea-founder-personality-trait-2014-10">Malcolm Gladwell Says IKEA Buitl a Multibillion-Dollar Brand Because Its Founder Had This Disagreeable Personality Trait</a></li>
 	<li><a href="http://www.ikea.com/ms/en_US/pdf/reports-downloads/the-testament-of-a-furniture-dealer.pdf">The Testament of a Furniture Dealer</a></li>
</ul>

เส้นทาง 75 ปีของ Ingvar Kamprad ชายหัวขบถผู้ก่อตั้ง IKEA

<h2>หลังจากสวีเดนทำให้ IKEA และ Spotify กลายมาเป็นร้านค้าและบริการยอดฮิตติดตลาดโลกไปแล้ว ธุรกิจถัดไปอาจจะเป็นบริการทางการเงินสำหรับนักช็อปออนไลน์ ซึ่งอาจกลายเป็นทางเลือกใหม่แทนการชำระดัวยบัตรเครดิตก็เป็นได้</h2>
Sebastian Siemiatkowski ยิ้มเล็กน้อยเมื่อนึกไปถึงการที่ธุรกิจสตาร์ทอัพเล็กๆ ด้านการชำระเงินออนไลน์ของเขา สามารถดึงให้นักลงทุน venture capital (VC) ระดับแถวหน้าของโลกมานั่งเป็นกรรมการได้

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2009 เมื่อ Klarna ซึ่งเป็นบริษัทของเขาในกรุง Stockholm ยังมีขนาดเล็กมากและทำธุรกิจอยู่ในตลาดที่มี PayPal บริษัทบัตรเครดิตยักษ์ใหญ่ครองตลาดอยู่แต่ถึงอย่างนั้น Klarna ก็สามารถทำกำไรตั้งแต่ตอนแรกๆ ที่เพิ่งตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ๆ และกิจการของเขาก็เริ่มสะดุดความสนใจของบริษัท VC ชั้นแนวหน้าใน Silicon Valley อย่าง Sequoia Capital เมื่อเห็นว่าบริษัทเริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดบริการชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลของประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย

ต่อมา Sequoia ได้ส่ง Chris Olsen ผู้บริหารหนุ่มซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงหุ้นส่วนของบริษัทมาพบกับ Siemiatkowski เพื่อนผู้ร่วมก่อตั้งกิจการกับเขาอีกสองคนที่สวีเดน เพื่อเสนอที่จะขอเข้าร่วมลงทุนในบริษัท โดยในระหว่างการนำเสนอ Chris ถึงกับเปรียบเทียบพวกเขาทั้งสามคนว่าเป็นเหมือนกับผู้ก่อตั้งกิจการระดับเดียวกับ Google และ Apple เลยทีเดียว

“ตอนนั้นพวกเราก็ยิ้มและคิดกันว่า ‘ดีจัง’” Siemiatkowski บอก แต่เมื่อ Olsen เตรียมตัวจะกลับ Siemiatkowski กลับพูดว่า “ช่วยบอกกับผมอีกเรื่องหนึ่งได้ไหม...ถ้าหากว่าพวกเราเป็นเหมือน Google ของวงการธนาคารอย่างที่คุณว่าจริงๆ แล้วล่ะก็ คุณคิดว่าคุณจะส่งตัวเองมาเพียงคนเดียวเพื่อคุยกับพวกเราหรือ? ผู้บริหารทั้งทีมของ Sequoia จะไม่มาที่นี่ด้วยตัวเองหรือ?”

ถึงตอนนี้ พรรคพวกของ Siemiatkowski ต่างหันมามองเขาอย่างตะลึงงัน ในขณะที่ Olsen ออกไปจากห้องและต่อโทรศัพท์ไปหา Mike Moritz ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ระดับเซียนของ Sequoia ด้วยผลงานที่ทำให้บริษัทของเขาทำกำไรได้อย่างงดงามจากการเข้าลงทุนในกิจการอย่าง Google, LinkedIn, Yahoo และ Zappo และทำให้เขาได้รับการยอมรับในความเป็นนักลงทุนแถวหน้าของวงการ venture capital ต่อจากนั้น Moritz ก็ได้โทรกลับมา และขอโทษที่ไม่ได้บินมาที่สวีเดนเพื่อพบกับ Siemiatkowski และทีมงานที่ Stockholm ด้วยตัวเอง และจะขอไถ่โทษด้วยการเข้ามานั่งเป็นกรรมการให้แทน (ทุกวันนี้ Moritz ก็ยังคงเป็นกรรมการของบริษัท และบินมาร่วมประชุมคณะกรรมการบริษัทที่สวีเดนด้วยตัวเองอยู่เป็นประจำ)

“บางที การเบ่งบ้างนิดๆ มันก็มีผลดีเหมือนกันนะ” Siemiatkowski บอก

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/fb18263bbceb46866f55033c53502e35.jpg" alt="" />

ถึงวันนี้ Klarna ไม่ได้มองแค่ตลาดในสแกนดิเนเวีย แต่มองไกลไปถึงตลาดบัตรเครดิตของสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 9.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีผู้เล่นรายใหญ่อย่าง American Express และ Capital One ครองตลาดอยู่ โดยมี PayPal และสตาร์ทอัพอีกหลายรายตามมาติดๆ ทั้งนี้ Klarna ก็คือแพลตฟอร์มการชำระเงินออนไลน์เหมือกับ PayPal ซึ่งเน้นไปที่การอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมออนไลน์แบบ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” Siemiatkowski บอกว่า “เราก็คือธนาคารแห่งหนึ่งนั่นแหละ”

คู่แข่งหลักของ Klarna คือ PayPal Credit ในเครือ PayPal ซึ่งทำธุรกิจปล่อยกู้ (ก่อนหน้านี้เป็นที่รู้จักในชื่อ Bill Me Later) แต่ธุรกิจที่มีความคล้ายกับ Klarna ยิ่งกว่าก็คือ Affirm กิจการสตาร์ทอัพที่มีฐานอยู่ที่ San Francisco และก่อตั้งโดย Max Levchin หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal โดย Affirm ก็กำลังวิ่งขาขวิดเพื่อที่จะจับมือกับผู้ค้าออนไลน์ (ตอนนี้มีในมือแล้ว 800 ราย)

เพื่อนำเสนอทางเลือกในการชำระเงิน ซึ่งรวมถึงการปล่อยสินเชื่อด้วยเพื่อเป็นทางเลือกที่นอกเหนือจากบัตรเครดิต ทั้งนี้ บริษัทระดมเงินทุนมาได้ 425 ล้านเหรียญจากนักลงทุน VC ยักษ์ใหญ่ใน Silicon Valley กลุ่มหนึ่ง และมีผู้ค้ารายใหญ่อย่าง Expedia และ Shopify เป็นพันธมิตรด้วย

Siemiatkowski ชายหนุ่มอายุ 35 ปี แต่งตัวแนวฮิปสเตอร์ และทำผมทรงวัยรุ่น ไม่ได้รู้สึกเป็นกังวลกับเรื่องของการแข่งขันจากคู่แข่งเหล่านี้สักเท่าไหร่เพราะ Affirm เพิ่งเริ่มกิจการในปี 2013 ในขณะที่ Siemiatkowski ใช้เวลาถึง 11 ปีค่อยๆ ปั้นให้ Klarna กลายมาเป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวีเดน โดยจุดขายที่แข็งแกร่งที่สุดของ Klarna ก็คือความง่ายในการใช้บริการ เพราะมันทำให้คุณไม่ต้องจ่ายเงินทันทีที่ซื้อของและในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องวุ่นวายกับการกรอกข้อมูลบัตรเครดิต หรือการต้องมานั่งจำรหัสผ่าน สิ่งที่คุณต้องทำมีเพียงแค่กรอกอีเมล์ และที่อยู่ในการจัดส่งสินค้าเท่านั้น ซึ่งข้อมูลเท่านี้ บวกกับข้อมูลของธุรกรรมที่คุณทำบนร้านค้าออนไลน์ ซึ่งได้แก่เวลาที่คุณทำธุรกรรมสินค้าที่คุณสั่งซื้อ และ web cookies

เมื่อคุณตกลงซื้อสินค้าออนไลน์ Klarna จะชำระเงินให้คุณและส่งอีเมล์ตามไปเรียกเก็บเงินจากคุณทีหลัง แต่สิ่งที่ทำให้นักลงทุนอย่าง Sequoia ตื่นเต้นกับกิจการสตาร์ทอัพอย่าง Klarna ก็คือ การขยายบริการไปสู่การให้สินเชื่อ ซึ่งเกินกว่าการให้บริการด้านการชำระเงินแบบปกติ ในการระดมทุนรอบล่าสุดเมื่อปี 2015 นักลงทุนประเมินมูลค่ากิจการ Klarna ไว้ที่ 2.3 พันล้านเหรียญ โดยในปี 2015 บริษัทมีกำไรสุทธิ 20 ล้านเหรียญจากยอดรายได้ 325 ล้านเหรียญ และ Pitchbook คาดว่ารายได้จะโตถึง 42% คิดเป็น 463 ล้านเหรียญในปี 2016 ทั้งนี้ประมาณ 10% ของธุรกรรมที่ทำผ่าน Klarna ในประเทศสวีเดนจะใช้บริการสินเชื่อของบริษัท ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นการซื้อสินค้าที่มีราคาเกินกว่า 400 เหรียญขึ้นไป ส่วนอีก 90% ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะชำระภายในระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย 30 วัน หรือชำระเมื่อได้รับสินค้า หรือใช้บริการ Klarna Direkt เพื่อชำระเงินโดยการตัดบัญชีทันทีก็ได้ (Siemiatkowski ไม่ยอมเปิดเผยว่าลูกค้าในอเมริกาใช้บริการของ Klarna แบบไหน)

บางทีนวัตกรรมที่อาจจะถือกว่ากล้าหาญชาญชัยที่สุดของ Klarna ก็คือการใช้แค่อีเมล์ และที่อยู่ในการพิจารณาความน่าเชื่อถือของลูกค้าในการให้วงเงินสินเชื่อ ซึ่ง Klarna บอกว่าไม่มีบริษัทที่ให้บริการด้านการชำระเงินออนไลน์เจ้าไหนอีกแล้วที่จะกล้าแบกรับความเสี่ยงขนาดนี้ ทั้งจากฝั่งของลูกค้า และจากฝั่งผู้ค้า ทั้งนี้ Siemiatkowski ไม่ได้กังวลอะไรมากนักกับเรื่องการทุจริต หรือความเสี่ยงด้านนี้ โดยเรียกมันว่า “ปัญหาที่เป็นพลวัต” ในขณะที่มองว่าการแก้ปัญหาแบบเฉพาะจุดอย่างเช่นการใช้รหัสผ่านไม่ได้ผลเพราะใช้สมมติฐานว่าทุกคนมีระดับความเสี่ยงเท่ากัน “แต่ 99% ของลูกค้าของเราไม่ใช่พวกขี้โกง” Siemiatkowski บอก

Klarna ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันในอีกหลายแง่มุมกับ PayPal และ Affirm และยังไม่ต้องพูดถึงยักษ์ใหญ่อย่าง Google และ Apple ซึ่งต่างก็กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจไปสู่การสร้างแพลตฟอร์มการชำระเงินของตัวเอง แต่นักลงทุนอย่าง Hans Otterling แห่ง Northzone บอกว่า การที่ Klarna มุ่งเน้นให้ความสำคัญไปที่ตัวผู้บริโภค น่าจะทำให้บริษัทสามารถยืนหยัดแข่งขันกับคู่แข่งที่สายป่านยาวกว่าได้ “มันเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ซึ่งจะไม่มีทางที่จะมีเจ้าใดเจ้าหนึ่งกวาดเรียบทั้งตลาดได้หรอก” Hans บอกและเสริมว่า “ตลาดนี้จะต้องมีผู้เล่นหลายคน และ Klarna ก็จะเป็นหนึ่งในนั้น” ด้วยธุรกิจที่มีแนวโน้มสดใสแบบนี้ ถ้าหาก Siemiatkowski จะเบ่งบ้างก็ถือว่าสมควรอยู่

<iframe src="https://www.youtube.com/embed/wIJWAycbMyE" width="100%" height="315" frameborder="0" allowfullscreen="allowfullscreen" data-mce-fragment="1"></iframe>

<hr />

<a href="https://goo.gl/V6NfWh">คลิ๊กอ่านฉบับเต็ม "ซื้อก่อนจ่ายที่หลังได้ที่" Forbes Thailand Magazine ฉบับ มกราคม 2560</a>
<a href="https://goo.gl/V6NfWh"><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/1a9acb06eb9ce498d8300db402f5dc25.png" alt="" /></a>

ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง

<h2>ผู้สร้าง Siam Future Development ตามความฝัน บุกเบิก community mall ให้คนไทยสัมผัสไลฟสไตล์การจับจ่ายแบบใหม่จนแพร่หลายแทบทุกชุมชนเมือง ผสมผสานหลากรูปแบบตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายท้องถิ่น ไปจนถึงจับมือคู่ค้าสวีเดนนำ IKEA สู่ไทย</h2>
บนถนนที่เต็มไปด้วยหนุ่มสาวชาวออฟฟิศและนักท่องราตรีย่านทองหล่อคึกคักตลอดวัน ไม่มีใครคาดคิดว่า อาคาร 3 ชั้นลักษณะแปลกตาแวดล้อมไปด้วยต้นไม้บนพื้นที่ 4 ไร่ ของ J Avenue จะกลายเป็นศูนย์การค้าชุมชนหรือ community mall ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ด้วยลักษณะการดีไซน์แบบเปิดโล่งและขนาดของอาคารที่ฉีกกรอบคำนิยามของศูนย์การค้าในช่วงปี 2547

“ผมเป็นคนมีฝัน เรามองเห็นว่า มันเป็นของสนุกสวยงาม เราอยากเห็นแบบนั้น มีความฝันและอยากวิ่งตามความฝัน” นพพร วิฑูรชาติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF และผู้ก่อตั้งในวัย 50 ปี ย้อนถึงวันวานที่ตัดสินใจจับมือกับกลุ่ม Jusco ประเทศญี่ปุ่น (หรือ AEON ในปัจจุบัน) ทายาทคนโตของพี่น้อง 4 คน ที่เติบโตมาจากกิจการตลาดมีนบุรีของครอบครัว

“เขาพาเราไปดูว่า คอนเซปต์การเปิด community mall ต้องเป็นอย่างไร เราเห็นจากที่อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ก่อนจะนำมาปรับให้เข้ากับคนไทย ผมมองว่า ตลาดสดก็คือศูนย์การค้าแบบชุมชน แบบพื้นบ้าน เวลาไปเมืองนอกเห็นมอลล์ ก็เหมือนกัน แค่คนละ format เหมือนตลาดสดติดแอร์ มีการบริหารจัดการแบบมืออาชีพ ดูแลรักษาความสะอาด ที่จอดรถ ร้านค้า การมิกซ์ร้านค้า ซึ่งทั้งหมดเรามีความชำนาญระดับหนึ่ง และเมื่อเห็นช่องทางธุรกิจจึงตัดสินใจทำ”

หลังจากสั่งสมความรู้และประสบการณ์บนเส้นทางธุรกิจศูนย์การค้า จนตกตะกอนทางความคิดในหลักการบริหารธุรกิจสู่ความสำเร็จ 3 ปัจจัยสำคัญ และความพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด เมื่อบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อช่วงสิ้นปี 2545 และได้รับความสนใจจาก บริษัท เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) เข้าถือหุ้น

บนเส้นทางธุรกิจที่นพพร ก้าวเป็นผู้นำไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าเขาจะยืนอยู่เหนือระดับคู่แข่งเพื่อนร่วมทางได้ตลอดกาล โดยเฉพาะเมื่อ community mall กลายเป็นกระแสความนิยมทั่วเมือง สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์จึงต้องมองหาน่านน้ำใหม่ขยับขยายศูนย์การค้าให้เป็นมากกว่า สู่ความร่วมมือกับอิคาโน่ (Ikano) บริษัทเฟอร์นิเจอร์ระดับโลกจากประเทศสวีเดน

“เพราะธุรกิจหยุดนิ่งไม่ได้ อย่างมอลล์ใหญ่ไม่เคยทำก็ต้องทำ” นพพร วิฑูรชาติ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ ที่ปัจจุบันบริษัทสามารถขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่องถึง 29 โครงการ อาทิเช่น เจ-อเวนิว ทองหล่อ, ลา วิลล่า พหลโยธิน, ดิ เอสพละนาด รัชดาภิเษก

&nbsp;

เรื่อง พรพรรณ ปัญญาภิรมย์  ภาพ: รัชกฤช กัญจนาพรกมล

<hr />

<a href="http://goo.gl/Zon5uK">อ่าน ฉบับเต็ม “นพพร วิฑูรชาติ นักล่าฝัน ปั้นศูนย์การค้าทั่วไทย” จาก Forbes Thailand ฉบับ MARCH 2015</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events